สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1073 สาวใช้ตัวแสบ 977

ตอนที่ 1073 สาวใช้ตัวแสบ 977
มองเห็นสายตาที่เฝ้ารอของทุกคน สวีเห้าเซิงรู้สึกว่าหากตนเองไม่อธิบายจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆได้
“เสี่ยวอ้ายเคยเป็นนักออกแบบเครื่องประดับที่ปารีส” สวีเห้าเซิงตอบอย่างคลุมเครือ เรื่องของเสี่ยวอ้ายเธอควรจะเป็นคนพูดด้วยตัวเองถึงจะดีกว่า
ยัยตัวเล็กออกแบบเครื่องประดับ?ไม่ธรรมดานะเนี่ย?โดยเฉพาะการออกแบบเครื่องดับที่เมืองปารีสประเทศฝรั่งเศส เย่เชินหลินเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเซี่ยชีหรั่น ยัยตัวเล็กของเขาดูเหมือนมีความรู้ไม่น้อย!
ประโยคนี้ทำให้หลี่เหอไท้ปลื้มใจไม่น้อย หลี่หมิงจุ้นเกษียณแล้ว ในบางครั้งเขาก็ช่วยหลี่เหอไท้จัดการเรื่องราวในบริษัท วันนี้จึงคุยกับเย่เชินหลินเรื่องปัญหาของเครื่องประดับ
เซี่ยชีหรั่นวิ่งเข้าไปในห้อง เปิดลิ้นชักอย่างคุ้นเคย ปากกาของเธอยังอยู่ ด้านข้างยังมีกระดาษ ภายในห้องสะอาดสะอ้าน ดูเหมือนทำความสะอาดเป็นประจำ
หยิบปากกากับกระดาษ เซี่ยชีหรั่นนั่งลงบนโต๊ะและเริ่มเขียน
เธอเขียนอย่างเร็วมาก ในไม่ช้าก็เขียนความคิดของตัวเองและสิ่งที่ต้องการถ่ายทอดลงไป โดยภาพรวมคือต้องการถามว่าผลงานการออกแบบของหมี่ลี่ สามารถนำมาร่วมงานประมูลได้หรือไม่
หมี่ลี่คือชื่อที่เซี่ยชีหรั่นใช้ตอนออกแบบเมื่ออยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส
เซี่ยชีหรั่นบรรจุกระดาษเรียบร้อย นำกำไลข้อมือใส่ลงไป เซี่ยชีหรั่นคิดว่าหากตัวเองไปแบบนี้จะดูกะทันหันเกินไปหรือเปล่า จึงต้องการโทรเข้าไปถามก่อน
“พี่หยุนซาง พี่มีเบอร์ขององค์กรการกุศลไหมคะ ช่วยให้เบอร์ฝั่งผู้จัดกับฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะถาม”เซี่ยชีหรั่นวิ่งออกมาอย่างร้อนรนมองเห็นจงหยุนซางกำลังเดินขึ้นไปชั้นบน
“พี่กำลังจะไปหาให้เธอ ว่าแต่ชีหรั่น ทำไมเธอต้องการเบอร์ของพวกเขา?”จงหยุนซางรู้สึกแปลกใจมาก หรือว่าชีหรั่นต้องการนำของของเธอไปประมูล?
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ คนกันเองในครอบครัว มากับพี่สิ ด้านหลังบัตรเชิญมีนามบัตรอยู่ ด้านบนน่าจะมีเบอร์โทร”จงหยุนซางนึกถึงนามบัตรสวยหรูตอนได้รับบัตรเชิญ
เย่เชินหลินนั่งอยู่ที่ชั้นล่าง บทสนทนาของเซี่ยชีหรั่นทำให้เขาเริ่มจับตาดู ยัยตัวเล็กน่าจะต้องการนำของไปประมูล เพียงแต่เขาเหมือนจะไม่เห็นว่ายัยตัวเล็กพกของล้ำค่ากลับมาด้วย
“ขอโทษนะคะ ฉันขอตัวไปงานการกุศลก่อน”เซี่ยชีหรั่นวิ่งลงมาชั้นล่างด้วยความรวดเร็ว เธอกลัวพรุ่งนี้จะไม่ทัน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่รอไม่ได้
“ชีหรั่น ลูกเป็นอะไรไป?”จ้าวเหวินอิงเห็นเซี่ยชีหรั่นมีท่าทางเร่งรีบ ในใจเป็นกังวลว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า ดูเหมือนว่านี่เป็นเรื่องน่าวิตกจริงๆ
เซี่ยชีหรั่นเหลือบมองคนอื่นหนึ่งครั้งและวิ่งออกไป เมื่อมาถึงด้านนอกจึงจะนึกขึ้นได้ เธอออกมาแบบนี้หรือว่าจะต้องเรียกรถแท็กซี่?เซี่ยชีหรั่นนำที่อยู่ที่จงหยุนซางให้ออกมาดู เพื่อศึกษาว่าควรจะไปนั่งรถที่ไหน
“เสี่ยวอ้าย ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณ คุณเป็นผู้หญิงคนเดียวอยู่ข้างนอกไม่ปลอดภัย”สวีเห้าเซิงเดินมาตรงหน้าเซี่ยชีหรั่น ที่นี่คือตงเจียง ไม่ใช่หลินเจียง ถ้ารู้ก่อนหน้าว่าวันนี้ต้องการใช้รถ เมื่อวานน่าจะไปหาหลินเจี๋ยเพื่อขับรถมา มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ สวีเห้าเซิงรู้สึกเสียใจภายหลังก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา
“ขอบคุณค่ะ พี่สวี”เซี่ยชีหรั่นมองไม่เห็นเย่เชินหลิน ในใจรู้สึกผิดหวังไม่น้อย
เซี่ยชีหรั่นกับสวีเห้าเซิงเพิ่งจะเดินไปได้สองก้าว รถยนต์คันหนึ่งก็หยุดลงตรงหน้าพวกเขา
“ขึ้นรถ”
เซี่ยชีหรั่นยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปนั่งรถที่ไหน เย่เชินหลินก็ขับรถลิงคอล์นมาจอดด้านข้างเธอ
เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ทำตัวเสแสร้ง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเสแสร้ง ทำไมต้องจริงจังเกินไป เธอกับเย่เชินหลินถูกลิขิตให้เกี่ยวพันกัน เพียงแค่ไปส่งครั้งเดียวก็เท่านั้นเอง
“ขอบคุณค่ะ นี่คือที่อยู่”เซี่ยชีหรั่นยื่นนามบัตรให้เย่เชินหลินอย่างไม่เกรงใจ ถึงแม้ค่าตัวคุณชายเย่จะแพงสักหน่อย แต่เซี่ยชีหรั่นไม่มีทางจ่ายค่ารถให้เขาเด็ดขาด
เย่เชินหลินรับที่อยู่มาอย่างยอมรับชะตาชีวิต ใครทำให้ตอนนี้เขาต้องมาไล่ตามยัยตัวเล็ก หากในช่วงโปรโมชั่นทำได้ไม่ดี ยัยตัวเล็กหนีไปกับสวีเห้าเซิงจะทำอย่างไร?
มองเห็นสวีเห้าเซิงยังไม่ขึ้นรถ เซี่ยชีหรั่นเห็นท่าทางลังเลของเขา จึงคิดว่าสวีเห้าเซิงติดธุระไม่สามารถไปด้วยกันได้ เซี่ยชีหรั่นช่างโง่เขลาจริงๆ ในเมื่อสวีเห้าเซิงพูดว่าจะไปเป็นเพื่อนเธอเขาจะมีธุระได้อย่างไร
“พี่สวี ไม่งั้นพี่กลับไปรอก่อนเถอะ อีกสักพักพวกเราก็กลับมาแล้ว ไปไม่นานหรอก”เซี่ยชีหรั่นไม่ได้คิดเยอะ เพียงแค่เข้าใจอย่างใสซื่อว่าสวีเห้าเซิงกำลังลำบากใจหาจะต้องไปด้วย ในความเป็นจริงสวีเห้าเซิงอยากไปกับเธอ แต่เห็นเย่เชินหลินอยู่ด้วยเขาคิดไปคิดมาจึงถอยดีกว่า
“เสี่ยวอ้าย งั้นผมจะรอคุณกลับมา”
สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่นอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้เขาจะรู้ว่ากระจกรถที่กั้นเอาไว้ทำให้เซี่ยชีหรั่นมองไม่เห็นสายตาแห่งมิตรภาพของเขา แต่เขายังคงเปิดเผยมันออกมาโดยปริยาย
ใช่ เสี่ยวอ้าย ผมรอคุณกลับมาตลอด เพียงแค่กลัวคุณจะไม่หันกลับมามอง
ใบหน้าของเย่เชินหลินเย็นชา มองดูทั้งสองคนคุยกันอย่างเงียบๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีลับลมคมในต่อหน้าเขา เอาเขาที่เป็นแฟนแท้ๆไปเก็บไว้ที่ไหน?
เย่เชินหลินกลายเป็นคนขับรถ เพียงแต่เขาเป็นคนขับรถที่มีความสุข ในรถมีเพียงแค่เขากับยัยตัวเล็ก จากกระจกมองหลังสามารถมองเห็นเซี่ยชีหรั่น ได้มองเธอแบบนี้รู้สึกดีจริงๆ สามปีเป็นเวลาที่ยาวนาน เย่เชินหลินไม่รู้ว่าตัวเองผ่านความทุกข์ทรมานมาได้อย่างไร
ในไม่ช้า เย่เชินหลินก็พาเซี่ยชีหรั่นมาถึงสถานที่จัดงานการกุศลตามที่อยู่ที่ให้เอาไว้
“คุณต้องการมาที่นี่ทำไม?”
เย่เชินหลินจอดรถลงก่อนถึงจะเอ่ยถาม ยัยตัวเล็กดูเหมือนจะจิตใจดี เพียงแค่เขาสงสัยมากว่ายัยตัวเล็กจะให้ของอะไร
“ไม่ได้ทำอะไร คุณชายเย่ ไม่ทราบว่าคุณมาที่นี่ทำไมคะ?”
เซี่ยชีหรั่นถามอย่างอารมณ์เสีย เธอเพียงแค่ต้องการทำให้ดีที่สุด ไม่อยากให้ทุกคนรับรู้
“ยัยตัวเล็ก ผมมาส่งคุณ เป็นคนขับรถของคุณ คุณไม่ดีใจหรือไง?”
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นอย่างชั่วร้าย นั่งบนที่นั่งอย่างสง่างาม
“ขอบคุณค่ะ คุณชายเย่ค่าใช้จ่ายของคุณสูงเกินไป คนทั่วไปใช้ไม่ได้ ครั้งหน้าจะไม่ขอรบกวนคุณ”เซี่ยชีหรั่นกล่าวอย่างทีเล่นทีจริง คุณชายเย่คนนี้มาดเยอะ ใครจะสามารถขอเขาได้
“ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่เป็นคำขอจากคุณเซี่ยชีหรั่น ผมยินดีมาก ฟรี ไม่ต้องจ่ายค่ารถ”
เซี่ยชีหรั่นเปิดประตูรถด้วยรอยยิ้ม เธอยืนข้างประตูและกล่าวว่า:“คุณชายเย่เปลี่ยนอาชีพตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?ไม่เช่นนั้นฉันให้เงินค่าจ้างคนขับรถแก่คุณทุกเดือนดีไหม?ฟรีแบบนี้มันถูกเกินไป หรือว่าไม่ดี”
มองเซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปด้านใน เย่เชินหลินถึงจะลงจากรถ หยิบบุหรี่ออกมาสูบ สิ่งของที่ชีหรั่นพกมาด้วย ต้องเป็นของที่เธอชอบแน่นอน เขาอยากรู้ว่าของที่เธอให้คืออะไร ต้องการประมูลของชิ้นนั้นมา
“ต้าฮุย ฉันจะส่งที่อยู่ไปให้นาย นายรีบส่งคนเข้าไปทันที ไม่ว่าจะใช้วิธีการอะไรจะต้องรู้ให้ได้ว่าเซี่ยชีหรั่นให้มอบอะไรกับงานการกุศล”
เซี่ยชีหรั่นรู้จักหลินต้าฮุย เขาไม่อยากให้ทั้งสองคนเจอหน้ากัน เขาต้องการให้เซอร์ไพรส์
“ทราบแล้วครับคุณเย่”
ได้รับคำตอบยืนยันจากหลินต้าฮุย เย่เชินหลินถึงจะพ่นควันออกมาด้วยความพึงพอใจ
ไม่ไกลออกไป หลินเจี๋ยกับซือซือควงแขนกันเดินมา
มองเห็นเย่เชินหลิน หลินเจี๋ยมองไปที่ตัวอักษรขนาดใหญ่สองสามตัว เย่เชินหลินมาที่นี่ด้วยตนเอง คนแบบไหนที่สามารถทำให้เขามาด้วยตัวเอง?มองเห็นเขายืนอยู่ข้างรถแบบนั้น ดูเหมือนมีเพียงเซี่ยชีหรั่นที่เพิ่งจะปรากฏตัวในตงเจียง
ทันทีที่ซือซือมองเห็นเย่เชินหลิน ร่างกายก็แข็งทื่อไปเป็นนาที เธอจูงมือหลินเจี๋ยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามควบคุมความรู้สึกโมโหและเจ็บปวด เย่เชินหลิน มีเพียงเซี่ยชีหรั่นคนเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงเขาได้เสมอ
“พี่” หลินเจี๋ยหยิบมือถือออกมาดูสายเรียกเขาจากหลินหลิง คงไม่เป็นแบบที่เขาคิดใช่ไหม?เนื่องจากกลัวจะสร้างความยุ่งยาก จึงแอบหนีออกมา และพาซือซือมาด้วย แถมเขายังบล็อกเบอร์โทรของท่านปู่หลิน แต่หลินเจี๋ยลืมไปว่าหลินหลิงสามารถโทรหาเขาได้
“เสี่ยวเจี๋ย น้องอยู่ที่ไหน รีบกลับบ้านเร็ว”หลินหลิงมองเห็นท่าทางโมโหของท่านปู่หลิน เธอถอนหายใจออกมา เธอคิดเสมอว่ามีความสัมพันธ์ไม่ดีกับท่านปู่หลินแต่ในความเป็นจริงดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของน้องชายกับท่านปู่หลินถึงจะเป็นเรื่องแย่ หลินเจี๋ยอยู่ต่างประเทศตลอด ดังนั้นหลินหลิงเอาแต่มองข้ามที่น้องชายกล่าวโทษพ่อของเขามาตลอด
ท่านปู่หลินนั่งพิงเก้าอี้ ไอ้ลูกอกตัญญูคนนี้ มันน่าโมโหจริงๆ นึกถึงความผิดของเขาอีกครั้ง ความโกรธทั้งหมดของท่านปู่หลินก็อันตรธานหายไป
“คุณพ่อ ไม่ต้องกังวลค่ะ เสี่ยวเจี๋ยจะกลับมา”หลินหลิงถือโทรศัพท์ออกไปคุยเสียงเบา
หลินเจี๋ยได้ยินคำพูดของหลินหลิง ไม่ต้องกังวล หรือว่าที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น?พ่อลูกจะมีเรื่องระหองระแหงกันได้อย่างไร?ไม่นะ ถ้าที่บ้านเกิดเรื่องจริง หลินเจี๋ยไม่กล้าคิด และไม่หันไปมองซือซือสักนิดเดียว
ซือซือมองหลินเจี๋ยที่ทิ้งเธอไว้อย่างไม่อาลัยอาวรณ์ เธอยิ้มอย่างเย็นชา ไม่มีผู้ชายคนไหนดีสักคน เพียงแต่หลินเจี๋ยจากไปในจังหวะที่ให้โอกาสเธอพอดี เธอหวังว่าช่วงนี้หลินเจี๋ยจะไม่มาหาเธอ ซือซือถึงจะมีโอกาสคิดหาหนทางเรื่องที่เธอวางแผนไว้ล่วงหน้า
“ฉันอยากถามว่า สามารถใช้ผลงานศิลปะอันเจ็บปวดของเด็กสาว(บทประพันธ์ที่เขียนขึ้นชิ้นแรก)ของหมี่ลี่ประมูลได้ไหมคะ?ฉันไม่ได้พกของมาด้วย มีเพียงสิ่งนี้”เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถามด้วยความลำบากใจ:“แต่ว่าฉันจะให้ตัวแทนของฉันนำเงินที่รวบรวมมาจากการบริจาคให้พวกคุณ ฉันจะติดต่อเขาในภายหลัง”
มองเห็นเซี่ยชีหรั่นอธิบายอย่างกระตือรือร้น พนักงานไม่รู้จะตอบอย่างไร คนที่มาร่วมงานประมูลครั้งนี้แน่นอนว่าจะต้องมีเงิน หมี่ลี่นักออกแบบเครื่องประดับแฟชั่นชาวปารีสคนใหม่ถึงแม้จะไม่เคยปรากฏตัว แต่คนจีนจำนวนมากรู้จักผลงานของเธอ จนเธอสามารถจินตนาการได้ว่าจะมีรายได้เข้ามาเท่าไร!
“คุณเซี่ย ได้ค่ะ ได้แน่นอน”พนักงานตอบด้วยความเคารพ เธอหยิบแบบฟอร์มมาให้เซี่ยชีหรั่นลงทะเบียน
“ไม่ต้องค่ะ ฉันแค่อยากทำให้ดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ”
ใช่ เธอเพียงแค่อยากช่วยคนอื่นให้มาก เพราะความเมตตาเหล่านี้ของเซี่ยชีหรั่น ต่อมาผู้คนมากมายที่ได้รับความช่วยเหลือจากเธอมาช่วยเธอที่บริษัท ทำให้บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นของเซี่ยชีหรั่นพัฒนาในประเทศจีนได้ดียิ่งขึ้น และทำให้เธออยู่ในอันดับแรกของการจัดอันดับทรัพย์สิน กลายเป็นผู้หญิงแกร่งมีชื่อเสียงสมจริงดังคำเล่าลือ
“ขอโทษค่ะ คุณเซี่ย นี่คือขั้นตอนที่สำคัญ หากคุณไม่เขียน รายได้ตรงส่วนนี้ไม่รู้ว่าจะใส่เป็นชื่อของใคร”พนักงานอธิบายด้วยรอยยิ้มบางๆ เป็นรอยยิ้มที่ดีเสมอ
เซี่ยชีหรั่นมองพนักงานสาวอายุยี่สิบปีตรงหน้า:“สามารถเรียกหัวหน้าของพวกคุณออกมาได้ไหม ฉันต้องการชี้แจง”
“ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ”พนักงานถอยหลังออกไปอย่างสุภาพ เธอไม่เข้าใจว่าตอนนี้ต่างต้องการมีชื่อเสียงกันมิใช่หรือ?คุณเซี่ยคนนี้ทำไมถึงไม่ต้องการให้จดชื่อลงไป?หรือว่าคือเหลยเฟิงจริงๆ?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset