สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1041 สาวใช้ตัวแสบ 945

ตอนที่ 1041 สาวใช้ตัวแสบ 945
“เย่เชินหลิน ไม่รู้ว่าคุณยังสนใจเซี่ยชีหรั่นอยู่หรือไม่?” จงหวีฉวนปรับเปลี่ยนอารมณ์ แล้วก็พูดขึ้นอย่างเชื่องช้า เขาจะกระต่ายตื่นตูมไปก่อนไม่ได้ ขอเพียงหาตัวเซี่ยชีหรั่นเจอ ทุกอย่างก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้
“ผู้หญิงที่ผมไม่เอาแล้ว จงหวีฉวน คุณรอไปเถอะ ไม่งั้นก็ทั้งสองคน ผมจะให้คุณไม่มีวันได้ฟื้นตัวขึ้นมาได้อีก” เย่เชินหลินตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง
คำว่าไม่มีวันได้ฟื้นตัวขึ้นมาอีกดังอยู่ในหูของจงหวีฉวนตลอด ไม่ได้ เขาจะปล่อยวางทุกอย่างที่มีตอนนี้ไม่ได้ ต่อให้เขาปล่อยวาง จงหวีฉวนเชื่อว่าเย่เชินหลินก็ไม่มีทางปล่อยตัวเองไปง่ายๆแน่
เซี่ยชีหรั่น น่าจะอยู่ที่ไหน?
“อาซาน เวลาคุณสามวันต้องหาตัวเซี่ยชีหรั่นให้เจอ ต่อให้พากลับมาไม่ได้ก็ต้องหาวิธีติดต่อให้ผมให้ได้” จงหวีฉวนให้คำสั่งสุดท้ายกับอาซาน
เขาก็คิดดีแล้ว การจะพาเซี่ยชีหรั่นกลับมาไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น จะต้องคิดหาวิธี ให้เธอยอมกลับมาด้วยความเต็มใจ ไปจับตัวคนมาตอนนี้ ค่อนข้างอันตราย
ในเมื่อเย่เชินหลินไม่สนใจลูกสาวของผมจงหวีฉวน งั้นผมก็จะทำให้คุณต้องแต่งงานกับพวกเธอ แบบนี้ผมยังสามารถควบคุมทิศทางได้ ต่อให้คุณจะทำอะไรผมผมก็ยังสามารถมีเกาะป้องกัน
จงหวีฉวนครุ่นคิด ยังไงก็จะให้เย่เชินหลินแต่งงานกับจงหยุนซาง เซี่ยชีหรั่นไม่ได้แซ่จง เขาไม่สะดวกที่จะไปตระกูลเย่ หากเป็นจงหยุนซาง งั้นก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
จงหยุนซางส่งข้อความหาหลี่เหอไท้อยู่ด้านบน หลี่เหอไท้เพิ่งส่งข้อความมาถามจงหยุนซางว่าช่วงนี้เซี่ยชีหรั่นเป็นอย่างไรบ้าง
จงหยุนซางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้เย่เชินหลินพาตัวชีหรั่นออกไปแล้ว เพราะหลังจากที่คุณลุงเย่จากไปแล้ว เย่เชินหลินกลัวว่าจะเกิดเรื่องกับชีหรั่น”
หลี่เหอไท้เงียบไปตั้งนานก่อนจะพูดออกมาสองคำว่า ขอบคุณ
อาซานติดป้ายประกาศตามหาคนอย่างมากมายก็ไม่เห็นได้ผลอะไรกลับมา นี่ก็จะผ่านไปสองวันแล้ว อาซานก็ร้อนใจมาก แบบนี้ต่อไปก็ไม่ใช่วิธีที่ดี หากเขาไม่สามารถหาตัวเซี่ยชีหรั่นเจอหรือวิธีติดต่อเธอได้ในเวลาที่กำหนด เงินที่เขาควรจะได้ก็จะเหลือแค่ครึ่งเดียว
สามคนนั่งลงในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ลองดูกับข้าวน่ารับประทานบนโต๊ะ ใครก็ไม่มีความอยากทานเลย
พวกเขานั่งอยู่ตรงมุม และก็เป็นผู้ชายทั้งสามคน สวมเสื้อผ้าธรรมดาปกติ ไม่ถือว่าเป็นจุดเด่น
ผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ติดริมหน้าต่างกำลังคุยกันอยู่อย่างมีความสุข
“ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนเธอพูดว่าร้านของเธอมีคนแปลกคนหนึ่งมาใช้บริการไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงไม่รับเธอ?” เสียงสดใสของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น คนที่นั่งในร้านอยู่ไม่กี่คนต่างก็ได้ยิน
อีกคนหนึ่งที่สวมแว่นตา ดูเหมือนจะเคยชินกับเสียงที่ดังและท่าทีของเธอแล้ว เธอยิ้มพยักหัวพูดว่า “ให้เธอไปแล้ว ไม่ได้รับเธอ” คนแบบนั้นเธอไม่กล้าเอาหรอก
“ทำไมหรือ?” อีกฝ่ายพูดถามขึ้น ดูเหมือนถ้าไม่ได้ถามให้ชัดเจนจะไม่ยอมหยุด
“บนตัวผู้หญิงคนนั้นสวมด้วยชุดเสื้อผ้าแบรนด์เนมระดับโลก มือถือก็ดีขนาดนั้น เธอคิดว่าคนแบบนั้นจะเห็นดีกับร้านเล็กๆของพวกเราหรือ?” น้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างเย้ยหยัน คนในปัจจุบันนี้มีเงินแล้วก็เอาแต่ใจ อยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น
อาซานได้ยินคำว่าแบรนด์เนมคำนี้แล้วก็รู้สึกสนใจ เพราะว่าครั้งก่อนเขาซื้อเสื้อผ้าเหมือนกับของเซี่ยชีหรั่น ตอนนั้นที่ไปจ่ายตังค์เขาถือถุงเงินไปจ่าย
แบรนด์เนม คนที่คนนั้นพูดจะหมายถึงเซี่ยชีหรั่นหรือไม่?
ต่อให้ต้องฆ่าผิดไปเป็นพัน ก็จะไปไม่ได้แม้เพียงคนเดียว อาซานถือรูปถ่ายแล้วเดินไปตรงหน้าผู้หญิงสองคนที่กำลังคุยกันอย่างมีความสุข ถามอย่างมีมารยาทว่า “สวัสดีครับ ขอถามหน่อยว่าเคยเห็นคุณผู้หญิงคนนี้ไหม? เธอเป็นคนหนูของพวกเรา หลายวันก่อนทะเลาะกับนายท่านก็เลยหนีออกจากบ้าน ตอนนี้นายท่านคิดถึงคุณหนูมาก จึงส่งพวกเราออกมาตามหาคุณหนู”
อาซานพูดอย่างจริงจัง ชายคนอ้วนกับชายที่สวมแว่นตาทั้งสองคนมองดูอย่างนิ่งอึ้งไป อาซานร้ายกาจจริงๆ พวกเขายังคิดไม่ออก แบบนี้คนอื่นก็จะช่วยพวกเราหา ทำไมพวกเขาถึงได้โง่แบบนี้
ผู้หญิงที่สวมแว่นตาก็คือคนที่เคยสัมภาษณ์ชีหรั่นคนนั้น เธอมองดูเพื่อนรักที่อยู่ตรงหน้า ความหมายก็คือคนนี้แหละ
เพื่อนรักของเธอมองดูเซี่ยชีหรั่นในรูป แล้วดวงตาก็เบิกกลมโต สอนด้วยชุดแบรนด์เนมระดับโลกจริงๆด้วย งั้นเธอจะมาหางานทำที่นี่ทำไม ใช่เธอหนีออกจากบ้าน เด็กสมัยนี้ถูกตามใจจนเสียคนไปหมดแล้ว
อาซานมองดูสองคนนั้น รู้ว่าทั้งสองคนจะต้องเคยเห็นเซี่ยชีหรั่น เขาจึงรีบถามขึ้นว่า “ขอร้องล่ะ นายท่านของเราคิดถึงคุณหนูมาก นายท่านไม่สบาย อาการหนักมาก เขาอยากเจอคนหนูมาก เพราะนายท่านไม่เห็นด้วยที่คุณหนูจะแต่งงานกับคนรักจึงหนีออกจากบ้าน”
พูดเสร็จแล้วก็ถอนหายใจหนึ่งที อดทนไว้อย่างไม่ต่อว่า
“เมื่อก่อนเธอเคยมาสัมภาษณ์งานที่นี่ หลังมาไปที่ไหนแล้วไม่รู้”
ด้วยความเสแสร้งเพื่อให้คนอื่นเขาเชื่อใจของอาซาน ทำให้ได้ข่าวของเซี่ยชีหรั่นมาอย่างง่ายดาย
“อ๋า งั้นขอถามหน่อยว่า คุณรู้ว่าคุณหนูของพวกเราอาศัยอยู่ที่ไหนไหม?” อาซานไม่ยอมทิ้งความหวังใดๆ จึงลองถามดู
“ขออภัย ฉันไม่รู้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหน แต่ฉันมีวิธีติดต่อของเธอ” ผู้หญิงที่สวมแว่นคนนั้นคิดถึงอีเมลที่มีข้อมูลในการสมัครงานอย่างค่อนข้างน้อยมาก
“งั้นรบกวนคุณผู้หญิงเอาวิธีติดต่อให้พวกเราด้วย อาหารของคุณผู้หญิงในวันนี้พวกเราขอเลี้ยงเอง หากมีเวลาพวกเราจะขอเรียนเชิญพวกคุณทานอีกหนึ่งมื้อ” อาซานไม่ยอมเสียโอกาส ตอนนี้ตามหาเซี่ยชีหรั่นสำคัญที่สุด
ฟังอาซานพูดเช่นนี้แล้ว ทั้งสองกลับเกรงใจ ผู้หญิงที่สวมแว่นคนนั้นก็ใช้มือถือล็อคอินอีเมลดาวโหลดจดหมายสมัครงานของเซี่ยชีหรั่นมาทันที
“ผู้หญิงคนนี้ชื่อหวูอ้าย ที่อยู่เธอไม่ได้กรอก เบอร์โทรศัพท์ได้กรอกไว้อยู่”
“ไม่ใช่เซี่ยชีหรั่นหรือ?” ผู้ชายคนที่เป็นน้องร้องขึ้น อาซานเหลือกตามองดูเขา ถึงค่อยหุบปากไม่พูดอะไร
“คิดว่าคุณหนูคงไม่อยากให้พวกเราตามเจอดังนั้นจึงเปลี่ยนชื่อ” อาซานพูดอย่างเกรงใจ
มองดูมือถือที่ยื่นมาให้ อาซานรีบสร้างชื่อผู้ติดต่อใหม่ บันทึกเบอร์โทรศัพท์ไว้ เดินไปที่แคชเชียร์แล้วก็เช็คบิลทั้งสองโต๊ะแล้วก็จากไป ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์ทานข้าวแล้ว ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือเช็คให้แน่ใจว่าหมายเลขโทรศัพท์นี้เป็นของใคร
“เลี้ยงพวกเราทานข้าวจริงๆหรือ”
อาซานกับอีกสองคนไม่แม้แต่จะหันไปมอง
เดินมาถึงในที่โล่ง มองไปรอบๆไม่มีใครสนใจ
“พี่อาซาน ชื่อไม่เหมือนกัน จะเป็นตัวปลอมไหม” น้องชายคนที่อ้วนถามขึ้น เขาเห็นพี่อาซานสนใจขนาดนั้น อย่าถูกหลอกเสียล่ะ
“เธอเปลี่ยนชื่อได้” อาซานถือว่ามีความอดทนที่ยังพูดอธิบาย
“งั้นก็ยังมีคนที่หน้าตาเหมือนกันนี่”
น้องชายคนที่อ้วนเถียง โลกกว้างใหญ่ไม่มีอะไรที่ไม่แปลก มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันมีอะไรที่ไม่เหมือนบ้าง
ฟังน้องชายคนที่อ้วนพูดแล้ว อาซานพยักหัวเห็นด้วย “เอาล่ะ พวกเราลองโทรไปถามก่อน”
“ขออภัยค่ะโทรหาใครคะ?” เซี่ยชีหรั่นมองดูเห็นเป็นเบอร์แปลก เธอก็ยังรับสายอยู่
“เซี่ยชีหรั่น แม่ของเธอไม่สบาย” อาซานพูดอย่างร้อนใจ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเป็นห่วง
“แม่ของฉันสบายดีอยู่ไม่ใช่หรือ? จะป่วยได้อย่างไร” เซี่ยชีหรั่นถามอย่างร้อนใจ แม่อยู่ต่างประเทศไม่ใช่หรือ? คนคนนี้เป็นใคร?
เซี่ยชีหรั่นคิดถึงที่สวีเห้าเซิงบอกกับเธอว่ามีคนกำลังตามหาเธอ หรือว่าจะเป็นคนพวกนี้?
“แม่ของเธอไม่ได้ป่วย เธอคือเซี่ยชีหรั่น?” อาซานรู้ว่าเป็นเซี่ยชีหรั่นแน่แล้วแปดสิบเปอร์เซ็นต์ หากไม่ใช่แล้วจะตอบได้อย่างไร
“ขออภัยคุณผู้ชาย คุณหาคนผิดแล้ว ฉันชื่อหวูอ้าย ไม่ได้ชื่อเซี่ยชีหรั่น” เซี่ยชีหรั่นสงบจิตใจแล้วก็พูดแก้ตัว ในเมื่อแม่ไม่ได้ป่วย เธอก็ไม่ใช่เซี่ยชีหรั่น เดี๋ยวค่อยโทรหาแม่แล้วถามว่าพวกเขาอยู่ต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง คนพวกนี้ไม่เหมือนเป็นคนดี กล้าโกหกเธอ
เซี่ยชีหรั่นมองดูเวลาก็ไม่เช้าแล้ว เธอออกไปทานข้าวก่อน วันนี้สวีเห้าเซิงมีธุระไปข้างนอก ก่อนไปยังสั่งไว้ว่าไม่ให้เซี่ยชีหรั่นออกไปข้างนอก คนข้างนอกที่ตามหาเธออยู่ไม่รู้สถานการณ์เป็นอย่างไร
ตอนที่สวีเห้าเซิงกลับมาทานข้าวเซี่ยชีหรั่นก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้สวีเห้าเซิงฟัง ทั้งสองคนถือว่ายังคุยกันสนุกอยู่ ทานข้าวไปด้วยกันอย่างมีความสุข
“เสี่ยวอ้าย ช่วงนี้เพื่อนของฉันจะมาหลินเจียง งานเลี้ยงจึงค่อนข้างจะเยอะหน่อย เธอคนเดียวอย่าออกไปข้างนอก” สวีเห้าเซิงคิดอยู่ว่าคนพวกนั้นจะมาลงทุนที่นี่ เขาจะไม่ไปช่วยไม่ได้
เขาไม่วางใจเซี่ยชีหรั่น ผู้หญิงคนนี้ที่เข้ามาในชีวิตของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาอย่างไม่สามารถลบล้างได้แล้ว
“พี่สวี วางใจ ฉันสามารถดูแลตัวเองได้” เซี่ยชีหรั่นส่งสายตาปลอบใจให้กับสวีเห้าเซิง ในใจเธอซาบซึ้งมาก ได้เจอกับสวีเห้าเซิงเป็นสิ่งที่เธอดีใจที่สุดที่มาถึงหลินเจียง บางทีอาจจะเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนได้ในชาตินี้
ในใจเซี่ยชีหรั่นยังคงเป็นห่วงโทรศัพท์ที่โทรมาเมื่อกี้
วันที่สองตอนที่อาซานโทรมา สวีเห้าเซิงได้ออกบ้านไปแล้ว
“คุณหนูเซี่ย คุณจะอยู่ที่หลินเจียงไม่ได้แล้ว กลับตงเจียงเถอะ” อาซานรับสายแล้วก็พูดขึ้นทันที
“ขออภัย ฉันชื่อหวูอ้าย ไม่ได้แซ่เซี่ย” น้ำเสียงเซี่ยชีหรั่นเยือกเย็น เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร โทรมาแบบนี้หมายความว่ายังไง เซี่ยชีหรั่นทำได้เพียงไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นเซี่ยชีหรั่น หากเป็นเย่เชินหลินส่งคนมาตามหาเธอ เธอคิดแล้วในใจก็หวาดกลัว น้ำเสียงก็สูงขึ้น “ไม่มีธุระอะไรฉันจะวางสายแล้วนะ”
เซี่ยชีหรั่นกดวางสายแล้วแต่หัวใจยังเต้นอย่างแรง เธอเริ่มบ่นต่อว่าเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นไม่เข้าใจ เย่เชินหลินสามารถชอบลูกของส้งหลิงหลิงขนาดนั้น หมายถึงไม่สามารถลองเปลี่ยนมุมมอง เด็กไร้เดียงสาขนาดนั้น เย่เชินหลิน คุณลำเอียง
อาซานมองดูโทรศัพท์ แบบนี้ต่อไปก็ไม่ใช่วิธีที่ดี
เขาคิดอยู่นาน ยังไงก็ยกให้เจ้าของดีกว่า
จิ่วจิ่วยังไม่ได้กลับบ้าน ก็ได้รับข้อความแปลกๆข้อความหนึ่ง
“คุณหนูจิ่วจิ่ว เซี่ยชีหรั่นอยู่ที่หลินเจียง เธอเลี้ยงลูกคนเดียว หากคุณหวังดีกับเธอก็ไปรับเธอมาจากหลินเจียงเถอะ”
นี่เป็นข้อความจากเบอร์แปลก จิ่วจิ่วโทรไปแล้วกลับไม่มีคนรับสาย เธอส่งข้อความไปก็หายเงียบ ไม่มีการตอบกลับใดๆ
จิ่วจิ่วมองดูนอกหน้าต่างแล้วเหม่อลอย เธอจะกลับไปตอนนี้ดีไหม ตอนนี้ฝู้เฟิ่งหยีกำลังมีความสุข ให้เธอกลับไปยังสถานที่ที่เย่เฮ่าหรันจากไป มีแต่จะทำให้บาดแผลในใจของเธอยิ่งเจ็บปวด
หรือว่าเธอกลับไปตงเจียงก่อน แล้วให้เหยนชิงเหยียนฝู้เฟิ่งหยีไปท่องเที่ยว
ดูเหมือนวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จิ่วจิ่วทำปากจู๋ นอกจากวิธีนี้แล้วตอนนี้เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
แต่ตอนนี้อยู่กันสามคน เธอจะพูดอย่างไรถึงจะสามารถมาดูได้ จะต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถหลุดพ้น นี้เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด
“เสี่ยวห้าน แม่ออกไม่เที่ยวกันก่อน เพื่อนของฉันให้ฉันไปหาที่ตงเจียง ฉันไปกลับมาแล้วค่อยไปหาพวกคุณ” จิ่วจิ่วยิ้มพูดว่า เธอเป็นห่วงเซี่ยชีหรั่น คิดว่าเธอกำลังไปหาชีหรั่น จิ่วจิ่วดีใจมาก

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset