สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1101 สาวใช้ตัวแสบ 1005

ตอนที่ 1101 สาวใช้ตัวแสบ 1005
“คุณวางสายละเหรอ” เซี่ยชีหรั่นมองไปที่หน้าจอที่ดับแล้วที่เย่เชินหลินส่งให้ พี่เสี่ยวจุนกับเย่เชินหลินคุยกันนั้นเซี่ยชีหรั่นแอบฟังบางส่วน เธอหลับตาลง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดถึงเรื่องอื่น ในใจเธอตอนนี้คือต้องหาทางหาเนี่ยนโม่ให้เจอ
“ไม่เป็นไรนะ หาเนี่ยนโม่ให้เจอก่อน ไม่รู้ว่าลูกหายไปนานแค่ไหนแล้ว”
เย่เชินหลินพูดอย่างดูดี อยากเอาเรื่องโม่เสี่ยวจุนออกจากความคิดเซี่ยชีหรั่นจึงใช้ลูกเป็นเครื่องมือ เขารู้ว่ามันต่ำทรามแต่เวลานี้เพื่อความรักแล้วเล่ห์กลเล็กๆน้อยๆก็เป็นสิ่งจำเป็น
เซี่ยชีหรั่นได้ยินเย่เชินหลินพูดแบบนั้นก็เห็นด้วย ควรจะต้องหาลูกให้เจอ
“คุณรออยู่ที่บ้านนะ เดี๋ยวผมไปหาลูกเอง”
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินแวบหนึ่ง คิดว่าเขายังไม่ดีขึ้นน่าจะอยู่บ้านมากกว่า
เย่เชินหลินมองแผ่นหลังเซี่ยชีหรั่นที่เดินออกไปไกล ใบหน้าเขายิ่งตกใจ ดูท่าเขาต้องรีบแล้ว ไม่งั้นจะตามไม่ทันยัยตัวเล็ก
คนในตระกูลเย่ช่วยกันตามหาเนี่ยนโม่เกือบแทบจะทุกคน เย่เชินหลินเข็นรถเข็นไปที่สวน หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเรียกผู้คนจากฐาน 1 และฐาน 3 เพื่อหาใครบางคน
เหล่าเอ้อเดินมาหาเย่เชินหลิน ทำความเคารพแล้วเอ่ยว่า “นายท่าน”
“ที่นี่เรียกผมว่าคุณเย่ก็พอแล้ว อีกอย่างขาผมจะดีขึ้นเมื่อไหร่”
นี่ต่างหากถึงจะเป็นเรื่องที่เย่เชินหลินกังวลใจ เห็นวิลล่าตระกูลเย่เงียบสงบลง เย่เชินหลินนั้นอยากออกไปมากกว่าใคร เขาอยากอยู่ข้างๆเซี่ยชีหรั่น
“ขาของคุณฟื้นฟูได้ดีไม่มีปัญหา อีกอย่างคุณเย่เองก็ดูแลอย่างดี ไม่นานหรอกครับ”
เหล่าเอ้อพูดอย่างตั้งใจ ความเพียรสร้างปาฏิหาริย์ได้
“เข้าใจแล้ว”
เย่เชินหลินมองไปที่ที่ไม่ไกลนัก ไม่นานเขาจะสามารถยืนได้ เหลือแต่รอให้เขาดีใจตอนที่ดีขึ้นแล้ว
เซี่ยชีหรั่นเพิ่งเดินเข้าประตูมาก็เห็นโม่เสี่ยวจุนรีบร้อนพุ่งพรวดมาหา ทั้งตัวเต็มไปด้วยเหงื่อเหมือนเพิ่งไปตากฝนมา
“ชีหรั่น ไม่ต้องกังวลนะ เราจะต้องหาเนี่ยนโม่เจอ” โม่เสี่ยวจุนกระหืดกระหอบปลอบเซี่ยชีหรั่น สายตานั้นร้อนรนกว่าเซี่ยชีหรั่นอีก
“พี่ ฉันไม่เป็นไรค่ะ ทำไมรีบวิ่งมาแบบนี้” เซี่ยชีหรั่นเห็นหน้าผากโม่เสี่ยวจุนมีเหงื่อเม็ดใหญ่ไหล ในใจก็รู้สึกซาบซึ้ง ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็เป็นห่วงเธอเสมอ
คิดว่าเมื่อก่อนเนี่ยนโม่ก็เคยหายไปครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นยังดีที่สวีเห้าเซิงช่วยเธอตามหา แต่ตอนนี้มีคนตั้งมากมายช่วยหา ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกขอบคุณ เนี่ยนโม่ควรจะเติบโตที่ตงเจียงดีไหมนะ
สวีเห้าเซิงกับหลินเจี๋ยต่างรินเหล้าใส่แก้วตัวเอง ต่างคนต่างความคิด เหล้าแก้วใหญ่แต่ละแก้วค่อยๆไหลลงท้อง ราวกับว่ากำลังดื่มน้ำไม่ใช่เหล้า
“เห้าเซิง เรากลับกันดีมั้ย”
หลินเจี๋ยเห็นสวีเห้าเซิงเมาแล้ว ในใจก็ห่วงเขาขึ้นมา
“ฉันไม่อยากกลับไป”
สวีเห้าเซิงพูดอย่างเอาแต่ใจ โตขนาดนี้แล้วมาพูดอะไรน้อยอกน้อยใจ หลินเจี๋ยเองก็เสียใจแทนในฐานะเพื่อนแต่ตัวเองก็หนักใจ
“ไม่กลับไปหรอก งั้นเราไปเดินเล่นกัน นายดื่มต่อไม่ได้แล้วนะ”
หลินเจี๋ยดึงแก้วออกจากสวีเห้าเซิง
“บริกร เช็คบิล” หลินเจี๋ยเห็นบริกรสาวยืนอยู่ไม่ไกลก็กวักมือเรียก บริกรสาวคนนั้นก็เดินยิ้มมาหา
หลินเจี๋ยรีบจ่ายเงินอย่างเร็วแล้วลากสวีเห้าเซิงออกไป
ไม่นั่งรถละกัน เดินไปอย่างนี้แหละ จะได้ปล่อยใจไปด้วย
ทั้งสองเดินสะเปะสะปะไม่รู้ทาง หลังเดินไปสักพักก็เริ่มสร่างเมา
“ที่นี่สภาพแวดล้อมดีจัง” สวีเห้าเซิงเอ่ยออกมา รอยยิ้มยังดูเมาๆ
“ที่นี่เป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านะ”
หลินเจี๋ยมองทางที่คุ้นเคย ดูท่าจะเป็นด้านหลังของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
“เข้าไปดูกัน”
สวีเห้าเซิงคิดว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าน่าจะมีเด็กเยอะ เขาคิดถึงเนี่ยนโม่แต่เนี่ยนโม่อยู่ที่บ้านตระกูลเย่ เขาไปหาไม่ได้ นี่เป็นเวลาที่เขาห่างจากเนี่ยนโม่นานที่สุดครั้งหนึ่ง
หลินเจี๋ยมองสวีเห้าเซิงคิดอะไรอยู่พักหนึ่ง เขาลากสวีเห้าเซิงมาที่ประตูอย่างชำนาญทาง เห้าเซิงอยากมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำไมกันนะ หลินเจี๋ยคิดอย่างไม่เข้าใจ
พูดได้ว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ดีจริงๆ เขียวขจีไปทั่ว ดูแล้วชื่นตาชื่นใจ
“ถ้าได้เห็นเนี่ยนโม่คงดี”
สวีเห้าเซิงพูดกับตัวเอง หลินเจี๋ยได้ยินก็รู้ว่าที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ในเมื่อคิดถึงเนี่ยนโม่แล้วทำไมไม่ไปหา
“ก็ไปหาเนี่ยนโม่สิ”
หลินเจี๋ยเดินไปยังสถานเลี้ยงเด็ก
“เนี่ยนโม่อยู่ที่บ้านตระกูลเย่ ฉันไปไม่สะดวก ฉันรอเสี่ยวอ้าย ฉันเชื่อเธอ” สวีเห้าเซิงพูดอย่างไร้ความมั่นใจ เมื่อก่อนเขาเชื่อมั่นมาก แต่ตั้งแต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ สวีเห้าเซิงรู้สึกว่าสถานะของเขาสุ่มเสี่ยงปากเหว เขาไม่ใช่คนคนเดียวในใจเซี่ยชีหรั่น
มองไปที่เถาวัลย์ที่ทอดยาวบนต้นไม้ สวีเห้าเซิงรู้สึกกังวล เขาก็เหมือนเถาวัลย์ ต่อให้พยายามยังไงสุดท้ายก็ได้แต่มองต้นไม้พวกนั้นเคียงคู่กัน
หลินเจี๋ยไม่ได้พูดอะไร เขานั่งลงที่โต๊ะหินไม่ไกลกันที่ใต้ต้นไม้ ที่นี่ยังมีแม้กระทั่งภูเขาปลอม สะพานหิน
“นั่งสิ พักก่อนแล้วค่อยหลับไป”
หลินเจี๋ยเองก็ไม่อยากกลับไป หัวใจมักจะเหงามากเมื่อไม่มีใครจับจอง อยากพยายามไขว่คว้าอะไรไว้แต่มักไร้ผลเสมอ
สวีเห้าเซิงนั่งลงตรงข้ามหลินเจี๋ย ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร
“นายดูนั่นสิว่าเหมือนเนี่ยนโม่มั้ย”
หลินเจี๋ยยื่นมองออกไปชี้เด็กทั้งสอง คนหนึ่งเป็นผู้ชาย ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิง
สวีเห้าเซิงได้ยินว่าเนี่ยนโม่ก็รีบหันกลับไปอย่างเร็ว มองไปทางที่หลินเจี๋ยชี้ นั่นไม่ใช่เนี่ยนโม่ที่เขากำลังคิดถึงเหรอ เนี่ยนโม่อยู่ที่นี่แบบนี้เซี่ยชีหรั่นก็อาจจะอยู่ที่นี่ด้วยใช่ไหม สวีเห้าเซิงเริ่มวาดฝัน ชีหรั่นออกมาอยู่กับเนี่ยนโม่เหรอ
หลินเจี๋ยรู้สึกสงสัย เนี่ยนโม่มาอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าได้ยังไงกัน
สวีเห้าเซิงก้าวนำไปหาเขา ในใจรู้สึกเบิกบาน
“ฉันชื่อเนี่ยนโม่ เธอชื่ออะไรเหรอ” เนี่ยนโม่มองเด็กผู้หญิงตรงหน้าแล้วถามเสียงดัง
“ฉันไม่มีชื่อ แม่หัวหน้าบอกให้รอคนมารับเลี้ยงแล้วจะมีชื่อเรียก” เด็กน้อยคนนี้ดูท่าจะอายุพอๆกับเนี่ยนโม่ หน้าตาน่ารัก คล้ายกับส้งหลิงหลิงอยู่บ้าง
“เดี๋ยวฉันช่วยเธอคิดชื่อได้ไหม”
แม้น้ำเสียงของเนี่ยนโม่จะปรึกษาแต่ในใจกลับตั้งชื่อให้เด็กสาวตรงหน้าแล้ว
“เธอดูสิ เธอมีแผลแต่ก็ไม่ร้องไห้เลย เป็นเด็กผู้หญิงที่ดีมากๆ วันก่อนฉันเพิ่งเรียนคำว่าทนฟ้าทนฝนกับแม่มา ฉันว่าชื่อนี้เหมาะกะเธอนะ ดังนั้นเธอชื่ออ้าวเสว่ เป็นคนที่เข้มแข็ง” เนี่ยนโม่ตบไหล่เด็กผู้หญิง พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ทนฟ้าทนฝนแปลว่าอะไร” เด็กผู้หญิงเอียงคอถามเนี่ยนโม่อย่างไม่เข้าใจ
“ก็คือคนที่ไม่กลัวลมฟ้าอากาศ ยิ่งลำบากก็ยิ่งเข้มแข็ง เหมือนได้รับการฝึกฝนมานาน ต่อให้เจอความเหน็บหนาวหรือการต่อสู้อะไรก็ไม่อ่อนแอ ไม่กลัว เธอดูสิว่าเธอไม่เพียงแต่ไม่ร้องไห้แต่ยังเข้มแข็ง ต่อไปเด็กพวกนั้นก็ไม่กล้ารังแกเธอแล้วล่ะ”
เนี่ยนโม่ทำท่าเหมือนผู้ใหญ่กำลังสอนเด็ก
“ฉันชอบนะ ฉันชอบ ขอบคุณเนี่ยนโม่ ต่อไปนายจะมาเล่นกะฉันใช่ไหม” เด็กหญิงถามเนี่ยนโม่อย่างดีใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยการรอคอย
“เนี่ยนโม่ ทำไมมาอยู่ที่นี่ แล้วแม่ล่ะ”
สวีเห้าเซิงถามเนี่ยนโม่จากด้านหลัง เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมสายตาเหมือนเขามาก
“เนี่ยนโม่ เธอเป็นใครเหรอ”
สวีเห้าเซิงไม่ได้ยินที่ทั้งคู่คุยกันเมื่อครู่ เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้ดูคุ้นตามาก
“ลุงสวี ผมไปซื้อของกับย่า ที่นั่นน่าเบื่อมากก็เลยเดินมาที่นี่ ผมเลยได้รู้จักกับเธอ” เนี่ยนโม่ตอบคำถามสวีเห้าเซิงอย่างละเอียด
เด็กคนนี้อยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าแถมยังเป็นบ้านเด็กกำพร้าตงเจียง งั้นคงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวเขา สวีเห้าเซิงสบายใจขึ้น
“นายมาที่นี่แล้วคุณย่ารู้มั้ย”
สวีเห้าเซิงรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี เด็กๆมาที่นี่ ตระกูลเย่คงพลิกแผ่นดินหาแล้ว แล้วเขาก็ทายถูก
“พวกเขากำลังยุ่ง ผมก็เลยเดินมาเอง ลุงสวีกับแม่ดีกว่านี่นา” เนี่ยนโม่มองสวีเห้าเซิงยิ้มๆ เขาอาจจะรู้ว่าตัวเองทำผิดจึงรีบเอาใจ
“เด็กคนนี้นี่ ไป เดี๋ยวจะพาไปส่งที่บ้าน แม่คงร้อนใจตามหาแย่แล้ว”
สวีเห้าเซิงพูดอย่างอ่อนใจ มองเนี่ยนโม่ยิ้มเต็มหน้าไม่รู้จะต่อว่ายังไงได้อีก
เนี่ยนโม่ยิ้มให้เด็กคนนั้น เห็นเขาก็รู้ว่าลุงสวีนั้นดีที่สุด “อ้าวเสว่ นี่ลุงสวี ลุงเป็นคนดีมากๆ ฉันจะไปกับลุงสวี”
อ้าวเสว่มองเนี่ยนโม่ไปกับสวีเห้าเซิงอย่างตาละห้อย พอเขาไปเธอก็ไม่มีเพื่อน
เนี่ยนโม่เองก็หันกลับมามองอ้าวเสว่
หลินเจี๋ยลุกขึ้น เด็กคนนี้คือเนี่ยนโม่จริงๆด้วย
“โทรหาแม่หน่อยสิ จะได้วางใจ”
สวีเห้าเซิงหยิบมือถือขึ้นมาปลดล็อคให้เนี่ยนโม่ ป่านนี้เสี่ยวอ้ายคงกังวลแย่แล้ว
เสียงตู้ดๆดังขึ้น เนี่ยนโม่ขมวดคิ้ว ได้ยินสวีเห้าเซิงพูดเช่นนี้ก็รู้สึกกลัว
“พี่สวี”
“แม่ฮะ ผมเนี่ยนโม่”
เนี่ยนโม่พูดอย่างขลาดๆ เซี่ยชีหรั่นรับสายก็ถอนหายใจ เดิมทีอยากว่าเนี่ยนโม่สักหน่อยแต่พอได้ยินเสียงเนี่ยนโม่แบบนี้แล้วก็ได้แต่เสียงอ่อน ข่มใจเอ่ยว่า
“เนี่ยนโม่ คราวหลังไปข้างนอกห้ามวิ่งไปไหนแล้วนะ ลูกหายไปเงียบๆแบบนี้แม่เป็นห่วงมาก” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างหนักแน่น ยังดีที่ที่นี่เป็นตงเจียง สวีเห้าเซิงเป็นคนเจอเนี่ยนโม่ ถ้าเขาหายไปที่นี่อื่นเธอจะทำยังไง เด็กคนนี้ซนจริงๆ
“แม่ฮะ ผมรู้แล้ว ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว”
เนี่ยนโม่พูดติดอ่าง เอ่ยสารภาพผิด ต่อไปเนี่ยนโม่จะทำอะไรก็คงบอกเซี่ยชีหรั่น ไม่ให้เธอกังวล
“เนี่ยนโม่ เอามือถือให้ลุงสวี แม่มีเรื่องจะคุยกับลุงสวี” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยเสียงอ่อนโยน เด็กคนนี้โทษตัวเองได้ไง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset