รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 463 ในโลกนี้มีแค่คุณกับผมเท่านั้น

บทที่ 463 ในโลกนี้มีแค่คุณกับผมเท่านั้น
“ได้ รับผมอีกกระบวนท่าหนึ่ง” ลุงจื้อหัวเราะร่า มือทั้งสองเปลี่ยนเป็นท่ากรงเล็บ แล้วเปลี่ยนคลื่นพลังดำ บีบเข้ามาในฝ่ามือ แล้วเปลี่ยนเป็นเสือที่กำลังคำราม
ฉินหลั่งเห็นดังนั้น สีหน้าก็ตึงเครียดขึ้น เสือดำตัวนี้ แยกเขี้ยวกางกรงเล็บ ราวกับเสือจริงๆ บางที่อาจจะน่ากลัวกว่าเสือจริงๆ นับพันเท่า สามารถเปลี่ยนพลังสัตว์ร้ายได้ ก็นับว่าเป็นวิชาที่ร้ายกาจเลย แต่ที่สำคัญกว่าก็คือ ตอนที่พลังกระจายออกไปครั้งสุดท้าย แล้วรูปร่างสัตว์นั้นกระจายออก เกิดเป็นระเบิด พลังมันจะยิ่งใหญ่กว่าระเบิดขนาดหลายพันตันเลยทีเดียว ถึงตอนนั้น ทุกๆ คนก็จะถูกพลังระเบิดออกกลายเป็นผุยผง
“ปล่อยไป!” ลุงจื้อตะโกน เสือตัวนั้นก็พุ่งเข้ามา ท่าทางดุร้ายมาก ส่วนฉินหลั่งก็ตะโกนว่า “สับ!” เห็นมือของฉินหลั่งเหมือนกำของหนักขนาดหลายหมื่นตัน คมดาบสีขาวเต็มไปด้วยกลุ่มควัน ฟันไปยังคอของเสือนั้น ได้ยินเสียง ฉับ หัวของเสื้อหล่นลงกลางอากาศ ฉินหลั่งกระตุกขาเหาะออกไป พลังดำที่รวมเป็นหัวเสื้อนั้นก็พุ่งออกไปนอกบ้านพัก จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงระเบิดที่อึกทึกครึกโครม แรงระเบิดกระจายเข้ามา ราวกับพายุห่าใหญ่ ทั้งห้องล้วนสั่นสะเทือนไปหมด
หน้าต่างแตกกระจายหมด ผนังก็แตกร้าว บ้านหลังนี้เสียเงินสร้างไปมาก ถูกเรียกว่าเป็นบ้านพักที่แข็งแรงที่สุด แต่ตอนนี้ถูกทำลายแทบทุกส่วน ราวกับถูกเครื่องบินบินชนไม่มีผิด
พวกผู้บริหารระดับสูงของต้าหัวกรุ๊ป ถูกระเบิดจนร่างแหลกกระจายเป็นเศษเลือด แต่ยังมีอีกหนึ่งคน ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด คิดว่าน่าจะยังมีชีวิตอยู่ คนนั้นก็คือสินต้าหัวของตระกูลสิน
สินต้าหัวในตอนนี้ ผมเพร่ากระจาย ใบหน้าดำคล้ำ ขาข้างหนึ่งถูกหินที่ร่วงหล่นลงมาทับไว้ หายใจเฮือกใหญ่ราวกับผีห่าตนหนึ่ง
ที่เขายังไม่ตาย ก็เพราะในตอนที่เสือจะระเบิดนั้น ลุงจื้อมาช่วยกำบังพลังจากคลื่นพลังด้านหน้าไว้ ช่วยให้เขาหลบการโจมตีที่เอาชีวิตครั้งนี้ไว้ได้
“ฉินหลั่ง ในห้องมีพื้นที่น้อย พวกเราออกไปสู้กันข้างนอกเถอะ ฮ่าๆๆ” ลุงจื้อพลิกตัว พุ่งออกไปจากช่องผนังกำแพง ฉินหลั่งก็ขมวดคิ้ว แล้วตามออกไป
ลุงจื้อคนนี้ เป็นปรมาจารย์แดนสุขาวดี ไม่ใช่กระจอกๆ จะต้องฆ่าทิ้งเสีย ไม่เช่นนั้นวันหนึ่งฝั่งตรงข้ามมาแก้แค้น เขานั้นไม่กลัวหรอก แต่จงยู่ ตระกูลฉิน และคนรอบข้างตนเอง คงจะได้รับภัยพิบัติไปด้วย
ก่อนหน้านี้ ก็เพราะว่าความใจอ่อนของตนเอง จนเกือบจะเสียแม่ไป วันนี้จะไม่ออมมือเด็ดขาด
ส่วนสินต้าหัวนั่น ฉินหลั่งไม่เคยมองในสายตา รอจัดการลุงจื้อแล้ว จะฆ่าสินต้าหัวเมื่อไหร่ก็ได้
เห็นผมของลุงจื้อพลิ้วไหวในความมืด ยืนกุมมือ แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “ในประเทศจีนตอนนี้ คงจะมีเพียงเอ็งกับลุงนี่แหละ ที่มีฝีมือสู้กันได้”
“นอกจากเอ็งกับลุงแล้ว ทางอเมริกาเหนือก็ยังมีปรมาจารย์อีกคนหนึ่ง ปีนั้นเขาสู้กับลุง300กว่ากระบวนท่า แต่ก็ยังไม่รู้แพ้ชนะ คนคนนี้ อยู่ไกลไปหลายลี้ ก็สามารถหยิบใบไม้พุ่งไปฆ่าคนได้ พลังภายในนั้น เอามาใช้ไม่สิ้นสุด”
“ลุงกับเขาไม่ได้เจอกัน10กว่าปี ตอนนี้มาคิดดู ฝีมือเขาน่าจะถึงขั้นสุดยอด ห่างจากขั้นแดนฟ้าไม่ไกลแล้ว”
“เอ็งกับเขาเทียบกันแล้ว ก็ห่างกันไม่มาก วันหนึ่งก็จะสามารถเหนือชั้นกว่าเขา”
“อเมริกาเหนือหรือ?” ฉินหลั่งดึงคิ้วสูง “ลุงหมายถึงจ้านอู๋หยาใช่ไหม? เขาได้ตายในมือผมแล้ว เจ้านายลุงทุ่มเทมากมายขนาดนั้น แต่ไม่มีบันทึกการต่อสู้ที่หูโข่วเลยหรือ?”
“เอ็งว่าไงนะ?” ตอนนี้ลุงจื้อสีหน้าเปลี่ยนไปมาก!
ในตอนนั้น ในบ้านที่ห่างจากบ้านพักตากอากาศต้าหัวไม่ไกล มีแขกระดับสูงนั่งกันเต็ม กำลังชนแก้วกันอย่างสนุกสนาน
ถ้ารู้เรื่องราวของเมืองเย็นจีนอย่างไร ก็จะรู้ได้ว่าบุคคลที่นั่งอยู่ในบ้านที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่แห่งนี้ มีคนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศจีนอยู่คนหนึ่ง
นั่นก็คือตระกูลซ่ง ซ่งซื่อหยูน!
ซ่งซื่อหยูนที่องอาจท่านนี้ ก่อนหน้านี้เก็บตัวฝึกวิชามาตลอด และวันนี้ก็เป็นวันที่เขาออกจากการเก็บตัว คนใหญ่คนโตของเมืองเย็นจีนต่างก็มารวมตัวกันอยู่ที่บ้านตระกูลซ่งนี้ เพื่อมาฉลองให้กับซ่งซื่อหยูน
“คุณพ่อครับ การเก็บตัวฝึกวิชาครั้งนี้ ท่านคงจะฝึกถึงระดับปรมาจารย์และสินะครับ”
ซ่งเสี้ยวหยู่ยกแก้วเหล้า ด้วยสีหน้าดีอกดีใจ
“ฮ่าๆ จะฝึกถึงระดับปรมาจารย์ มันจะง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?” มีชายแก่สวมชุดสูทคอจีนเดินหัวเราะเข้ามา ด้วยท่าทางคนแก่อารมณ์ดี สายตาสอดส่องไปทั่ว ไม่ผิดที่เป็นฮีโร่แห่งยุค
“ได้ถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว ก็นับว่าหาได้ยากแล้ว แผ่นดินจีนถึงแม้จะกว้างใหญ่ แต่ปรมาจารย์นั้นนับจำนวนได้เลย เช่น เสี้ยงเฟยหลง ฝีมือการต่อสู้ล้ำลึกยากคะเน มีชื่อกระฉ่อนไปทั่วเมืองเย็นจีน เป็นการมีอยู่ที่โด่งดังไปทั่ว ถ้าผมถึงระดับปรมาจารย์แล้วละก็ ก็จะนำกำลังสร้างชื่อเสียครึ่งประเทศ ต่อให้เป็นเสี้ยงเฟยหลง ผมก็จะประมือกับเขาเสียหน่อย”
ซ่งซื่อหยูนนิ่งไป พร้อมกล่าวว่า “ถึงแม้ครั้งนี้จะได้บรรลุขั้นปรมาจารย์ แต่พลังภายในก็ไปถึงขั้นสุดยอด ห่างจากระดับปรมาจารย์เพียงก้าวเดียว พวกคู่ต่อสู้ที่มีพลังภายในธรรมดาแต่ขั้นสุดยอด มาสู้กับผม ก็คงทนได้ไม่กี่กระบวนท่า แม้แต่เสี้ยงเฟยหลง ก็ไม่กล้าดูถูกฝีมือผม”
“เสี้ยงเฟยหลงงั้นหรือ? คุณพ่อครับ คนที่ว่าก็คือท่านเสี้ยง ปรมาจารย์อันดับหนึ่งของประเทศจีนเรานะหรือครับ? เหมือนว่าตอนนี้เสี้ยงเฟยหลงจะจบเห่แล้ว ถูกวัยรุ่นคนหนึ่งโจมตีจนขาหัก ตอนนี้กำลังเก็บตัวรักษาแผลไม่ยอมพบใครอยู่เลย” ซ่งเสี้ยวหยู่กล่าว
“โอ๋? มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?” ซ่งซื่อหยูนกระตุกสีหน้า “วัยรุ่นงั้นหรือ? ถึงแม้การต่อสู้ของเสี้ยงเฟยหลงจะดูเกินไปเสียหน่อย แต่ก็ยังเป็นถึงปรมาจารย์จริงๆ ใครกันที่เอาชนะเขาได้ ช่วงที่พ่อเก็บตัวฝึกวิชานี้ ในวงการต่อสู้ปรากฏวัยรุ่นฝีมือร้ายขนาดนี้เชียวหรือนี่?”
“ใช่แล้วครับ เรื่องนี้ลือกันใหญ่โตมาก ตอนนี้ตระกูลเสี้ยงก็สำเหนียกตัวเองอยู่ ไม่เห็นว่าจะมีทีท่าแก้แค้นแต่อย่างใด ผู้คนต่างพูดกันว่า อยากจะให้เรื่องนี้มันเงียบไปก่อน โดยไม่พูดถึงที่มาที่ไปคนวัยรุ่นคนนั้นเลย”
“กลังอย่างนั้นหรือ? เอ๋ ในแผ่นดินมีคนเก่งมากมาย น่าเสียดายจริงๆ ….” สายตาของซ่งซื่อหยูนก็ครุ่นคิดอย่างหนัก
“ทางฝั่งตระกูลสิน เป็นอย่างไรบ้าง?” ซ่งซื่อหยูนถามขึ้นมา
“คุณพ่อครับ สินต้าหัวได้คุมกำลังอำนาจที่จะต่อกรกับตระกูลฉินไว้แล้ว การโจมตีระรอกหลังคงจะรุ่นแรกกว่าครั้งก่อนหน้าขึ้นเรื่อยๆ ตระกูลสินได้รวมกำลังจากหลายตระกูล เช่นตระกูลลู้ ตระกูลฉาง เขาเองก็ได้ส่งคนมายังตระกูลซ่งของพวกเรา แต่เพราะพ่อยังไม่ได้ออกจากการเก็บตัว ผมก็เลยไม่ได้บ่งบอกทีท่าว่าจะยื่นมือช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธไป ดูเหมือนว่าพวกเราจะยืนอยู่ตรงกลาง ผมคิดว่ามันเป็นผลดีต่อพวกเรามากที่สุด พอชัดว่าฝั่งไปได้เปรียบชัดเจน พวกเราค่อยยื่นมือไปสบทบก็ไม่สาย”
ความคิดความอ่านของซ่งเสี้ยวหยู่นั้นชัดเจน ไม่มีศักดิ์ศรีอะไรในยุทธจักร มีแต่ผลประโยชน์ ฝั่งไหนผลประโยชน์มาก ก็ไปฝั่งนั้น
“อืม พูดได้ไม่เลว พวกเราห่างจากตระกูลสินบ้านพักตากอากาศต้าหัวไม่ไกล รอดูอย่างเดียวก็พอ” ซ่งซื่อหยูนเพิ่งออกจากการเก็บตัว พละกำลังเต็มเปี่ยม รู้สึกคันมืออยากไปสู้กับศึกตระกูลฉินกับตระกูลสิน ดูกระตือรือร้นอยากสู้มาก
ตูม!
ได้ยินเสียงดังสนั่นดังขึ้นด้านทิศเหนือของบ้านตระกูลซ่ง ราวกับแผ่นดินไหว
ซ่งเสี้ยวหยู่ก็ตกใจ ก็เลยรีบหยิบกล้องส่องทางไกลส่องไปยังที่มาของเสียงนั่น พอเห็นดังนั้น ซ่งเสี้ยวหยู่ก็สีหน้าเปลี่ยน พร้อมพูดว่า “พ่อรีบมาดูเร็ว!”
ซ่งซื่อหยูนก้าวขึ้นหน้าไป เขาเป็นคนมีกำลังภายในสูงส่ง สายตาดีกว่าคนทั่วไป จากนั้นก็ปัดกล้องส่องทางไกลที่ซ่งเสี้ยวหยู่ยื่นมาให้ แล้วก็มองไปด้านนอกเอง ที่แท้เสียงที่ดังเหมือนแผ่นดินไหวเมื่อครู่ ก็มาจากต้าหัวกรุ๊ปบ้านพักตากอากาศต้าหัว
ตรงหน้ามีเงาคนบินไปลอยมา ต่อยไปต่อยมา
“นี่คือปรมาจารย์กำลังประมือกันอย่างนั้นหรือ?”
ซ่งซื่อหยูนดูแล้วก็อึ้งกิมกี่ เพราะมันเหมือนดั่งวิญญาณร้ายไม่มีผิด

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset