สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1060 สาวใช้ตัวแสบ 964

ตอนที่ 1060 สาวใช้ตัวแสบ 964
ครั้งนั้นเธอเห็นหลินเจี๋ยรับสายโทรศัพท์เสร็จก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเฉยชาต้องการดื่มเหล้า ซือซือเห็นว่าโอกาสเข้ามาแล้ว
เธอก้าวเท้าทีละนิด บิดสะโพกไปยังหลินเจี๋ย
เธอจำได้ชัดเจนว่าหลินเจี๋ยเกลียดการเข้าใกล้ของเธอมาก จนกระทั่งเธอสามารถพูดให้เขาบรรลุทุกสิ่งที่ใจนึกได้ หลินเจี๋ยจึงยอมให้เธออยู่
“คุณพาผมกลับบ้าน พ่อของคุณต้องโกรธจนตัวสั่นแน่ ๆ ” ซือซือจำประโยคนี้ได้แม่น เพราะประโยคนี้แหละเธอถึงได้คอยตามติดอยู่ข้างกายของหลินเจี๋ย
“ดาร์ลิ่ง ผมไปดูพี่สาวก่อนนะ คุณเล่นได้ตามสบายเลย เรื่องเงินมาคิดลงบัญชีผม” หลินเจี๋ยเอ่ยปากกล่าวก่อนที่จะหยิบชุดสูทเดินไกลออกไปเรื่อย ๆ รอยยิ้มบนใบหน้าของซือซือก็เย็นลงเรื่อย ๆ เช่นกัน หลิน หลิง เธอไม่ให้เขาพาฉันไป?วางใจเถอะ ถึงจะไม่ได้ไปบ้านตระกูลหลิน ฉันก็จะทำให้พวกคุณเป็นวันแห่งหายนะ
ซือซือเดินอยู่บนถนนใหญ่ เซี่ยชีหรั่นเธอไปไหนกันแน่?เธอห้ามตายเด็ดขาดนะ ถ้าเธอตายฉันจะไปหาใคร?
ผู้หญิงคนเมื่อกี้หน้าคล้ายกับเซี่ยชีหรั่นมาก เป็นน้องสาวของเซี่ยชีหรั่นหรือเปล่านะ ซือซือส่ายหัว หลี่หมิงจุ้นมีลูกชายแค่คนเดียวหลังจากจางชิงกลับถึงบ้าน ไม่ได้เจอเย่เชินหลินติดกันหลายวัน เธอนึกถึงผู้หญิงที่ชื่อซือซือคนนั้นที่ตบเธอ ดูเหมือนจะเป็นเพราะว่าเธอมีใบหน้าที่เหมือนกับเซี่ยชีหรั่น จะเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณเย่ดีไหมนะ?เป็นการป้องกันล่วงหน้าให้คุณหญิงเย่
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้อยู่ที่ตงเจียง ฉันมากังวลอะไรอยู่กัน?  
เธอหารู้ไม่ว่าเซี่ยชีหรั่นกำลังอยู่ที่บ้านอีกหลังนึงของเย่เชินหลิน
“แม่คะ จิ่วจิ่ว” เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจพลางเรียกบุคคลสองคนที่คุ้นเคยตรงหน้า ตอนที่จิ่วจิ่วมองเห็นเซี่ยชีหรั่นนั้นเธอก็หลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุด
“เซี่ยชีหรั่น บอกมานะว่าเธอไปทำอะไรที่ไหนมา?แถมยังไปตั้งสามปี บอกฉันมา” จิ่วจิ่วตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เธอไปโดยที่ไม่กล่าวอะไรสักอย่าง นี่มันไม่พอสำหรับความเป็นเพื่อนเสียหน่อย จิ่วจิ่วปากมุ่ยพูดด้วยความโกรธ
“จิ่วจิ่ว ฉัน……” เซี่ยชีหรั่นมองไปยังฝู้เฟิ่งหยีและเย่เชินหลินเธอไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายอย่างไร เธอยิ้มพลางกล่าว : “เข้ามาก่อนเถอะ”
จิ่วจิ่วยืนอยู่อย่างนั้นไม่ขยับ เป็นนัยว่าถ้าเธอไม่บอกฉันฉันก็ไม่เข้าไป
“เนี่ยนโม่มาเรียกคุณน้ากับคุณย่าเร็ว” เซี่ยชีหรั่นจูงเนี่ยนโม่ออกมา นี่หงายการ์ดอะไรกัน ไม่กลัวว่าจิ่วจิ่วกับฝู้เฟิ่งหยีจะยอมแพ้
“คุณน้า คุณย่า” เนี่ยนโม่ปรากตัวขึ้นด้านหน้าของเซี่ยชีหรั่น
จิ่วจิ่วและฝู้เฟิ่งหยีเอาแต่คุยกับเซี่ยชีหรั่นไม่ได้สนใจสิ่งเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านหลังเธอ
“เนี่ยนโม่มาให้ย่ากอดหน่อย” ฝู้เฟิ่งหยียื่นมือออกไปอย่างสั่นเทา เธอได้หลานชายเพิ่มอีกคนแล้ว นี่เธอสามารถดีใจได้ไหมนะ?ตระกูลเย่ของเธอมีผู้สืบทอดแล้ว
“ไม่ได้” จิ่วจิ่วร้องเสียงดัง
มือของฝู้เฟิ่งหยีที่ยื่นออกไปไม่ได้ถอนกลับมา เธอมองไปยังจิ่วจิ่วทำไมไม่ได้กัน?เซี่ยชีหรั่นก็มองจิ่วจิ่วด้วยความประหลาดใจ คิ้วของเย่เชินหลินขมวดขึ้น
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้บอกว่าห้ามคุณแม่กอดเนี่ยนโม่ความหมายของฉันคือเนี่ยนโม่ต้องเรียกฉันว่าคุณแม่ทูนหัวสิ” จิ่วจิ่วกล่าวอย่างภาคภูมิใจ เธอตกลงกับชีหรั่นไว้แล้วว่าจะเป็นแม่ทูนหัวของเด็กทุกคน
ฝู้เฟิ่งหยีเคาะหัวของจิ่วจิ่วพลางบ่นอุบ : “เธอนี่นะยังเป็นแบบนี้อยู่อีก ฉันตกใจจนไม่กล้ากอดเนี่ยนโม่เลย อารมณ์พวกนี้เมื่อไรจะปรับปรุงเสียทีนะ” จิ่วจิ่วแลบลิ้นหัวเราะออกมา เธอเพียงแค่ดีใจมากเกินไปเท่านั้นเอง อืม ดีใจเกินไปเท่านั้น
“คุณน้ากับแม่ทูนหัวมันก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง?” เซี่ยชีหรั่นมองจิ่วจิ่วอย่างสับสน ไม่รู้ว่ายัยเด็กคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่นะ
“ไม่เหมือนสักหน่อย ยังไงก็ต้องเรียกฉันว่าแม่ทูนหัว” จิ่วจิ่วกล่าว เธอยื่นมือออกมาหยิกเนื้อกลม ๆ บนใบหน้าของเนี่ยนโม่ยิ้มอย่างมีความสุข สัมผัสบนมือนั้นดีจริง ๆ เลย
“ไป ไป ไป เธอหยิกลูกฉันเจ็บนะ อยากหยิกนักก็ไปคลอดของตัวเองสักคนสิ”
เซี่ยชีหรั่นกล่าวอย่างติดตลก คิดไม่ถึงว่าจิ่วจิ่วยังจำสิ่งนี้ได้ตลอด
“เขาก็เป็นลูกของฉันนะ จะว่าลูกของเธอได้ยังไง” จิ่วจิ่วกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แถมยังเดินไปคุกเข่าข้าง ๆ เนี่ยนโม่พลางพูดเสียงหวาน : “เนี่ยนโม่เรียกแม่ทูนหัวเร็วเข้า”
เพราะเหตุนี้รอยบุ๋มบนใบหน้าของจิ่วจิ่วยิ่งลึกลงไปอีก เนี่ยนโม่ยื่นมือออกมาลูบลักยิ้มของจิ่วจิ่ว ราวกับเพิ่งพบเรื่องราวที่น่าสนใจเสียเหลือเกิน ชอบมากจนเขาเองวางไม่ลง
“เด็กคนนี้ดูแล้วคงจะชอบลักยิ้มของจิ่วจิ่วมากนะ”
“ชีหรั่น สามปีมานี้เธอไปอยู่ไหนมากันแน่?” ฝู้เฟิ่งหยีคิดว่าเย่เชินหลินเอาแต่ตามหาเซี่ยชีหรั่น เธอถามข้อสงสัยในใจแทนลูกชายของเธอ
จิ่วจิ่วก็หมุนกลับมาจ้องมองเซี่ยชีหรั่น เธอก็อยากรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นไปอยู่ที่ไหนสามปีมานี้?ยัยผู้หญิงจิตใจโหดเหี้ยมคนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะไม่รู้จักติดต่อมาหาเธอเลยสักนิด พอคิดจิ่วจิ่วก็โกรธขึ้นมา
“แม่คะ พวกเราเข้าไปข้างในก่อนเถอะ!” เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ตอบคำถามฝู้เฟิ่งหยี สิ่งที่เธอไม่อยากกล่าวถึงที่สุดก็คือเรื่องเมื่อสามปีก่อน
จิ่วจิ่วเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นไม่อยากพูด เธอก็ไม่ได้ถามต่อ สองสามคนเดินเข้าไปในห้อง คุณแม่เซี่ยเห็นว่าคนมากันหมดแล้วก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร
“กินข้าวกันเสียก่อน” เย่เชินหลินกล่าวเสียงดัง จิ่วจิ่วและฝู้เฟิ่งหยีเดินอยู่ด้านขวาของเย่เชินหลิน จิ่วจิ่วย่นจมูกใส่เย่เชินหลิน ทำหน้าทำตาล้อเลียน ยั่วให้เนี่ยนโม่หัวเราะออกมา
เขายังไม่ได้ดึงเก้าอี้ เสียงแจ้งเตือนที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์ออกมาดูชื่อที่แสนคุ้นเคย เขาเหลือบมองเซี่ยชีหรั่น พบว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจเขาแม้แต่นิดเดียว ในใจของเย่เชินหลินโกรธขึ้นมาเล็กน้อย รับสายโทรศัพท์นั้น ตั้งใจเปิดลำโพงอยากให้เซี่ยชีหรั่นหึงหวง
“มีอะไรหรือ?” เสียงตอบรับอ่อนโยนยากจะหาได้ของเย่เชินหลิน
“คุณเย่คะ วันนี้ฉันเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เธอตบฉัน” เสียงแอ๊บแบ๊วปลายสายของจางชิง พอจิ่วจิ่วได้ยินก็ทำท่าจะเดินเข้าไป เซี่ยชีหรั่นปิดปากของเธอในทันที เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเย่เชินหลินแล้ว เรื่องของเขา เซี่ยชีหรั่นไม่มีสิทธิ์ไปสนใจ อีกอย่างเธอไม่อยากให้จิ่วจิ่วออกหน้าแทนเธอ เย่เชินหลินเป็นคนยังไง?เอาแต่ใจเช่นนั้นยากที่จะละความโกรธจากจิ่วจิ่วได้
“เธอตบคุณทำไม?” เย่เชินหลินกล่าวอย่างโมโห ไม่ว่าอย่างไรก็ตามตอนนี้จางชิงเป็นผู้หญิงของเขา นึกไม่ถึงจะมีคนทำร้ายเธอ นี่เป็นการประกาศสงครามกับเย่เชินหลินเปล่า!
“คุณเย่คะ ทีแรกฉันว่าจะไม่พูด แต่เพราะว่าผู้หญิงคนนั้นเรียกชื่อเซี่ยชีหรั่นสามคำนี้ พอฉันคิดว่าเธอเล็งใบหน้าของฉัน ไม่รู้ว่าเธอจะเล็งคุณด้วยหรือเปล่า อย่างไรเสีย แท้จริงคุณชอบคุณเซี่ยขนาดนั้น” จางชิงไม่อยากจะยอมรับแต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเซี่ยชีหรั่นคือผู้หญิงที่เย่เชินหลินรักที่สุด
ประโยคสั้น ๆ ไม่กี่ประโยค ความเงียบก็เข้าปกคลุมทุกคน
“คุณเย่ยังฟังอยู่ไหมคะ?”
“จางชิง ไม่ต้องกังวล ไม่มีใครไปกล้าไปก่อเรื่องกับตระกูลเย่หรอก” เย่เชินหลินรับประกันอย่างยืนหยัด
“คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะคุณเย่ ฉันกังวลถึงคุณ จิ่วจิ่ว แล้วก็คุณผู้หญิง อย่างไรพวกคุณทุกคนล้วนแต่ชอบคุณเซี่ย ไม่รู้ว่าวันนี้ผู้หญิงคนนั้นจะแก้แค้นพวกคุณหรือเปล่า”
จางชิงพูดไปพลางน้ำตาไหลไปพลาง เธอรักเย่เชินหลิน เพราะฉะนั้นจึงรับไม่ได้ถ้าเย่เชินหลินจะต้องเจ็บปวด แล้วก็ไม่ยอมให้คนที่เขาแคร์ได้รับความเจ็บปวดเช่นกัน
“ไม่เป็นไร แค่นี้นะ” เย่เชินหลินตัดสายทิ้ง เขามองไปยังเซี่ยชีหรั่นอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างคาดเดาไม่ถูก: “กินข้าว”
เซี่ยชีหรั่นดึงเก้าอี้ออกอุ้มเนี่ยนโม่ขึ้นไปนั่ง
ในหัวของเธอมีแต่เสียงเมื่อสักครู่ของผู้หญิงคนนั้น เธอหายไปจากที่นี่สามปี คิดไม่ถึงว่ายังมีคนต้องการจะแก้แค้นเธอ แต่ใครกันที่จะแก้แค้นเธอ?
“คุณมองผมทำไม?” เย่เชินหลินถามอย่างสงสัย สายตาแบบนี้ของเซี่ยชีหรั่นทำให้เขารับไม่ได้
“คุณไปยั่วผู้หญิงข้างนอกไว้หรือไง?ท้ายที่สุดถึงได้มีคนมาแก้แค้นฉัน?” เซี่ยชีหรั่นสามารถคิดได้เพียงเท่านี้
“จะเป็นไปได้อย่างไร”
เย่เชินหลินสบตาไปยังฝู้เฟิ่งหยี จิ่วจิ่วและยังมีเซี่ยชีหรั่น เธอรีบยกมือขึ้นเพื่ออธิบาย
“ชีหรั่น สามปีที่เธอไม่อยู่ เชินหลินเอาแต่อยู่ในบ้าน ตอนนี้นอกจากจางชิงนั่นแล้ว ก็ไม่มีใครอีก” ฝู้เฟิ่งหยีอ้าปากอธิบายแทนลูกชายของเธอ
จิ่วจิ่วก็พยักหน้าหงึกหงัก ตราบใดที่ชีหรั่นปรากฏตัวขึ้นความเป็นปรปักษ์ของเธอที่มีต่อเย่เชินหลินก็หายไปอย่างมาก ก่อนหน้าเธอไม่อาจทนดูเย่เชินหลินได้ก็เพราะเซี่ยชีหรั่น ในฐานะเพื่อนที่ดีของเธอแน่นอนว่าเธอต้องเป็นเดือดเป็นร้อนเพื่อเพื่อนของเธอ
เซี่ยชีหรั่นเมื่อได้ยินว่าอยู่ในใจของเย่เชินหลินเสมอมา ในใจของเธอมีความสุขมาก หลังจากได้ยินชื่อจางชิง ความสุขเมื่อสักครู่ของเซี่ยชีหรั่นก็มลายหายไป ใช่สินะ สิ่งที่เย่เชินหลินขาดไม่ได้มากที่สุดก็คือผู้หญิง นอกจากเซี่ยชีหรั่นแล้วบนโลกนี้ยังมีผู้หญิงอีกตั้งมากมาย
“ใครกันที่มีเจตนาที่ไม่ดีต่อเซี่ยชีหรั่น?” จิ่วจิ่วนึกเบาะแสไม่ออกจริง ๆ
“กินข้าวก่อน” ในใจของเย่เชินหลินเปิดตัวได้อย่างงดงาม ใบหน้าสงบนิ่ง แต่ดูเหมือนจะไม่สงบอีกครั้ง
เนี่ยนโม่มองไปยังผู้ใหญ่ที่สง่างามกลุ่มนี้ กินข้าวคนเดียวอย่างมีความสุข
“ชีหรั่น เธอไปที่บ้านตระกูลเย่ทางนั้นก่อน อย่างไรที่นั่นก็ปลอดภัย” ฝู้เฟิ่งหยีเอ่ยปากบอก เธอไม่อยากให้ลูกสะใภ้ที่เพิ่งกลับมามีภัยร้ายเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลานชายอีกคนด้วย
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ พรุ่งนี้หนูจะไปทางบ้านแม่ เธอก็อยากเห็นเนี่ยนโม่”
ฝู้เฟิ่งหยีทิ้งเซี่ยชีหรั่นให้พาเนี่ยนโม่ไปไม่ลง คิดว่าเซี่ยชีหรั่นเพิ่งมาถึงก็อยู่ตระกูลเย่ ในใจยังคงรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง จ้าวเหวินอิงเป็นแม่ของเซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่น เป็นเช่นนั้นเธอก็ไม่ควรทำอะไรคนเดียว” จิ่วจิ่วพูดอย่างกังวล ผู้หญิงคนนั้นแวบแรกก็ไม่ใช่คนดีอะไร ฉันไม่อยากให้เธอเกิดปัญหา
“เซี่ยชีหรั่น ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นมาเป็นความตั้งใจของคุณเอง ผมไม่สามารถมองดูลูกตระกูลเย่ของผมเกิดเหตุร้ายได้”
ใบหน้าของเย่เชินหลินเย็นชา สายตาของเขาสามารถทำให้คนแข็งตายได้
เซี่ยชีหรั่นหัวเราะกับตัวเอง เธอคิดอะไรกันนะ คิดว่าเขายังรักเธอเหมือนเมื่อก่อนอย่างนั้นหรือ?พ่อของเขาตายก็เพราะพ่อของเธอ เขาเกลียดขี้หน้าเธอจะตาย จะมาห่วงใยเธอได้อย่างไร ล้มเลิกความคิดนี่เสียเถอะเซี่ยชีหรั่น
“วางใจ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามถ้ากล้ามาแตะต้องเนี่ยนโม่ ฉันไม่มีวันปล่อยเขาไปแน่”
ชีหรั่นกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว ในนาทีนั้น ไม่มีใครกล้าดูถูกความมุ่งมั่นของเธอ
จิ่วจิ่วทนไม่ไหวอีกต่อไป ฝู้เฟิ่งหยีบอกว่าจะติดต่อกับหลายชายของเธอให้มากๆ มิฉะนั้นพรุ่งนี้เนี่ยนโม่ก็ไปตระกูลหลี่แล้ว เย่เชินหลินโบกมืออย่างใจกว้าง เซี่ยอี้ชิงพาคนไปยังห้องพักแขก
เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ริมหน้าต่าง คิดว่าควรจะทำอย่างไร มีใครบางคนกำลังรอโอกาสที่จะจัดการเธออยู่ ตอนนี้เธอยังอยู่มุมมืด รอผ่านไปไม่กี่วันทุกคนรู้ข่าวที่เธอกลับมา ศัตรูก็กลายเป็นฝ่ายมืด ยากที่เธอจะป้องกันตัว
เย่เชินหลินพิงฝั่งประตู มองไปยังเซี่ยชีหรั่นที่กำลังครุ่นคิด เธอเท้าคางไว้ ใบหน้าเล็กนั่นสวยขึ้นกว่าเดิม ถ้าไม่พาลูกมาด้วย ใครก็ไม่คิดว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นคุณแม่ของเด็กอายุสองจะสามขวบไปเสียแล้ว
“คุณกังวลอะไรอยู่?”
เซี่ยชีหรั่นได้ยินเสียงทักของเย่เชินหลิน เธอหันหน้ากลับมา
“ฉันยังวางใจเนี่ยนโม่ไม่ลง” เซี่ยชีหรั่นพูดจบถึงพบว่าตัวเองพูดกับเย่เชินหลินด้วยจิตใจที่สงบนิ่ง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset