รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 757 รนหาที่ตาย

บทที่ 757 รนหาที่ตาย
“แป๊ะต๊ะ!”
ศพของแม่ม่ายดำก็ตกลงบนพื้นดิน
ทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงัดลง หลิวหย่งเฉียงตกใจจนอ้าปากค้าง
ถึงแม้ว่าคนธรรมดาทั่วไปที่ฝึกบำเพ็ญเซียงเมื่อได้พบเจอสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ตามพละกำลังก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ว่าฉินหลั่งนี้ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว!
บรรดาพวกบำรุงเซียนทั้งหลายจ้องมองฉินหลั่งด้วยสายตาที่เยือกเย็นและหวาดระแวง
ถึงแม้แม่ม่ายดำอยู่ใน 20 คนนั้น พละกำลังจะน้อยที่สุดก็ตาม
แต่คนที่สามารถใช้นิ้วมือสังหารแม่ม่ายดำได้นั้น อย่างน้อยก็จะต้องมีพลังระดับปรมาจารย์ใหญ่
“คุณเป็นใครกันแน่?” ท่านนักพรตป๋ายซุย พนมมือขึ้นแล้วถามอย่างเรียบง่าย
ฉินหลั่งไม่ตอบ หลับตาลง ราวกับผู้ทรงศีลวัยชรากำลังเข้าฌาน
ผู้แข็งแกร่งสายมืดทั้งหลายต่างก็ยืนอยู่นั่นด้วยความหวาดผวา ไม่มีใครยอมที่จะลงมือก่อน
ถึงแม้ทุกคนก็รู้ดีว่า หากทุกคนพร้อมใจบุกเข้าไปด้วยกัน ก็จะสามารถโค่นล้มคนที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย แต่กลุ่มคนพวกนี้รวมตัวกันเพื่อผลประโยชน์อย่างเดียว ต่างมีแผนอยู่ในใจ ทุกคนก็ไม่คิดจะลงมือลงแรงทั้งนั้น อยากให้คนอื่นบุกขึ้นไปก่อน หากมีหลายคนตายเพิ่มขึ้นอีกก็ยิ่งดี
สุดท้ายแล้วก็เงียบลงชั่วคราว คุนก้าวเดินออกมา พูดด้วยเสียงอู้อี้
“ฉันไม่สนว่าคุณจะเป็นใคร ตอนนี้ข้าจะเข้าไป ใครขวางฉัน ตาย!”
พูดจบ ผู้บำเพ็ญเซียนที่มีพละกำลังแต่กำเนิดแต่ไร้ซึ่งสมองคนนี้ก็เดินก้าวเข้าไปยังฉินหลั่งทีละก้าว
คุนเดินทีละก้าวเข้ามา คราวนี้ สายตาทุกคนจ้องมองไปยังฉินหลั่งอย่างตั้งใจ แม้กระทั่งหลิวหย่งเฉียงก็ยังมองข้ามมาแล้วถอนหายใจ ดูว่าฉินหลั่งจะตอบโต้อย่างไร
“แป๊ะต๊ะ!”
ภายใต้สายตาของทุกคน ขณะที่คุนกำลังจะก้าวข้ามเส้นนั้น
ตอนนี้ ฉินหลั่งก็ลืมตาขึ้นมาทันที
เขาเริ่มลงมือแล้ว!
เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ใช้เพียงแค่นิ้วมือเดียว ตอนนี้ฉินหลั่งยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งที่ขาวดั่งหยกขาวออกมา
ฝ่ามือข้างนี้ อ่อนช้อยเหมือนหญิงสาว ข้างบนส่องประกายแสงสีเขียวระยิบระยับ ราวกับแกะสลักมาจากหยกเขียว เคลื่อนไหวลงไปตามที่ฉินหลั่งพลิกฝ่ามือ
เกิดเสียงดังลั่นกลางอากาศอย่างรุนแรง เหมือนเทพร่างใหญ่ทุ่มภูเขาบูโจวลงมา ดูราวกับว่ามีจานโม่ขนาดใหญ่หมุนวนอยู่กลางอากาศ
“โฮ่งโล่ง!” “
ฝ่ามือลำแสงสีเขียวขนาดใหญ่ยาวประมาณ4เมตร ตกลงมาจากท้องฟ้า ทับลงมาอย่างแรง ตรงหน้าฝ่ามือที่เปรียบเสมือนเทพเจ้านี้ แม้แต่รูปร่างใหญ่โตของคุนก็กลับดูเล็กลงไปถนัด
“ไสหัวออกไปให้พ้น!”
คุนตะโกนเสียงดังลั่น ออกหมัดไปบนลำแสงฝ่ามือ ด้วยพลังแรงมหาศาลที่สามารถโขยมมังกรช้างได้ ทำให้ลำแสงฝ่ามือนั้นเพียงแค่สั่นสะเทือนเล็กน้อยเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็กดทับลงมาเรื่อยๆ
คุนดูเหมือนว่าไม่เชื่อสายตาตัวเอง ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง กระทืบเท้าทั้งสอง ราวกับช้างตัวใหญ่กระทืบลงบนพื้นดิน ร่างกายของเขาก็พองโตขึ้นมา กล้ามเนื้อทุกส่วนระเบิดออก ร่างก็พองขยายออก จนถึงประมาณเกือบ3เมตร รูปร่างที่อัปลักษณ์น่ากลัวนี้ ยกมือทั้งสองขึ้น ดูราวกับว่าสามารถแยกแผ่นฟ้ากับแผ่นดินออกจากกัน
ผลสุดท้ายในสายตาที่ตื่นตระหนกของทุกคนนั้น
ฉินหลั่งเพียงแค่ค่อยๆกดฝ่ามือลง ต่อให้คุนส่งเสียงร้องโหยหวนยังไง ทั้งร่ายมนตร์คาถาบทวิชาลับ แม้กระทั่งใช้วิชาเผาเลือด ลำแสงฝ่ามือก็ไม่สะทกสะท้าน ร่างของคุนก็ยังถูกกดทับลงบนพื้นดิน ตามมาด้วยเสียงกระดูกแตกร้าวของคุน ในที่สุดหลังจากลำแสงฝ่ามือจางหายไปแล้ว เหลือไว้แต่เพียงกองเลือดเนื้อที่แหลกละเอียด ทุกคนก็ดูไม่ออกว่าเป็นร่างของคุนแล้ว
ผู้บำเพ็ญเซียนร่างใหญ่ ถูกฝ่ามือตบตายเหรอ?
“ซี๊ด!”
เสียงสูดลมหายใจเย็นเยือกโชยมา
ทุกอย่างเงียบสงัด
ทุกคนก็ล้วนเงียบกริบ
แม้แต่ท่านนักพรตป๋ายซุยก็ยังหน้าถอดสีด้วยความตกใจ
“ฉินหนานจง”
มีคนพูดด้วยน้ำเสียงที่ฝืดเคือง
ใช่แล้ว ถึงตอนนี้ จะไม่มีใครที่แยกแยะฐานะของฉินหลั่งไม่ออกอีกแล้ว สามารถที่ใช้ฝ่ามือเดียวกำจัดผู้แข็งแกร่งบำเพ็ญเซียนร่างยักษ์ ก็มีเพียงฉินหนานจงตามตำนานเท่านั้น
ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขา แต่พลังความสามารถของเขาเป็นของแท้แน่นอน นอกจากฉินหลั่งแล้ว พวกผู้แข็งแกร่งทั้งหลายก็นึกไม่ออกว่าในเมืองจีนมีใครที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้
หลิวหย่งเฉียงก็ตื่นตกใจ ฉินหลั่งเป็นถึงฉินหนานจงในตำนานเชียวหรือ!
ตัวเองทำไมจึงมีตาหามีแววไม่! มันเป็นเพราะผีบังตาแน่เลย!
หลิวหย่งเฉียงอยากจะถอนหงอกที่เพิ่งงอกบนหัวของตัวเองให้หมดไปเลย!
ไม่มีใครพูดจาอะไร!
ถึงแม้ว่าสีหน้าของพวกผู้แข็งแกร่งจะเปลี่ยนไป สีหน้ายังแสดงความโกรธแค้น แต่ทุกคนมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังนั่งขัดสมาธิคนนั้น ก็ยังคงเต็มไปด้วยความหวาดผวา ชื่อเสียงของฉินหลั่ง หลังจากที่เกิดการสู้รบที่ผ่านมา ก็เลื่องลือไปทั่วโลกบำเพ็ญเซียนแล้ว
ได้เผชิญหน้ากับผู้ที่อยู่ในเทพนิยายท่านนี้
ไม่ว่าจะเป็นท่านนักพรตป๋ายซุย หรือว่าเทพอัคคี ไม่มีใครยอมที่จะลุกขึ้นมาท้ารบ อีกทั้งทุกคนยังสงสัยว่า หากคนที่อยู่ในที่นี้ร่วมมือกัน จะสามารถเอาชนะฉินหลั่งได้หรือไม่
“แล้วจะทำอย่างไรดี?”
มีคนกระซิบถามขึ้น
ถ้าให้พวกเขาสู้ต่อไป ใจนึกกังวลกลัวไม่กล้าบุกเข้าไป จะให้พวกเขาจากไป ใจก็ยังเสียดาย ลำบากลำบนที่มาหาพบดอกไม้ซานเหยียนได้แล้ว ผลสุดท้ายกลับถูกคำขู่ของฉินหลั่งแล้วถอยกลับไป คงจะทำให้โลกแห่งบำเพ็ญเซียนขายหน้าไปจนหมดสิ้น
“วางใจเถอะ เทพทั้งสามพวกเขายังไม่ลงมือเลย”
ท่านนักพรตป๋ายซุยเดิมทีสีหน้ายังมีความหวาดผวา แต่สีหน้าก็กลับเหมือนเดิมปกติอย่างรวดเร็ว
ทุกคนก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ใช่แล้ว!
ครั้งนี้ผู้อาวุโสที่แท้จริงไม่ใช่พวกเขา ฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีคนตัวสูงต้านอยู่ พวกกลุ่มซิงจ้างมีชื่อเสียงในโลกบำเพ็ญเซียนมาหลายสิบปี ในสายตาทุกคนคิดว่า ต่อให้พวกเขาสู้ฉินหนานจงไม่ได้ แต่ก็น่าจะไม่แตกต่างกันมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นแล้วยังไม่ใช่มีแค่คนเดียว แต่ทั้งสามคนก็ยังอยู่กันครบ
ดังนั้นสายตาทุกคนรอคอยด้วยความหวังต่างก็มองไปยังปากทางเข้าหุบเขา
และเป็นเช่นนั้นจริงๆ เงาร่างของคนทั้งสาม ปรากฏขึ้นมาในสายตาของพวกเขา
คนหนึ่งมือถือกระบี่ด้ามยาว คนหนึ่งเดินด้วยไม้เท้า ส่วนคนสุดท้ายมือทั้งสองล้วงกระเป๋า
คนทั้งสามก็คือซิงจ้าง หยูจืด และเหลยซีนั่นเอง
ส่วนหลิวหย่งเฉียงเมื่อเห็นพวกเขาแล้ว หน้าถอดสีทันที ราวกับเห็นผีปีศาจ ความเชื่อมั่นที่มีอยู่เดิมนั้นก็หายไปจนไม่เหลือแม้แต่เงา

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset