“คุณถัง นี่เป็นแค่เรื่องทะเลาะกันเล็กน้อยของเด็ก ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนั้นหรอกครับ”
“ฉันไม่ได้อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่หรอกค่ะ แต่ลูกชายของฉันถูกขู่ว่าจะไล่ออกเพียงเพราะตอบโต้คนที่มารังแก ฉันจะปล่อยเรื่องนี้ไปได้ยังไงล่ะคะ” ถังหนิงถาม “พูดตามตรง วันนี้สามีของฉันก็อยากจะมาด้วย แต่ฉันบอกเขาไว้ว่าเรื่องของเด็กๆ เป็นเรื่องเล็กๆ
“ไม่อย่างนั้น…”
อาจารย์ใหญ่เข้าใจว่าถังหนิงพยายามจะบอกอะไร หากโม่ถิงมาคงไม่มีใครได้มีโอกาสชี้แจงทั้งนั้น เขาคงทำลายพวกเขาก่อนจะออกปากถามอะไรเสียอีก!
“คุณถังครับ ขอบคุณนะครับ เราขอบคุณจากใจจริงที่คุณไม่รบกวนประธานโม่เรื่องนี้ มันเป็นแค่เรื่องเล็กระหว่างเด็กๆ ครับ ใครบอกว่าฝาแฝดจะถูกไล่ออกกัน ไม่มีเรื่องอย่างนั้นหรอกครับ…”
“จริงเหรอคะ แต่ฉันได้ยินเรื่องค่าชดเชยสองล้านหยวนอยู่นะคะ” ถังหนิงหัวเราะ “ฉันกำลังจะบอกเลยว่าต่อให้ศิลปินของฉันต้องเหลาจมูกใหม่ทั้งแท่งก็ยังไม่แพงขนาดนั้นเลยค่ะ ไม่ต้องพูดถึงแผลถลอกเล็กๆ ที่ลูกชายผู้อำนวยการหยวนได้รับเลยค่ะ”
“ผู้อำนวยการหยวนแค่พูดเล่นน่ะครับ คุณถัง อย่าเอามาใส่ใจเลยนะครับ” อาจารย์ใหญ่พยายามไกล่เกลี่ยระหว่างคุณแม่ทั้งสอง
“ฉันไม่ได้มาเพื่อกดขี่ข่มเหงใครหรอกค่ะ แค่มาขอโทษแทนลูกชายเฉยๆ ก่อนอื่นฉันยอมรับว่าเขาทำผิด ฉันไม่ปฏิเสธค่ะ แต่ผู้อำนวยการหยวนก็ควรนึกย้อนถึงการกระทำของลูกชายตัวเองด้วยไม่ใช่เหรอคะ เขาเองก็ควรถูกลงโทษที่ทำตัวเป็นอันธพาลไม่ใช่เหรอคะ
“สอง ลูกชายของผู้อำนวยการหยวนบาดเจ็บจริง ตระกูลโม่ได้ติดต่อทางโรงพยาบาลและรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดแล้วค่ะ รวมถึงค่าตรวจร่างกายเพื่อตามดูอาการด้วย ถ้ายังมีเรื่องที่คุณยังไม่พอใจ งั้นก็พูดมาเลยค่ะ ผู้อำนวยการหยวน ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีปัญญาจ่ายสองล้านหยวนหรอกนะคะ ถ้าคุณยังกล้าขอฉันก็ให้ได้ค่ะ!”
หลังได้ยินคำพูดของถังหนิง ใครจะกล้าร้องขอสิ่งใดจากเธออีก
ผู้อำนวยการหยวนรับเงินสองล้านหยวนไว้ได้หากเธอต้องการจริงๆ แต่ถังหนิงเองก็จะทำให้เธอพังพินาศเช่นกัน…
นี่ไม่ใช่ข้อตกลงที่ฉลาดนัก
ดังนั้นแม้ผู้อำนวยการหยวนจะไม่อาจยอมรับได้ เธอก็ยังพยักหน้ารับ “คุณจัดการพอแล้วค่ะ”
“คุณพูดเองนะคะ ผู้อำนวยการหยวน!”
ผู้อำนวยการหยวนไม่ได้ประโยชน์ใดๆ จากการปะทะ จึงต้องการเพียงจากไปเงียบๆ ทว่าอยู่ๆ ถัง
หนิงกลับเอ่ยรั้งเธอไว้ “ช่วยอยู่ต่อสักครู่นะคะ ผู้อำนวยการหยวน ลูกชายฉันชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำแล้ว แต่ลูกชายคุณล่ะ”
คนถูกเรียกมองถังหนิงอย่างอึ้งๆ คล้ายไม่เข้าใจว่าเธอกำลังจะพูดอะไร ถังหนิงก็เลือกแสดงความเมตตาก่อนเชือดอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่หรือ
“ถ้าฉันรู้ว่าลูกคุณแกล้งเด็กคนอื่นที่โรงเรียน ฉันจะไม่เห็นแก่อายุของเขาและปรานีเขา พอทุกอย่างถูกแฉ อย่ามาโทษว่าฉันไม่เตือนแล้วกันนะคะ”
แววตาของถังหนิงทั้งเย็นเยียบและเชือดเฉือน อย่างไม่ปล่อยให้ใครหน้าไหนมีโอกาสตอบโต้
แล้วผู้อำนวยการหยวนจะทำอย่างไรได้ เธอทำได้เพียงจากไปด้วยความไม่สบอารมณ์เท่านั้น…
ไม่ว่าเธอจะหงุดหงิดเพียงไหน เธอจะมีปัญญาทำอะไรถังหนิงได้กัน
เมื่อเห็นเช่นนี้ อาจารย์ใหญ่และครูประจำชั้นซึ่งยืนใกล้ๆ ประตูก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ หากพวกเขารู้ว่าครอบครัวของฝาแฝดยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คงไม่ทำเป็นเรื่องใหญ่โต ตอนนี้พวกเขาได้สัมผัสถึงการทำให้ตัวเองเดือดร้อนแล้ว
ที่น่าอับอายที่สุดคือการที่ครูประจำชั้นพยายามข่มขู่ถังหนิงก่อนหน้านี้
เมื่อถังหนิงนึกได้ เธอเอ่ยกับอาจารย์ใหญ่ “ครูใหญ่คะ ก่อนหน้านี้พนักงานของคุณพยายามขอให้ฉันติดสินบนน่ะค่ะ อ้างว่าเธอช่วยจัดการเรื่องนี้อย่างเงียบๆ ได้…”
หลังอาจารย์ใหญ่ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำ
“ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ คุณถัง ผมจะจัดการเรื่องนี้อย่างเข้มงวดครับ…”
“ครูธรรมดาทำเรื่องน่าขายหน้าอย่างนี้ได้ยังไง คุณคิดว่าโรงเรียนเป็นตลาดเหรอ ฉันละสงสัยว่าเธอแอบทำอะไรกันแน่ ฉันว่าทางโรงเรียนสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดดีกว่านะคะ!”
ทันทีที่ถังหนิงว่าจบ ครูประจำชั้นทรุดเข่าขอร้อง “คุณถังคะ ฉันไม่รู้ว่าเควินเป็นลูกของคุณจริงๆ นะคะ”
“ตอนนี้เราไม่ได้พูดถึงเรื่องของลูกชายฉันค่ะ เราพูดถึงเรื่องจรรยาบรรณในฐานะครูของคุณต่างหาก!” ถังหนิงสวนกลับ
“ไม่ต้องห่วงนะครับ คุณถัง ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยแล้วให้คำตอบที่น่าพอใจกับคุณแน่ครับ!”
“ครูใหญ่คะ ฉันหวังว่าคุณจะไม่ลืมมาตรฐานของโรงเรียนนะคะ แล้วฉันเองก็หวังว่าคุณจะเก็บเรื่องตัวตนของฉันไว้เป็นความลับด้วย ฉันขอให้ลูกๆ ฉันอยู่เงียบๆ ต่อไปได้ด้วยนะคะ” ถังหนิงเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นและออกจากโรงเรียนไป เธอได้สอนบทเรียนที่มีค่าให้กับอาจารย์ใหญ่ในวันนั้น
คนเราไม่ควรมีอคติ เพียงเพราะใครบางคนอยู่เงียบๆ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ได้มีพื้นเพที่แข็งแกร่ง…
สุดท้ายอาจารย์ใหญ่ได้ประกาศว่าแม่ของโม่จื่อซีมาเจรจากับแม่ของเด็กเจ้าเนื้อแล้ว และเขาจะไม่ถูกไล่ออกอีกต่อไป
ทุกคนต่างแปลกใจรวมถึงคุณครูทุกคนด้วย อย่างไรเสียผู้อำนวยการหยวนก็เป็นคนที่ถูกเกลียดมากที่สุดในคณะกรรมการบริหารของโรงเรียน ทุกครั้งที่มีเรื่องไม่ได้ดั่งใจลูกชายเธอก็มักจะออกมาท้วงติง แม้เธอจะรู้ว่าลูกชายตัวเองคอยแกล้งเด็กคนอื่น เธอก็ไม่เคยขอโทษและบีบให้คนอื่นยอมเธอแทน ดูเหมือนว่าในที่สุดเธอจะเจอคู่ต่อสู้ที่กำราบเธอได้แล้ว
ไม่เช่นนั้นจากนิสัยของเธอ เธอคงไม่มีทางยอมแน่
สิ่งที่น่าอึ้งที่สุดคือการที่โรงเรียนประกาศไล่ครูประจำชั้นคนหนึ่งออก ด้วยเธอพยายามรับเงินสินบนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและมีหลักฐานซึ่งดิ้นไม่หลุด เธอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเก็บข้าวของจากไป ผู้หญิงคนนี้เป็นครูประจำชั้นของฝาแฝด
เดิมทีครูคิดเอาไว้ว่าฝาแฝดต้องถูกไล่ออกอย่างแน่นอน อย่างไรเสียผู้อำนวยการหยวนก็เป็นคนที่ต่อกรด้วยได้ยากนัก
ใครจะคิดว่าผลจะออกมาผิดกับที่พวกเขาคาดคิดไว้โดยสิ้นเชิง
แน่นอนว่าอาจารย์ใหญ่รับปากกับถังหนิงไว้แล้วว่าจะไม่เปิดเผยว่าฝาแฝดเป็นใคร ทุกคนจึงนึกว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่างปกป้องฝาแฝดอยู่
ไม่มีใครคิดว่าพ่อแม่ของพวกเขาคือถังหนิงกับโม่ถิง ก่อนชีวิตของพวกเขาจะดำเนินต่อไปอย่างปกติสุข
…
หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย สองพี่น้องก็ได้สัมผัสถึงความเก่งกาจของแม่ตัวเองและพึงพอใจเป็นอย่างมาก ทว่าเมื่อจบวัน พอสองพี่น้องได้เจอเสี่ยวต้านเขอที่ประตูโรงเรียน ความร่าเริงก่อนหน้านี้ของโม่จื่อซีก็สลายหายไป
ทำไมอยู่ๆ เธอถึงเมินใส่พวกเขากัน
โม่จื่อซีมองหน้าน้องชาย แต่โม่จื่อเฉินมองกลับด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
ทำไมเขาถึงดูไร้ค่าขนาดนี้กัน
ถ้าเธอเมินเขา อย่างนั้นเขาก็ควรเมินเธอกลับสิ!
เสี่ยวต้านเขอเห็นสองพี่น้องแต่ไกล เธอได้ยินว่าพวกเขาเกือบโดนไล่ออกจากโรงเรียน ทว่าเพื่อเลี่ยงไม่ให้แม่ของเธอลำบากใจ เสี่ยวต้านเขอฝืนความต้องการจะวิ่งไปปลอบพวกเขาเอาไว้ ก่อนก้าวขึ้นรถและจากไปแทน…