รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 715 ก่อความวุ่นวาย

บทที่ 715 ก่อความวุ่นวาย
“หลังจากที่พวกเราเปิดเผยข่าวสารนี้ออกมาแล้ว ต่อไปก็อยากจะให้ทุกท่านได้เห็นว่าผงขาวเยว่จิ้นจะมีประสิทธิภาพอย่างไรกันแน่”
หล่วนฝูเผชิญหน้ากับคำถามที่ยิงออกมาอย่างไม่หยุดยั้งของพวกนักข่าว ไม่เพียงแต่สุขุมขึ้น ยังจัดการตอบคำถามได้อย่างละเอียดทุกคำถาม เผชิญเหตุการณ์อย่างไม่ตื่นตระหนก หลังจากได้อธิบายเรื่องราวให้กับนักข่าวทั้งหลายพอสมควรแล้ว หล่วนฝูก็ให้เหอซินหย่ามายืนอยู่ใกล้ตัวเขา แล้วให้ยื่นมืออันขาวสะอาดของเธอออกมาข้างหนึ่ง
“นี่คือผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์คนใหม่ของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น เหอซินหย่า จบจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด หน้าตาสวยสดงดงาม อยู่ในวัยที่สดใสราวกับดอกไม้แรกแย้ม”
“หญิงสาวที่สะสวยอย่างนี้ ถ้าหากเกิดรอยบาดแผลบนมืออย่างกะทันหัน คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนรู้สึกเสียดาย”
หล่วนฝูแนะนำเหอซินหย่าให้กับผู้คนรู้จัก ทุกคนต่างก็มองไปยังใบหน้าที่ยิ้มอย่างมืออาชีพของเหอซินหย่า มันช่างสวยงามหมดจดเสียจริง ทำให้เกิดความหวั่นไหวในใจของผู้พบเห็น
ขณะที่ทุกคนกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่กับความงามของเหอซินหย่าอยู่นั้น หล่วนฝูก็หยิบมีดสั้นด้ามหนึ่งออกมา เล็งตรงไปที่แขนของเหอซินหย่า ไม่ลังเลที่กรีดลงไปหนึ่งครั้ง ในระหว่างที่ผู้คนกำลังส่งเสียงตกใจอยู่นั้น เหอซินหย่าก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด คงคิดเสียใจที่ตัวเองขึ้นเวทีมาสาธิตการทดลองครั้งนี้กระมัง
เหอซินหย่าขมวดคิ้ว ส่งเสียงร้องด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดทรมาน เลือดจากแผลที่แขนก็ไหลพุ่งออกมาภายนอก สักพักก็เลือดก็ไหลนองไปทั่วทั้งแขนอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนไม่อาจทนดูได้ ในใจก็รู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้กำลังทำร้ายตัวเอง เป็นฉากที่น่ากลัวมากเหลือเกิน
สาวงามเช่นนี้ ไม่ได้รับการทะนุถนอม แต่กลับถูกทำร้ายด้วยการใช้มีดกรีด หากเกิดเป็นแผลเป็นขึ้นมาภายหลัง มันเป็นการทำลายทารุณสัตว์โลกอย่างไม่รู้จักเสียดายบ้างเลย ความเจ็บปวดคงเป็นเรื่องรอง แต่รอยบาดแผลนั่นจะติดตัวตลอดไป
นักข่าวชายหลายคนยังแสดงท่าทีตำหนิการกระทำของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น คิดอยากจะไปช่วยเหอซินหย่าว่ากล่าวสั่งสอนโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น ทำไมไม่รู้จักทะนุถนอมความงามของหญิงสาวบ้าง มันช่างป่าเถื่อนเหลือเกิน ไร้ยางอาย!
หล่วนฝูกวาดสายตามองไปรอบห้องโถงที่กำลังแตกตื่น ในใจรู้สึกพอใจกับการเกิดสถานการณ์เช่นนี้ นี่ก็คือผลกระทบทางจิตใจที่เกิดขึ้นอย่างที่เขาอยากเห็น ดูเหมือนว่าการทดสอบครั้งนี้ประสบความสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
“เอาละ ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจครับ ผมก็ไม่อยากที่จะใช้มีดกรีดบนตัวของเหอซินหย่า แต่เพราะว่าเธอในฐานะผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้ตัดสินใจสาธิตด้วยตัวเอง เธอทำงานให้กับบริษัทผลิตยาเยว่จิ้นอย่างทุ่มเทเต็มที่ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจมากครับ”
“เอาละครับ ตอนนี้พวกเราก็จะได้ทำการรักษาบาดแผลของเหอซินหย่า ก็คือจะใช้ยาของบริษัทผลิตยาเยว่จิ้น สิ่งหนึ่งที่เหนือความคาดหมาย คุณจะต้องมีโอกาสได้ใช้ยารักษาแผลชนิดใหม่นี้เข้าสักวันหนึ่งก็ได้”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้นก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเวทีแถลงข่าว ในมือถือบรรจุภัณฑ์ของบริษัทผลิตยาเยว่จิ้น จากนั้นก็ยื่นให้หล่วนฝู หล่วนฝูบีบยาออกมาจากหลอดยานั้น แล้วป้ายใส่บาดแผลบนแขนที่ยังเจ็บปวดของเหอซินหย่า
แผลบนแขนที่เต็มไปด้วยเลือดหลังจากถูกยาป้ายใส่แล้ว การไหลพุ่งออกมาของเลือดก็ไม่เหมือนตอนแรกอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นภายใต้สายตาจำนวนมาก ทุกคนก็เริ่มรอคอยเวลา
ผ่านไปหนึ่งนาที บาดแผลนั้นเลือดก็หยุดไหลตามที่คาดหมาย ไม่เพียงแต่เลือดหยุดไหล บาดแผลยังสมานอย่างรวดเร็ว
“อ้า……” เกิดความแตกตื่นตกใจไปทั่ว คิดว่าความเร็วในการสมานแผลเช่นนี้แม้กระทั่งมองด้วยตาเปล่าก็ยังสามารถเห็นได้ ความเร็วที่เกิดขึ้นนั้น เช่นเดียวกับความรู้สึกที่หลังจากรดน้ำบนดอกไม้แล้ว จากดอกตูมกลายเป็นดอกบานในทันที
เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ ทุกคนต่างก็คิดในใจว่าเหลือเชื่อจริง หากไม่ใช่มาประสบด้วยตัวเอง จะไม่รู้จริงๆเลยว่าในโลกนี้ยังมียารักษาแผลที่วิเศษเช่นนี้ ราวกับเป็นเรื่องราวในเทพนิยาย
“มหัศจรรย์มาก! ร้ายกาจมาก! เป็นยาทารักษาที่เหลือเชื่อชนิดหนึ่ง สมควรอย่างยิ่งที่จะให้เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของยารักษาแผล ควรค่าแก่การใช้เป็นต้นแบบสำหรับการศึกษาค้นคว้าของพวกเราชาวจีน” นักข่าวคนหนึ่งยกนิ้วโป้งให้ด้วยความจริงใจ
“โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นฉันรู้จัก มันเป็นโรงงานที่เก่าแก่มากแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่า สามารถฝ่าฟันวิกฤติให้หลุดพ้นจากการล้มละลายได้ สามารถคิดค้นสิ่งอัศจรรย์เช่นนี้ออกมาได้แสดงให้เห็นว่าคนเราเมื่อล้มแล้วจะต้องต่อสู้ต่อไปโดยไม่ยอมแพ้ เมื่อยานี้แจ้งเกิดแล้ว จะทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน จะชื่นชมอย่างไรก็ไม่เกินไปเลย” นักข่าวอีกคนหนึ่งก็ชื่นชมไม่หยุด
ผู้สืบข่าวทั้งหมดล้วนรู้สึกคลั่งไคล้อย่างมาก ต่างก็บันทึกเหตุการณ์อันล้ำค่าในช่วงเวลานี้ไว้ หล่วนฝูใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พอใจมาก การจัดแถลงข่าวครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก สะกดใจผู้คนให้ตกตะลึงได้ ไม่ใช่พวกที่จบแบบลวกๆ จะเปิดหรือจะปิดก็ไม่มีความแตกต่างอะไร เป็นการแถลงข่าวที่ไม่ประทับใจเลย
เสียงถ่ายภาพแช่ะแช่ะไม่หยุด กล้องถ่ายรูปเรียงหน้ากันเข้ามาอย่างหนาแน่น ใบหน้าความเจ็บปวดของเหอซินหย่าก็เริ่มจางหายไป กลับคืนสู่สภาพรอยยิ้มที่เย่อหยิ่ง
เหอซินหย่าก็รู้จักความอัศจรรย์ของผงขาวเฟยเยว่ ดังนั้นเธอจึงเสนอตัวเองมาทดลองใช้ คาดคิดแล้วว่าฉากที่ปรากฏและผลตอบรับที่น่าทึ่งของผงขาวเฟยเยว่ จากการสาธิตผ่านบาดแผลบนแขนของตัวเองนั้น ไม่เพียงแต่ผงขาวเฟยเยว่ที่จะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้า รวมแม้กระทั่งตัวเอง เกรงว่าหากเดินบนถนนก็จะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่จำเธอได้ กลายเป็นหัวข้อผู้หญิงคนหนึ่งในการสนทนา นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดีหรอกหรือ กำลังจะมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ทำให้ในใจของเหอซินหย่ารู้สึกปลาบปลื้มใจไม่น้อย
ผู้บริหารระดับสูงของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ใบหน้าทุกคน ล้วนแสดงออกถึงความปลาบปลื้มใจ พวกเขาได้คาดคิดไว้ก่อนการแถลงข่าวแล้วว่าจะต้องให้ผงขาวเฟยเยว่กลายเป็นยาที่มีชื่อเสียงระดับสากลโลก เกรงว่าผู้นำของแต่ละประเทศก็ยังต้องรีบแย่งกันมาทดลองใช้ยารักษาแผลของพวกเขาแน่นอน ถึงเวลานั้นทุกคนก็จะมีหน้ามีตา ไม่เพียงแค่เป็นเรื่องของเงินทองอย่างเดียว
จากนี้ไป เงินทอง อำนาจ ตำแหน่งฐานะ ดอกไม้ เสียงตบมือ…….ไม่จำเป็นจะต้องไปวิ่งหาอีก ก็มีผู้คนแย่งเข้ามานำเสนอให้มากมายแล้ว ตระกูลหยางไม่ต้องออกแรงที่จะไปขยายการตลาด เพียงแต่นั่งอยู่บนที่สูง ก็มีคนนำทุกอย่างมามอบให้แล้ว
เขาหล่วนฝูตอนนี้ก็อาศัยยามน้ำหลากมีชื่อเสียงไปด้วย สัมผัสความรู้สึกของช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นี่ก็เป็นจุดสูงสุดในชีวิตของเขาแล้ว เป็นพ่อบ้านตระกูลหยางมานานหลายปี จากฉากหลังเดินมาอยู่หน้าเวที ดื่มด่ำกับคำชมเชยและเสียงปรบมือจากผู้คนทั่วไปที่มอบให้อย่างเต็มที่
ทันใดนั้น ข้างนอกก็เกิดเสียงดังอึกทึกขึ้นมา “ท่านสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีพวกท่านครับ ยาชนิดนี้ พวกท่านอย่าได้เอาไปใช้เด็ดขาด ผมจะบอกพวกท่านให้ อย่าได้ใช้เด็ดขาด เพราะว่ายานี้ดูภายนอกมันดูดีมาก แต่แท้จริงไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็น อาจจะถือว่าน่าเกลียดด้วยซ้ำไป น่าเกลียดจนเลอะเทอะไปหมด”
ผู้คนต่างตกใจ ต่างละสายตาออกไปมองข้างหลัง ก็เห็นตรงหน้าประตูมีคนถือโทรโข่ง ตะโกนพูดเสียงดัง ดึงดูดความสนใจผู้สื่อข่าวจำนวนมาก
การเขียนข่าวทุกอย่างที่เหมือนกันไปหมด ไม่มีอะไรน่าสนใจ หากให้ดีที่สุดก็ต้องเกิดเสียงต่อต้านขึ้น นั่นก็คือได้เพิ่มสีสันให้ดูเด่นขึ้นแล้ว ดังนั้นผู้สื่อข่าวทั้งหลายก็มักจะใฝ่ฝันหา เสียงจากโทรโข่งนั้นมันจะปล่อยข่าวอะไรออกมาบ้าง แน่นอน พวกเขาคิดว่า ประสิทธิภาพของผงขาวเฟยเยว่ต้องเป็นของแท้แน่นอน เสียงจากโทรโข่งนั้นเปรียบเสมือนงาช้างคงไม่งอกจากปากสุนัข คำพูดที่ดีคงไม่ออกมาจากปากของคนเลว ก็เพียงเท่านั้นเอง
แต่ว่าทุกคนก็ยังต้องการตัวตลกตัวนี้
“ขอถามคุณหน่อยค่ะ ประสิทธิภาพของผงขาวเยว่จิ้นดีเช่นนี้ ทำไมท่านจึงพูดว่าเห็นภายนอกมันดูดี หรือว่าท่านรู้ข้อเสียที่อยู่ภายในเหรอคะ?” นักข่าวสาวคนหนึ่งรีบแย่งเข้ามาใกล้ฉินหลั่ง แล้วยื่นไมค์ให้ เริ่มที่จะสัมภาษณ์
“ใช่ครับ เขาดูภายนอกเหมือนจะสวยงาม แต่แท้จริงแล้วภายในไม่เพียงแต่ยังมีจุดบกพร่อง อีกทั้งยังเป็นข้อเสียที่ร้ายแรงทั้งนั้น! ดังนั้นผมจึงอยากจะบอกกับเพื่อนๆนักข่าวทั้งหลาย พวกคุณน่าจะใช้กล้องส่องเข้าไปให้ลึกเข้าไปหน่อยเพื่อจะได้เห็นชัดเจนขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วรายงานข่าวเท็จก็จะไม่ดี” ฉินหลั่งจับไมโครโฟน แล้วตะโกนพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
สีหน้าของหล่วนฝูเริ่มไม่ดี นี่เป็นการก่อกวนในที่สาธารณะ แต่ว่ามีพวกนักข่าวอยู่กันมากมาย เขาก็คงไม่ใช้วิธีความรุนแรงในการแก้ปัญหา อีกอย่างด้วยฝีมือของฉินหลั่งแล้ว ก็จะต้องเกิดการปะทะกันด้วยความรุนแรงแน่นอน จะทำให้เกิดความวุ่นวายกับพวกผู้สื่อข่าว จะได้ไม่คุ้มเสีย
หล่วนฝูคิดหาทางออกในใจ แล้วสีหน้าปรากฏรอยยิ้มของผู้ชนะขึ้นมา ถึงอย่างไรตอนนี้ต้นไม้ก็ได้กลายเป็นเรือแล้ว ผงขาวเฟยเยว่ครองตำแหน่งหนึ่งเดียวในใต้หล้าอยู่ไม่นานเกินรอ เป็นไปไม่ได้ที่หมากเกมนี้จะเกิดการพลิกกลับ ก็ปล่อยให้ฉินหลั่งออกแรงก่อกวนต่อไป ยิ่งก่อกวนมากก็ยิ่งทำให้ผงขาวเฟยเยว่ยิ่งเด่นดังมากขึ้น แฮะแฮะ
หล่วนฝูจึงสะบัดมือ ห้ามพนักงานรักษาความปลอดภัยที่กำลังจะบุกเข้าไป มองดูฉินหลั่งด้วยรอยยิ้ม แต่เหอซินหย่ากลับรู้สึกโกรธเคืองมากขึ้นมา ในใจคิดว่าทำไมไปที่ไหนก็เจอตัวซวยอย่างเจ้า ตัวเองยอมถูกมีดปาดเพื่อแลกกับโอกาสที่จะได้เด่นดัง แต่ตอนนี้ถูกฉินหลั่งแย่งซีนไปหมดแล้ว
“คุณคะ คุณช่วยพูดให้เข้าใจหน่อยค่ะ พวกเราจะได้รายงานได้ถูกต้อง” นักข่าวคนหนึ่งถามนำขึ้นมา
“โอ่…..เป็นคุณนี่เอง….คนบ้าคนนี้….” นักข่าวที่กำลังถ่ายรูปอยู่ด้านข้าง มองดูฉินหลั่งอย่างละเอียด สีหน้าเปลี่ยนไปทันที กอดกล้องถ่ายรูปไว้แน่น ราวกับเจอปีศาจจะมาแย่งชิงของวิเศษของเธอไป
นักข่าวคนอื่นๆก็หน้าซีดเซียว บ่นขึ้นว่า “ทำไมคุณ…..ปรากฏตัวออกมาอีกแล้ว?”
นักข่าวสาวคนนั้นคือหัวหน้านักข่าวหลิวซิ่วเหวิน หลังจากที่เธอเคยประสบเรื่องผู้ชายที่ทุ่มกล้องถ่ายรูปของนักข่าวแล้ว ในใจก็ยังจดจำเรื่องราวอันเลวร้ายนั้นได้ ไม่คิดว่าวันนี้ก็ต้องมาเจออีก………
ฉินหลั่งก็ไม่สนใจเสียงกรีดร้องของพวกหลิวซิ่วเหวิน แต่กลับพูดหัวข้อเดิมว่า “อย่าขัดจังหวะครับ ยานี้เหรอ ผมพูดว่าดูภายนอกมันดูดีมาก เพราะว่าประสิทธิภาพในการสมานแผลและห้ามเลือดสุดยอดทั้งนั้น แต่ว่า……..”
“ยานี้อย่าได้ผลิตเลย เพราะว่ามันจะทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมา พูดได้เลยว่าหากใช้แล้วจะเสียใจไปตลอดชีวิต พวกคุณคิดดูสิ ความรุนแรงของโรคที่เกิดจากสารตกค้างจากยารักษาแผลอย่างนี้ใครจะกล้าใช้? พ่อค้าใจดำเอามาขายเพื่อหวังผลกำไร คนที่ได้รับกรรมก็คือประชาชนทั่วไป คุณคิดว่าถูกหรือเปล่าครับ?”
“โรคที่เกิดจากสารตกค้าง? ความรุนแรงของโรคที่เกิดจากสารตกค้าง?” ผู้คนแสดงถึงท่าทีตื่นตระหนกและอยากรู้ พวกนักข่าวที่จองอยู่หน้าเวทีไม่ยอมเคลื่อนย้ายนั้น ตอนนี้ได้กลิ่นผิดปกติขึ้นมา จึงรีบเปลี่ยนตำแหน่งที่วางกล้อง ย้ายกล่องไปยังบริเวณใกล้ฉินหลั่ง
ตอนนี้งานแถลงข่าวเปิดตัว ก็ได้กลายเป็นการแถลงข่าวส่วนตัวของฉินหลั่งไปแล้ว ฉินหลั่งก็ถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คน ไม่ต้องใช้โทรโข่งในการพูดอีกแล้ว
ฉินหลั่งโยนโทรโข่งในมือออกไป แล้วพูดว่า “โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นจำเป็นที่จะต้องหยุดการผลิตทันที ไม่เช่นนั้นจะทำร้ายคนแล้วทำร้ายตัวเองด้วย นี่ไม่ใช่คำพูดหลอกลวง”
ใบหน้าของหล่วนฝูไม่แสดงความโกรธแต่อย่างใด ได้แต่ยิ้มออกมา ในใจคิดว่า ฉินหลั่งเอ๊ย เจ้าแพ้แล้วก็แพ้ไปสิ จะมาเล่นลูกไม้แบบนี้ ข้าชักจะดูถูกเจ้าแล้ว……….
“หล่วนฝู เหอซินหย่า พวกคุณช่วยบอกเหอซินหย่าด้วย ยานี้ห้ามผลิตออกมา ต้องยุติทันที” ฉินหลั่งตะโกนเสียงดังไปยังหล่วนฝู เหอซินหย่า แต่ว่าหล่วนฝูทำเป็นไม่ได้ยิน ส่วนเหอซินหย่าโกรธจนตัวสั่น
ตอนนี้ฉินหลั่งก็ดึงดูดความสนใจจากทุกคนเอาไว้แล้ว จึงหันกลับไปพูดกับนักข่าวว่า “ยานี้ผมเป็นคนคิดผสมสูตรขึ้นมาเอง ตอนนี้ผมก็ได้วิจัยเพิ่มเติมมากขึ้นอีก แล้วพบว่ามันมีข้อเสียที่ส่งผลรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายอย่างร้ายแรง พวกคุณฟังผมนะ มันไม่ใช่คำพูดที่โกหกหลอกลวง…….”
“ผงขาวเฟยเยว่มีปัญหา มีผลเสียที่อันตรายมาก?” นักข่าวหลายร้อยคนต่างก็ตกใจ จากนั้นก็ใช้คำพูดพวกนี้เขียนเรียบเรียงใหม่ กลายเป็นหัวข้อของการรายงานข่าว
เหอซินหย่ากำหมัดไว้แน่น กำลังคิดจะเข้าไปจัดการฉินหลั่ง แต่หล่วนฝูได้ดึงตัวเธอไว้แล้วจึงค่อยๆพูดขึ้นว่า “ทุกคนไม่ต้องตื่นตระหนก เขาชื่อฉินหลั่ง……..”
หล่วนฝูพูดอย่างไม่รีบร้อน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น “เขาคือคนที่ผลิตยาผงขาวหยุนเซียนที่แท้จริง ประธานบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset