“โถ่ ลูก ทำไมลูกไม่บอกเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ล่ะ” คุณนายเชียนถึงกับหัวใจจะวาย “แม่ก็สงสัยว่าทำไมฉุนเฮ่าถึงได้เป็นห่วงเชียนหลานนัก ที่แท้…เขาก็รังแกลูกสาวแม่อยู่นี่เอง!”
“แม่คะ…” เชียนฮุ่ยร้องไห้ขณะที่ซบลงในอ้อมแขนของแม่ตัวเอง “แม่คะ แม่ต้องช่วยหนูนะคะ”
“รอเขากลับบ้านมาก่อนเถอะ แล้วดูว่าแม่จะจัดการกับเขายังไง!” คุณนายเชียนกอดเชียนฮุ่ยพร้อมอารมณ์กรุ่นโกรธในอก
…
ในเวลานี้เอง…
รถของสวีฉุนเฮ่าได้มาถึงโรงเรียนของเชียนหลาน เขาบุกเข้าไปหาโม่จื่อเฉินด้านในทันที
หลังจากรู้ว่าโม่จื่อเฉินเตรียมการสอนอยู่ในห้องพักครู เขาขอให้ใครบางคนเรียกอีกฝ่ายออกมา
โม่จื่อเฉินเงยหน้ามองสวีฉุนเฮ่าที่ยืนอยู่ด้านนอกห้องพักครูด้วยท่าทีงุนงงเล็กน้อย เขาลุกจากโต๊ะ เดินไปหาสวีฉุนเฮ่าและเรียกชื่ออีกฝ่าย “ไม่ทราบว่ามาหาผมทำไมเหรอครับ คุณสวี”
“เลิกยุ่งเกี่ยวกับเชียนหลานสักทีครับ” สวีฉุนเฮ่าว่าอย่างไม่อ้อมค้อม “พวกคุณสองคนไม่สมกันสักนิด ได้ดูตัวเองบ้างหรือเปล่าครับ คุณมีส่วนใหนที่คู่ควรกับเชียนหลานบ้าง เธอเป็นลูกสาวของนายกเทศมนตรี ไม่ใช่ครูทั่วไป คุณคิดว่าตัวเองจะใช้เธอไต่เต้าได้เหรอครับ”
หลังได้ยินคำปรามาสของสวีฉุนเฮ่า โม่จื่อเฉินหลุดขำออกมา “ถ้าคุณจะมาพูดเรื่องนี้ ผมว่าคุณกลับไปดีกว่านะครับ”
“ยื่นเงื่อนไขมาสิ เราต้องทำยังไงคุณถึงจะปล่อยเชียนหลานไป หนึ่งล้านหยวนพอไหม” สวีฉุนเฮ่าถามพลางหยิบเช็คออกมาและเริ่มเขียนลงไป “หรือว่าไม่พอครับ ผมเพิ่มให้คุณอีกหนึ่งล้านหยวนถ้าคุณต้องการได้นะ
“เชียนหลานเป็นสิ่งที่มีค่ากับตระกูลเชียน เธอไม่ใช่คนที่คนอย่างคุณจะมาตีสนิทได้ด้วยง่ายๆ หรอกนะ”
“ถ้าคุณไม่ออกไปตอนนี้ ผมจะเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนะครับ” โม่จื่อเฉินคร้านจะพูดกับชายคนนี้ เขาหันกลับไปที่โต๊ะทำงานตัวเอง ทว่าทุกคนก็ต้องอึ้งเมื่ออยู่ๆ สวีฉุนเฮ่าก็คว้าแขนโม่จื่อเฉินไว้ก่อนเหวี่ยงหมัดใส่เขา
อย่างไรก็ตามโม่จื่อเฉินจับข้อมือเขาก่อนหยุดอีกฝ่ายไว้
“คุณต้องชดใช้กับสิ่งที่คุณทำวันนี้!”
“ผมจะรอครับ” โม่จื่อเฉินตอบกลับอย่างเย็นชาขณะผลักแขนของสวีฉุนเฮ่าไปด้านข้าง
สวีฉุนเฮ่าจากไปอย่างจนปัญญาเมื่อไม่อาจทำอะไรโม่จื่อเฉินได้
แต่ไม่นานเชียนหลานก็ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เธอจึงรีบมาหาโม่จื่อเฉิน
ทว่าเขากำลังอยู่ระหว่างการสอนจึงไม่สามารถคุยกับเธอได้
เชียนหลานกลับไปที่ห้องพักครู หากแต่ระหว่างทางกลับถูกสวีฉุนเฮ่าขวางไว้ “เชียนหลาน…”
เมื่อเห็นว่าทุกคนในครอบครัวพยายามเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตส่วนตัวของเธอ เชียนหลานแค่นหัวเราะออกมา “ทำไมพี่ปล่อยฉันไปไม่ได้ล่ะ”
“เชียนหลาน ทุกคนแค่เป็นห่วงเธอนะ” สวีฉุนเฮ่าทำทีเป็นคนมีคุณธรรมเต็มที
“สวีฉุนเฮ่า พี่สนใจเรื่องของตัวเองไปเถอะ” ว่าจบ เชียนหลานเดินอ้อมตัวเขาก่อนจากไป
เธอไม่ต้องการให้ทุกคนใช้ความรักเป็นข้ออ้างในการเป็นห่วงและปกป้องเธอ มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกติดกับดักและหายใจไม่ออก
เชียนหลานรู้ว่าสวีฉุนเฮ่าได้พูดกับโม่จื่อเฉินแล้ว
ตลอดไม่กี่วันมานี้ตระกูลเชียนได้ก่อเรื่องวุ่นวายที่โรงเรียนไม่น้อย ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นคุณสาวคนรองของนายกเทศมนตรี และกำลังคบกับผู้ชายฐานะต่ำต้อยคนหนึ่ง
เธอรู้สึกสูญเสียอิสรภาพไปทั้งหมด แม้แต่ในยามที่หายใจยังต้องระวังตัว
เชียนหลานทุกข์ทรมานกับสิ่งนี้ พลันรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ลำพังตระกูลเชียนพยายามบงการเธอก็ย่ำแย่พออยู่แล้ว พวกเขายังมาคุกคามโม่จื่อเฉินอีกด้วย มีสิทธิ์อะไรทำเช่นนั้นกัน
ก่อนที่จะได้พบเธอ โม่จื่อเฉินมีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นปกติสุข เชียนหลานรู้ว่าเขาชอบอยู่อย่างสงบสุขแบบนั้น หากแต่ตระกูลเชียนทำให้เขาไม่มีทางได้สงบสุข
เธอต้องทนไปอีกนานเพียงไหนกัน
…
สวีฉุนเฮ่ากลับมาถึงบ้านหลังไปที่โรงเรียนในไม่ช้า แต่คุณนายเชียนที่มีท่าทีแข็งกร้าวกำลังรอเขาอยู่
“คุณแม่ครับ…”
“ฉุนเฮ่า ขอฉันถามเธอหน่อยเถอะ ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับเชียนฮุ่ย เธอเคยคบกับใครมาก่อน”
หลังได้ยินคำถามของคุณนายเชียน สวีฉุนเฮ่าเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เชียนฮุ่ยคงบอกความจริงไปแล้ว
“คุณแม่ครับ ทำไมอยู่ๆ ถึงถามอย่างนี้ล่ะครับ”
“อย่าทำเป็นไขสือ ตอนที่เธอแต่งงานกับเชียนฮุ่ย เธอก็รู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นพี่สาวของเชียนหลาน แล้วทำไมเธอถึงไม่พูดอะไรบ้างเลย เก็บเป็นความลับเพื่ออะไรกัน อย่าบอกนะว่าอยากได้ลูกสาวทั้งสองคนของฉันน่ะ”
“คุณแม่ครับ เข้าใจผิดแล้วครับ ผมบอกเรื่องนี้กับเชียนฮุ่ยมาตั้งแต่แรกแล้ว อีกอย่างเชียนฮุ่ยเองก็รู้ว่าเชียนหลานกับผมเป็นเหมือนพี่ชายน้องสาวกัน” สวีฉุนเฮ่าอธิบาย “ดูที่ผมไม่เคยล้ำเส้นสักครั้งมาตลอดหลายปีนี้สิครับ”
ถูกของเขา
หลังจากฟังคำชี้แจงของสวีฉุนเฮ่า คุณนายเชียนว่าเปิดประเด็น
“แต่ตามธรรมชาติของความสัมพันธ์แบบนี้ ฉันก็ยังคิดว่าให้เธอกับเชียนฮุ่ยย้ายออกไปเพื่อเธอจะได้เลิกกังวลจะเป็นการดีที่สุด” คุณนายเชียนสั่ง
“คุณแม่ครับ ผมกับเชียนหลานมีความยับยั้งชั่งใจนะครับ”
“ในเมื่อเธออธิบายทุกอย่าง ฉันก็จะไม่ทำเรื่องนี้ให้ยืดเยื้อ แต่เธอกับเชียนหลานอยู่ให้ห่างกันจะดีกว่า แค่เธอไปเกี่ยวข้องกับคนต่ำๆ อย่างนั้นก็แย่พอแล้ว” คุณนายเชียนเอ่ยเตือน
เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณพ่อเชียนกลับมาถึงบ้าน ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาแลได้ยินว่าคุณนายเชียนเรียกโม่จื่อเฉินว่าคนต่ำๆ เขารีบบอก “พวกแม่บ้านนี่ตาไม่ถึงจริงๆ!”
“ตาเฒ่า คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรน่ะ” คุณนายเชียนพลันถามขึ้น
“คุณยังไม่รู้เหรอ ที่แท้ คนต่ำๆ คนนั้นก็เป็นลูกชายของโม่ถิงกับถังหนิงไงละ” คุณพ่อเชียนว่าฮึดฮัดขึ้น
“นั่น…นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“ผมให้คนไปสืบจนแน่ใจแล้ว เป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ตระกูลโม่กลับตระกูลถังทั้งร่ำรวยและมีอำนาจ เชียนหลานนี่รสนิยมดีจริงๆ ” คุณพ่อเชียนเอ่ยด้วยท่าทีโอ้อวด
“หมายความว่าไอ้หมอนั่นมีชาติตระกูลจริงๆ เหรอคะ ถ้าเชียนหลานแต่งงานกับเขา เราก็จะมีเส้นสายมากขึ้น แล้วก็จะมีอิทธิพลในปักกิ่งมากขึ้นด้วยใช่ไหมคะ”
“จะพูดอย่างนั้นก็ได้ครับ” คุณพ่อเชียนตอบ
เมื่อไม่นานมานี้ทั้งสองยังดูถูกโม่จื่อเฉินอยู่เลย ตอนนี้พวกเขารู้ว่าเขาเป็นลูกชายของโม่ถิง มุมมองของพวกเขาก็กลับตาลปัตรไปทันที
เชียนหลานกำลังแอบฟังบทสนทนาของพ่อแม่อยู่ด้านหลังฉากกั้น ก่อนหน้านี้คุณพ่อเชียนยังพูดเสียสวยหรูราวกับเขาใส่ใจความสุขของลูกสาวตัวเองนักหนา หากแต่ความเป็นจริงคืออะไรกัน
เขาแค่จ้องจะเกาะอิทธิพลของตระกูลโม่ในปักกิ่งเท่านั้น…
เมื่อคิดเช่นนั้น เชียนหลานออกอาการผิดหวังเต็มที บางทีการคบกับโม่จื่อเฉินอาจเป็นเรื่องที่แย่สำหรับเขาก็เป็นได้
เชียนหลานจึงต่อสายหาโม่จื่อเฉินและนัดพบกับเขา
โม่จื่อเฉินคิดว่าเธอถูกรังแกอีก เขาจึงรีบไปที่สถานที่นัดพบทันที แต่หลังจากที่ได้เจอกันเธอกลับเอ่ย “จื่อเฉิน ฉันว่าเราน่าจะลืมๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเราไปเถอะค่ะ
“มันยังไปไม่ถึงไหน ฉันก็ทำให้คุณเดือดร้อนมากขนาดนี้ ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ที่เกี่ยวพันกับครอบครัวมันลำบากมากเลยน่ะค่ะ
“ฉันไม่อยากให้ครอบครัวฉันใช้คุณเป็นเครื่องมือ คุณควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ค่ะ”
“เชียนหลาน…” โม่จื่อเฉินอยากจะกล่าวแทรก
“ฉันขอโทษนะคะ!” เธอขอโทษพลางกลั้นน้ำตาไว้ “ฉันต้องเป็นอิสระจากครอบครัวของฉันก่อน ไม่อย่างนั้นทุกความกดดันที่ฉันได้รับมาจากพวกเขาจะกลายไปเป็นภาระบนบ่าของคุณ”