สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1085 สาวใช้ตัวแสบ 989

ตอนที่ 1085 สาวใช้ตัวแสบ 989
ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ได้มาถึงที่หมาย
“ทุกท่านครับ ที่นี่ไม่เหมือนในตัวเมือง ไม่มีเกสต์เฮาส์ให้เราพักได้ ดังนั้นพวกเราจึงต้องอาศัยกับชาวบ้านที่นี่” ผู้นำองค์กรมูลนิธิกล่าวขอโทษ
ซือซือขมวดคิ้ว ให้พักกับชาวบ้านที่นี่ ระหว่างทางไม่มีอะไรเลย เห็นชาวบ้านเหล่านั้นก็รู้ว่าพวกเขายากจนมากแค่ไหน เธอเป็นถึงลูกคุณหนูนะ จะให้เธอทนทรมานแบบนี้ได้ไง ต่อให้ลำบากแค่ไหนเธอก็ไม่เคยใช้ชีวิตในสถานที่ร้างแบบนี้มาก่อน
สีหน้าของหลินเจี๋ยและสวีเห้าเซิงก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ สวีเห้าเซิงได้แต่มองหาเซี่ยชีหรั่น
“ไม่ทราบว่าพวกคุณเห็นคุณผู้หญิงที่ชื่อเซี่ยชีหรั่นไหมครับ?”
สวีเห้าเซิงถามผู้นำทีม เขาอยากรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นพักอยู่ที่ไหน จะได้ไปหาเธอสะดวก เพราะที่นี่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยดี จึงติดต่อใครไม่ได้
“พวกเขาอยู่บ้านหลังถัดไปครับ”
สวีเห้าเซิงดีใจที่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นพักอยู่ไม่ไกลจากเขา
เมื่อซือซือเห็นสีหน้าที่มีความสุขของสวีเห้าเซิง เธอจึงคิดในใจ เย่เชินหลินถ้าคุณจะชอบเซี่ยชีหรั่นขนาดนี้และถ้าฉันไม่ได้เป็นเจ้าของคุณ คุณก็อย่างหวังจะได้อยู่กับเธอ
แต่ซือซือไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมอีกต่อไป ทุกเรื่องที่จะทำเธอต้องวางแผนให้รอบคอบก่อน แผนการเล็ก ๆ แบบนี้ก็คงทำให้เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นทะเลาะกันเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อไหร่ที่เธอคิดจะเอาจริงล่ะก็ เซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลิน แล้วพวกคุณจะเสียใจภายหลังเอง
เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินไม่รู้ว่าตัวเองกำลังถูกคนอื่นจ้องเล่นงานเสียแล้ว
“ไม่ทราบว่าที่นี่มีหมอไหมคะ? พอดีหนูข้อเท้าบิดค่ะ” เซี่ยชีหรั่นถามเจ้าของบ้านที่เธอพักอาศัยอยู่ เพราะขาของเธอได้รับบาดเจ็บและตอนนี้เคลื่อนไหวไม่สะดวก จึงเป็นปัญหาหลักของเธอ ณ ตอนนี้
ครอบครัวนี้เรียบง่ายมาก เมื่อได้ยินว่าเซี่ยชีหรั่นข้อเท้าแพลงทุกคนก็พากันไถ่ถามเธอด้วยความเป็นห่วง แล้วยังต้องการให้เย่เชินหลินพาเซี่ยชีหรั่นไปรักษากับพวกเขาด้วย
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกประทับใจกับประเพณีพื้นบ้านที่เรียบง่ายแบบนี้
สวีเห้าเซิงกำลังจะไปตามหาเซี่ยชีหรั่น หลินเจี๋ยเห็นว่าซือซือน่าจะเดินต่อไม่ไหวแล้ว เขาจึงพาเธอหาที่นั่งพักก่อน สวีเห้าเซิงยิ้มพูดกับตัวเองว่าเขาต้องหาเซี่ยชีหรั่นพบด้วยตัวคนเดียว เพราะเขามั่นใจว่าเขาไม่ใช้คนไร้เซ้นส์เรื่องทิศทาง
เมื่อคิดถึงคนไม่มีเซ้นส์เรื่องทิศทางแล้ว สวีเห้าเซิงก็นึกถึงเซี่ยชีหรั่นกับเขาในกรุงปารีสก่อนหน้านี้ ในเวลานั้นเซี่ยชีหรั่นจำถนนในกรุงปารีสไม่ได้ ทุกครั้งที่เธอเดินหลงทางสวีเห้าเซิงจะให้เธอเดินไปยืนรออยู่ใต้หน้าจอโฆษณาเพื่อเขาจะได้หาเซี่ยชีหรั่นพบ
“ผมมาหาเซี่ยชีหรั่นครับ”
สวีเห้าเซิงพูดอย่างสภาพ เสี่ยวอ้าย เราพักอยู่ใกล้ ๆ กัน แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือการ์ดเชิญของเซี่ยชีหรั่นอยู่ที่เย่เชินหลิน ดังนั้นเจ้าภาพจึงคิดว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน จึงให้เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นอยู่ในบ้านหลังเดียว สวีเห้าเซิงและหลินเจี๋ยมาด้วยกัน พวกเขาจึงถูกจัดให้อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ส่วนซือซือที่มาทีหลังก็ได้อยู่กับหลินเจี๋ย
“คุณกำลังพูดถึงผู้หญิงผมยาวใช่ไหมคะ เธอบาดเจ็บที่ข้อเท้า ตอนนี้พาไปรักษาแล้วค่ะ” เจ้าบ้านหลังนี้นามสกุลเฉิน ชื่อว่าเฉินเหา ส่วนคนที่ตอบคำถามสวีเห้าเซิงคือหวงหยู่ภรรยาของเฉินเหา
“อาการเธอสาหัสไหมครับ?” เมื่อสวีเห้าเซิงได้ยินว่าเซี่ยชีหรั่นถูกพาไปรักษา หัวใจของเขาก็เกือบจะทะลักออกมาจากอก ที่แท้เสี่ยวอ้ายยอมให้เย่เชินหลินแบกก็เพราะว่าเธอบาดเจ็บนี่เอง
“ไม่ได้สาหัสมากหรอกค่ะ แค่ข้อเท้าแพลงหน่อย แต่พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาที่น่ารักน่าอิจฉามากเลยนะคะ”
คำพูดของหวงหยู่ทำให้สวีเห้าเซิงรู้สึกโล่งอก แต่คำพูดสุดท้ายของเธอทำให้เขารู้สึกเจ็บใจ สำหรับคนนอกแล้วเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นดูเหมือนเป็นคู่สามีภรรยากันจริงหรือ?
“พวกเขาไม่ใช่สามีภรรยากันครับ” สวีเห้าเซิงพูดอย่างไม่ลังเล เพราะเย่เชินหลินกับเสี่ยวอ้ายไม่ใช่สามีภรรยากันจริง ๆ
“ว่าไงนะ?” แม้หวงหยู่จะเป็นคนบ้านนอก แต่ได้ยินคำพูดของสวีเห้าเซิงเธอก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน ต่อมาเธอก็ยิ้มพูดต่อ “ถึงแม้ยังไม่ใช่สามีภรรยากันแต่ก็คงใกล้แล้วล่ะ ช่างเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ เป็นคู่รักที่เหมาะสมกันจริง ๆ”
สวีเห้าเซิงทนฟันคำชื่นชมของหวงหยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว เขายกเท้าขึ้นแล้วเดินจากไปทันทีโดยที่ไม่สนใจเสียงเรียกของหวงหยู่จากด้านหลัง
หลินเจี๋ยมองเพื่อนรักได้แต่ก้มหน้าก้มตาด้วยสีหน้าอันหดหู่แล้ว เกิดอะไรขึ้นกับเซี่ยชีหรั่นใช่ไหม? ไม่สิ ถ้าเกิดเรื่องกับเธอจริง ๆ เห้าเซิงจะกลับมาได้ไง
“เห้าเซิง?”
เมื่อเห็นดวงตาที่ห่วงใยของหลินเจี๋ยแล้ว สวีเห้าเซิงได้แต่ยิ้มส่ายหัวอย่างขมขื่น“ผมไม่เป็นไร”
ดูจากสภาพแล้วหลินเจี๋ยไม่เชื่อว่าเขาไม่เป็นไรจริง ๆ ถ้าไม่ยอมพูด เขาคงต้องไปถามเองแล้ว
สวีเห้าเซิงเห็นหลินเจี๋ยเดินออกไปก็รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่สวีเห้าเซิงไม่ได้ห้ามเขาไว้ บางทีเขาก็ไม่อยากให้เย่เชินหลินอยู่กับเซี่ยชีหรั่นสองต่อสองเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้หลินเจี๋ยไปหาเซี่ยชีหรั่น
หลังจากหลินเจี๋ยได้ฟังคำพูดจากหวงหยู่ก็รู้ว่าทำไมสีหน้าของสวีเห้าเซิงถึงดูแย่ขนาดนี้ เมื่อรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นได้รับบาดเจ็บแล้ว หลินเจี๋ยจึงถามตำแหน่งที่เซี่ยชีหรั่นอยู่เพื่อไปหาเธอ ในใจลึก ๆ เขาก็เป็นห่วงเซี่ยชีหรั่นเหมือนกัน
เย่เชินหลินไม่ได้อยู่กับเซี่ยชีหรั่นในขณะที่หลินเจี๋ยไปหาเธอ
“ผมมาหาเซี่ยชีหรั่นครับ” หลินเจี๋ยพูดอย่างมีมารยาท บ้านหลังนี้คือที่พักของเซี่ยชีหรั่นซึ่งห่างจากที่พักของพวกเขาออกไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
“คุณเซี่ยอยู่ด้านในครับ คุณเข้าไปก็จะเห็นครับ” เจ้าบ้านได้ยินว่าเขากำลังตามหาเซี่ยชีหรั่น จึงนึกได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในบ้านเขาชื่อเซี่ยชีหรั่น เสี่ยวเฉินเคยบอกให้พวกเขาแล้วว่าให้เรียกเธอคุณเซี่ย โดยบอกว่าเธอเป็นผู้ที่บริจาคเงินมากที่สุด
หลินเจี๋ยพยักหน้าขอบคุณแล้วเดินเข้าไปข้างใน เขาสามารถมองเห็นเซี่ยชีหรั่นจากที่ไกลได้ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายด้วยสีหน้ามีความสุข ซึ่งเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีความสุขได้ในขณะที่ได้รับบาดเจ็บอยู่
“เซี่ยชีหรั่น เขาบอกว่าคุณได้รับบาดเจ็บ แล้วเป็นไงบ้าง”
หลินเจี๋ยถามห้วน ๆ เขาโกรธที่เซี่ยชีหรั่นได้รับบาดเจ็บแต่ไม่บอกอะไรสักคำแล้วมารักษาอยู่เงียบ ๆ แบบนี้ หลินเจี๋ยมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นเย่เชินหลินอยู่ด้วย
“เย่เชินหลินไปไหนแล้ว?”
หลินเจี๋ยถามด้วยความโกรธ เย่เชินหลินนายชอบเซี่ยชีหรั่นมากไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมนายไม่อยู่ในตอนที่เธอบาดเจ็บ
“เขาไปช่วยหาสมุนไพร ที่นี่ไม่มียารักษาเหมือนอยู่ในเมือง สภาพทางการแพทย์ก็ไม่ดีนัก” เซี่ยชีหรั่นพยายามอธิบายแทนเย่เชินหลิน
หลินเจี๋ยทำเสียงดูถูก เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นต้องปกป้องเย่เชินหลินแน่
“ถ้าขาคุณยังไม่ดีขึ้น คุณอาจจะต้องอยู่ที่นี่ไปก่อนสักพัก”
เซี่ยชีหรั่นฟังอย่างไรก็รู้สึกว่าหลินเจี๋ยกำลังสมน้ำหน้าเธออยู่ เธอมองหลินเจี๋ยด้วยความสงสัย พวกเขามีเรื่องกันหรือ? แต่เซี่ยชีหรั่นก็เพิ่งกลับมานะ อีกอย่างก็เพิ่งรู้จักคุณชายหลินด้วย แล้วความเกลียดชังนี้มาจากไหนกันแน่?
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวสักพักเย่เชินหลินกับคุณลุงคนนั้นก็คงเอายากลับมาแล้วล่ะ” เซี่ยชีหรั่นปลอบใจตัวเอง ใช่ เธอเชื่อว่าอีกไม่นานเย่เชินหลินก็จะกลับมา
เซี่ยชีหรั่นไม่พูดจะดีกว่า แต่เมื่อเธอพูดขึ้นมาก็ยิ่งทำให้หลินเจี๋ยโกรธมากกว่าเดิม สรุปว่าเซี่ยชีหรั่นคนนี้ยังมีพี่สวีอยู่ในใจหรือไม่ เธอเอ่ยปากพูดทีไรก็มีแต่ชื่อเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นสังเกตว่าหลินเจี๋ยกำลังตัวสั่น เธอมองไปที่หลินเจี๋ยอย่างสงสัย แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่เป็นไร เซี่ยชีหรั่นจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก
“คุณเชื่อในตัวของเย่เชินหลินขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หลินเจี๋ยถามอย่างขมขื่น คนไม่รู้อาจจะคิดว่าเขากำลังหึงหวงอยู่ แต่เซี่ยชีหรั่นคิดว่าหลินเจี๋ยไม่เป็นอย่างนั้น เธอจึงยิ้มพูด “ใช่ ฉันเชื่อใจตัวเขา”
หลินเจี๋ยได้แต่จ้องหน้าเซี่ยชีหรั่นและไม่รู้จะพูดยังไงต่อ
“คุณชายหลิน ทำไมคุณถึงตัวสั่นตลอด?” เซี่ยชีหรั่นถามอย่างสงสัย เมื่อกี้คิดว่าตัวเองตาลาย แต่ตอนนี้มันชัดเจนมากขึ้น
หลินเจี๋ยมองไปที่เซี่ยชีหรั่น “ผมสั่นตรงไหน?”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าเก้าอี้หวายที่เธอนั่งอยู่ก็กำลังขยับ เธอจึงนึกถึงข่าวการพยากรณ์แผ่นดินไหว ทันใดนั้นใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นก็ซีดลงทันที
“หลินเจี๋ย คุณรีบไป รีบไปพาพี่สวีออกจากบ้าน นี่มันแผ่นดินไหว” หลังจากเซี่ยชีหรั่นพูดจบ เสาด้านหลังของหลินเจี๋ยก็ล้มลงทันที
เซี่ยชีหรั่นไม่มีเวลาคิดอะไรมากมาย เธอรีบดึงหลินเจี๋ยมา
แผ่นดินไหวมาเร็วเกินไป
ยังไม่ทันพูดจบ บ้านเรือนก็พังยับเยิน
หลินเจี๋ยตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่ารอบ ๆ เขามืดไปหมด เขาพยายามขยับตัวก็รู้สึกว่ามีความเจ็บปวดส่งมาจากเท้าของเขา ช่างโชคร้ายจริง ๆ ดูเหมือนว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่ขา
“เซี่ยชีหรั่น?”
หลินเจี๋ยตะโกนร้อง ไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะเป็นยังไงบ้าง เขาจำได้ว่าเซี่ยชีหรั่นดึงเขาไป แต่เหมือนเขาถูกอะไรกระแทกเข้าจนทำให้สลบไป
“หลินเจี๋ย คุณโอเคไหม?” เสียงที่อ่อนแรงของเซี่ยชีหรั่นดังขึ้นไม่ไกลจากหลินเจี๋ย
“ยังไม่ถึงขั้นตายหรอก” หลินเจี๋ยยังพูดด้วยรอยยิ้ม เขาช่างโชคร้ายจริง ๆ เพิ่งมาถึงก็ต้องเจอกับแผ่นดินไหวซะแล้ว
“หลินเจี๋ย คุณต้องอดทนไว้นะ ฉันเชื่อคุณ พวกเราจะรอดออกไปจากที่นี่” เซี่ยชีหรั่นพยายามให้กำลังใจหลินเจี๋ย เธอไม่อยากให้หลินเจี๋ยยอมแพ้ ขอเพียงเข้มแข็งไว้ถึงจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่น แต่ว่าที่นี่ห่างไกลความเจริญมาก แล้วจะมีคนมาช่วยพวกเขาหรือ?
เซี่ยชีหรั่นเองก็ไม่แน่ใจว่าจะมีใครมาช่วยหรือไม่
“อื้ม” หลินเจี๋ยตอบอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาไม่รู้ว่าถ้าเขาตายไปท่านปู่หลินจะเสียใจไหม แต่พี่สาวของเขาต้องเสียใจแน่
หลายปีที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของเขากับท่านปู่หลินไม่ดีเลย พวกเขาแทบจะไม่คุยกันด้วยซ้ำ แต่ ณ เวลานี้ หลินเจี๋ยอยากพูดกับท่านปู่หลินมาก หลินเจี๋ยอาจคิดว่าไม่มีใครมาช่วยแล้ว เขาไม่มีความปรารถนาที่จะอยู่รอดอีก ความยากลำบากที่เผชิญทำให้หลินเจี๋ยสิ้นหวัง
แต่เซี่ยชีหรั่นเข้มแข็งมาก เธอยังมีเนี่ยนโม่ เธอจะตายไม่ได้ ถ้าเธอตายแล้วใครจะดูแลเนี่ยนโม่? ดังนั้นเซี่ยชีหรั่นโหยหาชีวิตที่จะอยู่รอดจากที่นี่
“หลินเจี๋ย พวกเราต้องอดทนถึงจะอยู่รอดจนรอคนมาช่วยได้นะ แม้ที่นี่จะอยู่ห่างไกลความเจริญ แต่แผ่นดินไหวแบบนี้ที่อื่นก็คงได้รับผลกระทบเหมือนกัน พวกเราต้องอยู่รอดออกไปให้ได้นะ” เซี่ยชีหรั่นพยายามให้กำลังใจหลินเจี๋ย “เราต้องเก็บแรงไว้ จะพูดเยอะไม่ได้ หลินเจี๋ย คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเองนะ”
เซี่ยชีหรั่นเอื้อมมือไปหาหลินเจี๋ย มือเล็ก ๆ ของเธอจับมือหลินเจี๋ยไว้ ทำได้เพียงให้กำลังใจเขาอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น
หลังจากจับมือหลินเจี๋ยแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็หยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด บางทีพลังของความเป็นแม่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับเธอ ทำให้สมองของเธอชัดเจนกับเรื่องการแผ่นดินไหวนี้ทั้งหมด
เมื่อมือของหลินเจี๋ยถูกมือเล็ก ๆ ของเซี่ยชีหรั่นจับไว้ เขาก็ดูเหมือนจะมีความกล้าหาญมากขึ้น เซี่ยชีหรั่นยังทำได้เลย เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ?
ในความมืดนั้นทั้งสองจับมือซึ่งกันและกันและให้กำลังใจต่อกัน
“เซี่ยชีหรั่น ผมง่วงมาก”
เสียงที่เหนื่อยล้าของหลินเจี๋ยค่อย ๆ ดังขึ้น เขารู้สึกง่วงมาก เปลือกตาเหมือนหนักเป็นกิโล ๆ
“หลินเจี๋ย คุณอย่าหลับนะ ห้ามหลับเด็ดขาดนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเจี๋ย เซี่ยชีหรั่นรู้สึกตื่นตระหนกมาก เธอไม่แน่ใจว่าคุณชายหลินคนนี้จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่ถ้าหากเขานอนหลับไป เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถทนเห็นชีวิตคนเป็น ๆ คนหนึ่งต้องหายไปต่อหน้าต่อตาเธอ เธอจึงจับมือหลินเจี๋ยไว้แน่น ๆ จับแน่มากกว่าเริ่มต้นอีก

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset