สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1028 สาวใช้ตัวแสบ 932

ตอนที่ 1028 สาวใช้ตัวแสบ 932
หลังจากที่เย่เชินหลินพาเซี่ยชีหรั่นไปส่งที่ฐานหมายเลขหนึ่งแล้วเริ่มต้นชีวิตเมื่อก่อน มัวเมาอยู่ในความฝัน หลงใหลไปกับความงดงาม ละครที่เจ้าชายเลือกสาวใช้ได้เปิดฉากขึ้นอีกครั้ง
เสี่ยวเฉินเดินตามพ่อบ้านไปทางประตูที่สนาม ทางเดินทอดยาว
โม่เสี่ยวหนงเอาแต่เดินไปเดินมา เธอระหว่างนั้นลองเข้าไปดึงคน ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกโม่เสี่ยวจุนตบไปหนึ่งที ดีที่โม่เสี่ยวจุนเห็นว่าเป็นโม่เสี่ยวหนงจึงยั้งแรงในมือไว้ไม่น้อย แต่สำหรับโม่เสี่ยวหนงแล้วก็ทำให้เธอเจ็บจนร้องไห้หาพ่อแม่ ไม่กล้าอาสาเข้าไปห้ามการต่อยตีอีกแล้ว
เย่เชินหลินต่อยโม่เสี่ยวจุนอย่างดุเดือดไปหนึ่งหมัด โม่เสี่ยวจุนก็ไม่แสดงความอ่อนแอชกเย่เชินหลินกลับหนึ่งหมัด
ทั้งสองต่อยตีอีกฝ่ายด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกัน เพราะความละอายใจจึงสู้ไม่ถอย เพียงแค่การแสดงหยาบๆ แกต่อยฉันหนึ่งที ฉันชกแกหนึ่งที
“โม่เสี่ยวจุน แกจำไว้ว่าแกได้แค่สกุลโม่เท่านั้น”
เย่เชินหลินโกรธมาก ในเมื่อโม่เสี่ยวจุนไม่เต็มใจที่จะรับรู้รากเหง้าตนเอง เขาก็ไม่บังคับ เขาก็ไม่รับน้องชายคนนี้ เป็นเพราะโม่เสี่ยวจุนถึงทำให้เย่เชินหลินต้องอยู่อย่างเสียใจไปตลอดชีวิต
“เย่เชินหลิน จะบอกแกให้ฉันโม่เสี่ยวจุนนามสกุลโม่ตลอดไป ไม่ใช่โม่ในครอบครัวเดียวกับโม่เสี่ยวหนง แต่เป็นโม่ในตระกูลเย่” โม่เสี่ยวจุนพูดลวกๆ เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นพูดเรื่องของเขาให้เย่เชินหลินฟัง เย่เชินหลินยังทะเลาะกับเซี่ยชีหรั่นเพราะเรื่องนี้ นึกถึงความทุกข์ที่เซี่ยชีหรั่นได้รับเพราะเขา โม่เสี่ยวจุนก็ยิ่งเกลียดชังเย่เชินหลิน มีช่วงหนึ่งที่ไม่เต็มใจไม่ยอมรับตัวตนนี้
ทั้งสองเป็นเหมือนกับเม่น ต่างฝ่ายต่างโจมตีอีกฝ่าย ต่างอยากให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ พ่อบ้านก้าวเท้าแก่ๆ วิ่งเข้ามาพร้อมพูดเสียงดัง “คุณเย่ คุณโม่เลิกตีกันได้แล้ว”
“อย่าเข้ามา”
ต้องบอกเลยว่าพี่น้องคู่นี้จิตใจตรงกันเสียจริง พูดจาเป็นแบบนี้กัน
พ่อบ้านอยากเข้าไปก็ไม่มีความกล้า เขายังอยากมีชีวิตอยู่อีกสักสองปี
ทั้งสองลงมือกันดุเดือดมาก มีความโหดเหี้ยมจนแทบจะฆ่าอีกฝ่าย แต่ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรทำให้อันตรายถึงชีวิต
โม่เสี่ยวจุนเงื้อมือทันเย่เชินหลินซะที่ไหน เขาบาดแผลไม่น้อย เย่เชินหลินยืนให้โม่เสี่ยวจุนต่อยก็ได้รับบาดเจ็บ
เย่เชินหลินมองไปที่เลือดสดแวววาวของโม่เสี่ยวจุน เขาลงมือไม่ได้อีกแล้ว เขาไม่อยากยอมรับเขาก็ดี เกลียดเขาก็ช่าง โม่เสี่ยวจุนจะเป็นเย่จื่อห้านน้องชายของเขาตลอดไป นี่เป็นเรื่องจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
“ไปซะ” เย่เชินหลินหันกลับไม่มองโม่เสี่ยวจุนสักนิด เขากลัวว่าจะเห็นเขาบาดเจ็บ แล้วก็กลัวเห็นเขาอดไม่ได้ที่จะชกเขา
โม่เสี่ยวจุนคุกเข่าหันไปทางสุสานเย่เฮ่าหรันคำนับสามทีแล้วยืนขึ้น จากไปอย่างไม่หันกลับมา
“เย่เชินหลิน แกจะต้องเสียใจ” น้ำเสียงเย็นชาของโม่เสี่ยวจุนเบาผิดปกติ
เย่เชินหลินไม่หันกลับมามองโม่เสี่ยวจุน เขาตอนนี้ก็มีเลือดสดสีแดงหลั่งริน
ไม่ว่าโม่เสี่ยวจุนจะบอกว่าเซี่ยชีหรั่นบริสุทธิ์มากแค่ไหน เขาก็รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นบริสุทธิ์ แต่เขาไม่อาจอยู่กับเธอได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร เย่เชินหลินไม่อาจไม่แยกจากเซี่ยชีหรั่น
พ่อบ้านเห็นโม่เสี่ยวจุนเดินไปไกลแล้ว จึงวิ่งเข้ามาแล้วพูดอย่างเจ็บปวด “คุณเย่ คุณไปเอาน้ำแข็งมา” พ่อบ้านเห็นไม่มีสาวใช้คนอื่น จึงให้โม่เสี่ยวหนงไปเอาน้ำแข็งมา
โม่เสี่ยวหนงไม่เต็มใจอย่างยิ่ง ถึงไม่เต็มใจก็ต้องไปเอาน้ำแข็ง เธอจ้องเขม็งไปที่พ่อบ้าน แล้ววิ่งจากไป
“คุณเย่คุณ” พ่อบ้านอยากถามว่าทำไมคุณถึงต่อยตีกับคุณโม่ จากนั้นกลัวว่าเย่เชินหลินจะสังเกตเห็นปัญหาของเซี่ยชีหรั่น เขาจึงกลืนคำที่อยู่ในปากลงไป
“จากนี้อย่าให้โม่เสี่ยวจุนมาบ้านเย่”
จิตใต้สำนึกของเย่เชินหลินยังคงไม่หวังให้โม่เสี่ยวจุนได้รับบาดเจ็บ การต่อสู้ของเขากับจงหวีฉวนยังคงดำเนินต่อไป
โม่เสี่ยวจุนเดินออกมาได้ระยะหนึ่งถึงเอื้อมมือไปเช็ดเลือดที่มุมปากให้สะอาด ถ้าบอกว่าการได้ยินเรื่องตัวตนของเขานั้นไม่ประหลาดใจเป็นเรื่องไม่จริง แต่เย่เชินหลินบอกว่าจงหวีฉวนทำให้เย่เฮ่าหรันตาย ชีหรั่นก็เป็นเพียงผู้หญิงที่น่าสงสาร น่าสงสารยิ่งกว่าใครทั้งหมด โม่เสี่ยวจุนสาบานว่าเขาจะดูแลเซี่ยชีหรั่นให้ดี ไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บ
โม่เสี่ยวจุนซื้อโจ๊กให้เซี่ยชีหรั่นจากร้าน เขาจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อจัดการตัวเอง ไม่เช่นนั้นเซี่ยชีหรั่นเห็นโม่เสี่ยวจุนในสภาพนี้ก็จะเป็นห่วงเขา เซี่ยชีหรั่นตอนนี้จิตใจอ่อนแออยู่แล้ว โม่เสี่ยวจุนไม่อยากให้เธอกังวลมากขึ้น
“วัยรุ่นสมัยนี้มักเป็นแบบนี้ ชอบสร้างความเดือดร้อน” ป้าวัยกลางคนสองสามคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลโม่เสี่ยวจุนซุบซิบนินทา ถึงแม้จะเสียงเบา โม่เสี่ยวจุนก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน
ฟังคำวิจารณ์ของป้าวัยกลางคน โม่เสี่ยวจุนก็ยิ้ม เขาไม่ได้ต่อยตีมาหลายปีแล้ว
โม่เสี่ยวจุนไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นกังวล เขาคอยเร่งให้โรงพยาบาลจัดการอย่างรวดเร็ว ตอนที่โม่เสี่ยวจุนเดินออกมาจากโรงพยาบาลก็สิบโมงแล้ว เขาหัวเราะออกมา โม่เสี่ยวจุนเดินออกมาจากโรงพยาบาล ไห่ลี่หมินกับหลินหลิงก็เดินสวนเข้าโรงพยาบาลไป
“ไห่ลี่หมิน นั่นใช่โม่เสี่ยวจุนหรือเปล่า?” หลินหลิงไม่มองไห่ลี่หมินเลย หันศีรษะด้านหลังให้เขาตลอด หลินหลิงที่เห็นโม่เสี่ยวจุนรู้สึกแปลกใจ จึงเปิดปากเอ่ยถาม
“ใช่ แต่ว่าเขามาทำอะไรที่นี่?” ไห่ลี่หมินถามอย่างไม่เข้าใจ แล้วในมือโม่เสี่ยวจุนยังถือบางอย่างด้วย
ทั้งสองพึ่งนั่งลงก็ได้ยินเสียงป้าวัยกลางคนถอนหายใจ วัยรุ่นสมัยนี้ชอบสร้างปัญหาทั้งนั้น
ไห่ลี่หมินมองแผ่นหลังที่กำลังจะหายไปของโม่เสี่ยวจุน “ขอถามนิดนึงครับว่าเมื่อกี้ที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
“นายไม่รู้อะไร เมื่อกี้วัยรุ่นคนนั้น ดูพ่อหนุ่มคนที่คิ้วเข้มตาคม ไปต่อยตีกับคนอื่นมาน่ะสิ” ป้าเห็นว่ามีคนมาถามตน แล้วยังเป็นหนุ่มหล่อมีมารยาท เธอเริ่มพูดขึ้นมาน้ำไหลไฟดับ
“ที่ป้าพูดถึงคงไม่ใช่เขาใช่ไหม?” ไห่ลี่หมินพูดพร้อมเอื้อมมือชี้ไปที่แผ่นหลังของโม่เสี่ยวจุน
“นายรู้ได้ยังไง?” ใบหน้าป้าอยากรู้อยากเห็นถามขึ้น
ไห่ลี่หมินพูดอย่างสุภาพ “ขอบคุณครับ”
ป้าได้ยินก็ถอนหายใจ “วัยรุ่นสมัยนี้นะ มีคุณภาพไม่น้อยเลย”
โม่เสี่ยวจุนจะไปต่อยตีกับใครได้? เมื่อวานได้ฟังจากแม่ว่าเขาไม่อยู่บ้าน ไม่คิดว่าวันนี้จะเจอเขาที่โรงพยาบาล
หลินหลิงมองไห่ลี่หมินอย่างไม่สบอารมณ์ เธอเพียงแค่เป็นหวัดก็ถูกไห่ลี่หมินลากมาโรงพยาบาล เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าไห่ลี่หมินคิดยังไง แต่ส่วนลึกในใจรู้สึกอบอุ่นมาก ถูกคนอื่นเอาใจใส่เป็นความหวานแบบหนึ่งที่อธิบายได้ยาก
เรื่องราวเป็นแบบนี้ เมื่อวานไห่ลี่หมินเอาแต่โทรหาหลินหลิง หลินหลิงให้ตายก็ไม่ยอมพบไห่ลี่หมิน เขาเกือบจะยอมแพ้แล้ว
คุณปู่หลินใช้แผนย้ายเสือห่างจากภูเขา ทำเป็นให้ไห่ลี่หมินกลับไป แต่ความจริงคือให้ไห่ลี่หมินมาเล่นหมากรุกกับเขา หลินหลิงนึกว่าไห่ลี่หมินกลับไปแล้ว เธอลงมาหาคุณปู่หลินก็ถูกไห่ลี่หมินจับไว้ หลินหลิงหันตัวคิดจะหนี เสียงจามที่ไม่รู้เวล่ำเวลาก็ดังขึ้น ไห่ลี่หมินถือโอกาสโวยวายใหญ่โต ตามติดรับใช้หลินหลิง วันนี้ยังจะลากหลินหลิงมาโรงพยาบาลแต่เช้าให้ได้
หลินหลิงอยากบอกไห่ลี่หมินว่าแพทย์ประจำครอบครัวของเธออยู่ที่บ้านหลิน มองแววตาตั้งตารอคอยของไห่ลี่หมิน หลินหลิงก็เปลี่ยนใจตามไห่ลี่หมินออกมา เธอหารู้ไม่ว่าไห่ลี่หมินรู้ตั้งนานแล้วว่าเธอมีแพทย์ประจำครอบครัว ไห่ลี่หมินกับคุณปู่หลินยังให้แพทย์ประจำครอบครัวไปพักผ่อนด้วย
ไห่ลี่หมินจะต้องเอาโจ๊กไปฝากคุณปู่หลินให้ได้ เขาพูดอย่างไม่ละอายว่า “คนแก่ต้องกินโจ๊กเยอะๆ” คุณปู่หลินก็รู้สึกเช่นเดียวกัน หลินหลิงพ่นลมออกจมูก เธอมีความรู้สึกว่าไห่ลี่หมินควรเรียกว่าหลินลี่หมิน
หมอสั่งยาฆ่าเชื้อให้หลินหลิงให้เธอกลับไปดื่มน้ำเยอะๆ ต้องออกกำลังกายมากขึ้น
“เธอว่าโม่เสี่ยวจุนมาทำอะไรที่นี่?”
หลังจากไห่ลี่หมินลากหลินหลิงออกมาจากโรงพยาบาลก็เอ่ยปากถาม โม่เสี่ยวจุนเป็นน้องเขยของเขา ฉิงฉิงมีลูกของเขาแล้ว ไห่ลี่หมินรักน้องสาวก็ต้องเป็นห่วงเขาด้วย
หลินหลิงดูเหมือนจะคุ้นเคยการที่ไห่ลี่หมินจับมือเธอแบบนี้ การต่อต้านอย่างเดิมก็กลายเป็นเรื่องยุ่งยาก
ความคุ้นเคยนั้นน่ากลัวเสียจริง
“ไม่รู้สิ บางทีอาจมีเรื่อง จะโทรไปถามน้องสาวนายดูไหม?” หลินหลิงนึกถึงไห่ลี่หมินที่ดูแลเธอ หลินหลิงก็ไม่ใช่จะใจแข็งเป็นหิน
ไห่ลี่หมินได้ฟังก็ว่ามีเหตุผล เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาไห่ฉิงฉิง
“พี่ คิดยังไงโทรมาหาฉันเนี่ย” ไห่ฉิงฉิงรับสายของไห่ลี่หมินก็ประหลาดใจมาก ช่วงนี้พี่ชายคนนี้ของเธอค่อนข้างยุ่งมาก ทั้งวันไม่พบเจอใคร วันวันเอาแต่คิดว่าจะจีบสาวสวยยังไง
ไห่ฉิงฉิงมองท้องฟ้า วันนี้ดีที่ท้องฟ้าแจ่มใส แต่พระอาทิตย์ออกมาจากฝั่งทิศตะวันออกนะ!
“น้อง เสี่ยวจุนอยู่บ้านไหม?”
ไห่ลี่หมินคิดแล้วถามออกไป
“ไม่อยู่ เมื่อวานเขารับโทรศัพท์แล้วก็ออกไป วันนี้ยังไม่กลับมา ทำไมหรอ?” ไห่ฉิงฉิงรู้สึกได้ว่าบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
สัมผัสที่หกของผู้หญิงนั่นแม่นมาก ต่อมาไห่ฉิงฉิงก็เกลียดสัมผัสที่หกของตัวเอง
“น้อง ฉันจะบอกเธอเรื่องนึง แต่เธอต้องรับปากฉันว่าจะไม่ตื่นเต้น” ในใจไห่ลี่หมินยิ่งสงสัยเพิ่มขึ้น โม่เสี่ยวจุนรับสายโทรศัพท์ไม่กลับบ้านทั้งคืน ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือยังเต็มไปด้วยบาดแผลทั้งตัว เขาเจอเข้ากับเรื่องอะไรกันแน่?
“พี่ มันยังไงกันแน่? พี่อยู่ที่ไหน?” ไห่ฉิงฉิงถามอย่างกระวนกระวาย มือบนตัวทารกก็เก็บกลับมาแล้ว
ทารกดูดนมตามองไห่ฉิงฉิง ยังดีที่ไม่ร้องไห้
“ฉันอยู่โรงพยาบาล เมื่อกี้ฉันเห็นเสี่ยวจุน เขามีแผลไปทั้งตัว ส่วนเรื่องอื่นฉันก็ไม่รู้แล้ว” ไห่ลี่หมินพยายามใช้เสียงที่สงบพูด ฉิงฉิงยังดูแลลูกอยู่ เขาไม่อยากให้เธอคิดอะไรมั่วซั่ว
ถึงแม้โม่เสี่ยวจุนจะแสดงออกดีมาก ไห่ลี่หมินยังคงพบว่าเขาเพียงแค่ชอบฉิงฉิง ความรักของเขาอาจจะถูกฝังไปแล้ว
ฉิงฉิงชอบโม่เสี่ยวจุน ไห่ลี่หมินนึกถึงความปรารถนาที่ตัวเองมีต่อเซี่ยชีหรั่น เขาไม่ได้หยุดฉิงฉิง เขาเพียงแค่หวังว่าโม่เสี่ยวจุนจะเห็นความดีของฉิงฉิง ถ้าโม่เสี่ยวจุนกล้าทำร้ายฉิงฉิง ไห่ลี่หมินไม่มีวันปล่อยเขาไว้แน่
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?” ไห่ฉิงฉิงพูดพึมพำ “พี่ ฉันวางแล้ว ฉันจะโทรไปหาเสี่ยวจุนถามสถานการณ์ของเขา”
“ฉิงฉิง อย่ากังวลนะ บ๊ายบาย”
ไห่ฉิงฉิงถือโทรศัพท์ไว้ มองชื่อที่คุ้นเคย เธอไม่รู้ว่าจะโทรหาโม่เสี่ยวจุนยังไง เมื่อวานตอนเขาออกไปไม่ได้พูดรายละเอียด ไห่ฉิงฉิงรู้ว่าเขาไม่อยากบอกตนเอง เธอไม่ได้ถาม ถ้าไม่ใช่ไห่ลี่หมินมาบอกเธอว่าโม่เสี่ยวจุนได้รับบาดเจ็บ ไห่ฉิงฉิงคิดว่าจะไม่ถามเรื่องนี้ ในบางครั้งหลายๆเรื่องพูดไปก็ไม่ใช่เรื่องดี เธอก็เห็นมาเยอะ ขอแค่มีโม่เสี่ยวจุนอยู่ข้างเธอ ขอแค่เธอได้ดูแลเขาไปทั้งชีวิต ไห่ฉิงฉิงก็พอใจแล้ว
“ลูกจ๋า ลูกว่าแม่จะโทรหาพ่อดีไหม?” ไห่ฉิงฉิงมองเด็กน่าเอ็นดูในเปลแล้วถามขึ้น อันที่จริงเธอก็กำลังถามตัวเอง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset