รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 853 หนุ่มสาวผู้สง่างาม

เสียงของคนข้างๆเยาะเย้ยขึ้นมา “นักพรตจื่อทงเป็นเจ้าสำนักโลกเทพเท็จ ดาบเดียวผ่าแม่น้ำ พิชิตมังกร เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด แล้วคุณเป็นใคร กล้าพูดยโสโอหัง ว่าใช้นิ้วเดียวก็ระเบิดนักพรตจื่อทงได้?”
ฉินหลั่งขมวดคิ้ว แล้วมองไป
เห็นผู้คนห้าคน ชายสามหญิงสอง กำลังเดินมา ผู้นำสวมใส่ชุดสีดำยาว ท่อนบนเป็นลายสายฟ้า ตาเป็นประกาย ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ทำไมเจอคนของสำนักอัสนีอีกแล้ว?
“คือเฮยเถิงของสำนักอัสนี ที่ฝีมือรองจากเฮยหมิง ในผู้สืบทอดรุ่นนี้สำนักอัสนี เป็นอันดับสอง แต่ได้ยินมาว่าอารมณ์รุนแรง ฆ่าคนเป็นประจำ ”
เมื่อเห็นมีคนมา ก็ส่งเสียงตกใจ
สำนักใหญ่อย่างสำนักอัสนี ทุกๆรุ่นจะมีคนที่ทำให้ภาคภูมิใจอยู่เสมอ ชนชั้นนำมากมาย เฮยหมิงเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น ยังคงมีคนที่เท่ามีความสามารถเท่าเทียมกับเขาอยู่
ขณะที่เฮยเถิงเดินอยู่นั้น ฟ้าฝนกัมปนาท นัยน์ตาเป็นประกายสว่างเจิดจ้า ฝึกฝนจนเป็นแดนระยะทะเลเทพขั้นยอด ถ้าเป็นในโลก ก็คือห้าอันดับเทพแรก
“ฉันเคยชนะ อยากลองดูไหม?”
ฉินหลั่งหลับตาครึ่งหนึ่ง นัยน์ตาเป็นประกาย
ทุกคนรู้สึกตะลึง ฝีมือของเฮยเถิง ในวัยรุ่นของโลกเทพเท็จ เป็นสิบอันดับแรก และดุร้าย ฉินหลั่งกล้าท้าทายเขาต่อหน้าทุกคน แกว่งเท้าหาเสี้ยน
“วัยรุ่นคนนี้เป็นใคร?”
“ไม่เคยเห็นมาก่อน หรือเป็นผู้สืบทอดของสำนักไหน? หรือเป็นศิษย์ผู้กล้าของใคร?”
ทุกคนกระซิบกระซาบ
“กล้ามาก!”
เฮยเถิงโมโห ก้าวไปข้างหน้า คิดจะลงมือ เสี้ยวเสี้ยวร้อนรนทันใด รีบมองไปที่ยินยิน คนของโลกเทพเท็จ เสี้ยวเสี้ยวจะไม่รู้ถึงความน่ากลัวของเฮยเถิงได้อย่างไรกัน?
ยินยินขมวดคิ้ว แล้วกล่าว
“เฮยเถิง ตอนนี้เขาคือแขกของวังอู๋ซ่าง ความแค้นของพวกคุณ รอให้จบงานก่อนค่อยว่ากัน”
เฮยเถิงหยุดอยู่กับที่ มองฉินหลั่งตั้งแต่หัวจรดเท้า อย่างมีเลศนัย
“ได้ ยินยิน ผมให้เกียรติคุณ ไอ้นี่ แกกล้าท้าทายฉันสำนักอัสนี รอให้จบงานก่อน ฉันจะตัดแข้งตัดขาแก โยนไปเป็นอาหารหมา! ”
พูดจบ เฮยเถิงดูแคลน เดินจากไปอย่างไม่กลัว
หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว ยินยินมองฉินหลั่งอย่างเยือกเย็น “เห็นแกเสี้ยวเสี้ยว นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะช่วยคุณ ถ้ายังท้าทายแกว่งเท้าหาเสี้ยน คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ ของทุกคนในที่นี้ ”
หลังจากที่ยินยินจากไปแล้ว ศิษย์ทั้งสองของวังอู๋ซ่างเยาะเย้ยออกมา หันหลังแล้วจากไป
เหลือเพียงฉินหลั่งและเสี้ยวเสี้ยวที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
ทุกคนรอบๆรู้ว่าถ้าเขาทำผิดต่อเฮยเถิงแล้ว จะไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยกับเขาอีก ได้แต่ส่ายหน้าแล้วจากไป เสี้ยวเสี้ยวได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวด
“เซียนอาจารย์ฉิน ว่ากันว่าเฮยเถิงดุดันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยนะ ชอบทรมานคนที่สุด เคยจับศิษย์คนหนึ่งของสำนักอัสนี มาทรมานสามวันสามคืนแล้วค่อยฆ่า เพราะเหตุนี้ เขาจึงได้แพ้ให้กับเฮยหมิง พลาดตำแหน่งหัวหน้าไป ท่านถูกเขาเพ่งเล็ง อันตรายเป็นอย่างมาก”
“ไม่งั้น ฉันเป็นอ้อนขอพี่สาวอีกครั้ง ให้เธอเตือนเฮยเถิง ว่าพี่สาวเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของวังอู๋ซ่าง เฮยเถิงต้องให้เกียรติ……”
เห็นเสี้ยวเสี้ยวเป็นแบบนี้ ฉินหลั่งก็ยิ้มออกมา แล้วลูบหัวเธอ
“สบายใจได้ แม้แต่นักพรตจื่อทงก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของฉัน ถูกฉันใช้นิ้วระเบิดตาย ยิ่งไปกว่านั้นเฮยเถิงอะไรนั่น ถ้ายั่วโมโหฉันแล้ว ฉันจะไปฆ่าถึงสำนักอัสนี ล้างบางสำนักของมันซะ ”
เสี้ยวเสี้ยวหัวเราะทั้งน้ำตา มือน้อยๆลูบใบหน้า
“พี่ฉินไม่รู้จักอายเลยนะ ขี้โม้ไม่หยุด คุณยังชนะพี่สาวฉันไม่ได้เลย ยังคิดจะไปตีสำนักอัสนีอีก”
“นั่นเป็นเพราะฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับหญิงสาว”
ฉินหลั่งกล่าวอย่างหน้าด้าน
แม้ปัญหาจะผ่านไป แต่คนจำนวนไม่น้อย ก็รู้ว่ามีคนหนึ่งในวังอู๋ซ่าง ใจกล้า ท้าทายเฮยเถิง ทุกวันฉินหลั่งอยู่ในวังอู๋ซ่าง ฝึกฝนการหายใจออก ฟื้นฟูบาดแผล จะออกไปเป็นครั้งๆ แล้วจะรับรู้ได้ว่ามีสายตาร้ายกาจกำลังมองมาเป็นครั้งคราว
ช่วงนี้เสี้ยวเสี้ยว ก็ร้อนรุ่มกระสับกระส่าย คิดว่าจะจัดการเรื่องของเฮยเถิงได้อย่างไร
แต่ฉินหลั่งกลับไม่คิดอะไรมาก
สำหรับเขาแล้ว เพียงแค่บาดแผลสมานดี ฝีมืออย่างเฮยเถิง ตบฉาดเดียวก็ตายแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไร
“ฮูล่า”
ยิ่งเข้าใกล้งานมากขึ้น ยิ่งเห็นวัยรุ่นที่เก่งกาจ มาจากในแต่ละที่ของโลกเทพเท็จมาถึง พวกเธอทั้งสวยและกล้าหาญไม่ธรรมดา ทั้งท่าทางสุขุม ทั้งงามเพริศพริ้งดั่งไฟ
“เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือหนึ่งในสิบของสาวงามแรกของโลกเทพเท็จ ว่ากันว่าพ่อของเธอเป็นเจ้าเมืองทั้ง36เมืองของแดนใต้แห่งโลกเทพเท็จ เป็นบุคคลสำคัญ มีหน้ามีตาในสังคม ไม่ด้อยไปกว่าผู้อาวุโสของสำนักใหญ่”
“ชุดขาวเหมือนหิมะ พลิ้วไสวเหมือนเซียน พระรูปหนึ่งที่หัวล้านหรือนี่คือว่างหมิงแห่งภูเขาเหลยยินงั้นเหรอ? ดูจากรูปลักษณ์เขาแล้ว ไม่คาดคิดจริงๆว่าจะเป็นอรหันต์อมตะขั้นสูง”
“จื่อเทียนมิ่งของแดนฝางหรันก็มาแล้ว……”
ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือ งดงามเกินใคร บนศีรษะใส่เครื่องประดับหยก สวมใส่ชุดเซ็กซี่
เกาะอกตาข่ายสีขาว โผล่สวนเอวอันเนียนนุ่มออกมา ขาสองข้างทั้งเล็กทั้งยาว เท้าอันนุ่มนวลทั้งสองข้างยังมีข้อเท้าหยก เมื่อเดิน เสียงใสดังขึ้น มีแดนสุขาวดีสิบคนเป็นองครักษ์ มาอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร เหมือนกับเจ้าหญิงก็มิปราณ
และว่างหมิงใส่จีวรสีขาวนวล รูปร่างของเขา ราวกับพระถังซัมจั๋งในไซอิ๋วก็มิปราณ ทำให้ผู้หญิงหลายคนกรี๊ดกร๊าดกันไม่หยุด จนอยากที่จะกลืนกินเข้าไปให้ได้
จื่อเทียนมิ่งนั่งเรือกลไฟมา ลอยบนท้องฟ้า เขายืนอยู่ที่หัวเรือ ผมยาวพลิ้วไสวราวกับเปลวไฟ แววตาเหมือนเพลิง เกรงขามอย่างมาก
“แม้ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือจะขึ้นชื่อเรื่องความงาม แต่พ่อของเธอเป็นผู้นำของเซียนดินตอนกลาง ส่วนตัวเธอ ฝีมือไม่น้อยไปกว่าเฮยเถิงและคนอื่นๆสักเท่าไหร่”
“และตระกูลจื่อแดนฝางหรัน ในฐานะที่เป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของโลกเทพเท็จ จื่อเทียนมิ่งเป็นอันดับหนึ่งของรุ่นในตระกูลจื่อ ไม่ด้อยไปกว่าหัวหน้าสำนักใหญ่ และว่างหมิง ร่างอรหันต์อมตะ เป็นอันดับหนึ่งของยู่เทียน ซึ่งฉันเองก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ ในบรรดาคนเก่ง เขาอยู่หนึ่งในห้าคนแรกเลยล่ะ”
ยินยินผู้สันโดษแสดงความเห็นอย่างง่ายๆ
“พี่สาว พี่เก่งที่สุดแล้ว ชนะพวกเขาได้แน่นอน ครอบครองอันดับหนึ่งในงานนี้ได้อยู่แล้ว” เสี้ยวเสี้ยวลูบหมัดอยู่ข้างๆ
“อันดับหนึ่งงั้นเหรอ?”
ยินยินหัวเราะ แล้วส่ายหัว “มีเขาอยู่ ต่อให้พวกเราฝึกฝนมาร้อยปี พันปี ก็คว้าอันดับหนึ่งนี้มาไม่ได้”
ทุกคนรู้ว่ายินยินพูดถึงใคร
ย่าจื่อ!
นักพรตไท่กู่ของสำนักไท่กู่
นี่คือโลกเทพเท็จ วัยรุ่นที่หน้าจับตามองทั้งหมด ตั้งแต่ย่าจื่อออกบวชมา ไร้ซึ่งศัตรู ว่ากันว่าไม่มีใครสามารถบีบเขาให้ใช้พลังอย่างเต็มที่ได้เลย
“พี่สาว พี่ก็เป็นศิษย์พี่ของวังอู๋ซ่าง สำนักไท่กู่และวังอู๋ซ่างล้วนเป็นหนึ่งในสำนักขั้นสูงสุดด้วยกันทั้งนั้น จะแพ้เขาได้ไงกัน” เสี้ยวเสี้ยวกล่าวอย่างไม่พอใจ
“เสี้ยวเสี้ยว แกยังไม่เคยเห็นจื่อย่าต่อสู้ ชาตินี้ไม่มีทางคิดออกเลย ว่าเขาน่ากลัวมากขนาดไหน” ยินยินยิ้มแหยๆแล้วกล่าว “สามปีก่อน ย่าจื่อเป็นเหรินเซียน ห่างจากการเป็นเซียนดินแค่ครึ่งเดียว สามปีให้หลัง ด้วยพื้นเพของสำนักไท่กู่และพรสวรรค์ของเขา ใครจะรู้ว่าเขาไปถึงระดับไหนแล้ว?”
พูดพลาง ยินยินก็อดที่จะกลัวเกรงและ……ยกย่องชื่นชมไม่ได้เลย
ทุกคนรอบๆ รู้สึกเซอร์ไพรส์ขึ้นมา
แม้แต่เสี้ยวเสี้ยวก็ตะลึง เธอมองไปยังพี่สาวที่สง่าดั่งหงส์ ก็จะยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา? ย่าจื่อนั่น เป็นบุคคลระดับไหนกันแน่ มีเพียงฉินหลั่ง ที่ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ สายตาเหม่อลอย ราวกับกำลังเหม่ออยู่
‘จะเอาอะไรกับคนที่โลกแคบ’
ยินยินมองไปที่ฉินหลั่ง เทียบเขากับย่าจื่อ แล้วส่ายหน้า สองคนต่างกันราวกับฟ้าและเหว ต่างกันเยอะ สิ่งสำคัญคือยินยิน ไม่เห็นการแสวงหาความก้าวหน้าในตัวฉินหลั่ง อีกทั้งความฮึกเหิม
‘มอบเสี้ยวเสี้ยวให้เขาไม่ได้เด็ดขาด’
ยินยินตัดสินใจแล้ว
……
หลังจากที่ว่างหมิง ธิดาศักดิ์สิทธิ์แดนเหนือ จื่อเทียนมิ่งและคนอื่นๆมาถึง วัยรุ่นผู้กล้าที่แท้จริง ต่างเริ่มขึ้นเวที
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นั่นคือการมาของคนของวังเทพหิมะ
“ฟิ่ว”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset