สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1002 สาวใช้ตัวแสบ 906

ตอนที่ 1002 สาวใช้ตัวแสบ 906
เสี่ยวเหอมองจงหยุนซางอย่างมั่นใจและพูดขึ้น “ผู้จัดการของเราไม่ใช่ว่าใครจะเจอก็ได้” เหตุผลที่เธอมั่นใจขนาดนี้เพราะมีความลับหนึ่งที่ต้องบอก ผู้จัดการคือชายวัยสี่สิบปี เขาชอบเสี่ยวเหอ ตามจีบเธอมาโดยตลอด
จงหยุนซางแอบหัวเราะ สาวน้อยคนนี้อ่อนโยนเกินไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีประสบการณ์ทางโลก
“ขอโทษค่ะ เสี่ยวเหอพูดไม่ค่อยเก่ง ได้โปรดอย่าใส่ใจเลยนะคะ เรื่องนี้อย่าถึงผู้จัดการเลยค่ะ” พี่สวี่ใช้ชีวิตมาหลายปีแล้ว การแต่งกายของจงหยุนซางนี้มีผู้หญิงหลายคนไม่สามารถเลียนแบบได้ พี่สวี่เห็นก็รู้สึกว่าเธอไม่ธรรมดา พี่สวี่คิดว่าเรื่องนี้แก้ไขเป็นการส่วนตัวดีกว่า
“ถ้าไม่ไปเรียกผู้จัดการพวกเธอมา คืนพรุ่งนี้อาจจะไม่มีสตูดิโอถ่ายภาพแห่งนี้”
จงหยุนซางไม่ใช่คนไร้เหตุผล แต่ตอนนี้เธอต้องใช้สถานะของเธอ
เสี่ยวเหอแค่นยิ้มมองจงหยุนซางที่อยากเรียกผู้จัดการมา ได้ เธอจะไปเรียกให้
“ใครมาก่อเรื่องที่นี่? ” ผู้จัดการได้ยินก่อน เขาเดินมาพอเห็นจงหยุนซางก็อึ้งไป พูดอย่าเคารพ “คุณจง วันนี้ทำไมว่างมาที่นี่ล่ะครับ มาๆ ผมจะพาพวกคุณเดินดูรอบๆ ถ้ามาถ่ายภาพ ผมจัดการให้ทันที”
ผู้จัดการพูดอย่างเอาใจ ถ้าเขามีหางมันจะโบกสะบัดขึ้นฟ้าแน่ๆ
“สองคนนี้คือเพื่อนของฉัน คือลูกชายและลูกสะใภ้ของประธานเย่ หวังว่าผู้จัดการจะถ่ายรูปให้พวกเขาด้วย” จงหยุนซางพูดทีละคำ ผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวเหอนั่นน่ารังเกียจเกินไป ตอนแรกเธออยากให้ผู้จัดการออกคำสั่งกับเธอ คิดแล้วผู้หญิงคนนั้นก็แค่พวกหัวสูงดูถูกคน ไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก
“เชิญครับ ผมจะรีบเตรียมการเดี๋ยวนี้” พอผู้จัดการได้ยิน ร่างก็แข็งทื่อ ประธานเย่ เขาเชิญเหยนชิงเหยียนและจิ่วจิ่วเข้ามาอย่างเคารพ จงหยุนซางโบกมือขอลา เธอรีบกลับอย่างรวดเร็ว
“จิ่วจิ่ว เสี่ยวห้าน พวกเธอค่อยๆ ถ่ายนะ ฉันมีธุระขอกลับก่อน” จงหยุนซางพูดจบก็ออกไปไกลสิบกว่าเมตร
“ขอบคุณค่ะพี่หยุนซาง” จิ่วจิ่วกล่าวอย่างดีใจ เหยนชิงเหยียนดึงจิ่วจิ่ว เขาพยักหน้าให้กับจงหยุนซาง ถือว่าเป็นการบอกลา
เหยนชิงเหยียนเห็นจงหยุนซางไปแล้ว ผู้จัดการก็มาเชิญเขาเข้าไปอย่างเคารพ ต่างกันราวฟ้ากับเหว
เหยนชิงเหยียนในใจคิดถ้าไม่ใช่จงหยุนซาง ตอนนี้พวกเขายังคงอยู่นอกประตู หลังจากเสี่ยวเหอคนนั้นได้ยินสถานะของเขา หน้าก็ถอดสีทันที เป็นลูกชายประธานเย่มันดีขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?
ผู้จัดการจะไม่ระวังกับเขาได้อย่างไร ประธานเย่ไม่ใช่คนที่เขากลัวมากที่สุด ในตระกูลเย่คนที่เขากลัวมากที่สุดคือเย่เชินหลินที่รู้จักกันดี ว่ากันว่าเย่เชินหลินใจดำอำมหิต ฆ่าคนอย่างไม่ยี่หระ เขาเชื่อว่าจงหยุนซางจะไม่อยู่เฉยๆ ไม่ว่าจะเพื่อฆ่าเวลาไปกับเขา
“รีบเตรียมคนให้ฉันแล้วถ่ายรูปให้คุณชายและคุณผู้หญิงท่านนี้ทันที” ผู้จัดการไม่กล้าหายใจแรง หวังว่าสองท่านตรงหน้านี้จะไม่ใจดำอำมหิตเหมือนเย่เชินหลิน
เสี่ยวเหอเบ้ปากเดินเข้าไป เธอไม่อยากมองจิ่วจิ่วและเหยนชิงเหยียนเลยแม้แต่นิดเดียว
“หยุดก่อน เธอต้องขอโทษพวกเรา” จิ่วจิ่วพูดอย่างไม่ค่อยใจเย็นแล้ว อย่างไรแล้วก็ไม่ใช่โทรศัพท์เธอ เธอเล่นได้อย่างสบายๆ
เสี่ยวเหอกล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูด ตราบใดที่ผู้จัดการไม่พูด เธอก็ห้ามทำสิ่งที่น่าอับอายเช่นนี้
“ขอโทษซะ ไม่งั้นไล่ออก” ผู้จัดการพูดตรงๆ โดยไม่พูดไร้สาระ มองจิ่วจิ่วที่อยู่ไกลๆ อย่างระมัดระวัง
เหยนชิงเหยียนขมวดคิ้วไม่พูดอะไร ในใจมีอารมณ์มากมาย เหยนชิงเหยียนกำหมัด อำนาจกับตำแหน่งมันสำคัญขนาดนี้เชียว? ไม่มีใครตอบคำถามเขา แต่มันคือความจริงที่เปลือยเปล่า
นี่ทำให้เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่เย่จื่อห้านจริงๆ และไม่มีเหตุผลที่จะยืนขึ้น
เสี่ยวเหอถูกผู้จัดการสั่งสอนอย่างโหดเหี้ยม ที่นั่นมีชั้นวางของ บริการจิ่วจิ่วอย่างระมัดระวัง
จิ่วจิ่วแสยะยิ้มมองเสี่ยวเหอ ถ้าเธอไม่จัดการเธอสักหน่อยอย่าเรียกเธอว่าจิ่วจิ่ว
“ผู้จัดการ ฉันอยากกินอะไรหน่อย ให้สาวสวยคนนี้ไปซื้อให้เราหน่อยนะคะ” จิ่วจิ่วพูดอย่างน่าสงสาร แต่การแสดงออกบนใบหน้านั้นเปิดเผย ไม่มีอะไรผิดปกติเลยสักนิด
เห็นรอยยิ้มประจบประแจงของผู้จัดการ เสี่ยวเหอก็รู้ว่าวันนี้เธอพึ่งตัวเองได้เท่านั้น เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้น เจอคนที่ผู้จัดการไม่กล้าทำอะไร แล้วเธอจะทำอะไรได้
เสี่ยวเหอมองเหยนชิงเหยียน เย็นชาไม่พูดอะไรไม่ต่างอะไรกับคุณชายเย่ในตำนาน ถ้าเธอยั่วยวนเขาล่ะ?
ความปรารถนาของเสี่ยวเหอยังไม่เป็นจริง เธอสังเกตเหยนชิงเหยียนและจิ่วจิ่วอย่างระมัดระวัง ในใจคิดอย่างรวดเร็วว่าจะทำลายมันอย่างไรดี
“รู้แล้ว” เสี่ยวเหอไม่รอให้ผู้จัดการสั่งก็เดินออกจากสตูดิโอถ่ายภาพมาเพื่อซื้อของที่จิ่วจิ่วต้องการ
จิ่วจิ่วคิดในใจว่าตัวเองทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเสี่ยวเหอ เธอดึงมือเหยนชิงเหยียนมา ในใจรู้สึกผิดอย่างมาก
“ผู้จัดการ เตรียมให้เราหน่อย ฉันอยากถ่ายให้เสร็จโดยเร็วที่สุด” จิ่วจิ่วพูดกับผู้จัดการอย่างสบายๆ เธอยังได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตหรูหราของลูกสาวคนรวย
“รอสักครู่ครับ ไม่ต้องรีบร้อน” ผู้จัดการพูดอย่างระมัดระวังและประจบสอพลอ เสี่ยวเหอคนนี้ไปนานมากไม่กลับมาสักทีเขาสงสัยแล้ว
ผู้จัดการหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเสี่ยวเหอ “เธอต้องกลับมาภายในสิบนาที ถ้าสิบนาทีฉันไม่เห็นเธอ พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้ว”
เสี่ยวเหอรู้ตัวว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง สถานการณ์ในตอนนี้ ถึงจะเป็นผู้จัดการก็ไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ เธอน้ำตาไหลพลางด่าจิ่วจิ่วไปด้วย สาปแช่งจิ่วจิ่วให้โดนทิ้ง ให้เสียโฉม พูดทุกอย่าง เป็นหญิงที่ใช้เสน่ห์ยั่วยวนผู้ชายให้หลงใหลอย่างแท้จริง
รองเท้าส้นสูงที่อยู่ใต้เท้าเสี่ยวเหอก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งไว้ ดังตึกตักๆ เดินออกไป ก้มศีรษะลงจ้องเขม็งจิ่วจิ่วเป็นบางครั้ง และกลัวโดนจิ่วจิ่วดึงผมเปีย เธอลืมละสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว
เห็นเสี่ยวเหอเดินไปไม่กี่เมตร เธอขึ้นเสียงพูดขึ้น “ไม่ต้องแล้ว”
จิ่วจิ่วไม่ใช่คนที่ต้องรายงานข้อบกพร่อง เธอเห็นแล้วก็ยอมรับ แค่โกรธพนักงานคนนี้ที่เป็นพวกหัวสูงดูถูกคน จงหยุนซางมาถึงก็ทำให้เธอถอนหายใจออกไปอย่างรุนแรง
“จะรบกวนคุณหญิงผู้สูงศักดิ์ท่านนี้ ฉันไม่มีโชคพอที่จะรับมันหรอกค่ะ” จิ่วจิ่วยิ้มพูดขึ้นอย่างประชดประชันสุดๆ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมทัศนคติในการบริการของเสี่ยวเหอถึงได้แย่ขนาดนี้ ช่วงนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงสร้างแรงกดดัน จงหยุนซางเป็นแค่ลูกสาวของประธานจง เหยนชิงเหยียนเป็นแค่ลูกชายของประธานเย่ แค่สถานะสองคนนี้ก็ทำให้เสี่ยวเหอผู้ที่หัวสูงดูถูกคนต้องยอมโดนรังแก
“รีบถ่ายให้เราได้ก็รีบถ่าย ไม่อย่างนั้นเราจะเปลี่ยนร้าน” ตอนนี้เป็นเวลาเร่งด่วน เหยนชิงเหยียนอยากทำให้มันเสร็จเร็วหน่อย
ทุกอย่างมันต้องเสียเวลานิดหน่อย เหยนชิงเหยียนไม่อยากรอ สิ่งที่ยากที่สุดคือการรอคอย เขาอยากเห็นจิ่วจิ่วสวมชุดแต่งงานอย่างกระตือรือร้น ไม่สิ เขาอยากสวมชุดแต่งงานให้เธอด้วยตัวเอง เขาอยากหมั้นจนทนไม่ไหวแล้ว เขาอยากให้เธอเป็นเจ้าสาวของเขาเร็วๆ
“ท่านรอสักครู่ ผมจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้” ผู้จัดการพยักหน้าโค้งคำนับและสั่งให้คนด้านล่างจัดฉากอย่างรวดเร็ว และถามจิ่วจิ่วเองอีกด้วยว่าต้องการอะไรเพิ่มไหม ถ่ายที่ไหน “เราสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่พวกคุณต้องการได้ที่นี่ ถ่ายภาพแต่งงานในสถานที่พวกคุณชอบมากที่สุด ต่อไปนึกถึงขึ้นมาก็เป็นความคลาสสิกอย่างหนึ่ง”
ถึงแม้ผู้จัดการจะเอาอกเอาใจ แต่ตอนแนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกในสตูดิโอถ่ายภาพก็พูดได้อย่างน้ำไหลไฟดับ จิ่วจิ่วมองผู้จัดการสตูดิโอตลอดเวลา เธอไม่รู้จริงๆ ว่านายคนนี้มีคำสวยหรูและคำคุณศัพท์เยอะขนาดนี้ ทำไมเขาไม่เป็นนักประพันธ์ล่ะ เสียดายความสามารถจริงๆ
“จิ่วจิ่ว เธออยากถ่ายที่ไหน? ” เหยนชิงเหยียนถามอย่างสุภาพบุรุษ ในใจเขาวางแผนว่าจะถ่ายสักสองสามชุด
“ที่ที่เราเจอกันครั้งแรก” จิ่วจิ่วพูดโดยไม่คิดเลย
“โอเค ชุดแรกถ่ายที่ที่เราเจอกันครั้งแรก” เหยนชิงเหยียนลูบศีรษะจิ่วจิ่วแล้วพูดขึ้น “อีกชุดหนึ่งถ่ายครั้งนั้นที่เราไปเที่ยวด้วยกัน” นั่นเป็นสิ่งที่เขาลืมไม่ลงมากที่สุด
ทั้งคู่คุยกันเรื่องเหตุการณ์ที่ตัวเองอยากถ่าย
ทำอย่างเร่งด่วนและเรียบง่าย สตูดิโอถ่ายภาพทำตามคำอธิบายของจิ่วจิ่วและเหยนชิงเหยียน สร้างสถานที่ที่ทั้งสองคนพบกันเป็นครั้งแรกโดยคร่าวๆ นั่นคือสถานที่ที่น่าจดจำมากที่สุด สร้างสถานที่สามแห่งให้ทั้งสองคน อย่างไรแล้วสิ่งของก็มีจำกัด
“วิวสวยมาก” ผู้จัดการเอ่ยชม “คนก็ดูดี”
จิ่วจิ่วกลอกตา ที่นี่มีวิวอะไรสวย ขี้ประจบจริงๆ เลย แต่คนดูดีจริงเหรอ จิ่วจิ่วมองเหยนชิงเหยียน คุณชายเย่เป็นเทพเจ้าในหัวใจสาวๆ ความรักทำให้โลกเป็นสีชมพู เธอก็รู้สึกว่าเหยนชิงเหยียนดูดี
เหยนชิงเหยียนไม่ได้พูดอะไร เมื่อก่อนเขาเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีสิทธิ์พิเศษมาโดยตลอด ดูเหมือนกลายเป็นเย่จื่อห้านแล้วสิทธิพิเศษเขาจะมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก่อนหลังของเสี่ยวเหอ เป็นครั้งแรกที่เหยนชิงเหยียนรู้สึกว่าอำนาจกับตำแหน่งมันก็มีดีอย่างนี้นี่เอง
จิ่วจิ่วพิงไหล่เหยนชิงเหยียน เงยศีรษะมองท้องฟ้า ลักยิ้มบนใบหน้าเปล่งประกายเป็นพิเศษ ช่างภาพจับช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ ดวงตาโตใสซื่อของจิ่วจิ่วโหยหาความรัก
เหยนชิงเหยียนขอให้จิ่วจิ่วเปลี่ยนเป็นชุดสำหรับคู่บ่าวสาว เขายกผ้าคลุมหน้าสีแดงของเธอขึ้น จิ่วจิ่วจ้องมองเหยนชิงเหยียนอย่างรักใคร่ เธอเห็นเงาตัวเองสะท้อนในดวงตาเขา ผู้หญิงที่ขี้อาย มองผู้ชายที่ตัวเองชอบ
ทรมานมาจนถึงหกโมงเย็น จิ่วจิ่วดึงเหยนชิงเหยียนกลับบ้านอย่างน่าพอใจ หัวใจเธอเต็มไปด้วยความสุข เหมือนสาวน้อยมีรักครั้งแรก
“คุณเย่ คุณจิ่วจิ่ว เราจะทำกรอบแล้วส่งไปที่บ้านครับ” ผู้จัดการไปส่งเหยนชิงเหยียนและจิ่วจิ่วที่หน้าประตูอย่างเคารพ ถ้าสามารถใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักกับเย่เชินหลินผู้เป็นที่เคารพในแวดวงธุรกิจ ดวงตาเขาก็เริ่มเป็นประกาย
“นายส่งมา ฉันจะจ่ายให้นายทั้งหมด” พอเหยนชิงเหยียนคลำหากระเป๋า ในใจก็ตะโกนซวยแล้ว ฝู้เฟิ่งหยี เย่เฮ่าหรันให้เงินเขาเยอะ เขามีการพัฒนานิสัยการวางแผนการใช้จ่ายเงิน เขาไม่ใช่ลูกคนรวยที่ฟุ่มเฟือย ปกติพกเงินติดตัวน้อยมาก วันนี้มาถ่ายงานแต่งลืมพกเงินมา
พอผู้จัดการได้ยินจะกล้าพูดว่าไม่เหรอ เขาพยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดขึ้น “โอเคๆ ” แถมกลัวว่าพูดช้าจะโดนเหยนชิงเหยียนเข้าใจผิด เขาก็เดือดร้อนหนักแน่ เย่เชินหลินเป็นใคร นั่นไม่ใช่สิ่งที่ธุรกิจเล็กๆ อย่างเขาจะไปยั่วโมโหได้
พอผู้จัดการพูดแบบนี้ เหยนชิงเหยียนก็สบายใจไม่น้อย
มองเหยนชิงเหยียนและจิ่วจิ่วจากไปอย่างตะลึงงัน
พอพวกจิ่วจิ่วออกไป เสี่ยวเหอก็ถูกผู้จัดการเรียกไปที่ห้องทำงาน เขาพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ฉันให้อำนาจเธอขนาดนี้ตอนไหน” การเยินยอและความกลัวก่อนที่จะเห็นเย่เชินหลินหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาชอบเธอเพราะเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น เธอไม่ร้องไห้โวยวาย เอาอกเอาใจ ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมความดีทั้งหมดของเธอมันหายไปหมดหลังจากสองคนนี้ปรากฏตัวขึ้น
“คุณเคยบอกไม่ใช่เหรอว่าแค่ฉันชอบก็พอ?” พอเสี่ยวเหอได้ยินคำพูดของเจ้านายก็นึกถึงความโกรธของตัวเองก่อนหน้านี้ ทั้งหมดเขาหลอกเธอ ตอนนี้เสี่ยวเหอมองผู้จัดการด้วยความกลัว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset