รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 716 เสียแรงเปล่า

บทที่ 716 เสียแรงเปล่า
หล่วนฝูดูเหมือนว่าไม่ได้เจตนา ที่จะเปิดเผยฐานะของฉินหลั่ง สถานการณ์ของการสนทนาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา ทุกคนมองฉินหลั่งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ดูถูก อีกทั้งสายตาที่มองไปยังผู้พ่ายแพ้
“ทุกคนลองคิดดูสิ ด้วยฐานะอย่างนี้ คำพูดของเขาจะเป็นกลางหรือไม่?” หล่วนฝูเปิดโปงเรื่องที่เป็นจริงอย่างต่อเนื่อง
พวกนักข่าวส่งเสียงอื้ออึง ทำท่าดูถูกฉินหลั่ง โรงงานผลิตยาหยุนเซียนและโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไรนั้น นักข่าวส่วนใหญ่มักจะรับรู้แล้ว เรื่องข่าวสารพวกเขารู้ไวมาก รู้แต่แรกแล้วว่าโรงงานผลิตยาหยุนเซียนกลายเป็นผู้แพ้ ต่างก็รู้สึกว่าฉินหลั่งคงจะเก็บความแค้นในใจ แล้วมาพูดสาดโคลนใส่โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นก็เท่านั้น
พูดไปแล้วก็คือ ตัวเองตกต่ำลง เมื่อเห็นคนอื่นเจริญก้าวหน้าจิตใจเลยไม่ปกติ จึงมาสร้างสถานการณ์ก่อกวน
หลังจากเหตุการณ์ตื่นเต้นผ่านไปแล้ว ทุกคนก็เข้าใจแล้ว หากผงขาวเยว่จิ้นมีปัญหาจริง แล้วทำไมบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินยังลอกเลียนแบบ เร่งผลิตสินค้าออกมาถึงหนึ่งหมื่นชุด? แน่นอนที่ฉินหลั่งตอนนี้ก็คงตกต่ำแล้ว เริ่มจะสร้างเรื่องด้วยการเอาตัวเองเข้าแลก ยังไงการก่อกวนก็ไม่ต้องเสียเงิน นักข่าวก็เป็นคนที่โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นเชิญมาทั้งนั้น การก่อกวนของฉินหลั่งจะส่งผลกระทบต่อโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น แต่ไม่มีผลเสียอะไรต่อตัวเองเลย
เมื่อเข้าใจประเด็นนี้แล้ว พวกนักข่าวก็มองดูฉินหลั่งด้วยท่าทางมีเลศนัย สีหน้าเยือกเย็น มองดูการแสดงของฉินหลั่ง ใช่แล้ว ต้องรักษาท่าทีความเป็นกลาง มองดูเขาจะแสดงอย่างไรก็พอแล้ว
ทำให้ทุกคนรู้สึกขบขันที่สุดคือ ฉินหลั่งคนนี้ยังกล้าบอกว่าสูตรปรุงยาของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นเขาเป็นผู้คิดค้นเอง มันช่างเหลวไหลสิ้นดี พวกอยากดังแล้วพูดเรื่อยเปื่อยไร้สาระ
“ไสหัวไป ไสหัวออกไปเร็ว พูดเรื่องเหลวไหลอะไร”
“ความจริงเห็นชัดเจนอยู่แล้ว หากว่าผงขาวเฟยเยว่ไม่ดี แล้วผงขาวหยุนเซียนทำตามอย่างทำไม?”
“แกมันเป็นพวกองุ่นเปรี้ยวมะนาวหวาน ตัวเองทำผิดกลับไปโทษคนอื่น ขี้เกียจจะพูดกับคนอย่างแก…”
“การจัดงานแถลงข่าววันนี้มันจำเป็นต้องจัดขึ้น ไม่เช่นนั้นจะมีคนมาถือโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ทำให้คนอื่นฟังแล้วสับสน เมื่อครู่เขาเพิ่งจะพูดไปว่า สูตรผสมยาของผงขาวเฟยเยว่ซื้อมาในราคาพันกว่าล้าน แล้วจะเกี่ยวกับแกได้ยังไง….”
พวกนักข่าวแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยามฉินหลั่ง แสดงท่าทีต่อฉินหลั่งจากเดิมที่อยากรู้กลายเป็นดูถูกอย่างมากที่สุด
ทำอะไรไม่ได้ เหนือความคาดหมายก็คือ ความพยายามของฉินหลั่งกลายเป็นเสียแรงเปล่า คำพูดของเขาหล่วนฝูได้อธิบายจนทำให้นักข่าวคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล เป็นเพียงแค่อยากจะระบายความรู้สึกผิดหวังอัดอั้นใจออกมาแค่นั้นเอง
ส่วนฉินหลั่งรู้สึกยังอาลัยอาวรณ์ หลังจากก่อกวนในงานแถลงข่าวแล้ว ฉินหลั่งก็ยังไปสถานที่หลายแห่งรวมทั้งร้านค้า ร้านขายยา แม้กระทั่งสถานีตำรวจ เขาต้องการหยุดยั้งการผลิตยาของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น คิดว่าจะเกิดมหันตภัยที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้
แต่ว่าไม่มีใครรับฟังเขาเลย มักจะเห็นว่าพฤติกรรมการแก้แค้นของเขาเป็นวิธีที่ต่ำทรามที่สุด คนส่วนใหญ่ก็มีความเกรงใจฉินหลั่ง แต่ก็เป็นเพียงแค่เกรงใจ แท้จริงแล้วก็ไม่ได้ฟังสิ่งที่เขาพูด ทำให้ฉินหลั่งรู้สึกเบื่อหน่าย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
สุดท้ายแล้ว ฉินหลั่งนึกถึงการใช้อินเทอร์เน็ต เขาพยายามติดต่อสื่อมวลชนแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงอาศัยการแสดงความคิดเห็นในเพจของตัวเอง ชี้ให้เห็นว่าผงขาวเฟยเยว่มีมหันตภัยร้ายแรงซ่อนอยู่ และมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายจากโรคที่เกิดจากสารตกค้างในภายหลังได้ แต่นี่กลับทำให้ผู้คนยิ่งสงสัยว่าเป็นการกระทำที่ทำร้ายฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น หลังจากนั้นโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นก็ได้ประกาศแถลงการณ์ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงในอินเทอร์เน็ต ตำหนิว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่ปกติของข่าวในอินเทอร์เน็ต
ทำให้ชาวเน็ตต่างโกรธเคือง ด่าว่าฉินหลั่งด้วยถ้อยคำเสียเสียหายหาย
ยังมีโทรศัพท์ลึกลับที่โทรเข้ามาในร้านหุยชุน ผู้คนต่างเตือนฉินหลั่งว่าไม่มีเรื่องก็อย่าหาเรื่องใส่ตัว ไม่เช่นนั้นจะมาพังร้านหุยชุน
สุดท้ายทางการก็สรุปว่า ผงขาวเฟยเยว่ที่ผลิตโดยโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับฉินหลั่ง ส่วนที่กล่าวว่าฉินหลั่งเป็นผู้คิดค้นสูตรผงขาวเฟยเยว่นั้น มันกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอ ไม่สมควรที่จะนำมาพิจารณา
วันนี้ ฉินหลั่งเดินเข้ามาในโรงพยาบาลศูนย์เย็นจีน เพื่อหาทางพบกับส้งฉางเว่ยสองสามีภรรยาที่มาเยี่ยมบุตรสาวที่ป่วยอยู่
“คุณส้งครับ เรื่องนี้คุณจะต้องเข้าไปจัดการนะครับ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่โตขึ้น” ฉินหลั่งก็ได้พบกับส้งฉางเว่ยสองสามีภรรยาจึงรีบเข้าไปเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
“ใช่ครับ ประสิทธิภาพการห้ามเลือดและการสมานแผลของผงขาวเฟยเยว่ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุด แต่ว่าผลข้างเคียงของมันมีมาก มันมีผลร้ายแรงกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่างมาก ถึงขั้นที่ทำให้ผิวหนังอักเสบจนเน่าเฟะเป็นวงกว้างได้”
“ยาพวกนี้ จะต้องห้ามนำมาวางจำหน่ายในตลาดในปริมาณที่มาก ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นยากที่จะคาดเดาได้ จะเกิดเรื่องใหญ่มากมายขึ้นในวงการแพทย์ ดังนั้นผมจึงหวังให้ท่านออกหน้าสอบถามเรื่องนี้ แล้วจัดตั้งทีมงานเพื่อศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เพื่อรับรองผลที่เป็นกลางให้กับผงขาวเฟยเยว่”
“ไม่เช่นนั้นถึงตอนนั้นแล้ว หากเกิดเรื่องขึ้นก็จะไม่ดี”
ปกติฉินหลั่งก็ไม่ชอบเข้าหาส้งฉางเว่ย แต่ก็ต้องมาเปลี่ยนท่าทีใหม่ อดทนชี้แจงโน้มน้าวส้งฉางเว่ย เพื่อหวังให้เขาได้ช่วยทำอะไรบ้าง
พอดีส้งฉางซิงก็ได้อยู่กับส้งฉางเว่ยด้วย เมื่อเห็นสถานการณ์แล้วได้แต่แสยะยิ้ม และคิดที่จะเข้าไปพูดอะไรกับฉินหลั่ง แต่สุดท้ายก็ได้แต่ยืนฟังไม่พูดอะไร ท่าทางลำบากใจและสับสนมาก
“ฉินหลั่ง คุณนึกว่าฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือ? จะเชื่อเพียงแค่คำพูดต่อหน้าของคุณเท่านั้นหรือ?”
“ตอนนี้คุณเที่ยวไปให้ร้ายป้ายสีโรงงานผลิตยาเฟยเยว่มันแปลว่าอะไร ก็ไม่ใช่เพราะอยากให้ผงขาวเฟยเยว่เหมือนกับผงขาวหยุนเซียน ถูกสั่งปิดด้วยหรือ? คุณคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ? ไม่ถูกต้องแล้วมั้ง?”
ส้งฉางเว่ยแสยะยิ้ม ส่วนหยูสู้ฉินกลับทำหน้าดูถูกพูดอย่างเย็นชาว่า “ไอ้หยา คุณหมอฉินขา คุณก็อย่าไปพูดเหลวไหลเลย กลับไปบ้านดีดี ยอมรับความจริงที่โรงงานผลิตยาถูกสั่งปิดแล้ว แหล่งหาเงินของพวกคุณถูกปิดสนิทแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า…”
สีหน้าของหยูสู้ฉินมีความสุขอยู่บนความทุกข์คนอื่น ตอนนี้เธอถูกพวกเหอซินหย่าและซูเวยยุแยงจนไม่มีสติสัมปชัญญะในการแยกแยะแล้ว และเกลียดแค้นฉินหลั่งเข้ากระดูกในเรื่องที่ฉินหลั่งไม่ช่วยรักษาอาการป่วยของลูกสาวตัวเอง ได้เห็นฉินหลั่งตกอับ เธอยิ่งมีความสุขอย่างที่สุด สบายใจจนเลอะเลือน
“ให้ทางเลือกคุณทางเดียว ถ้ารู้จักทำตัวดี ก็คือจะต้องรักษาโรคของลูกสาวฉันให้ดี ดูแลให้ละเอียด รักษาโรคให้หาย อย่าให้เหลือโรคที่เกิดขึ้นจากผลตกค้างอย่างที่คุณเป็นห่วง ฉันก็จะช่วยคุณไปพูดเจรจากับบริษัทตระกูลหยาง พวกเขาก็คงเห็นแก่หน้าฉันบ้าง” สีหน้าของหยูสู้ฉินหยิ่งผยอง
หยูสู้ฉินแต่งตัวได้อย่างนั้นมากเลย ยังคงความมีเสน่ห์เย้ายวนใจ รูปร่างท่าทางดูสวยสง่า มองไปยังฉินหลั่งด้วยสีหน้าเย็นชา “ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร คุณก็ไปคิดเอาเอง ฉันก็แค่ชี้แนะให้คุณเท่านั้น”
ฉินหลั่งถอนหายใจ “ส้งหุ้ยเฉียวผมช่วยอยู่แล้ว เพียงแต่หวังว่าคุณส้งจะต้องช่วยระงับการผลิตผงขาวเฟยเยว่โดยเร็ว เพื่อป้องกันความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น”
ส้งฉางเว่ยหน้าตาดำคล้ำใบหน้าเคร่งขรึม “ฉันไม่แลกเปลี่ยนข้อเสนอกับคุณ นี่คุณกำลังดูถูกการทำงานของฉันอยู่นะ!”
“ฉินหลั่ง ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นหมอที่ดี สามารถช่วยให้ลูกสาวฉันฟื้นขึ้นมาได้ ก็อาจเป็นไปได้ ที่มีแต่คุณเท่านั้นเป็นหมอที่สามารถทำให้หุ้ยเฉียวฟื้นขึ้นมาได้”
“แต่ถ้าคุณจะให้ฉันทำเพื่อลูกสาวตัวเอง แล้วต้องแลกเปลี่ยนข้อเสนอกับคุณ ไปปิดบริษัทที่เขาดำเนินกิจการอย่างปกติ คุณก็อย่าได้หวังเลย!”
“คนอื่นโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นเป็นโรงงานเก่าแก่ เกือบจะต้องล้มละลาย ตอนนี้ก็เริ่มจะฟื้นตัวได้ เกิดเรื่องปาฏิหาริย์ขึ้น ผลิตยาวิเศษที่โด่งดังไปทั้งนอกและในประเทศ สามารถช่วยเหลือคนจำนวนมากมายที่ได้รับบาดเจ็บ คุณกลับจะให้ฉันไปปิดกิจการเขา มีเจตนาอย่างไรกันแน่? คุณคิดว่าฉันเป็นคนอย่างไรกัน?”
“คุณพูดได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล หาว่าผงขาวเฟยเยว่มีข้อเสีย นั้นเป็นเพียงความคิดเห็นของคุณเอง ความคิดเห็นของคุณเป็นข้อเท็จจริงหรือ? ฉันจะต้องทำตามที่คุณสั่งหรือ? คุณเคยนึกถึงพวกนักวิจัยคนอื่นบ้างไหมว่าพวกเขาคิดอย่างไร? คุณมันลำพองใจเกินไปแล้ว!”
“ฉันว่าคุณทำเพื่อแก้แค้นมากกว่า ไม่ใช่พูดอย่างไม่มีหลักเกณฑ์นะ เพราะว่าผงขาวเฟยเยว่ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นการผลิตก็ได้ผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว”
“ฉันอยากจะเตือนคุณเลยนะ” ส้งฉางเว่ยจ้องมองฉินหลั่งอย่างเย็นชา “แทนที่เสียเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องฟุ้งซ่านพวกนั้น กลับไปทำหน้าที่หมอของคุณให้ดีจะดีกว่ามั๊ย คอยดูแลคนป่วยให้ดี ทำแต่เรื่องที่ดีดี จะดีกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด และมีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งนั้น”
“คุณว่าที่ฉันพูดมันถูกหรือเปล่า?”