สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1077 สาวใช้ตัวแสบ 981

ตอนที่ 1077 สาวใช้ตัวแสบ 981
หลังจากหลินเจี๋ยฟังจบก็หัวเราะยกใหญ่ สวีเห้าเซิงถูกหัวเราะอย่างงุนงง เขาพูดผิดตรงไหนหรือ?
“เห้าเซิงนายคือคนจีน มาถึงนิวยอร์กช้ากว่าฉันอยู่หลายวัน มันจะไม่วางตัวผิดไปหน่อยหรือไง?” หลินเจี๋ยมองสวีเห้าเซิงอย่างเสียดสี เชิดหน้าขึ้น พูดชี้แนะอย่างจริงใจ
“นายก็มีเหตุผล เอาล่ะ เข้ามาเถอะ!” สวีเห้าเซิงดูแลหลินเจี๋ยมาตลอด ช่วยหลินเจี๋ยหางานทำ
ในเวลานี้คนสองคนที่มีบุคลิกแตกต่างกันมากกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน และไม่ใช่เพื่อนสนิทแบบทั่วไป สวีเห้าเซิงคือคนที่ช่วยเหลือหลินเจี๋ยในตอนที่ยากลำบากที่สุด
“นายยังคงจำได้” สวีเห้าเซิงมองหลินเจี๋ยอย่างช่วยไม่ได้
“วางใจเถอะเห้าเซิง ในเมื่อนายอยากเห็นเซี่ยชีหรั่นไป ฉันจะช่วยเอง แต่นายต้องคิดให้ดีนะ เซี่ยชีหรั่นมีลูกของเย่เชินหลิน ฉันตรวจสอบอดีตของพวกเขา เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก เพียงแต่สามปีที่แล้วไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรจึงทำให้เย่เชินหลินเปลี่ยนความคิดเริ่มต้นของเขา กลับกลายเป็นอยากแต่งงานกับน้องสาวของเซี่ยชีหรั่น แต่เย่เชินหลินเป็นโสดมาตลอด เพราะน้องสาวของเซี่ยชีหรั่นออกไปจากงานแต่ง”
หลินเจี๋ยเล่าเรื่องทั้งหมดที่เขารู้ แต่เรื่องที่เขารู้มันธรรมดามาก ทำให้หลินเจี๋ยรู้เพียงแค่เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก เรื่องอื่นยังคงคลุมเครือมาก
สวีเห้าเซิงไม่เคยถามเรื่องของเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลิน สวีเห้าเซิงเพิกเฉยต่อสิ่งนี้โดยไปโดยปริยายมาตลอด จมอยู่กับความเพ้อฝัน หวังว่าสักวันคนที่อยู่ในใจของเซี่ยชีหรั่นจะบินจากไป ส่วนโลกของเซี่ยชีหรั่นจะมีแค่สวีเห้าเซิงสามคำนี้
“กลับก่อนไหม?ตอนนี้งานจบแล้ว” หลินเจี๋ยมองเห็นพิธีกรถือไมโครโฟนลงจากเวที ส่วนคนอื่นก็กำลังทยอยออกไป
“ไปบ้านนายหรือ?”สวีเห้าเซิงหัวเราะเยาะตัวเอง เสี่ยวอ้ายยังไม่กลับมา เขาอยากคุยกับเธอสักสองสามคำ ไม่รู้ว่าเย่เชินหลินวางแผนไว้หรือเปล่า ทำให้เสี่ยวอ้ายออกไปกลางคัน ถึงแม้ผู้ชายที่ชื่นชอบเสี่ยวอ้ายก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสเธอ
“ไปเถอะ”
จู่ๆสวีเห้าเซิงก็อยากเมาขึ้นมา
หลินเจี๋ยมองเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง เซี่ยชีหรั่นเธอสามารถทรมานเห้าเซิงแบบนี้ได้อย่างไร?เห้าเซิงมีตรงไหนที่เทียบกับเย่เชินหลินไม่ได้ ส่วนเธอมีตรงไหนที่เหมาะสมกับเห้าเซิง?
หลินเจี๋ยรู้สึกโกรธอยู่บ้าง เขาโกรธเซี่ยชีหรั่น
สวีเห้าเซิงกับหลินเจี๋ยกลับมาถึงบ้านของหลินเจี๋ย ส่วนซือซืออาศัยอยู่คนเดียวในคฤหาสน์ พูดให้ดูดีคือหลินเจี๋ยส่งเธอไปพัก แต่พูดแบบไม่ดูดีคือ แต่ไหนแต่ไรหลินเจี๋ยไม่อยากให้ซือซือเข้ามาในบ้านของเขา
“หลินเจี๋ย ไม่ได้เมานานแล้ว วันนี้พวกเราเมากันให้สุดๆไปเลยดีไหม?”
น้ำเสียงที่เย็นชาของสวีเห้าเซิงทำให้หลินเจี๋ยยิ่งเป็นห่วงเห้าเซิงก่อนหน้านี้พูดจาเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่ไหนแต่ไรไม่เคยทำให้คนปวดใจเช่นนี้
“ได้ ไม่เมาไม่เลิก”
หลินเจี๋ยไม่สามารถช่วยสวีเห้าเซิงแบกรับอาการรักคุดได้ แต่เขาสามารถเมาเป็นเพื่อนเขาได้
ทั้งสองคนดื่มกันไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่าเหล้าจะทำร้ายร่างกายมากแค่ไหน หลังจากดื่มเหล้าไปสามรอบ สวีเห้าเซิงถามด้วยความมึนเมา:“เสี่ยวอ้าย คุณบอกมาสิ ผมต้องทำอย่างไรถึงจะพาคุณกลับไปฝรั่งเศสได้?”
มองเห็นการไปมาหาสู่ของเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ถึงแม้สวีเห้าเซิงจะไม่พูดอะไร แต่ในใจรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนเซี่ยชีหรั่นจะไม่เคยลืมเย่เชินหลิน วันนี้เซี่ยชีหรั่นอารมณ์ไม่ดี เขาก็มองออก ในสายตาของสวีเห้าเซิง มีแค่เพียงเซี่ยชีหรั่นคนเดียว
เสี่ยวอ้ายอิจฉาเพราะผู้หญิงคนนั้นที่หน้าตาเหมือนเธอ เสี่ยวอ้าย ผมต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถให้คุณแบ่งความรักที่มีต่อเย่เชินหลินมาให้ผมบ้าง แค่เพียงเสี้ยวเดียวก็เพียงพอแล้ว
“นายจะกลับฝรั่งเศส?”หลินเจี๋ยก็เมาเล็กน้อย เขาไม่ได้ดื่มเยอะเท่าสวีเห้าเซิง
“ยิ่งเสี่ยวอ้ายอยู่ในประเทศจีนนานเท่าไหร่ ถ่านไฟเก่าของเธอกับเย่เชินหลินจะยิ่งร้อนขึ้นมาเท่านั้น ฉันไม่อยากเป็นสุภาพบุรุษ ฉันเพียงอยากทำตามใจตัวเองสักครั้ง เพราะคนนั้นคือเสี่ยวอ้าย”การแสดงออกบนใบหน้าของสวีเห้าเซิงไม่สามารถพูดได้ว่าเจ็บปวดใจ เพราะดูคล้ายกำลังยิ้ม และยังผสมกับความโศกเศร้าที่ผู้คนไม่สามารถเข้าใจได้
หลินเจี๋ยยกแก้วเหล้าขึ้นมา เขาไม่เข้าใจว่ารักคืออะไร ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ เพียงแต่ไม่อยากจะเข้าใจ หลินเจี๋ยขี้ขลาดในเรื่องความรัก เขาไม่กล้ารักใครสักคน กลัวจะต้องพบกับความเจ็บปวด
“เห้าเซิง ในเมื่อเซี่ยชีหรั่นไม่ได้รักนาย ทำไมนายไม่ปล่อยเธอไป”หลินเจี๋ยไม่อยากเห็นสวีเห้าเซิงเจ็บปวดทรมาน เขาเป็นห่วง
“แค่พูดมันง่ายมาก แต่ฉันทำไม่ได้ เธอคือความรักที่ฉันลืมไม่ลงในชีวิตนี้ คนอื่นแค่ผ่านเข้ามา ถ้าหากต้องแต่งงานกับคนอื่น เป็นเพียงเพราะเหตุผลภายนอก ไม่เกี่ยวกับความรัก”
สวีเห้าเซิงนึกถึงพ่อแม่ที่ยังอยู่ในประเทศอเมริกา เขาเป็นลูกชายคนเดียว หากไม่แต่งงาน พ่อต้องไม่ยอมแน่นอน ถ้าต้องแต่งกับคนอื่นล่ะ?ตอนนี้สวีเห้าเซิงไม่อาจทำได้
หลินเจี๋ยมองสวีเห้าเซิงด้วยความเห็นใจ มองเห็นเพื่อนรักเป็นทุกข์ เขาทำอะไรไม่ถูก
“เห้าเซิง ฉันจะโทรไปหาเซี่ยชีหรั่น”
หลินเจี๋ยไม่อยากเห็นเพื่อนรักเศร้าโศกเสียใจ
สวีเห้าเซิงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่ได้ห้ามหลินเจี๋ย อาจเพราะอยากเจอเสี่ยวอ้าย หรืออาจเพราะเขาก็อยากคุยกับเสี่ยวอ้าย
“เซี่ยชีหรั่น?”หลินเจี๋ยใช้โทรศัพท์มือถือของสวีเห้าเซิงกดโทรออกหาเซี่ยชีหรั่น ตอนนี้ใช้มือถือของเขาโทรหาเธอ หลินเจี๋ยไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะรับสายหรือเปล่า
“คุณไม่ใช่พี่สวี คุณคือใครคะ?”
สัญญาณไร้สายที่ขวางกั้นไว้ ในตอนนี้เซี่ยชีหรั่นฟังไม่ออกว่าปลายสายคือใคร:“พี่สวีเป็นอย่างไรบ้างคะ”
ความห่วงใยของเซี่ยชีหรั่นมาจากใจจริง ในฐานะเพื่อนเธอเป็นห่วงสวีเห้าเซิงจริงๆ นึกถึงเขาที่ดูแลเธออย่างเอาใจใส่ ไม่ว่าอย่างไร เซี่ยชีหรั่นต้องตอบแทนบุญคุณ
“คิดไม่ถึงว่าคุณจะห่วงใยเขา ผมคิดว่าคุณไม่เคยจำเห้าเซิงได้” หลินเจี๋ยกล่าวด้วยความโกรธเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะฟังไม่ออกว่าเขาคือใคร นอกจากนี้สวีเห้าเซิงยังเสียใจมาก แต่ไม่แน่เซี่ยชีหรั่นอาจจะมีความสุขอยู่ที่นั่น
“คุณคือใคร พี่สวีอยู่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า?”
เซี่ยชีหรั่นยิ่งคำถามไม่หยุดไม่หย่อน จ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง หวังว่าคนจากปลายสายจะเล่าให้เธอฟัง ถ้าหากพี่สวีเกิดเรื่องที่ตงเจียง
ไม่ได้ เธอไม่ยอมให้พี่สวีเป็นอะไรไป
หลินเจี๋ยเหลือบมองสวีเห้าเซิงอย่างประหลาดใจ เซี่ยชีหรั่นไม่จำเป็นต้องห่วงใยเขา
“นายมองอะไร?”สวีเห้าเซิงมองหลินเจี๋ยอย่างเลือนราง ไม่เข้าใจสายตาหยอกล้อของเขา เขามักจะเป็นแบบนี้ หลินเจี๋ยหมอนี้ยังคงมีสายตาแบบนี้
หลินเจี๋ยส่งโทรศัพท์มือถือให้สวีเห้าเซิง เพื่อให้เขาฟังด้วยตัวเอง
“คุณรีบบอกฉันมานะ พี่สวีเป็นอย่างไรบ้าง?”
ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเต็มไปด้วยความเป็นห่วง สวีเห้าเซิงสร่างเมาไปครึ่งหนึ่ง เขาฟังอย่างเงียบๆว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นห่วงเขา การเป็นคนที่ถูกห่วงใยทำให้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุข
“พูดอะไรหน่อยสิ?”
ฟังเสียงของเซี่ยชีหรั่นกระวนกระวายยิ่งขึ้น สวีเห้าเซิงทนไม่ได้ที่จะทำให้เธอเป็นห่วง
“เสี่ยวอ้าย ผมไม่เป็นอะไร”
เพียงแค่ทำให้เธอร้อนใจเขาก็ทำไม่ลง
เซี่ยชีหรั่นตบหัวใจที่เต้นอย่างแรง ตกใจแทบแย่
“พี่สวี คุณไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม?คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณนะ”
“เสี่ยวอ้ายงานครั้งนี้ต้องการให้ไปหาเด็กเหล่านั้น คุณจะไปไหม?”
เซี่ยชีหรั่นไม่อยากไป หากเธอพาเนี่ยนโม่ไปก็ไม่วางใจ ไม่พาไปก็ไม่วางใจ
“พี่สวีอยากไปไหมคะ?”
สวีเห้าเซิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ทำให้เขาเห็นแก่ตัวสักครั้งเถอะ
“เสี่ยวอ้าย ถ้าคุณไปผมก็ไป”
หลินเจี๋ยมองดูท่าทางของสวีเห้าเซิง ลืมไปเถอะการเป็นคนไม่ดีให้เพื่อนคนนี้ทำให้เถอะ ถ้ารอให้สวีเห้าเซิงพูด ทั้งชีวิตนี้อาจจะไม่ได้ฟัง
“คุณเซี่ย เห้าเซิงเขาอยากให้คุณไป เขาอยากไปแต่ไม่มีคนไปเป็นเพื่อน ที่นี่มีเพียงคุณที่คุ้นเคยกับเขาที่สุด เขาดูแลคุณมานานเช่นนี้ คุณลองคิดดูแล้วกันนะ”หลินเจี๋ยกล่าวจบก็วางสายทันที
“นายวางสายทำไม แบบนี้จะไม่ทำให้เสี่ยวอ้ายยิ่งไม่ไปหรือไง?”สวีเห้าเซิงมองหลินเจี๋ยอย่างไม่ค่อยเข้าใจ
หลินเจี๋ยส่ายหน้า เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม:“นายอยากให้เธอไปหรือเปล่า?”
“อยาก”
“แค่นั้นแหละ แบบนี้เซี่ยชีหรั่นก็ไปแล้ว ไม่ตรงกับความต้องการของนายหรือไง?”
ชายหญิงที่ตกอยู่ในห้วงความรักมีไอคิวเป็นศูนย์ เขายังไม่ตกหลุมรัก เล่นเปียโนโดยปราศจากความรัก ในอภัยแต่ไม่สนใจ เพียงแต่หลินเจี๋ยไม่คิดว่าสักวันเขาก็จะเป็นเหมือนกับสวีเห้าเซิง ไม่สามารถรักได้ ทนอยู่ต่อไปไม่ไหว
“แต่แบบนี้เสี่ยวอ้ายจะไม่ลำบากใจหรือ?”
“งั้นนายอยากให้เสี่ยวอ้ายของนายเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินอยู่ด้วยกันทั้งวันไหม?”
สมองทึ่มทื่อจริงๆ เพื่อความรักจะใช้อุบายสักเล็กน้อยก็ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเห้าเซิงกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร
ภายใต้การล้างสมองจากหลินเจี๋ย สวีเห้าเซิงก็หลับไปอย่างสบายใจ แต่เซี่ยชีหรั่นยังคงคิดว่าจะไปหรือไม่ไปดี
“ไป?หรือว่าไม่ไป?”
เซี่ยชีหรั่นลังเลอยู่นาน จิ่วจิ่วก็พังประตูเข้ามา ทำให้การลังเลของเธอจบลง
“ชีหรั่น เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมใจลอยแบบนี้?”
“จิ่วจิ่ว เธอมาได้อย่างไร ?”เซี่ยชีหรั่นมองเห็นจิ่วจิ่วมีท่าทางรีบร้อน ไม่เข้าใจว่าดึกขนาดนี้ เธอไม่พักผ่อนแต่กลับวิ่งมาที่นี่เพื่ออะไร?พรุ่งนี้ค่อยคุยธุระก็ได้นะ
มองเห็นเซี่ยชีหรั่นมีท่าทางงุนงง จิ่วจิ่วยิ้ม
“ชีหรั่น ได้ยินมาว่าพวกเธอจะตามไปพื้นที่ยากไร้กับงานการกุศลหรือ?”
ดวงตาของจิ่วจิ่วส่องแสงประกาย เซี่ยชีหรั่นพอจะเดาออกว่าเป็นเรื่องอะไร
“เธออยากไปหรือ?”
ไม่ใช่ว่าเซี่ยชีหรั่นฉลาด แต่เพราะแววตาของจิ่วจิ่วปรากฏให้เห็น ขาดเพียงแค่ไม่ได้ประกาศออกมาเป็นตัวหนังสือว่าอยากไป
“ชีหรั่น ไปด้วยกันเถอะ พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้ว คิดถึงช่วงเวลาแต่ก่อน”
จิ่วจิ่วแอบสังเกตเซี่ยชีหรั่น อยากรู้ว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร คุณเย่บอกว่า ถ้าเซี่ยชีหรั่นไม่ได้พิจารณาว่าจะไปหรือไม่ไป ตราบใดที่เธอพูดแบบนี้ ชีหรั่นจะตอบตกลงแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ทำไมเซี่ยชีหรั่นยังไม่มีการตอบสนองใดๆ หรือว่าคุณเย่จะพูดผิด?
หลังจากคำพูดของจิ่วจิ่ว เซี่ยชีหรั่นนึกถึงสมัยก่อนที่พวกเขาสามคนอยู่ด้วยกัน นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว กลับมีความทรงจำที่สวยงามเหลือไว้ในหัวใจเสมอ
“ได้ รอได้รับบัตรเชิญก็จะไป”
“ดีจังเลย งั้นเธอพักผ่อนเถอะ ฉันไม่รบกวนแล้ว”จิ่วจิ่วมองเห็นว่าดึกแล้วจึงกลับไป ก่อนออกไปเธอยังปิดประตูอย่างสนิทและกำชับให้เซี่ยชีหรั่นพักผ่อนเยอะๆ
จนเมื่อด้านหลังของจิ่วจิ่วหายไป เซี่ยชีหรั่นถึงจะส่งข้อความหาสวีเห้าเซิง
จิ่วจิ่วเดินออกมาได้ไม่ไกลก็มองเห็นเย่เชินหลินยืนอยู่ใต้แสงไฟ ใบหน้ายังคงสงบนิ่งเช่นเคย ความลุกลี้ลุกลนในแววตาทำให้จิ่วจิ่วแทบไม่อยากจะเชื่อ แท้จริงแล้วคุณเย่คือคนที่อยากให้ชีหรั่นไปที่สุด ดังนั้นทำให้เธอต้องมาชักชวนเพราะช่วงนี้ความสัมพันธ์ของชีหรั่นกับคุณเย่ไม่ค่อยปรองดองกันอย่างมาก เขากลัวว่าเซี่ยชีหรั่นจะปฏิเสธ คุณเย่ก็มีวันแบบนี้ นึกถึงเรื่องที่เขาทำเมื่อก่อน จิ่วจิ่วอดหัวเราะไม่ได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset