รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 650 อดกลั้นเพื่อรอการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 650 อดกลั้นเพื่อรอการเปลี่ยนแปลง
“เหลือไม่กี่คนที่ทนความเจ็บปวดเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะต้านไหว แต่ก็ต้องนอนผ่านพ้นเวลาอันเชื่องช้าอยู่แต่โรงพยาบาล โดยมีผิวกายที่ผิดแปลกไปจากเดิม”
“ญาติคนพวกนี้ เกลียดชังเมิ่งลี่ลี่เป็นอย่างมาก คิดว่าเมิ่งลี่ลี่เป็นคนชี้แนะให้ญาติของตนกระทำเรื่องโง่เขลาพวกนี้ ฉะนั้นจึงโวยวายกับเมิ่งลี่ลี่ไม่หยุดหย่อน”
หลู่เหมิ่ยเฉินถอนหายใจ“อันที่จริงฉันคิดว่าเมิ่งลี่ลี่ถูกเมิ่งชิงอวี่หลอกใช้งาน หล่อนอาจจะไม่รู้ว่าตอนคนพวกนี้มาปั่นป่วนหน้าตึกของฉันมีสภาพผิวเป็นอย่างไรบ้าง”
ฉินหลั่งพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ“คนพวกนี้ก็เป็นคนสถุน หวังผลประโยชน์นั่นแหละ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยมากขนาดนั้นหรอก
คนพวกป่วยเป็นโรคผิวหนั่งก็ไม่ได้ดีอะไรหรอก ต่างก็ถูกความโลภครอบงำกันทั้งนั้น ไม่งั้นจะหลงกลได้ยังไง?”
“ใช่ คนป่วยพวกนี้ก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก พวกเขาโลภมากเอง ฉะนั้นญาติพวกเขาก็ทำอะไรมากไม่ได้ ตอนแรก พวกเราเปิดโปงความจริงให้กระจ่างได้สำเร็จ และบอกอาการโรคพิษสุนัขบ้าให้พวกเขาทราบ จึงถือเป็นการช่วยเหลือพวกเขาได้ทันท่วงที แต่ตระกูลเมิ่งให้เงินพวกเขา ตอนนี้ก็มารีดไถเงินกับฉันด้วย แบบว่าอยากได้เงินจากทั้งสองฝ่ายถึงจะพอใจ”
ความเย็นเหยียบในแววตาหลู่เหม่ยเฉินนั้นมีเต็มนัยน์ตา“ไม่มีทางหรอก ฉันไม่ใช่องค์กรการกุศล ยิ่งไม่ใช่เนื้อแกะที่ให้คนมาตัดได้ตามใจชอบ พวกเขาอยากก่อกวนก็แล้วแต่ ก่อกวนหน้าโรงงานสองวันติดแล้วไม่เป็นผล ตอนนี้เลยมาหน้าบริษัทแทน มาดักอยู่หน้าตึก ตะโกนร้องตลอด จนพนักงานเสียขวัญ กลัวถูกพวกเขารุมตี”
“คนพวกนี้กล่าวว่า ถ้าฉันไม่ออกไปบรรเทาปัญหา พวกเขาก็จะมาก่อกวนทุกวัน อีกทั้งจะก่อเพลิงโดยไม่ได้กำหนดเวลาตายตัว เพราะคนเท้าเปล่าไม่ยำเกรงคนใส่รองเท้าอยู่แล้ว สุดท้ายเป็นตัวฉันเองที่ได้รับความเสียหายทางธุรกิจ แต่พวกเขาก็แค่เสียเวลากับกำลังคนเท่านั้น ฉันต้องถูกประณามในวงการธุรกิจเมืองเย็นจีนว่า มั่งคั่งโดยไร้ คุณธรรม บริหารบริษัทไม่ดีเป็นต้น”
“ไม่แจ้งความเหรอ?”ฉินหลั่งถาม นักเลงแบบนี้รังแกหลู่เหม่ยเฉินที่เป็นผู้หญิงหรอก?แต่ดูแล้วหลู่เหม่ยเฉินไม่เลวเลย ยอมตายดีกว่าอ่อนข้อให้
“แจ้งความแล้ว แต่พวกเขาเป็นผู้ถูกทำร้าย ตำรวจจึงไม่ได้ใช้วิธีรุนแรง จัดการยากจริงๆ”หลู่เหม่ยเฉินสงบนิ่งดั่งสายน้ำ ต่างจากก่อนหน้านี้คนละคน
“ตอนนี้ฉันปล่อยให้พวกเขาก่อกวนโดยไม่เข้ามาในตึกก่อน ไม่ว่าพวกเขาจะทำยังไงฉันก็ไม่สน ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับพนักงานก็พอ ฉันหวังว่าพวกเขาจะโวยวายรุนแรงเพิ่มขึ้น ก่อเพลิงจะยิ่งดี ฉันจะได้ลงมือเสียที”
“ใช่เหรอ ตึกนี้เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ คุณยอมให้พวกเขาเผาเหรอ?”ฉินหลั่งถาม
“ใช่ เผาดีที่สุด ฉันจะได้เหนื่อยจัดการทีเดียว ฉันจะใช้ทนายความที่ดีที่สุด คนที่มีอำนาจที่สุด เอาคนพวกนี้เข้าคุกให้หมด แล้วฉันก็จะสบายใจหายห่วง”ดวงตาหลู่เหม่ยเฉินเป็นประกายแวววับ ไม่มีความอ่อนแอเลยสักนิด
“มิน่าล่ะคุณถึงไม่กังวลเลย ทำอย่างนี้ต้องลงทุนเยอะไปเปล่า แค่คนสถุนไม่กี่คนเอง”ฉินหลั่งหัวเราะคิกคัก
“คุณสามารถสลายการชุมนุมของพวกเขา คุณส่งคนประเภทเดียวกับพวกเขา แล้วข่มขู่พวกเขา อาจจะแก้ปัญหาได้”ฉินหลั่งเสนอความคิดเห็น
“ฉันก็เคยคิดถึงวิธีนี้มาก่อน สิบกว่าครอบครัว พวกเรายอมเสียเงินเพื่อชดใช้ให้ ฉันได้ส่งรปภ.ไปเจรจากับพวกเขาหลายครั้งแล้วหวังว่าจะได้ในราคาที่พึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย แต่น่าเสียดาย”
หลู่เหม่ยเฉินหัวเราะเสียงเย็น“หุบเขาความโลภถมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม”
“ญาติพวกเขาตกลงกันแล้ว ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ครอบครัวละหนึ่งร้อยล้าน มิฉะนั้นจะไม่ยอมราวี ตอนนั้นฉันจึงเรียกกลุ่มไปเจรจากลับมา แล้วได้คุยผ่านโทรศัพท์กับอีกฝ่าย บอกพวกเขาว่าครอบครัวละหนึ่งแสน หากเกินมาเพียงหมื่นเดียว หลู่เหม่ยเฉินอย่างฉันยอมขายบริษัททุกอย่างทิ้ง แต่ก็ไม่ให้พวกเขาเด็ดขาด!”
ฉินหลั่งไม่มีสีหน้าทางอารมณ์ ตัวเลขที่เสนอออกไปต่างกันมากจริงๆ คงจะคุยกันไม่ลงเอยหรอก
“สำหรับเรื่องใช้วิธีอื่น ตอนนี้ฉันยังไม่ทำ ฉันเป็นผู้หญิง ไม่ให้ได้ภาพลักษณ์เป็นหญิงแกร่ง ฉันอยากใช้วิธีนิ่งสยบการเคลื่อนไหว
มาไม้ไหนฉันก็จะสวนกลับไม้นั้น มากสุดก็ล้มไปด้วยกัน แล้วฉันจะไปเริ่มต้นใหม่”
หลู่เหม่ยเฉินหนักแน่น นิสัยอ่อนนอกแข็งในถูกเปิดเผยออกมา
ฉินหลั่งรู้สึกแปลกใจ เธอไม่ได้ขอความช่วยเหลือฉินหลั่งเลย และไม่ได้ขอความคิดเห็นกับทางบ้านด้วย แต่กลับแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
แต่ตอนมีเรื่องครั้งก่อน หลู่เหม่ยเฉินเคยขอความช่วยเหลือจากฉินหลั่งในขณะที่อยู่บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน นิสัยของเธอก็คือไม่บังคับฝืนใจใคร เป็นคนเข้มแข็งมาก
“ฉินหลั่ง นิสัยฉันก็เป็นแบบนี้ ตอนนี้คุณเข้าใจหรือยัง ใช่เป็นคนพึ่งตัวเอง เป็นคนที่น่ารังเกียจหรือเปล่า?”
เห็นฉินหลั่งไม่พูด หลู่เหม่ยเฉินจึงพูดต่อ“ตอนนี้พวกเขาเห็นความหวังในรีดไถเงินริบหรี่ จึงใช้วิธีต่อต้านฉัน พวกเขาสวมใส่หน้ากาก คอยจับพนักงานในเวลาเลิกงานแล้วไปรุมทำร้ายในที่ลับ ดังนั้นพวกพนักงานจึงกลัวพวกเขามาก”
“พนักงานห้าสิบคนของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินถูกพวกเขารุมตี โดยมีอาการที่แตกต่างกัน บางคนรุนแรงถึงขั้นนอนพักที่โรงพยาบาล ตอนนี้ฉันจองตึกโรงพยาบาลไว้หนึ่งตึกแล้ว”
“และในเช้าวันนี้ มีพนักงานหญิงเดินผ่านหน้าตึกใหญ่ นักก่อกวนพวกนี้ถึงขั้นถอดเสื้อจนล่อนจ้อน แล้วยังถ่ายรูปเก็บไว้ ดังนั้นตอนนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปเด็ดขาด พวกเขาไม่ใช่ผู้ถูกทำร้ายอีกต่อไป แต่เป็นคนกระทำความผิดเพื่อหวังรีดไถเงินอย่างเสียสติ”
“ฉันมีรถสองคัน คนหนึ่งใช้เวลางาน อีกคันใช้เวลาพักผ่อน เมื่อกี้พวกเขาดูรถทำงานของฉันออก และได้ทุบทำลายรถมูลค่าห้าร้อยล้านของฉัน”
“พวกรปภ.ก็สู้กับพวกเขา แต่ถูกฉันห้ามปรามไว้ ให้พวกรปภ.รักษาความสงบให้การทำงานดำเนินการต่อไปได้ก็พอแล้ว”
“เพราะคนพวกนี้ก็เตรียมการมาเป็นอย่างดี หากพวกเราใช้กำลังกับพวกเขา พวกเขาจะส่งกลุ่มคนแก่เฒ่าและขี้โรคมาขัดขวาง แล้วจะแจ้งบอกสื่อต่างๆ โดยปลอมตัวเป็นคนอ่อนแอ ดังนั้นพวกเราจะหลงกลพวกเขาไม่ได้”
หลู่เหม่ยเฉินหัวเราะ“พวกเศษสวะ คงมีคนบงการอยู่ข้างหลัง ตอนนี้พวกเราแค่รวบรวมหลักฐานอย่างไม่สะทกสะท้าน และรอคอยวันพวกเขาต้องโทษตัดสินความผิด”
“ประธานฉิน ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ ตอนแรกฉันไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณ แต่ในเมื่อเจอคุณแล้ว ถ้างั้นเรื่องนี้ก็จัดการง่ายแล้ว ฉันหวังว่าจะได้รับคำแนะนำจากคุณ อีกทั้งรับรองว่าจะทำตามทุกอย่างเป็นอย่างดี”หลู่เหม่ยเฉินพูดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกโล่งอก อันที่จริงเธอก็หวังจะมีไหล่ให้พึ่งพิง ซึ่งเป็นความคาดหวังของผู้หญิงทุกคน เพียงแต่ด้วยสถานะและนิสัยของเธอ ทำให้เธอจำเป็นต้องกลายเป็นคนเข้มแข็งและใจเย็น
หลังผ่านเหตุการณ์ร้ายที่ตระกูลเสี้ยงก่อขึ้น ตอนนี้หลู่เหม่ยเฉินยอมรับฟังคำแนะนำของฉินหลั่งทุกประการ เพียงแต่ฉินหลั่งไม่อยากสนใจเรื่องไม่ดีของเธอเท่านั้นเอง
“เรื่องแย่ๆของคุณเยอะจริงๆ ผ่านเรื่องหนึ่งไปแล้วก็เพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง”ฉินหลั่งพูดเสียงเย็นเหยียบ“ไม่รู้ว่าคนอ่อนแออย่างคุณจัดการเรื่องเรียงแถวต่อกันได้อย่างไร เพราะสำหรับคนธรรมดาแล้วคงเจอเรื่องหนักหนาสาหัสอย่างนี้แค่ครั้งเดียวในชีวิต คุณทนไหว ถือว่าไม่ธรรมดาเลย”
หลู่เหม่ยเฉินหยุดชะงัก คาดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะพูดเช่นนี้ เป็นการยกยอเธอสูงมากเลยทีเดียว เธอคุ้นชินกับบุคลิกเย็นชาของฉินหลั่งแล้ว ตอนนี้ได้ยินเช่นนี้จึงรู้สึกชุ่มฉ่ำใจเล็กน้อย
ฉินหลั่งรู้สึกว่าไม่พูดจาเสียดสีเธอจะดีกว่า เพราะคนด้านนอกก็ไม่ใช่ย่อยอยู่แล้ว แถมยังมีถึงสิบกว่าคน หลู่เหม่ยเฉินสามารถอดทนมาจนถึงตอนนี้ แต่ไม่ได้สู้กันซึ่งๆหน้า อันที่จริงอย่างนี้ถึงจะเรียกว่าเก่งกาจ
สถานการณ์เริ่มเป็นใจกับตนแล้ว คอยดูการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างเงียบๆก่อน หากมองในมุมผลประโยชน์ระยะไกลของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินแล้ว เฉินเหม่ยเฉินทำถูกที่สุด เป็นราศีของประธานหญิงจอมเผด็จการโดยแท้

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset