สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1029 สาวใช้ตัวแสบ 933

ตอนที่ 1029 สาวใช้ตัวแสบ 933
เด็กจ้ำม่ำหันมายิ้มให้ไห่ฉิงฉิง
เธอจะโทรไปไหม? ไห่ฉิงฉิงสุดท้ายตัดสินใจส่งข้อความไปหาโม่เสี่ยวจุน
โม่เสี่ยวจุนถืออาหารเช้าอยู่จะสนใจโทรศัพท์ได้ยังไง มองดูของขวัญบนข้อมือที่เขาจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิต โม่เสี่ยวจุนขมวดคิ้วแน่น จะสิบเอ็ดโมงแล้ว ให้ตายสิ ชีหรั่นยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย
ตอนนี้คงได้เพียงกินทั้งอาหารเช้าและกลางวันพร้อมกัน
โม่เสี่ยวจุนหาร้านอาหารซื้อข้าวกลับไปให้เซี่ยชีหรั่น เขาซื้อแต่อาหารเบาๆไปให้เซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่น กินข้าวได้แล้ว” โม่เสี่ยวจุนไม่อยากทำลายความงดงามนี้ เขาไม่ได้เจอเซี่ยชีหรั่นมานานมากแล้ว
“พี่ กลับมาแล้วหรอ” เซี่ยชีหรั่นพูดยิ้ม “พี่ ฉันไม่หิว”
เธอไม่หิวจริงๆ ไม่มีความอยากอาหารเลย
“จะไม่หิวได้ยังไง ตอนนี้กี่โมงแล้ว จะสิบเอ็ดโมงแล้ว จะถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วนะ เธอไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ผิดที่ฉันเอง ควรจะให้เธอกินข้าวเช้าก่อนค่อยไปหาเย่เชินหลิน” โม่เสี่ยวจุนตำหนิตัวเอง เผลอพลั้งปากโดยไม่ตั้งใจ
ได้ยินเย่เชินหลินสามคำนี้อีกครั้งในใจเซี่ยชีหรั่นก็ยังคงมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามา ที่แท้ใจเธอก็ยังไม่ตายด้าน ถึงแม้เย่เชินหลินจะทำแบบนี้กับเธอ
“ชีหรั่น ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดถึงเขา” โม่เสี่ยวจุนพูดจบก็รู้สึกผิด คำที่พูดออกไปก็เหมือนน้ำที่หกออกมา เอากลับคืนไม่ได้แล้ว เขาแอบสังเกตเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นปลอมตัวได้ไม่เลว เพียงแต่แววตาของเธอหักหลังเธอแล้ว
“มามา ชีหรั่น กินอะไรก่อน ไม่กินอะไรเลยได้ไง” โม่เสี่ยวจุนเอาอาหารมาวางข้างเซี่ยชีหรั่น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ปลื้มใจ
“พี่ พี่น่าจะยังไม่ได้กินหรือเปล่า มากินด้วยกัน” เซี่ยชีหรั่นไม่อยากกิน เมื่อนึกถึงลูกในท้อง เธอก็จิกหนังหัว ถึงแม้จะกล้ำกลืนคืนวันไปแล้วก็ต้องกลืนลงไป
ดูท่าทางที่โม่เสี่ยวจุนมองอาหารแล้วกลืนน้ำลาย เซี่ยชีหรั่นเข้าใจว่าเขาต้องอยากรีบกลับมาแน่ โม่เสี่ยวจุนกลับมาถึงก็สายแล้ว เขามีเวลากินก่อนซะที่ไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาอยากกินข้าวกับเซี่ยชีหรั่น คืนวันแบบนี้เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาแต่ก่อน
“อืมอืม”
โม่เสี่ยวจุนก็ไม่ได้ผลัดออกไป ทั้งสองหยิบตะเกียบขึ้นเริ่มกินข้าว ความอบอุ่นแบบหนึ่งได้ซึมผ่านตัวทั้งสอง
“ชีหรั่น กลับบ้านกับฉันเถอะ ฉันเป็นพี่ชายเธอ” โม่เสี่ยวจุนมองเซี่ยชีหรั่นตรงๆ ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นมีแค่เขา เขาไม่สามารถปล่อยให้เธออยู่คนเดียวได้
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว “พี่ ฉันจะไปคฤหาสน์ตระกูลหลี่ ถึงแม้แม่ฉันไม่อยู่ แต่ฉันมีกุญแจที่นั่น เข้าไปได้”
เธอนึกถึงโม่เสี่ยวจุนกับไห่ฉิงฉิงสองคน ถ้าเธอเข้าไปจะไม่รบกวนชีวิตของทั้งคู่หรือ
“ชีหรั่น ฉันเป็นพี่เธอ ฉันมีหน้าที่ดูแลเธอ” โม่เสี่ยวจุนพูดด้วยถ้อยคำหนักแน่นจากใจ เขาขอแค่ได้ดูแลเธอให้ดี
“พี่ ฉันไปคฤหาสน์ตระกูลหลี่ก่อน พี่มีเวลาก็ไปช่วยฉันได้ ถึงยังไงฉันผู้หญิงคนเดียวก็มีหลายเรื่องที่ทำไม่ได้” เซี่ยชีหรั่นคิดไปคิดมายังไงก็ไปกับโม่เสี่ยวจุนไม่ได้ เขากับไห่ฉิงฉิงตอนนี้มีความสุขมาก เธอจะเข้าไปแทรกได้ยังไง?
โม่เสี่ยวจุนมองการตัดสินใจของเซี่ยชีหรั่น เขาจะเหนี่ยวรั้งอย่างไรก็ไร้ผล
“โอเค ในเมื่อเธอจะไปคฤหาสน์ตระกูลหลี่ งั้นเธอต้องดูแลตัวเองให้ดี ฉันจะไปหาทุกวัน” โม่เสี่ยวจุนพูดการตัดสินใจของตนออกมา “ไม่ต้องปฏิเสธ ฉันเป็นพี่ชายเธอ ถ้าพี่ชายดูแลน้องสาวไม่ดี ฉันจะเป็นพี่ชายของเธอต่อไปได้ยังไง” โม่เสี่ยวจุนลูบหัวของเซี่ยชีหรั่นพลางพูด “ดูแลตัวเองให้ดี รอเธอดีขึ้นค่อยออกจากโรงพยาบาลไปคฤหาสน์ตระกูลหลี่ ฉันจะให้คนไปเฝ้าที่นั่น”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าพร้อมน้ำตาที่เป็นประกาย ความช่วยเหลือของโม่เสี่ยวจุนในตอนนี้เปรียบเหมือนการส่งฟืนมาให้ท่ามกลางหิมะ เธอจะไม่ซาบซึ้งได้ยังไง? ในใจเธอยังกังวลเล็กน้อย กลัวไห่ฉิงฉิงจะเข้าใจผิด เซี่ยชีหรั่นหัวเราะกับตัวเอง เธอยังสามารถเอาใจเธอกลับมาได้ไหม? บางทีชั่วชีวิตนี้นอกจากชายคนนั้นแล้ว คนอื่นก็เป็นทางผ่านของเธอ
“ขอบคุณนะ พี่” เซี่ยชีหรั่นพูดพร้อมสูดลมหายใจ มีพี่นี่ดีจริงๆ
“ยัยโง่ รีบกินข้าวเถอะ” โทรศัพท์สั่นขึ้น เขาวางถ้วยลง เปิดโทรศัพท์ขึ้น ข้างในมีข้อความจากไห่ฉิงฉิงมากมาย
โม่เสี่ยวจุนกดดูข้อความทีละอัน เขาขมวดคิ้วฉิงฉิงอยู่บ้านทำไมถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า? หรือว่ามีคนบอกเธอเรื่องของตน?
เย่เชินหลิน? ไม่น่าใช่ เย่เชินหลินถ้าบอกคนอื่นต้องไม่ให้ยามเฝ้าประตูกับโม่เสี่ยวหนงเดินออกไปแน่ นึกถึงโม่เสี่ยวหนงโม่เสี่ยวจุนก็จิตใจจมดิ่ง มองรอยยิ้มของเซี่ยชีหรั่น โม่เสี่ยวจุนถามขึ้นอย่างเจ็บปวด “ชีหรั่น เธอได้เจอเสี่ยวหนงบ้างไหม?”
“ไม่เลย” ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นยิ้มจนมองไม่เห็นความไม่พอใจแม้แต่น้อย
โม่เสี่ยวจุนมองดูการแสดงออกแบบนี้ของเซี่ยชีหรั่น ในใจก็โล่งไม่น้อย อย่างน้อยไม่มีเรื่องของเสี่ยวหนง ชีหรั่นจะได้เจ็บน้อยลง เขาไม่รู้เลยว่าเซี่ยชีหรั่นไม่เพียงเจอโม่เสี่ยวหนง ยังเห็นมือของเย่เชินหลินวางบนตัวโม่เสี่ยวหนงลูบขึ้นลงไปมา สายตาและคำพูดที่คลุมเครือ ความใกล้ชิดที่ไร้ช่องว่าง ใจของเซี่ยชีหรั่นเหมือนถูกมีดกรีด
“ไม่เจอก็ดี ฉันกลับไปดูก่อน ตอนบ่ายจะมาหาเธอใหม่” โม่เสี่ยวจุนพูดอย่างรู้สึกผิด ไห่ฉิงฉิงส่งข้อความหาเขาเยอะมาก ชีหรั่นคือคนที่เขาลืมไม่ลง ไห่ฉิงฉิงคือหน้าที่ที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยง “ชีหรั่น เธออย่าหนีไปไหนคนเดียวนะ ตอนบ่ายฉันก็มาแล้ว””
โม่เสี่ยวจุนพูดเตือน ช่างแตกต่างจากภาพลักษณ์ของจิ่วจิ่วเมื่อแรกพบเขามาก
“ไปเถอะ ไปเถอะ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าส่งสัญญาณให้โม่เสี่ยวจุนสบายใจ ถึงแม้เธอจะไม่นึกถึงตัวเอง ก็ต้องไม่หนีไปไหนเพื่อลูก
หลังโม่เสี่ยวจุนเดินออกจากโรงพยาบาลไปก็วิ่งกลับเข้ามาอีก “ชีหรั่น เธอเป็น…น้องสาวของฉัน อย่าวิ่งหนี ตอนบ่ายฉันจะมาหาเธอ”
เขายังคงไม่วางใจ จึงวิ่งกลับมาอีก เธอเป็นน้องสาวของเขา
“พี่ ไม่เป็นไรหรอก พี่กลับไปเถอะ พี่สะใภ้รอพี่อยู่นะ” เซี่ยชีหรั่นโบกมือลาให้โม่เสี่ยวจุน ฉิงฉิงต้องรอไม่ไหวแล้วแน่เลย เมื่อวานเสี่ยวจุนอยู่ดูแลเธอทั้งวัน เธอไม่อาจยึดครองเขาต่อไปได้
เมื่อโม่เสี่ยวจุนกลับมาถึงบ้านไห่ฉิงฉิงก็นั่งอยู่ข้างเปลเด็กอย่างกระวนกระวาย
“เสี่ยวจุน นายกลับมาแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว” ไห่ฉิงฉิงวางลูกลง วิ่งมาข้างกายโม่เสี่ยวจุน มองเห็นใบหน้าของโม่เสี่ยวจุนบวมมาก
“เสี่ยวจุน นายไปต่อยตีกับใครมา?” ไห่ฉิงฉิงนึกถึงสายของไห่ลี่หมิน จึงถามถึงเรื่องที่ได้ยินมา โม่เสี่ยวจุนหรี่ตาลง ข้อความของฉิงฉิงกับคำพูดตอนนี้ทำให้เขาไม่อาจไม่มองถึงปัญหา วันนี้มีคนเห็นเขา
“ไม่มีอะไร ฉันลื่นล้มน่ะ” โม่เสี่ยวจุนปลอบโยนไห่ฉิงฉิง เขาพยุงไห่ฉิงฉิงให้นั่งลง “กินข้าวหรือยัง?” ในใจโม่เสี่ยวจุนรู้สึกผิดมาก เมื่อวานได้รับโทรศัพท์จากพ่อบ้าน เขาไม่ทันได้พูดอะไรกับไห่ฉิงฉิงก็ออกไปแล้ว กับไห่ฉิงฉิงโม่เสี่ยวจุนติดค้างเธอมาตลอด
“ฉันรอนายมากินด้วยกัน” พอไห่ฉิงฉิงได้เจอโม่เสี่ยวจุนเธอก็ไม่อยากถามเรื่องอื่น เพียงแค่อยากกินข้าวด้วยกันกับเขาอย่างสบายใจ
“ฉิงฉิง ฉันไป….”
“เสี่ยวจุน นายมาแล้วก็โอเคแล้ว”
ไห่ฉิงฉิงพูดขัดถ้อยคำของโม่เสี่ยวจุน
“ป่ะ พวกเรากินข้าวด้วยกัน ฉันรอนายเลยนะ” ไห่ฉิงฉิงดึงมือของโม่เสี่ยวจุนไปที่ห้องอาหาร
มองดูมือที่น่ามองคู่นั้น โม่เสี่ยวจุนไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร
เด็กที่อยู่ในเปลถูกคนอื่นอุ้มออกไป โม่เสี่ยวจุนเดินต้อยๆตามไห่ฉิงฉิงออกมา เขาจะอ้าปาก ไห่ฉิงฉิงก็เอื้อมมือไปปิดปากของโม่เสี่ยวจุน
“พวกเรากินข้าวกัน”
บนโต๊ะอาหารมีเพียงไห่ฉิงฉิงกับโม่เสี่ยวจุน ไห่ฉิงฉิงตักข้าวให้โม่เสี่ยวจุนอย่างมีความสุข ส่งตะเกียบให้เขา เป็นภรรยาที่ดีอย่างไร้ที่ติ ยอดศรีภรรยา
โม่เสี่ยวจุนกินข้าวพร้อมกับเซี่ยชีหรั่นไปแล้ว มองดูข้าวกับตะเกียบที่ส่งมาให้ เขาไม่อาจไม่รับมาได้ นี่เป็นความปรารถนาของผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเพียงแค่อยากกินข้าวกับเขาดีๆสักมื้อ ถ้าเกิดความปรารถนาเรียบง่ายแบบนี้เขายังทำให้เธอสมหวังไม่ได้ โม่เสี่ยวจุนคงจะดูถูกตัวเอง
“อ่ะ กินอันนี้สิ นี่เป็นอันที่นายชอบกินที่สุด” ไห่ฉิงฉิงตักอาหารให้โม่เสี่ยวจุน โม่เสี่ยวจุนก็ตักของที่ไห่ฉิงฉิงชอบกินให้เธออย่างเงียบๆ มื้ออาหารผ่านไปแทบจะมีแต่ไห่ฉิงฉิงที่พูด
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว โม่เสี่ยวจุนมองดูเวลา เขาจะไปดูอาการของชีหรั่น
“ฉิงฉิงฉัน…”
“ไปเถอะ กลับบ้านเร็วๆนะ ฉันจะรอนาย เดินทางปลอดภัยนะ” ไห่ฉิงฉิงมองโม่เสี่ยวจุน มุ่ยริมฝีปาก แล้วฝืนรอยยิ้มออกมาเต็มหน้า
“ฉิงฉิง รอฉันนะ ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลือชดใช้ให้เธอกับลูก” โม่เสี่ยวจุนจับมือของไห่ฉิงฉิงแล้วพูดปฏิญาณ
“ไปเถอะ” ไห่ฉิงฉิงโบกมือให้อย่างใจกว้าง ทิ้งแผ่นหลังอันโดดเดี่ยวไว้ให้โม่เสี่ยวจุน
โม่เสี่ยวจุนเป็นแบบนี้อยู่สามวันไม่อยู่บ้านก็อยู่กับเซี่ยชีหรั่น ไม่หยุดเลยสักวัน
เซี่ยชีหรั่นควรออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เขาบอกลาไห่ฉิงฉิงมาโรงพยาบาลแต่เช้า
“ชีหรั่น เธอจะกลับไปคฤหาสน์ตระกูลหลี่ก่อนจริงๆหรอ?”
โม่เสี่ยวจุนยังคงถามอย่างไม่วางใจ ที่นั่นไม่มีใครเลย ชีหรั่นตัวคนเดียวเขาจะวางใจได้ยังไง?
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไปช่วยฉันซื้อของนิดหน่อยก่อน ฉันค่อยไปคฤหาสน์ตระกูลหลี่ เรื่องอื่นฉันทำเองได้” เซี่ยชีหรั่นไม่อยากรบกวนไห่ฉิงฉิงกับโม่เสี่ยวจุน เธอมองโม่เสี่ยวจุนเป็นพี่ชายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นโม่เสี่ยวจุนกับไห่ฉิงฉิงก็มีลูกแล้ว เธอไม่อยากกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจผิดโดยไม่จำเป็น
เมื่อเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เห็นด้วย โม่เสี่ยวจุนก็ได้เพียงปล่อยให้เซี่ยชีหรั่นอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลี่ไปก่อน เขาคิดว่าไม่กี่วันมานี้มีเรื่องราวมากมายยังไม่ได้คุยเรื่องชีหรั่นกับฉิงฉิง รอผ่านไปสักหน่อยคุยกับฉิงฉิงแล้วค่อยรับชีหรั่นมา
เซี่ยชีหรั่นไม่ต้องการให้คนอื่นจดจำเธอได้ เธอสวมหมวกใบใหญ่ ก้มหน้าอยู่ตลอด โม่เสี่ยวจุนไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันให้เซี่ยชีหรั่น
บางครั้งชีวิตคนก็บังเอิญแบบนี้ ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เซี่ยชีหรั่นไม่อยากเงยหน้าขึ้น แต่ก็อดคล้อยตามสิ่งยั่วยุในใจไม่ได้ เธออยากจะดูว่าคนคนนั้นยังอยู่ดีไหม
สายตามองตามไป เซี่ยชีหรั่นค้นพบอีกครั้งว่าเธอโชคร้ายเสียจริง เธอพยายามหลีกเลี่ยงเย่เชินหลินกับโม่เสี่ยวหนงอย่างเต็มที่ ใครจะไปรู้ว่าจะมาเจอพวกเขาที่นี่ นอกเขาพวกเขาทั้งสอง
ไม่กี่วันมานี้ เซี่ยชีหรั่นเอาแต่ปลอบใจตัวเอง เชินหลินไม่รักเสี่ยวหนง เขาเพียงแค่หยอกเธอเล่น ตอนนี้เธอไม่อาจไม่เผชิญหน้าความเป็นจริง เย่เชินหลินกับโม่เสี่ยวหนงมีความสัมพันธ์กันจริง เชินหลินนายไม่ต้องการฉันแล้วเป็นเพราะตกหลุมรักเสี่ยวหนง หรือเพราะพ่อฉันฆ่าประธานจงอย่างที่นายพูดกันแน่?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset