สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1040 สาวใช้ตัวแสบ 944

ตอนที่ 1040 สาวใช้ตัวแสบ 944
ยังไม่ทันพูด มือถือก็ดังขึ้น
“พี่ ไม่ใช่ว่าเร่งพวกเรานะ” น้องอ้วนพูดเสียงเบา “ไม่ได้รับโทรศัพท์หลายวันแล้ว”
“อย่าตะขิดตะขวงใจเลย” อาซานยกแก้วที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาเตรียมดื่มเหล้า
“จริงๆนะ” ผู้ชายใส่แว่นตกใจจนโยนมือถือลงกับพื้น
กลัวอะไรก็จะได้แบบนั้น พูดอะไรก็จะได้อย่างที่พูด เหล้าอยู่ข้างๆปากอาซาน อ้าปากกว้าง เหล้าไหลลงไปในท้องอย่างไม่สบอารมณ์
เขาวางแก้วลงแล้วพูดว่า “รับ ก็บอกว่าพวกเราใกล้จะหาเจอแล้ว พูดจบก็รีบวางสาย พรุ่งนี้ลุยเต็มที่”
ตอนนี้ทำได้เพียงแค่นี้ ทั้งสองพยักหน้ายื่นมือไปหยิบมือถือ แต่ก็ไม่กล้า
อาซานขมวดคิ้ว เขาเดินไปหยิบมือถือ พูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเราจะหาเซี่ยชีหรั่นเจอแล้ว พวกนายไม่ต้องกังวล”
“อาซาน? ถ้าหากหาเซี่ยชีหรั่นเจอ ผมจะให้ค่าตอบแทนนายอย่างหนัก”
พออาซานได้ยินก็ตาสว่างขึ้นมา ช่วงนี้เขาขาดเงิน คนตายเพราะเงินนกตายเพราะอาหาร อาซานกัดฟันพูด “คุณวางใจเถอะ ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์จะพาเซี่ยชีหรั่นมาอยู่ตรงหน้าคุณ”
ใช่ เขาจะพาเซี่ยชีหรั่นออกมา ขณะนี้อาซานรู้สึกขอบคุณเซี่ยชีหรั่นมา เพราะการมีเธออยู่ อาซานอย่างเขาถึงได้…
จงหวีฉวนไฟลามมาถึงคิ้วแล้ว เขาโทรหาอาซานสามครั้ง ยิ่งโทรยิ่งกังวล
อาซานแม้แต่ข้าวก็แทบไม่สนใจกิน ลุกขึ้นมาตรงไปที่เมืองหลินเจียงสถานที่คึกคักเพื่อไปตามหาคน ปริ้นใบประกาศตามหาคน จริงก็ดีปลอมก็ช่าง ขอแค่ได้ข่าวเซี่ยชีหรั่น วิธีไหนเขาก็ไม่แคร์
“เสี่ยวอ้าย ช่วงนี้อ่านหนังสือจำได้แค่ไหนละ?” สวีเห้าเซิงไม่อยากรบกวนเซี่ยชีหรั่น เขารู้สึกอยากพูดคุยกับเซี่ยชีหรั่นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว คุยกับเธอแล้วรู้สึกผ่อนคลายมาก
“พี่สวีหนังสือเล่มนั้นฉันอ่านจบแล้ว ไม่รู้เพราะอะไร ฉันจำได้เร็วมาก” เซี่ยชีหรั่นยื่นหนังสือที่อ่านจบแล้วให้สวีเห้าเซิงอย่างดีใจ
เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่น สวีเห้าเซิงก็ยิ้มตาม เสี่ยวอ้ายในเวลานี้กับเสี่ยวอ้ายเมื่อก่อนต่างกันลิบลับ อาจเป็นเพราะเหตุที่มีเป้าหมายในชีวิตแล้วมั้ง
แต่ว่าสวีเห้าเซิงนับวันยิ่งรู้สึกไม่สงบ คนต่างถิ่นเข้ามาที่หลินเจียงเยอะ ได้ยินว่าพวกเขากำลังตามหาคนๆนึงอยู่
“เสี่ยวอ้าย ผมถามตลอดทำไมคุณถึงมาที่นี่” สวีเห้าเซิงมองดูเงาขนตายาวๆของเซี่ยชีหรั่นที่ก้มศีรษะอ่านหนังสือ เขาไม่อยากรบกวน แต่คนพวกนั้นยิ่งแผลงฤทธิ์
เซี่ยชีหรั่นชะงักมือ พี่สวี พี่ไม่เคยถามถึง ทำไมวันนี้ถึงได้ถาม?
“ในบ้านฉันไม่มีคนแล้ว ดังนั้นฉันถึงมานี่” เซี่ยชีหรั่นไม่ใช่ไม่เชื่อสวีเห้าเซิง เพียงแต่เธอไม่อยากลากสวีเห้าเซิงเข้ามาเกี่ยวเรื่องนี้ ช่วงเวลานี้ความช่วยเหลือของเขาทำให้เธอมีความสุขมาก เธอไม่อยากเพราะตัวเองทำให้เขาเข้ามาพัวพัน คนที่ตามหาเธอไม่ต้องเดาเธอก็รู้
เย่เชินหลิน คุณเกลียดฉันเข้ากระดูกขนาดนั้นเลยหรอ? อยากให้ฉันหายไปจากโลกนี้จริงๆหรอ?
สีหน้าความเศร้าของเซี่ยชีหรั่นที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ รักคนๆนึงรักถึงขนาดนี้ เธอโทษใครไม่ได้ เธอก็ไม่ยอมให้เย่เชินหลินลงมือกับเธอ ตอนนี้เย่เชินหลินเกลียดเธอมาก ใครจะสามารถรับรองได้ว่า วันนึงเย่เชินหลินจะนึกถึงเธอแล้วจะเสียใจทีหลัง นึกถึงเด็กคนนั้นจะเสียใจทีหลังไหม เซี่ยชีหรั่นไม่อยากให้ชั่วชีวิตของเย่เชินหลินต้องมานั่งเสียใจทีหลัง เธอจะเอาของขวัญที่พระเจ้ามอบให้เธออยู่กับชีวิตที่ยากลำบาก
สวีเห้าเซิงเห็นเซี่ยชีหรั่นไม่ได้พูดความจริง เขาทำอะไรไม่ถูก จริงๆแล้วพวกเขาสองคนคุ้นเคยกันไม่ถึงร้อยวัน เขาสามารถเข้าใจได้
“เสี่ยวอ้าย ถ้าหากจะออกไปข้างนอกต้องระวังนะ” สวีเห้าเซิงกำชับอย่างระมัดระวัง คิดๆแล้วไม่เหมาะสมจึงพูดต่อ “ยังไงคุณก็อย่าออกจากบ้านล่ะ ถ้าหากต้องการอะไรผมช่วยคุณซื้อให้ได้ ถ้าคุณอยากออกไปผมจะไปเป็นเพื่อน”
เซี่ยชีหรั่นได้ยินประโยคนี้รู้สึกบางอย่างเหมือนศัตรูอะไรทำนองนี้ เธอสังเกตจากสีหน้าและคำพูด หลังจากที่สวีเห้าเซิงเข้ามา อดทนไม่พูดจา แม้ว่าจะพูดกับเธอแต่ก็ไม่หลุดพูดข่าวอะไรที่เป็นประโยชน์ออกมา
“พี่สวี คุณได้ยินข่าวอะไรมาใช่ไหม?” เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าสวีเห้าเซิงรู้ตัวตนของเธอแล้วรึเปล่า เธอไม่อยากหลอกเขา เพียงแต่เธออยากใช้ชีวิตกับตัวตนใหม่ของเธอ เธอคือหวูอ้ายไม่ใช่เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นได้ตายไปแล้ว คนๆนั้นได้ลบล้างเซี่ยชีหรั่นด้วยคำพูดของตัวเอง
สวีเห้าเซิงได้ยินคำพูดของเซี่ยชีหรั่น หัวใจของเขาก็เต้นแล้วตกลงไปใหม่ เดิมเขาพอเดาออก เสี่ยวอ้ายต้องไม่ใช่คนธรรมดา คนที่มาตามหาเสี่ยวอ้ายพวกนั้นก็มีไม่น้อยเลย
“เสี่ยวอ้าย ที่ผมไม่เคยถามคุณ เป็นเพราะผมรู้สึกว่าเป็นเพื่อนกันสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความคิดเห็นตรงกัน มุ่งเน้นคำว่าคุณธรรม แต่ไม่ใช่เบื้องหลังของฐานะ ตอนนี้ผมถามคุณก็เป็นเพราะว่าหลายวันก่อนได้ยินข่าวว่ามีคนมาตามหาคนถึงที่หลินเจียง ได้ยินว่าเมื่อวานคนที่มาหายิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ คนที่พวกเขาหายังเป็นคนท้องด้วย” สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่นตลอด อยากดูว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
เซี่ยชีหรั่นชะงัก ไม่ได้ เธอจะลุกลี้ลุกลนไม่ได้
“ขอบคุณพี่สวี” นัยน์ตาเซี่ยชีหรั่นนั้นมีน้ำตา พยายามกั้นไม่ให้น้ำตาตัวเองไหลออกมา
“เสี่ยวอ้าย หลังจากนี้หากคุณออกไปต้องพาผมไปด้วย” สวีเห้าเซิงพูดอย่างรอบคอบ
“พี่สวี ฉันไม่ใช่หวูอ้าย จริงๆแล้วฉันชื่อ เซี่ยชีหรั่น บ้านอยู่ที่ตงเจียง” เซี่ยชีหรั่นพูดถึงตรงนี้ก็แอบมองดูสวีเห้าเซิง เธอไม่ได้ตั้งใจอยากจะหลอกเขา “ฉันไม่ได้อยากหลอกพี่เลย”
สวีเห้าเซิงยิ้มแล้วพูดว่า “ผมรู้ คุณอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ลืมตัวตนของเซี่ยชีหรั่นใช่ไหม?” ปากเขาจะบอกว่าไม่ถือสา แต่ในใจก็รู้สึกผิดหวัง เขาไม่สามารถพูดได้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกเสียใจ
“พี่สวี ขอบคุณพี่ที่เข้าใจนะ ฉันยังเป็นกังวลว่าพี่จะเข้าใจผิด พี่ไม่เข้าใจผิดก็ดีแล้ว” เธอให้เขาเป็นเพื่อน ดังนั้นจึงไม่อยากให้เขาผิดหวังเธอ
สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่นวางใจ เขายิ้ม เธอยังแคร์เขา แค่นี้ก็พอแล้ว
“ยังไงผมก็เรียกคุณว่าเสี่ยวอ้ายดีกว่า เรียกชีหรั่นไม่ชิน” สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่น ใช่แล้ว เขายังคงเรียกเธอเสี่ยวอ้าย ไม่ใช่เซี่ยชีหรั่น เป็นเพียงเสี่ยวอ้ายที่พวกเขาเจอ
“พี่สวี พี่จะเรียกยังไงก็ได้” เซี่ยชีหรั่นยิ้มพลางพยักหน้า เธอกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด ในเมื่อเขาไม่เข้าใจผิด เธอไม่จำเป็นต้องยึดติดกับแค่การเรียกชื่อ
“อืม” สวีเห้าเซิงพยักหน้า หลายวันมานี้มีแต่เรื่องคับขันยุ่งวุ่นวายจริงๆ ช่วงนี้เสี่ยวอ้ายไม่ต้องออกไปไหนดีที่สุด
“เสี่ยวอ้าย ช่วงนี้คุณอย่าเพิ่งออกไปไหนนะ” สวีเห้าเซิงกำชับ
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า แต่ว่าเธอคิดในใจ ถ้าหากเธอออกไปข้างนอกก็ไม่ต้องกลัวพวกเขามาก ถ้าพวกเขาจับเรียกค่าไถ่มันก็มีตำรวจไม่ใช่หรอ!
เพียงแต่เซี่ยชีหรั่นคิดไม่ถึงเธอถูกลักพาตัวไปไม่ใช่คนอื่นบังคับ แต่เธอตัดเยื่อใยความเป็นครอบครัวกับจงหวีฉวนไม่ได้
ห้องหนังสือที่กว้างใหญ่นั้นว่างเปล่า
จงหวีฉวนนั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ หลายวันมานี้เขาดูแบบสำรวจความคิดเห็นของตัวเอง ยังมีแบบสอบถามต่างๆ ในช่วงเวลานี้ เขาพึ่งจะขึ้นตำแหน่ง หากประมาทเพียงเล็กน้อยเรื่องที่ทำมาทั้งหมดก็อาจจะพลาดได้ เขาไม่อยากให้เย่เฮ่าหรันขึ้นนั่งตำแหน่งนี้ เช่นเดียวกับคนอื่นก็ไม่อยากให้เขานั่งตำแหน่งนี้เหมือนกัน
จงหวีฉวนกำลังค้นหาวิธีว่าจะกำจัดเรื่องนี้ยังไง สมองยังคิดไม่ออก
โทรศัพท์ดังขึ้น พอได้ยินเสียงจงหวีฉวนก็รู้ว่าเป็นเย่เชินหลิน โทรศัพท์ของเขา จงหวีฉวนตั้งเสียงให้เขาพิเศษโดยเฉพาะ
เย่เชินหลินเอ้ยเย่เชินหลิน ในเวลานี้นายโทรหาฉันเพื่อเรื่องอะไร? แต่ว่าในเมื่อนายโทรมา พอดีเลยสะดวกฉันจะได้อาศัยใช้โทรศัพท์สายนี้
“เย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นล่ะ?” จงหวีฉวนถามด้วยความครุ่นคิด น้ำเสียงรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจเซี่ยชีหรั่นจริงๆ
เย่เชินหลินได้ยินประโยคนี้ของจงหวีฉวน เขาถามกลับอย่างเย็นชา “ประธานจงดูเหมือนว่าคุณจะถามผิดคนแล้ว เซี่ยชีหรั่นคือลูกสาวคุณไม่ใช่หรอ? เกี่ยวข้องอะไรกับผมตระกูลเย่?”
ใช่ ตั้งแต่คราวที่แล้วหลังจากที่ให้พ่อบ้านเอาเด็กในท้องของเซี่ยชีหรั่นออก เย่เชินหลินก็ไม่เคยถามอะไรที่เกี่ยวข้องกับเซี่ยชีหรั่น ขอเพียงแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเซี่ยชีหรั่นเขาจะไม่ฟังทั้งนั้น
“เย่เชินหลิน ประโยคนี้คุณพูดผิดแล้วมั้ง ชีหรั่นไม่ใช่ภรรยาคุณหรอ?” จงหวีฉวนถอนหายใจยาว “วัยรุ่นหยิ่งยโส”
“จงหวีฉวน จะเอาผู้หญิงผมมีเยอะแยะ เซี่ยชีหรั่นเป็นอะไร?” เย่เชินหลินตอบอย่างนิ่งไม่ร้อนไม่หนาว น้ำเสียงนิ่งเรียบราวกับน้ำ ทำให้คนฟังไม่ออกสักนิดว่าไม่เหมาะ
จงหวีฉวนฟังน้ำเสียงของเย่เชินหลินรู้สึกสงสัยว่าตัวเองผิดรึเปล่า นึกถึงข้อมูลที่ได้รับมา เย่เชินหลินเรียกชีหรั่น ในใจเขานั้นยังมีเซี่ยชีหรั่นแน่นอน จึงต้องเร่งรีบ อย่างนี้ถึงจะขัดขวางเรื่องที่เย่เชินหลินจะทำต่อไป จงหวีฉวนไม่รู้ว่าเย่เชินหลินจะทำเรื่องอะไร แต่เขาแน่ใจว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่
“เย่เชินหลิน นายโทรมามีธุระหรอ?” จงหวีฉวนไม่ได้พูดหัวข้อนี้ต่อ เขาถามถึงเจตนาของไอ้หนุ่มเย่เชินหลินก่อน
เย่เชินหลินหลังจากได้ยินคำพูดของจงหวีฉวน แล้วเผยรอยยิ้มที่ทำให้คนหลงเสน่ห์ และแฝงความหมายในรอยยิ้มที่ทำให้คนหนาวเย็น
“จงหวีฉวนผมกำลังจะหาเจอหลักฐานฉบับสุดท้ายของคุณ คุณแค่รอให้คณะกรรมการกลางพรรคดาวน์โหลดเอกสารและรอเข้าคุก! ” ทุกคำพูดของเย่เชินหลินแทบจะกัดฟันพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ เกลียดจงหวีฉวนสุดขีด แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เห็นอยู่ตำตาว่าจะได้แก้แค้นแล้ว เย่เชินหลินลูบบนหน้าผาก หลังจากแก้แค้นแล้วเขาจะทำอะไร?
เย่เชินหลินไม่รู้ว่าหลังจากแก้แค้นแล้วจะทำอะไรต่อ ในใจของเขาเกลียดจงหวีฉวน เกลียดเขาที่ทำให้เย่เฮ่าหรันตาย เกลียดเซี่ยชีหรั่น เกลียดที่ในตัวเธอมีเลือดของจงหวีฉวน เกลียดโม่เสี่ยวจุน เพราะเขาไม่เรียกเย่เฮ่าหรันว่าพ่อ
หากจงหวีฉวนตายไป แค้นได้ชำระ เย่เชินหลินจะทำอะไร? เรื่องของบริษัท? ดูเหมือนเขารู้สึกขาดอะไรบางอย่าง
“เย่เชินหลินนายกล้าหรอ?” จงหวีฉวนแทบจะตะโกน เขาไม่เดือดไม่ได้ ก็เหมือนอย่างที่เย่เชินหลินพูด ถ้าหากเขาส่งความผิด
ของจงหวีฉวนให้คณะกรรมการกลางพรรค จงหวีฉวนไม่ต้องสงสัยเลยว่าคณะกรรมการกลางพรรคจะให้เขาลงจากตำแหน่ง ทำให้เขาลงจากตำแหน่งอย่างง่ายดาย ถ้าหากมีเรื่องที่แพร่งพรายออกไป สิ่งที่เขาต้องเผชิญคือตายสถานเดียว
“ประธานจง คุณดูแล้วกันผมกล้าไม่กล้า ผมเคยบอกคุณแล้ว ถ้าหากคุณกล้าทำร้ายพ่อผม ผมจะสู้กับคุณถึงที่สุด คุณคิดว่าผมพูดล้อเล่นหรอ?” เย่เชินหลินน้ำเสียงเย็นชาแสดงถึงความเด็ดเดี่ยวของเขา เขาจะคืนความยุติธรรมให้เย่เฮ่าหรัน ทำให้จงหวีฉวนเสียใจกับเรื่องนี้สิ่งที่ทำลงไปจะต้องชดใช้
จงหวีฉวนนึกขึ้นได้ว่าครั้งนั้นที่อยู่บ้านตระกูลเย่ เย่เชินหลินเคยพูดคำนี้กับตัวเอง เขาไม่ได้คิดว่าคำพูดเย่เชินหลินจะไม่จริงและคิดไม่ถึงว่าเย่เชินหลินจะจริงจังขนาดนั้น ไม่ได้ เขาต้องคิดวิธียับยั้งเย่เชินหลิน หาวิธีทำให้เขาล้มเลิกที่จะทำกับตัวเอง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset