สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1016 สาวใช้ตัวแสบ 920

ตอนที่ 1016 สาวใช้ตัวแสบ 920
ไห่ลี่หมินยืนอยู่นอกรถไม่ได้เดินเข้าไป หลายวันที่ผ่านมาเขาค่อนข้างยุ่ง หลินหลิงก็เย็นชากับเขามาก เขาจึงรีบหาเวลามาขอโทษเธอ แต่คนสวยมักหยิ่งเสมอ เธอไม่สนใจเขาเลย
หลินหลิงนั่งอยู่ในห้องทำงานของเธอ บางครั้งเธอจะเดินไปที่หน้าต่าง แต่เธอจะระมัดระวังทุกครั้งที่เดินไป เธอจะปล่อยให้คนพาลตัวเหม็นคนนั้นเห็นเธอไม่ได้
เธอไม่กล้ามองดวงตาอันโหดร้ายของคนพาลตัวเหม็นคนนั้น เพราะสายตาของเขามักจะคิดไม่ซื่อเสมอ
ตั้งแต่ไห่ลี่หมินคนพาลตัวเหม็นคนนี้มาที่นี่ ประสิทธิภาพในการทำงานของเธอก็ลดลง หลินหลิงรู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถโทษไห่ลี่หมินได้ แต่ไม่ว่าจะมองยังไงเธอก็ไม่ชอบไห่ลี่หมินอยู่ดี ความผิดทั้งหมดนี้ก็เกิดจากตัวเขาคนเดียวเท่านั้น
สิ่งที่ทำให้หลินหลิงรู้สึกมั่นใจที่สุดในตอนนี้ก็คือไห่ลี่หมินคนพาลตัวเหม็นคนนี้จะไม่บังคับใจเธออีก แต่เมื่อคิดถึงเรื่องในอดีตหลินหลิงแทบจะกัดฟันจนบดให้ละเอียดไปเลย ยังไงเขาก็คือคนพาลตัวเหม็นคนหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ หลินหลิงกลับไปนั่งทำงานต่อด้วยความโกรธ สิบนาทีผ่านไป เธอยังคงคิดแต่เรื่องนี้ไม่หยุด
ในห้องที่เงียบสงบเสียงโทรศัพท์โต๊ะทำงานของหลินหลิงดังเป็นพิเศษ ใครจะติดต่อเธอเวลานะ? หลินหลิงยกหูขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ผู้ช่วยหลินคะ คุณไห่มาขอพบคุณค่ะ” หลินหลิงได้ยินเสียงของสาวพนักงานต้อนรับอย่างชัดเจน ต่อให้ใช้หัวแม่เท้าคิดเธอก็รู้ว่าคุณไห่คนนั้นคือใคร
เขาอดทนรอที่จะมาหาเธอไม่ได้แล้วหรือ?
หลินหลิงยิ้มพูดอย่างขมขื่น “คุณแจ้งเขาไปนะ ฉันไม่ว่าง” หลินหลิงไม่อยากได้ยินเหตุผลที่ไห่ลี่หมินบอกกับพนักงานต้อนรับ เธอจึงวางสายทันที
หลินหลิงลุกขึ้นยืนและเดินวนไปมา ไห่ลี่หมิน คุณอยากทำอะไรกันแน่? หลินหลิงเดาไม่ถูกว่าจุดประสงค์ที่ไห่ลี่หมินมาที่นี่คืออะไร แต่ไห่ลี่หมินผลักประตูออฟฟิศส่วนตัวของหลินหลิงเข้าไปอย่างไม่เกรงใจใคร
เมื่อเห็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย คนที่สนิทที่สุด หลินหลิงตะโกนทันที “ไปให้พ้น ออกไปให้พ้น”
“ถ้าคุณจะไล่ผมไป ผมจะบอกพวกเขาว่าผมมาหาคู่หมั้นของผมหลินหลิง” ไห่ลี่หมินพูดอย่างร่างเริง เขาแกล้งมองไม่เห็นความเย็นชาของหลินหลิง
“คุณกล้าเหรอ” หลินหลิงเดินเข้าไปชักคอเสื้อของไห่ลี่หมินไว้และพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม “ไห่ลี่หมิน เห็นฉันไม่แสดงออกอะไรคุณอย่าได้ใจไปนะ” เธอไม่ทันพูดจบก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“คุณผู้ช่วยหลินครับ นี่คือเอกสารจากแผนกการเงิน รบกวนคุณช่วยอ่านแล้วลงนามให้หน่อยนะครับ” เสี่ยวหลิวแผนกฝ่ายการเงินยืนอยู่นอกประตูอย่างทำตัวไม่ถูก จะเข้าไปหรือถอยออกไปก่อน เอกสารในมือก็เป็นเอกสารเร่งด่วนด้วย ทำไมเขาถึงโชคร้ายขนาดนี้ แค่อยากได้ลายเซ็นของผู้ช่วยหลินแต่เขากลับต้องมาเจอข่าวลือที่หาดูได้ยากที่สุดในรอบพันปี ผู้ช่วยหลินไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายมาก่อนเลย แต่วันนี้เธอกลับดึกชายเสื้อของผู้ชายไว้ในออฟฟิศ มันช่างน่าแปลกใจเหลือเกิน
เมื่อนึกถึงใบหน้าเย็นเยือกเหมือนน้ำแข็งของหลินหลิงแล้วเสี่ยวหลิวไม่สามารถยิ้มออกมาได้ สายตาเขาได้แต่มองไปที่เอกสารในมือ เขาจำเป็นต้องให้ผู้ช่วยหลินลงนามตอนนี้
เสียงนั้นทำให้หลินหลิงตัวแข็งทื่อ เธอส่งสายตาที่เหมือนใบมีดอันเฉียดคมให้กับไห่ลี่หมินอีกครั้ง แต่หลินหลิงเป็นคนที่แก้ไขปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี เธอจึงรับแฟ้มของเสี่ยวหลิวอย่างในเย็น
“คุณกลับไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันให้คนส่งไปให้คุณช่วงบ่าย” หลินหลิงพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้ามองอย่างละเอียดแล้วก็สามารถเห็นใบหน้าขาวเนียนของเธอเปื้อนด้วยสีแดงไปแล้ว
“ขอบคุณครับ ช่วงบ่ายผมมารับเองก็ได้ครับ” เสี่ยวหลิวยิ้มพูด หลังจากถอยออกไปจากห้องเขายังช่วยเธอปิดประตูเบา ๆ ด้วยความระมัดระวัง หลินหลิงรู้สึกแปลกใจมาก เสี่ยวหลิวคนนี้กลายเป็นคนใส่ใจคนอื่นได้อย่างไร?
ไห่ลี่หมินยิ้มอย่างมีความสุข เขาไม่รู้สึกอับอายเลยแต่ยังมีความสุขด้วยซ้ำที่ถูกคนที่เขาชอบปฏิบัติกับเขาเช่นนี้
“หลินหลิง เรามาคุยกันเถอะ” ไห่ลี่หมินขัดจังหวะความลำบากใจของหลินหลิง ความจริงแล้วไม่มีความเข้าใจผิดระหว่างเขากับหลินหลิงเลย ทุกอย่างคือความผิดของเขามากกว่า แม้ว่าจะไม่มีความเจตนาก็ตาม
“คุณไปเถอะ ฉันไม่อยากคุยหรอก” หลินหลิงหันหน้าไปพูดโดยไม่มองหน้าไห่ลี่หมิน
“ถ้าคุณไม่กลัว ผมก็ไม่รังเกียจที่จะพูดที่นี่เหมือนกันนะ ผมไม่มีอะไรต้องกังวลอยู่แล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่าคนพวกนั้นจะเข้ามาดูสัตว์ประหลาดตัวนี้หรือเปล่านะ” ไห่ลี่หมินมองไปที่ดวงตาที่แอบมองอยู่นอกประตูด้วยความขบขัน
หลินหลิงเข้ามาทำงานให้กับบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปก็นานพอสมควรแล้ว เธอสวย หุ่นดี เว้นแต่จะเย็นชาไปหน่อย แต่อย่างอื่นเธอดีหมด ที่สำคัญคือหลินหลิงไม่เคยสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นเพศชายเลย ด้วยการแสดงออกที่เย็นชาของเธอ แม้จะชอบเธอแค่ไหนก็ต้องถอยห่างออกไป
ดังนั้นการที่เห็นไห่ลี่หมินมาปรากฏตัวในเวลานี้มันช่างเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเหลือเกิน การเสือกเรื่องคนอื่นเป็นงานอดิเรกของผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ผู้ชายก็ไม่ต่างอะไรกัน เสี่ยวหลิวกลับไปเล่าเรื่องนี้ให้กับผู้ร่วมงานของเขาฟัง สาว ๆ ทั้งหมดต่างพากันมาดูพระเอกของหลินหลิงคนนี้จะเป็นใครกันแน่
ผู้ชายเฮงซวยมาไม้นี้ตลอดเลยนะ เธออยากชกหน้าเขามาก แต่คิดว่านี่เป็นสถานที่สาธารณะ หลินหลิงจึงอดทนไว้ได้
เธอจำเป็นต้องรับปากเขา
สาว ๆ เหล่านั้นเมื่อเห็นหลินหลิงเดินออกไปต่างก็มองไปคนละทิศคนละทาง บางคนถึงกับต้องวิ่งหนี ไม่มีใครกล้าสบตาหลินหลิงเลย เพราะเธอเป็นเลขาส่วนตัวของเย่เชินหลิน เธอจึงมีอำนาจสูงกว่าคนอื่น ๆ ทุกคนจึงกลัวหลินหลิง
ปากและตาของหลินหลิงกระตุกพร้อมกัน เธอเดินอย่างสง่างามด้วยรองเท้าส้นสูง เธอปิดประตูแล้วค่อย ๆ เดินตามไห่ลี่หมินไป
ไห่ลี่หมินเปิดประตูรถให้หลินหลิงด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
“คุณจะพาฉันไปไหน?” ก่อนจะขึ้นรถหลินหลิงถามไห่ลี่หมินอีกครั้ง เธอจะถูกขายอย่างซ้ำซากอีกไม่ได้
“เดี๋ยวถึงแล้วคุณจะรู้เอง” ไห่ลี่หมินไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น
“สรุปคุณมาหาฉันทำไม?” เมื่อไม่ได้คำตอบแรกจากเขา เธอก็ถามคำถามต่อไป
“ผมอยากบอกคุณว่า ก่อนหน้านี้ผมติดธุระจริง ๆ” ไห่ลี่หมินพูดอย่างเร่งรีบต่อ “ถ้าคุณไม่เชื่อคุณไปถามเย่เชินหลินได้นะ” ไห่ลี่หมินพูดอย่างขมขื่น เห็นได้ชัดว่าเขาชอบหลินหลิง แต่ทำไมหลินหลิงดันไปชอบเย่เชินหลินด้วย ไห่ลี่หมินยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ ทุกคนที่เขาแอบชอบมักจะชอบเย่เชินหลินเสมอ หรือว่าเขากับเย่เชินหลินเป็นศัตรูกันในชาติที่แล้วหรือ?
“หลินหลิง ผมอยากบอกว่าผมชอบคุณก็พูดไม่ได้ แต่คุณไม่ได้มีใครเลยนะ ทำไมไม่ลองเปิดใจดูสักครั้ง ลองให้โอกาสเราได้คบกันได้ไหม?” ไห่ลี่หมินเหยียบเบรกกะทันหันแล้วมองหน้าหลินหลิงอย่างไม่กระพริบตา
หลินหลิงมองไปที่ไห่ลี่หมินด้วยความตกใจ เธอรู้ว่าไห่ลี่หมินชอบเซี่ยชีหรั่น แต่ประโยคนี้เพียงพอที่จะให้เธอเชื่อว่าเขาได้ปล่อยวางอดีตไปแล้ว จริงเหมือนกัน เธอทำไมไม่ให้โอกาสไห่ลี่หมินเลย? ให้โอกาสตัวเองด้วยสิ เธอทำได้ไหม?
หลินหลิงส่ายหัว บางทีเธออาจจะใช้ชีวิตอยู่กับความฝันที่เธอถักทอขึ้นมาเองไปตลอดชีวิตก็ได้
“ไห่ลี่หมิน คุณจะลืมเซี่ยชีหรั่นได้เหรอ?” หลินหลิงพูดอย่างเย้ยหยัน เธอเชื่อว่าไห่ลี่หมินเป็นคนโง่เหมือนกับเธอ เป็นคนโง่ที่สุดในโลกด้วย
“หลินหลิง ชีหรั่นเธอตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับเชินหลินไปตลอดชีวิต สิ่งที่เราทำได้คืออวยพรพวกเขา การที่ได้เห็นคนที่เราแอบชอบมีความสุขมันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ หรือว่าเธออยากทำลายชีวิตพวกเขาเหรอ?” ไห่ลี่หมินส่ายหัวเพราะเขารู้จักหลินหลิงดี เธอไม่มีวันเป็นมือที่สามของคนอื่นหรอก ต่อให้เธอคิดมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่ดี
แต่ไห่ลี่หมินไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นได้แตกหักก่อนที่ใครจะคิดทำลายมันแล้ว
ฤดูใบไม้ร่วงกำลังมาเยือนอย่างช้า ๆ ใบไม้ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เซี่ยชีหรั่นยังคงพยายามส่งข้อความหาเย่เชินหลินทุกวันเป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือน เธอไม่เคยย่อท้อแม้จะไม่เคยได้รับการตอบกลับจากเขาเลย
เย่เชินหลินไม่เคยไปฐานหนึ่งของเขา เย่เชินหลินที่อยู่ในสมองของเซี่ยชีหรั่นไม่เพียงแต่ไม่คลุมเครือ แต่กลับชัดเจนมากขึ้น เธอดูเหมือนจะสามารถเห็นรอยยิ้มเก่า ๆ ในอดีตของเธอผ่านรูม่านตาในกระจกได้
เซี่ยชีหรั่นไม่เคยติดต่อกับโลกภายนอกเลย เย่เชินหลินสั่งสิบสามไม่ให้เซี่ยชีหรั่นเล่นโทรศัพท์ ด้วยวิธีนี้เขาจะมั่นใจที่สุด แม้ว่าเขาจะเกลียดเลือดในร่างกายของเซี่ยชีหรั่นและเกลียดเด็กน้อยที่เป็นสายเลือดของจงหวีฉวนก็ตาม แต่เย่เชินหลินก็ยังไม่ถึงขั้นตัดขาดจากพวกเขาได้
เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่บนเตียงและมองไปที่โทรศัพท์อย่างไม่เข้าใจ เชินหลิน คุณช่วยตอบฉันหน่อยได้ไหม? สิบสามไม่ยอมพูดอะไรเลย เซี่ยชีหรั่นแทบจะไม่เห็นหน้าสิบสามนอกจากมีเรื่องให้เธอช่วย ส่วนคนชุดดำคนอื่น ๆ ก็ได้แต่สวมหน้ากากไว้ด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์เลยจริง ๆ คงไม่ต้องพูดถึงการที่ได้พูดคุยกับพวกเขาหรอก
เซี่ยชีหรั่นกุมหัวตัวเองไว้แล้วตะโกนดัง ๆ “เย่เชินหลิน ทำไมคุณใจร้ายกับฉันขนาดนี้”
สิบสามเงียบไปสักพักและไม่ได้ปรากฏตัวออกมา จากนั้นก็ทำงานในโทรศัพท์ต่อ
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่โทรศัพท์ ไม่สิ เย่เชินหลินไม่ควรหายไปจากเธอนานขนาดนี้ หรือว่าเกิดเรื่องใหญ่กับเชินหลิน เธอนึกถึงเครื่องบินตกในนิทานก่อนหน้านี้ ไม่มีใครรอดชีวิตเลยสักคน เธอนึกถึงข่าวอุบัติเหตุทางจราจรในเขตตงเจียง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอีกตั้งหลายคน เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ความกังวลของเซี่ยชีหรั่นก็เพิ่มมากขึ้น
ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับเชินหลินใช่ไหม เซี่ยชีหรั่นเอาแต่พึมพำกับตัวเอง ไม่ใช่แล้ว เขาไม่ได้ติดต่อเธอมานานแล้วนะ เซี่ยชีหรั่นยิ่งคิดความกลัวในใจของเธอก็ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เธอต้องออกไปหาเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นเดินออกจากห้องแล้วออกไปนอกบ้าน ชายชุดดำสี่คนก็พูดกับเธอด้วยความเคารพ “คุณเซี่ยได้โปรดกลับเข้าไปข้างในครับ ถ้าต้องการอะไรพวกเราจะไปซื้อให้เองครับ”
เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วแล้วเดินออกไปอย่างไม่สนใจใคร แต่เธอเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ เธอถูกชายชุดดำคนหนึ่งจับตัวแล้วส่งกลับไปที่เดิมอย่างง่ายดาย
“พวกคุณจะให้ฉันรอเย่เชินหลินอยู่ที่นี่ไปตลอดเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่บนโต๊ะอย่างเหลือทน ไม่ได้ เธอจะรอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เธอไม่รู้ว่าเชินหลินของเธอยังอยู่ดีหรือไม่ แล้วจะให้เธออยู่อย่างสบายใจได้อย่างไร
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ชายในชุดดำด้านนอก เธอจะออกจากสถานที่ที่น่าเบื่อแห่งนี้แล้วไปหาเย่เชินหลินได้อย่างไร?
คิดจะสู้ เธอก็สู้ใครไม่ได้สักคน คิดจะหนี ดูจากสภาพเธอแล้วจะเดินไหวได้อย่างไร
เซี่ยชีหรั่นได้แต่เดินวนเวียนอยู่ในห้อง
เธอจะยอมเป็นแค่นกที่ติดอยู่ในกรงไปตลอดหรือ? ไม่มีทางหรอก เธอจะบินออกไป เพราะคนรักของเธออยู่ข้างนอกกรงนี้
ศักยภาพของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด
เธอมองไปที่มีดปอกผลไม้ เซี่ยชีหรั่นยิ้มขึ้นมาทันที เธอเชื่อว่าเธอไม่สามารถเอาชนะคนข้างนอกนั้นได้ แต่เธอสามารถใช้ตัวเองเป็นที่เดิมพันได้ ถ้าชนะเธอก็จะได้เจอเย่เชินหลิน แต่ถ้าแพ้ มันก็คุ้มค่ากับการที่เอาชีวิตของตนดิ้นรนเพื่อเย่เชินหลิน
ใครทำให้เย่เชินหลินเป็นทุกอย่างของเซี่ยชีหรั่นล่ะ
เซี่ยชีหรั่นเดินไปหยิบมีปอกผลไม้ขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างอัศจรรย์ เชินหลิน รอฉันนะ
กล้องวงจรปิดของห้องรับแขกจับภาพนั้นได้ สิบสามสามารถมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของเซี่ยชีหรั่นได้อย่างชัดเจน สิบสามไม่ได้สนใจในขณะที่เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปใกล้มีดปอกผลไม้นั้น แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นแล้วสิบสามรู้เลยว่าไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน เธอจึงรีบวิ่งออกมาทันที
“สิบสาม ฉันจะออกไป” เซี่ยชีหรั่นจับมีดไว้แน่น ๆ แล้วพูดอย่างสุภาพ “คุณต้องพาฉันไปหาเชินหลิน เราไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้ว ฉันเป็นห่วงเขามาก” นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับความหน้าซื่อใจคดอีกต่อไป เซี่ยชีหรั่นหวังว่าสิบสามจะไม่ห้ามเธอไว้อีก

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset