สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1014 สาวใช้ตัวแสบ 918

ตอนที่ 1014 สาวใช้ตัวแสบ 918
มีคนที่ดูเหมือนมาเฟียสวมเสื้อโค้ทสีดำลงมาจากรถสี่คน
“เชิญครับ” ชายวัยสี่สิบพูดอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เย่เชินหลินส่งสัญญาณให้จิ่วจิ่วพาเซี่ยชีหรั่นขึ้นไปบนรถ
จิ่วจิ่วจึงพาชีหรั่นขึ้นรถอย่างเชื่อฟัง เธอเข้าไปและพูดกับเซี่ยชีหรั่น “ชีหรั่น เธอไปเถอะ รอให้ทุกอย่างดีขึ้นเราจะกลับมาเป็นปกตินะ”
เย่เชินหลินมองเข้าไปในรถผ่านกระจกหน้าต่างแล้วเห็นเซี่ยชีหรั่นที่น่าสงสาร ยังกลับไปเป็นเหมือนอดีตได้หรือ? คงไม่แล้วล่ะ ไม่มีวันเป็นเหมือนอดีตได้แล้ว
จิ่วจิ่วเห็นเย่เชินหลินยืนส่ายหัว เธอจึงถามอย่างสงสัย “คุณเย่ ทำไมคุณถึงเอาแต่ส่ายหัวคะ?”
“ไปกันเถอะ” เมื่อเย่เชินหลินเห็นจิ่วจิ่วเดินเข้ามาเขาจึงสั่งให้คนขับรถออกเดินทางและไม่ได้สนใจคำถามของจิ่วจิ่วเลย เขาต้องตอบเธออย่างไร? ต้องบอกว่าเพราะจงหวีฉวนเป็นคนฆ่าพ่อเขา เขากับเซี่ยชีหรั่นจึงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้งั้นหรือ?
“เชินหลิน” เซี่ยชีหรั่นเปิดกระจกแล้วมองไปที่เย่เชินหลิน ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะสลักภาพของเย่เชินหลินไว้กลางใจเธอ
เธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอเย่เชินหลินอีก เธอพยายามถามเขา แต่เขาไม่ยอมให้คำตอบ เซี่ยชีหรั่นไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นกับเธอเลย
รถค่อย ๆ แล่นออกไป ร่างของเย่เชินหลินก็เล็กลงเรื่อย ๆ
ข้างเซี่ยชีหรั่นมีหญิงอายุราวสามสิบปีนั่งอยู่คนหนึ่ง เธอคือรหัสสิบสาม เธอเอื้อมมือไปปิดกระจกหน้าต่างรถช้า ๆ และมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างละเอียด เธออยากรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเธอคือใครกันแน่ถึงขั้นต้องเรียกใช้งานพวกเขา
เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วบอกไม่ได้ว่าผิดหวังในตัวเธอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรมาก เพราะพูดถึงเรื่องความงามแล้ว คนหน้าตาดีก็มีเยอะแยะทั่วไป พูดถึงสถานะก็ไม่ได้โดดเด่นมากไปกว่าใคร
แต่สิบสามก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายต้องคอยให้อารักขาเธอคนนี้ด้วย
สิบสามไม่เข้าใจและไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น เพราะคนอย่างพวกเขาไม่เน้นมนุษย์สัมพันธ์อยู่แล้ว
แต่บางครั้งการที่จะตกหลุมรักใครสักคน ไม่ว่าจะสถานะไหนก็ห้ามใจไม่ได้อยู่ดี
ที่เย่เชินหลินต้องการเซี่ยชีหรั่น ก็เพราะเขารักเธอ ไม่ได้เป็นเพราะเธอสามารถให้ประโยชน์แก่เย่เชินหลินได้
ใช้เวลาไม่นานรถก็ได้ขับไปถึงท่าเรือแห่งหนึ่งและได้ขับตรงขึ้นไปบนเรือที่มาจอดรออยู่บนฝั่งทันที
ที่นี่คือเกาะลับในเมืองตงเจียงแห่งนี้ เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ตัวว่าเธอได้ข้ามแม่น้ำใหญ่มาสายหนึ่งแล้ว
ระยะทางสามชั่วโมงแต่พวกเขาใช้เวลาถึงสี่ชั่วโมง
“นายคะ วันนี้มีคนพยายามสะกดรอยตามพวกเรา แต่พวกมันหลงไปแล้วค่ะ” สิบสามส่งข้อความถึงเย่เชินหลิน
ที่แท้เป็นคนของจงหวีฉวนเอง เขาทำอย่างที่พูดจริง ๆ หลังวางสายจากเย่เชินหลินเขาก็ส่งคนมาดักรอที่หน้าบ้านตระกูลเย่ทันที จงหวีฉวนรู้ว่าเย่เชินหลินต้องส่งเซี่ยชีหรั่นไปอยู่ที่อื่น แต่ต่อให้เธอจะถูกส่งไปอยู่ไหนก็ตาม จงหวีฉวนก็มั่นใจว่าเขาจะหาตัวเซี่ยชีหรั่นจนพบอย่างแน่นอน
หลังจากเซี่ยชีหรั่นออกจากคฤหาสน์ตระกูลเย่ จงหวีฉวนก็นั่งรอข่าวของเธอในห้องทำงานอย่างจริงจัง
เย่เชินหลิน คุณจะพาเซี่ยชีหรั่นไปไหนกันแน่? ต่อให้คุณจะพาเธอออกไปได้ แต่อย่าคิดว่าผมไม่มีปัญญาหาเจอนะ คุณอย่าประเมินผมต่ำเกินไป
จงหวีฉวนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดไปที่หมายเลขโทรศัพท์ของเซี่ยชีหรั่น
“ขออภัยค่ะ ไม่มีเลขหมายที่ท่านเรียก”
จงหวีฉวนกัดฟัน นายแน่มากเย่เชินหลิน ถึงกับเปลี่ยนเบอร์ติดต่อของเซี่ยชีหรั่นด้วย
เย่เชินหลินเก็บมือถือของเซี่ยชีหรั่นไว้และให้สิบสามซื้อเครื่องกับซิมใหม่ให้เธอ อีกอย่างเขายังติดตั้งเครื่องติดตามให้กับมือถือเครื่องใหม่ของเซี่ยชีหรั่นและสามารถตรวจสอบได้ว่าเธอติดต่อกับใครบ้าง
แต่เซี่ยชีหรั่นไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ เธอไม่ได้พกมือถือตัวเองออกไปเพราะเขาบอกเธอว่าให้เปลี่ยนเครื่องที่มีรังสีน้อยลง เซี่ยชีหรั่นไม่ได้คิดถึงตัวเองแต่เธอห่วงแค่ความปลอดภัยของลูกในท้องเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง
“อย่าให้คลาดสายตาเชียวล่ะ” จงหวีฉวนกัดฟันพูด เขาคิดว่าคนอื่นจะไม่ได้ยินที่เขาพูด จงหวีฉวนยืนขึ้นและเดินวนไปมาในห้องทำงานของเขา
เย่เชินหลิน นายบอกเองไม่ใช่หรือว่านายไม่ชอบเซี่ยชีหรั่น ทำไมตอนนี้ต้องเอาเธอไปซ่อนด้วย ถ้าไม่ชอบจริง ๆ ทำไมไม่ปล่อยเธอไว้ให้พวกเราเห็นล่ะ
จงหวีฉวนมองไปนอกหน้าต่าง จุดอ่อนของเย่เชินหลินนั้นมีเพียงอย่างเดียวก็คือเขาตกหลุมรักเซี่ยชีหรั่น ถ้าไม่มีเธอนายคงไม่มีจุดอ่อนใด ๆ อีกแล้ว แต่ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นก็คือจุดอ่อนของนาย
สิ่งที่จงหวีฉวนผิดหวังก็คือลูกน้องเขาทำงานได้ไม่ดี ทำให้ภารกิจของวันนี้ล้มเหลว
“โง่” จงหวีฉวนอยากตะโกนด่า แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น หนึ่งคือคนเหล่านั้นไม่ได้อยู่ต่อหน้าเขา สองคือเขายังต้องการให้พวกเขาช่วยงานอยู่ จงหวีฉวนจึงรู้วิธีที่จะซื้อใจคน
“คอยจับตามองคฤหาสน์ตระกูลเย่ไว้ให้ดีนะ ถ้ามีการเคลื่อนไหวอะไรให้รีบแจ้งมาที่ผมโดยด่วน” จงหวีฉวนโทรออกแล้วพูดเสียงดัง
เขาไม่เชื่อว่าเย่เชินหลินจะไม่ไปหาเซี่ยชีหรั่นเลย
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยนั้น ที่นี่สภาพอากาศดีมาก สภาพแวพร้อมก็ดีเหมาะสำหรับการพักผ่อนของเด็กในท้องมาก แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังขาดหายอยู่นั่นก็คือเขาคนนั้น ว่ากันว่าต่อให้จะอยู่ในที่ที่สมบูรณ์แบบแค่ไหน ถ้าขาดคนรักไปมันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นเข้าใจคำนี้อย่างลึกซึ้ง
“คุณเซี่ยคะ นี่คือโทรศัพท์ที่นายท่านฝากมาให้คุณ แต่คุณไม่สามารถติดต่อคนอื่นได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่หวังดีต่อคุณ” ประโยคหลังนี้สิบสามเป็นคนเพิ่มเอง ตั้งแต่ติดตามเย่เชินหลินมา พวกเขาชื่นชมในตัวของเย่เชินหลินมาก และทุกคนก็ได้สาบานว่าจะติดตามเคียงข้างเขาไปจนแก่เฒ่า
เซี่ยชีหรั่นรับโทรศัพท์มาและเตรียมจะโทรออก
“นายท่านสั่งไว้ว่าให้คุณอยู่ที่นี่และห้ามออกไปไหน แม้ที่นี่จะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็ตาม” สิบสามพยายามอธิบายคำสั่งของเย่เชินหลินอย่างเต็มที่
“แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ?” เซี่ยชีหรั่นคิดว่าไหน ๆ ก็ต้องอยู่ที่นี่แล้ว คงต้องเจอผู้หญิงคนนี้บ่อย ๆ แน่นอน มันจะสะดวกกว่าถ้าเธอได้ทำความรู้จักกันก่อน
“ฉันชื่อสิบสามค่ะ คุณเซี่ย” หลังจากสิบสามได้ยินคำถามของเซี่ยชีหรั่นแล้ว เธอก็อึ้งไปสักพัก เพราะชื่อของเธอไม่มีใครเรียกมานานมากแล้ว เธอถูกเรียกว่าสิบสามมาโดยตลอด
“สิบสาม ชื่อแปลกดีนะ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มพูด “สิบสาม ฉันอยากถามว่าเชินหลินจะมาที่นี่เมื่อไหร่”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” สิบสามส่ายหัว เธอมองออกว่าเซี่ยชีหรั่นรู้สึกหดหู่มาตลอดทาง คงจะคิดถึงนายท่านสินะ โชคดีที่เธอไม่ได้ชอบนายท่านไปด้วยคน
เซี่ยชีหรั่นคิดว่าค่อยโทรหาเย่เชินหลินตอนค่ำดีกว่า เธอเฝ้ารอคอยที่จะถึงค่ำคืนนี้มาก
เย่เชินหลินได้รับรายงานจากสิบสามแล้วยิ้มได้ใจเบา ๆ จงหวีฉวนนายจะมั่นใจลูกน้องนายมากไปแล้ว
ต่อไปเขาจะไปหาเซี่ยชีหรั่นไม่ได้อีก สำหรับเซี่ยชีหรั่นแล้ว เย่เชินหลินรู้สึกอึดอัดใจมาก เขารักเธอ แต่เขาก็เกลียดเลือดในตัวเธอด้วย
สิบสามพาเซี่ยชีหรั่นเข้าไปห้องที่สวยงามห้องหนึ่ง ด้านในตกแต่งด้วยสีชมพูทั้งหมด เครื่องประดับบนเตียงก็ล้วนเป็นของระดับแบรนด์เนมทั้งนั้น
“คุณเซี่ยคะ งั้นฉันออกไปก่อนนะ นี่ที่มีของที่คุณจำเป็นต้องใช้แล้ว ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็บอกเราได้นะคะ เราจะซื้อมาให้คุณ” สิบสามหยิบนามบัตรสีดำที่มีเพียงหมายเลขโทรศัพท์และชื่อให้กับเซี่ยชีหรั่น “เบอร์ติดต่อของฉัน มีอะไรให้ช่วยเรียกได้นะคะ”
เซี่ยชีหรั่นรับนามบัตรด้วยมือทั้งสองข้างและอ่านข้อความนามบัตรต่อหน้าสิบสามอย่างละเอียดก่อนว่างมือลง
ดวงตาสิบสามหรี่ลง เธอไม่ได้พูดอะไร แต่มุมมองที่มีต่อเซี่ยชีหรั่นนั้นก็ดีขึ้น เพราะคนปกติแล้วจะเป็นสุนัขจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสือ คิดว่ามีแฟนดีก็หยิ่งยโสได้
สิบสามออกจากห้องและปิดประตูโดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลังจากสิบสามออกจากห้องแล้วเซี่ยชีหรั่นแทบรอไม่ไหวที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นมือถือเครื่องใหม่ ไม่มีหมายเลขติดต่อแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเธอได้สลักหมายเลขของเขาไว้ในหัวใจตั้งนานแล้ว
เธอรีบกดโทรออก
เย่เชินหลินมองสายเรียกเข้านั้นอย่างเงียบ ๆ
ดูเหมือนว่าเธอจะไปถึงแล้ว เย่เชินหลินจึงเคลียร์งานในมือต่อ
รับสายสิเชินหลิน เซี่ยชีหรั่นใช้หูฟังโทรออก เป็นความคิดที่ดีมาก เพราะเธอต้องการมอบลูกที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงที่สุดให้กับเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นเม้มริมฝีปากของเธอ เชินหลิน คุณคงจะยุ่งอยู่สินะ งั้นฉันค่อยโทรหาคุณตอนค่ำก็แล้วกัน
เย่เชินหลินก็กำลังยุ่งอยู่จริงเหมือนกัน เขายุ่งกับการที่ต้องเผชิญกับจงหวีฉวน ยุ่งกับการวางแผนหาวิธีที่จะแก้แค้นจงหวีฉวน
เหยนชิงเหยียนยืนมองห้องทำงานของเย่เชินหลินอยู่ในห้องรับแขก เขาตั้งใจอยากเข้าไปบอกกับเย่เชินหลินว่าเขาไม่ใช่เย่จื่อห้าน
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกไป เสียงอันไพเราะของจิ่วจิ่วก็ได้ดังขึ้น “คุณมายืนทำอะไรที่นี่?”
จิ่วจิ่วอยากออกไปหาของกิน เธอมองเห็นไฟในห้องรับแขกเปิดอยู่และไม่คิดว่าเหยนชิงเหยียนอยู่ที่
เหยนชิงเหยียนมองไปที่จิ่วจิ่ว ความกล้าหาญที่เขารวบรวมนั้นได้หายไปในทันที เขาไม่สามารถลืมสิ่งที่จิ่วจิ่วเคยบอกว่าเธอนั้นชอบผู้ชายร่างสูงและหล่อรวย
“ผมแค่แวะมาเดินดูที่นี่คนเดียว”
จิ่วจิ่วก็ไม่สามารถอ่านใจเหยนชิงเหยียนได้ เธอจึงชวนเหยนชิงเหยียนออกไปกินข้าวด้วยกัน
แหะ ๆ จิ่วจิ่วยอมรับว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่ได้รับประทานอาหารในตอนนี้
เหยนชิงเหยียนยิ้มอย่างอ่อนโยนและไปหาของกินพร้อมกับจิ่วจิ่ว
เมื่อฝู้เฟิ่งหยีเห็นคู่นี้ก็อดยิ้มไม่ได้
เวลา 7:40 น. ของวันรุ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วโทรหาเย่เชินหลิน โทรติดแต่ยังไม่มีคนรับสายเหมือนเดิม
เป็นแบบนี้ไปสองวัน เซี่ยชีหรั่นจำไม่ได้ว่าเธอกดโทรออกไปกี่ครั้ง แต่สิ่งที่เธอจำได้คือทุกครั้งเธอจะโทรออกอย่างมีความหวัง แต่สุดท้ายก็ต้องวางสายลงอย่างน่าผิดหวัง
เซี่ยชีหรั่นอยากโทรหาจิ่วจิ่วเพื่อถามเรื่องของเย่เชินหลิน แต่เธอก็กลัวเย่เชินหลินจะไม่ชอบ เขาคงมีเหตุผลของเขาที่ไม่ยอมรับสาย
รู้สึกเบื่อหน่ายมาก เซี่ยชีหรั่นอยากหาหนังสือมาอ่าน แต่ในห้องนั้นมีเกือบทุกอย่างยกเว้นหนังสือ เซี่ยชีหรั่นจึงอยากถามสิบสามและคิดว่าเธอคงมีหนังสือให้อ่าน
เธอยังไม่ทันได้ติดต่อ สิบสามก็ได้นำอาหารเช้ามาให้เธอ
“คุณเซี่ย คุณออกมาทำอะไรคะ?”
โทษสิบสามที่ถามแบบนี้ไม่ได้ คงต้องโทษเซี่ยชีหรั่นที่เหมือนถูกขังในโลกใบเล็ก ๆ ของเธอตลอดหลายวันที่ผ่านมา เธออยากโทรหาเย่เชินหลินมาก แต่ไม่เคยก้าวออกจากห้องเลยแม้แต่ก้าวเดียว สิบสามต้องแปลกใจมากกว่าที่ไม่เห็นเซี่ยชีหรั่นออกมาเลย แต่สิบสามไม่ใส่ใจในเรื่องนั้น เธอยังคงไม่แสดงสีหน้าความรู้สึกใด ๆ ออกมา
“สิบสาม ฉันกำลังจะไปหาเธอพอดีเลย ไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างมีความสุข เย่เชินหลินเขาคงยุ่งอยู่ เธอจะไปรบกวนเขาไม่ได้ “ฉันอยากหาหนังสือมาอ่านเพื่อฆ่าเวลาหน่อย”
“คุณเซี่ยทานอาหารเช้าไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อให้” สิบสามพูดด้วยสีหน้าค่อนข้างไร้อารมณ์และให้เซี่ยชีหรั่นทำตามที่เธอพูดไปก่อน
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่อยากอาหารเลย เธออยากบอกสิบสามว่าเธอเอากลับไปก่อนเถอะ ฉันไม่หิว แต่เมื่อได้สัมผัสถึงแรงเตะของเด็กในท้องเธอก็ตั้งสติได้ทันที เธอจะไม่กินก็ได้ แต่ลูกในท้องของเธอจะไม่กินไม่ได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset