หลังแม่ลูกกลับมาถึงบ้าน พวกเธอได้เจอกับผู้อาวุโสหนานกงเข้า
เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเสี่ยวต้านเขอ จึงเอ่ยถามซูโยวหราน “ไฉ่เอ๋อร์เป็นอะไรไปล่ะ”
“เธอคงมีเรื่องเข้าใจผิดกับเพื่อนในชั้นน่ะค่ะ” ซูโยวหรานอธิบาย
“อย่างนั้นก็รีบขึ้นไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ” ผู้อาวุโสหนานกงว่าพลางโบกมือ ก่อนมองแม่ลูกกลับไปที่ห้องของพวกเธอ
เธอมีเรื่องเข้าใจผิดกับเพื่อนร่วมชั้น หรือมีเรื่องเข้าใจผิดกับตระกูลโม่กัน
ยากที่จะล่วงรู้ว่าผู้อาวุโสหนานกงคิดอะไรอยู่ หลังจากซูโยวหรานไปเก็บกวาดในครัว เขาก็ขึ้นมาเคาะห้องเสี่ยวต้านเขอและถาม “ปู่เข้าไปได้ไหม”
ตอนนั้นเสี่ยวต้านเขอกำลังทำการบ้านอยู่ เมื่อเห็นชายสูงวัยเธอก็นึกกลัวขึ้นมาบ้าง หากแต่ยังพยักหน้าให้ “ค่ะ เข้ามาได้ค่ะ”
“ไฉ่เอ๋อร์ บอกทวดได้ไหมว่าทำไมวันนี้หนูดูไม่มีความสุขเลย”
เสี่ยวต้านเขอครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนตอบ “คุณทวดคะ หนูเล่นกับฝาแฝดไม่ได้จริงๆ เหรอคะ หนูชอบพวกเขาจริงๆ นะคะ…”
“เล่นได้สิ” ผู้อาวุโสหนานกงเอ่ยพลางลูบศีรษะเสี่ยวต้านเขอ “ทวดอนุญาตให้หนูเล่นกับพวกเขาได้ แต่นี่เป็นความลับระหว่างเรานะ อย่าบอกแม่กับพ่อละ โอเคไหม ไม่อย่างนั้น ทวดจะต้องเสียหน้ามากแน่”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดเสี่ยวต้านเขอก็ยิ้มออกมาได้ “คุณทวดขา มาเกี่ยวก้อยสัญญากันค่ะ”
ตอนนั้นเองที่ซูโยวหรานกับหนานกงเฉวียนไม่รู้ว่าผู้อาวุโสหนานกงได้ใช้เสี่ยวต้านเขอเป็นเครื่องมือทำร้ายฝาแฝดมากขนาดไหน
ในขณะเดียวกันโม่ถิงพบว่าผู้อาวุโสหนานกงติดต่อกับทางอเมริกาจริง ทว่าชายแก่กลับไหวตัวทัน เพื่อป้องกันไม่ให้โม่ถิงรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เขายิ่งใช้วิธีอันแยบยลเพื่อติดต่อกับทางบริษัทภาพยนตร์สัญชาติอเมริกัน
ดังนั้นมองผ่านๆ ชายสูงวัยดูเหมือนจะให้ความร่วมมือ ทว่าเขากลับแอบปูทางไว้ทุกย่างก้าวเพื่อการแก้แค้น
…
การถ่ายทำมดราชินีสองคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าผู้อาวุโสหนานกงได้ขายเนื้อเรื่องของ มดราชินีสองให้กับบริษัทในอเมริกาไปแล้ว และดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่แต่คล้ายคลึงกัน
การแสดงเด็ดๆ อะไรจะกำลังรอทุกคนอยู่ในปีหน้า พวกเขาคงต้องคอยดูกัน
ไม่นานหลังจากนั้น ไป๋จวินเหยี่ยประกาศว่าการถ่ายทำปรสิตใกล้เสร็จสิ้น และอดีตทีมงานของชัยชนะได้เริ่มขั้นตอนการตัดต่อแล้ว
ในบรรดาทุกอย่างจากภาพยนตร์เรื่องนี้ การได้พบกับทีมงานชุดนี้ถือเป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสหนานกงพอใจมากที่สุด อย่างไรเสียถังหนิงก็ได้ฝึกฝนและชุบเลี้ยงพวกเขามาด้วยตัวเอง การแย่งตัวพวกเขามาต่อหน้าต่อตาจึงนับได้ว่าเป็นเรื่องที่สะใจอย่างถึงที่สุด
จากนั้นทีมงานของปรสิตก็เริ่มการประชาสัมพันธ์ในครั้งต่อไป เมื่อได้เห็นภาพเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ ผู้คนก็เชื่อว่าชุนชิวเป็นคนที่จะมาสั่นคลอนไห่รุ่ยครั้งใหญ่ในตลาดไซไฟ แน่นอนว่าสำหรับคอภาพยนตร์ นี่ถือว่าเป็นข่าวดีเหลือเกิน
ตอนนี้เอง หนึ่งในนักร้องชั้นแนวหน้าของไห่รุ่ยถูกเปิดโปงว่าเป็นภรรยาน้อย พร้อมรูประหว่างพลอดรักกันริมทะเลซึ่งปลิวว่อนไปทั่วโลกออนไลน์ ภายในเวลาคืนเดียว ข่าวฉาวโฉ่ได้พุ่งขึ้นเป็นพาดหัวข่าวบันเทิงอันดับต้นๆ
นักร้องคนนี้ชื่อซ่งหลินหลิน เป็นศิลปินรุ่นอาวุโสในวงการ เธอมักเก็บตัวเงียบมาตลอด หากในครั้งนี้ภรรยาของฝ่ายชายที่เธอมีสัมพันธ์ด้วยได้ทำลายเธอด้วยการแฉเรื่องฉาวโฉ่นี้
ไห่รุ่ยจัดการสยบข่าวทันที ทว่าน่าเสียดายที่รูปหลายรูปถูกปล่อยและผู้คนในโลกออนไลน์ส่วนใหญ่คงได้เห็นรูปอย่างน้อยก็สักรูปหนึ่ง จึงไม่มีทางที่จะปฏิเสธเรื่องนี้ได้
ผู้ถือหุ้นของไห่รุ่ยจัดประชุมคณะกรรมการบริหารทันที
แน่นอนว่าการประชุมนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องของซ่งหลินหลิน แต่ยังมีเรื่องที่เธอเข้าไปเกี่ยวกันกับลูกเขยของผู้ชนะเวทีมวยปล้ำโด่งดังระดับโลกอีกด้วย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ลูกเขยถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในคืนที่ข่าวฉาวหลุดออกมา
ลูกสาวนักมวยปล้ำคนนั้นเป็นภรรยาของชายหนุ่ม และเธอขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้อนและเจ้าคิดแค้นเสียด้วย อย่างเช่นในครั้งนี้ที่เธอจะไม่ยอมจนกว่าจะได้ทำลายซ่งหลินหลินด้วยน้ำมือตัวเอง
หากแต่การเปิดโปงซ่งหลินหลินไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นสักนิด ถึงอย่างไรฝ่ายประชาสัมพันธ์ของไห่รุ่ยก็พยายามเพื่อซ่งหลินหลินเต็มที่ และช่วยกู้ภาพลักษณ์ของเธอขึ้นมามาก
ก่อนอื่นไห่รุ่ยชี้แจงว่าพวกเขาจะไม่เข้าข้างศิลปินของตัวเอง และซ่งหลินหลินจะแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง
จากนั้นซ่งหลินหลินจึงเผยข้อความที่คุยกับฝ่ายชายให้สาธารณชนรับรู้ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอถูกหลอกให้เชื่อว่าเขาหย่าแล้ว อันที่จริงเขาเอาใบหย่ามาให้เธอดูด้วยซ้ำ
ก่อนอธิบายถึงรูปที่ถูกแอบถ่าย เธอยอมรับว่าตัวเองโชคไม่ดีนักที่มันถูกเปิดเผยออกมา แต่เธอไม่เชื่อว่าการลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของใครจะเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจนัก
ท้ายที่สุดเธอได้บริจาคเงินเก็บทั้งหมดของเธอให้กับมูลนิธิอย่างทั่วถึง และใช้เงินทั้งหมดแลกกับการให้อภัยของทุกคน ด้วยเหตุนี้คำต่อว่าเธอจึงลดลงไปกว่าครึ่ง
“ไห่รุ่ยนี่มันแหล่งรวมขยะชัดๆ เอาคนคนร้ายกาจอย่างนี้มาเป็นนักร้องเชิดหน้าชูตาได้ยังไง ฮึ่ย…”
แม้ว่าเรื่องของซ่งหลินหลินจะเป็นแค่คลื่นลูกเล็กๆ ในมหาสมุทร แต่ก็ได้ทำให้ไป๋ชิงอี ภรรยาของชายคนนั้นผูกใจเจ็บ
ในฐานะลูกสาวของผู้ชนะเวทีมวยปล้ำโด่งดังระดับโลก เธอมีคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งและเป็นมหาเศรษฐี
ตอนนี้ไห่รุ่ยกล้าลองดีกับเธอ เธอจะจำเรื่องนี้ไปจนตาย
เพราะเรื่องนี้ คุณไป๋ถึงกับต่อสายหาโม่ถิงเป็นการส่วนตัว
“ท่านประธานครับ คุณไป๋ ลูกสาวแชมป์มวยปล้ำโทรมาครับ เธออยากจะชวนคุณไปทานมื้อเย็นครับ”
เมื่อโม่ถิงได้ยินเช่นนั้น เขารู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องของซ่งหลินหลิน หากแต่แม้จะเป็นช่วงก่อนที่เขาจะแต่งงานหรือหลังจากนั้น เขาก็ไม่ชอบไปพบกับผู้หญิงตามลำพัง ตอนนี้เขามีถังหนิงจึงยิ่งระมัดระวังมากขึ้น
“ถามคุณไป๋ว่ามีเรื่องอะไร บอกเธอว่าฉันไม่มีเวลาว่างไปพบเธอ ถ้าเธอมีอะไรก็ให้บอกนายแล้วนายจะมารายงานฉันเอง”
“ครับ ท่านประธาน!”
ทว่าคำตอบนี้จากโม่ถิงทำให้ไป๋ชิงอีโกรธยิ่งกว่าเดิม เธอเพียงต้องการไม่ให้ไห่รุ่ยเข้าไปเกี่ยวข้องกับข่าวฉาวของซ่งหลินหลิน แต่กลับพบกับการต้อนรับแสนเย็นชาจากโม่ถิง ในฐานะคนที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เธอจะทนกับความขายหน้าขนาดนี้ได้อย่างไร
ไป๋ชิงอีจึงลั่นปากกับเลขาของโม่ถิง “ประธานโม่จะต้องเสียใจที่ทำอย่างนี้!”
ซ่งหลินหลินได้ชดใช้ในสิ่งที่เธอทำลงไปแล้ว แม้จะกู้ชื่อเสียงตัวเองมาได้เล็กน้อยเธอก็ได้ตกบัลลังค์ของเธอแล้ว ต่อไปนี้หากเธอต้องการจะเข้าร่วมงานใดๆ ก็มีแต่จะทำให้ตัวเองลำบาก
หากแต่ไป๋ชิงอีเชื่อว่าถ้าไม่มีการปกป้องจากรุ่ย ซ่งหลินหลินคงถูกประณามและเหยียดหยามอย่างกับหนูข้างถนนที่น่าขยะแขยงไปแล้ว
ในเมื่อคนอื่นทำให้เธอไม่พอใจ เรื่องอะไรที่เธอต้องปล่อยให้พวกเขามีความสุข
โม่ถิงกลับมาที่บ้านและบอกถังหนิงเรื่องสายโทรศัพท์จากไป๋ชิงอี ถังหนิงหัวเราะเป็นคำตอบ “คุณไม่กลัวลูกสาวนักมวยปล้ำคนนั้นแค้นเราเหรอคะ”
“เรามีคู่อริเยอะแล้วครับ เพิ่มอีกสักคนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก”
ซ่งหลินหลินเป็นศิลปินของไห่รุ่ย เขาต้องปกป้องเธออยู่แล้ว หากเขายอมเอาเธอเข้าแลก อย่างนั้นอำนาจของเขาคงไม่มีความหมายอีก