รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 763 เซียนระดับล่างของโลกผู่ซิว

บทที่ 763 เซียนระดับล่างของโลกผู่ซิว
หลิวหย่งเฉียงสีหน้าเปลี่ยนรุนแรง เหมือนคิดถึงวิชาลับโบราณอะไรได้
โบราณว่าคำสาปที่น่ากลัวที่สุดของสำนักห้าพิษ ก็คือการเอาคำสาปไปสาปบรรดางู และให้พวกมันฆ่ากินกันเอง เลี้ยงมันด้วยหนอนพิษ หมอพิษ หรือแม้แต่วิญญาณของคนชั่ว งูตัวสุดท้ายที่เหลือรอดมาจะเป็น ‘แม่งู’
แม่งูจะไม่มีพลังน่ากลัวอะไร แต่พอตัวเองตาย วิญญาณของมันจะจับจ้องอาฆาตคนๆหนึ่ง ไม่มีทางยอมปล่อยไม่ว่ากี่ภพกี่ชาติ
อยากจะเลี้ยงงูแบบนี้ อย่างน้อยต้องมีอายุขัยกว่าร้อยปี ดังนั้นปรมาจารย์หมอพิษอย่างหยูจืด น่ากลัวชาตินี้คงมีได้แค่ตัวนี้ตัวเดียว เป็นไพ่ไม้ตายสุดท้ายของเขาแล้ว
“ไปเถอะ!”
หยูจืดชี้ไปที่ฉินหลั่ง เงางูแดงเลือดก็ทำท่าร้องโหยหวนแบบไร้เสียง และพุ่งไปที่ฉินหลั่ง
ซิงจ้างเองก็ผลุดลุกขึ้นจากพื้นอย่างเร็ว สองปีกสยาย มีกระบี่ยาวสีทองปรากฏในมืออีกที กัดฟันพุ่งเข้ามาฟันด้วย
พริบตาเดียว เซียนระดับสูงทั้งสามต่างลงมือพร้อมกันแล้ว
เผชิญฉากแบบนี้ ฉินหลั่งยังมีสีหน้าเรียบเฉย กระทืบเท้าเบาๆ เสียงระเบิดบรึ้มก่อให้เกิดฝุ่นตลบไปทั่ว พริบตาเดียวทะลวงห้วงอากาศ ความเร็วแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แปลงเป็นแสงสีม่วงพุ่งไปที่เหลยซี
“ปึ้ง!”
ท่ามกลางสายตาประชาชี แสงสีม่วงปะทะกับสายฟ้าสีทอง
ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย ทั้งสองอาศัยพลังของร่างเนื้อปะทะกันไปมา ไม่อาศัยเวทมนตร์ ไม่ใช้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ไม่ใช่อาวุธวิเศษ สิ่งที่ตัดสินผลแพ้ชนะ มีแต่ร่างเนื้อเท่านั้น!
แสงไฟสีทองกระพริบรอบตัวเหลยซี เขาในตอนนี้แกร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ประหนึ่งรถถังคันหนึ่ง
เหลยซีมั่นใจว่าจะบดเบียดอีกฝ่ายจนกลายเป็นเนื้อบดได้ เขารู้สึกกระทั่งว่า ตัวเองเข้าไปในศูนย์กลางความเร็วเหนือแสงแล้ว ถึงขีดสุดของร่างเนื้อแล้ว
แต่ฉินหลั่งแกร่งยิ่งกว่า!
ร่างกายจื่อย่าเป็นหนึ่งในร่างเซียนระดับสูงของจักรวาล เป็นอาวุธวิเศษที่ใช้สะกดยุทธภพของสำนักเทพทั้งห้าด้วย
เหลยซีปะทะกับเขา เล่นเอาเอวโดนกระแทกแตกหักเลย จากหน้าอกจนถึงกะโหลก กระดูกแขนขา อวัยวะภายใน เหมือนกับโดนรถยนต์ชนเข้าอย่างแรง พริบตาเดียวโดนบดเบียนจนกลายเป็นเนื้อบด
และในตอนนี้ ไม่รอให้ทุกคนตกใจ ซิงจ้างกับหยูจืดก็โจมตีเข้ามา
ฉินหลั่งสีหน้าไร้อารมณ์ ประกายสีม่วงในแววตาเจิดจรัส จิตวิญญาณเทพอันพร่างพราวแปลงเป็นดาบยาวสีเงินเล่มหนึ่ง บินพุ่งออกไป ฟันกับจิตวิญญาณของงูในคำสาปที่พกพาคำสาปนับไม่ถ้วนนั้นจนสลายเป็นผุยผงกลางอากาศ จากนั้นก็เหมือนรับรู้ได้ มันเลยพุ่งไปตัดร่างเนื้อของหยูจืดต่อ
ด้านนอกหยูจืดดูเหมือนไร้รอยแผล แต่จิตวิญญาณเทพของเขาแทบจะโดนจิตของดาบขนาดหนึ่งเมตรนั่นฟันขาดเป็นสองท่อน ปรมาจารย์ท่านนี้แก่มากขึ้นด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สุดท้ายสองขาสั่นเทา เกือบยืนไม่อยู่แล้ว
จิตวิญญาณแทบจะโดนฟันขาดเป็นสองท่อน เป็นหลักฐานว่าปรมาจารย์ท่านนี้จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อีกแล้ว
เพราะว่าเขาไม่สามารถจะจดจ่อกับคาถาควบแน่นได้อีกต่อไปแล้ว
“อ๊า!”
สุดท้าย การเผชิญหน้ากับซิงจ้างที่แทบจะคลุ้มคลั่ง หลังจากกระบวนท่าของการปะทะกันกับฉินหลั่ง กระบี่แสงเขาโดนคว้าจับไว้ได้ จากนั้นฉินหลั่งใช้สองมือจัดการกระชากฉีกปีกแสงสีขาวสองคู่ความยาวราวห้าหกเมตรที่อยู่ด้านหลังซิงจ้างเอาดื้อๆเลย
ซิงจ้างส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ตกลงจากฟ้าลงมาที่พื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
แค่ชั่วเวลาดีดนิ้วเท่านั้น
ฉินหลั่งฆ่า ทำพิการ และทำร้ายทีละคน
เกิดเงียบขึ้นในหุบเหว ผู้กล้าราชาหมาป่ามืดทั้งหมดสีหน้าจืดชืด เหมือนตกลงในโรงน้ำแข็งทั้งร่าง
เหลือเพียงแต่ฉินหลั่งยืนอยู่ในที่ว่างเปล่า สองมือถือปีกแสงสีขาวสองคู่นั้น สายตาราบเรียบ ประหนึ่งเทพสงครามไร้พ่าย!
“นี่…นี่มัน…นี่น่าจะเป็นไร้คู่ต่อสู้ที่แท้จริงแล้วล่ะ!”
หลิวหย่งเฉียงตะลึง เขารู้มานานแล้วว่าฉินหลั่งไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดเลยว่าจะเก่งเท่าเทพสงคราม…ขนาดนี้!
ในหุบเหวจ้างซินของที่รกร้างทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ตอนนี้ทั่วทั้งหุบเหวตกอยู่ในความเงียบ เหลือเพียงแค่น้ำพุเท่านั้นที่ยังคงไหลรินอย่างมีชีวิตเท่านั้น นอกจากนี้แล้วไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไรเลย
ผู้กล้าทั้งหมดยืนอึ้งเป็นไก่ตาแตก สีหน้าซีดเผือด เนื้อตัวสั่นเทา
เหลยซีตายแล้ว หยูจืดตายแล้ว ซิงจ้างบาดเจ็บสาหัส
เพียงแค่ชั่วเวลาดีดนิ้วไม่กี่ทีเท่านั้น สถานการณ์ในหุบเหวแปรผันไปอย่างสะท้านฟ้าสะเทือนดิน สิบนาทีก่อน เซียนยี่สิบคนของโลกบำเพ็ญเซียน พกพาความมั่นใจและฝีมือคับแก้วมา
แต่ตอนนี้ขนาดเหลยซียังหมอบราบคาบใต้เท้าฉินหลั่ง ในหุบเหวที่มีพื้นที่หลายพันตารางเมตร กลับมีเซียนล้มไปแล้วสิบคน!
ซึ่งในนั้นยังรวมไปถึงเซียนชั้นสูงระดับท็อปสามคนด้วย
แล้วจะไม่ให้ทุกคนตกใจได้ยังไง? จะไม่กลัวได้ยังไง? จะไม่หงอได้ยังไง!
“ตาตาตา!”
ฉินหลั่งเดินมาทีละก้าวบนบันไดว่างเปล่าไร้รูปร่าง ทุกย่างก้าวของเขาเหยียบไปกลางอากาศ แต่กลับมีเสียงกลองรัวภายในใจทุกคน
“แซ่ก!”
ฉินหลั่งเหยียบลงพื้นโคลน และโยนปีกสองคู่ที่ฉีกกระชากจากหลังซิงจ้างทิ้งไปไกล ปีกสว่างคู่นี้ถึงแม้จะเกิดจากการรวมตัวของแสง แต่พอผ่านการควบแน่นฝึกฝนหลายสิบปีของซิงจ้าง แทบจะกลายเป็นรูปร่างแล้ว ต่อให้โดนกระชากฉีกออกมา แต่ยังคงทอประกายระยิบระยับบางๆอยู่ โคนปีกยังมีเลือดสดไหลรินอยู่
ถ้าซิงจ้างสามารถพัฒนาปีกแสงคู่นี้จนถึงที่สุด ก็จะเข้าสู่ระดับเทพอย่างแท้จริง และมีกำลังพอจะสู้กับฉินหลั่งได้!
น่าเสียดายที่ยังขาดไปครึ่งก้าว และครึ่งก้าวนี้สำหรับเขาแล้ว เรียกได้ว่าห่างกันราวฟ้ากับเหวเลย
และการสูญเสียปีกแสงคู่นี้ไป ซิงจ้างยังเป็นเซียนอยู่ แต่จะไม่ใช่เทพสงครามไร้พ่ายที่เย่อหยิ่งไร้เทียมทานคนนั้นอีกแล้ว!
“ทุกสิ่งในหุบเหวจะเป็นของฉัน มีใครเห็นต่างไหม?”
ฉินหลั่งมือไขว้หลัง เดินเข้ามาท่าทางสบายๆ
ผมยาวเขาปลิวไสว ดวงตาดำขลับ ร่างกายแข็งแรงดูดี ชุดคลุมสีดำที่ใส่อยู่ด้านนอก เดิมโดนฟันขาดรุ่งริ่งไปในการต่อสู้ ตอนนี้ใช้เวทมนตร์ซ่อมกลับมาแล้ว และผสมผสานกับลมพัดผ่าน ชุดคลุมสีดำนี่สร้างขึ้นมาจากแก่นแท้ของเขา ดังนั้นไม่ว่าจะผ่านการสู้รบยังไงมา ก็ไม่ได้มีผลกระทบมากมายอะไร
“พวกเราไม่คิดเห็นต่าง!”
บรรดาเซียนมากมายฝั่งตรงข้ามได้ยินอย่างนั้นก็สะอึก ผู้ชายวัยกลางคนหัวขาวโพลนใส่ชุดคลุมที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดก้าวเท้าออกมาหนึ่งก้าวและพูดอย่างเคารพ
คนอื่นต่างย่อตัวลงเสริมคำพูดนี้
“ไม่คิดเห็นต่างก็ไสหัวกันไปเถอะ ชาตินี้อย่าได้คิดเข้ามาเหยียบที่นี่แม้แต่ก้าวเดียวอีก”
ฉินหลั่งเดินกลับมาที่เดิม นั่งขัดสมาธิอยู่หน้าน้ำพุชีวิตขั้นเทพ ครึ่งชม.ก่อนเขาก็นั่งอยู่ตรงนี้ และวาดเขตแดนไว้
ครึ่งชม.ผ่านไป เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม
บรรดาเซียวเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่หน้าซีดเซียว
ทั่วทั้งโลกบำเพ็ญเซียน เสียเซียนไปสิบคนยังไม่สามารถเข้าสู่เขตแดนนั้นได้ เขตแดนที่ฉินหลั่งวาดบนพื้นเองกับมือเหมือนปราการฟ้าป้องกันเอาไว้ กันคนแอบดูทั้งหมดไว้ด้านนอกน้ำพุชีวิตขั้นเทพ
เซียนจื่อหลิงหันไปมองดอกไม้สามสีที่ยังคงโดดเด่นคาตาเป็นครั้งสุดท้าย พลางถอนหายใจยาว และโค้งคำนับพลางว่า
“ค่ะ!”
บรรดาเซียนทั้งหมดตอนนี้ต่อให้ในใจไม่พอใจหรือยังโลภมากยังไง แต่ต่อหน้าความแข็งแกร่งของฉินหลั่ง ใครเลยจะกล้าพูดว่าไม่ออกมา
พวกเขาหันไปมองดอกไม้สามสีที่ยังคงโดดเด่นเตะตาและมีพลังไม่สิ้นสุดตาละห้อย ในใจยิ่งโกรธแค้นเสียดายมากขึ้นจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้
หนึ่งก้าว ขาดแค่หนึ่งก้าวเอง!
ซิงจ้างพยายามลุกขึ้นมาอย่างลำบาก และกวาดตามองฉินหลั่งอย่างโกรธแค้น จากนั้นก็เดินออกไปอย่างไม่หันกลับมาอีกเลย
เขารู้เลยว่า ชาตินี้เขาคงไม่มีโอกาสได้แก้แค้นกับฉินหลั่งอีกแล้ว
ฉินหลั่งที่มีดอกไม้สามสี มีแต่จะยิ่งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจะไปถึงจุดที่เขาได้แค่แหงนคอมองเท่านั้น และซิงจ้างสูญเสียปีกแสงไป ตบะลดลงไปมาก ต่อให้ฟื้นฟูกลับมา ก็ไม่มีทางเข้าสู่ระดับเทพได้อีกตลอดชาติ
“ฉินหลั่ง นาย…นายเก่งเกินไปแล้ว เก่งมากจริงๆ ศึกนี้สะท้านฟ้าสะเทือนดินเลยนะ! นับจากวันนี้นายจะเป็นที่หนึ่งในโลกนี้!”
ไม่รอให้คนพวกนั้นออกจากหุบเหว หลิวหย่งเฉียวก็พุ่งเข้ามาพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น
ศึกในหุบเหวจ้างซินนี้ ฉินหลั่งสะกดโลกบำเพ็ญเซียนเอาไว้ด้วยกำลังของตัวเองคนเดียว พอผลการรบออกไป จะต้องสะท้านสะเทือนไปทั่วโลกบำเพ็ญเซียนแน่
นับจากวันนี้ หั้วเซี่ยมีเทพยิ่งใหญ่อย่างฉินหนานจงคุมอยู่ ไม่ว่าโลกบำเพ็ญเซียนหรือประเทศอื่นๆมีหรือจะกล้าดูถูกหั้วเซี่ยอีก?
พอคิดถึงตรงนี้ หลิวหย่งเฉียวก็อดตื่นเต้นดีใจไม่ได้
“คนพวกนี้ต่อให้แกร่ง ไม่ได้แปลว่าจะเป็นบรรทัดฐานที่แท้จริงของโลกบำเพ็ญเซียน เซียนที่แข็งแกร่งจริงๆต่างอยู่บนโลกซ่างถิง ครั้งนี้ไม่มีคนจากโลกซ่างถิงเลย” ฉินหลั่งส่ายหัวเบาๆ แต่ถึงเขาจะพูดอย่างนี้ ในใจกลับไม่ได้กังวลเท่าไรนัก

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset