สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1105 สาวใช้ตัวแสบ 1009

ตอนที่ 1105 สาวใช้ตัวแสบ 1009
โม่เสี่ยวจุนยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ ในใจแหลกสลาย โม่เสี่ยวจุนอยากชกเย่เชินหลินแต่สภาพเย่เชินหลินตอนนี้โม่เสี่ยวจุนก็ลงมือไม่ได้ เขาไม่ได้เลือดเย็นเหมือนเย่เชินหลิน รู้ทั้งรู้ว่าสถานะโม่เสี่ยวจุนเป็นใครก็ยังอิจฉา
“พูดจบแล้วใช่มั้ย”
เย่เชินหลินถามเรียบๆ คล้ายว่าที่โม่เสี่ยวจุนพูดไปไม่มีผลกับเขา
“เย่เชินหลินนายมันร้ายกาจ ถ้าฉันเป็นเซี่ยชีหรั่นตอนนี้คงทิ้งนายไปแล้ว มีสิทธิ์อะไรที่พ่อตายแล้วนายโกรธแต่จงหวีฉวนตายแต่เซี่ยชีหรั่นยังต้องอยู่ข้างนาย นี่ไม่ยุติธรรมสักนิด”
ทั้งคู่เถียงกันโดยไม่เห็นว่าเซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ไม่ไกล โม่เสี่ยวจุนเดิมทีโมโหก็เลยเสียงไม่เบานัก
“แม่ฮะ”
เนี่ยนโม่ปล่อยมือเย่เชินหลินไปหาเซี่ยชีหรั่น เด็กค่อนข้างอ่อนไหว เนี่ยนโม่รับรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นอารมณ์ไม่ดี เขาก็ทำตัวดีอยู่ข้างๆเซี่ยชีหรั่น ไม่พูดอะไร
คำว่าแม่ทำให้ทั้งคู่ที่กำลังเถียงกันหยุดชะงัก
แม้แต่เข็มที่หล่นบนพื้นก็คงได้ยิน นับประสาอะไรกับเสียงใจเต้น
“อยู่ที่นี่ตอนนี้ฉันไม่สบายใจ ฉันจะพาลูกออกไปที่อื่น” เซี่ยชีหรั่นจูงเนี่ยนโม่ เอ่ยเสียงนิ่ง สงบคล้ายว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
สีหน้าเธอไม่บ่งบอกอารมณ์ โม่เสี่ยวจุนมองเซี่ยชีหรั่นอย่างสงสัย ไม่ว่าจะมองยังไงเขาก็ดุไม่ออกว่าเซี่ยชีหรั่นคิดอะไรอยู่ โม่เสี่ยวจุนรู้สึกปวดใจ ชีหรั่นเจออะไรมาทำไมถึงกลายเป็นคนเข้มแข็งขนาดนี้
ชีหรั่น ขอโทษนะ พี่ดูแลเธอไม่ดีเอง
“คุณจะไปเหรอ” เย่เชินหลินถามเสียงสั่น เสียงของเขาสั่นจนสังเกตได้
ฝู้เฟิ่งหยียังไงก็เป็นแม่ของเย่เชินหลิน พอได้ยินน้ำเสียงเย่เชินหลินเป็นแบบนั้น เธอก็รีบไปจูงเซี่ยชีหรั่นแล้วเอ่ยว่า “ชีหรั่น พูดอะไรกัน หนูควรอยู่ที่นี่นะ”
“ขอโทษนะคะ คุณน้า ช่วงไม่กี่วันมานี้ชีหรั่นไม่ได้คิดให้รอบคอบ อีกไม่กี่วันชีหรั่นจะกลับมาขอโทษ” เซี่ยชีหรั่นโค้งคำนับขอโทษให้ฝู้เฟิ่งหยี ท่าทางเคารพเต็มที่ ทำให้คนมองไม่ออกว่าผิดปกติตรงไหน
“ชีหรั่นในเมื่อจะไป งั้นไปพักที่บ้านพี่ก่อน เธอกับพี่สะใภ้รู้จักกันดีนี่”
โม่เสี่ยวจุนได้ยินว่าเซี่ยชีหรั่นจะไปก็ดีใจ ชีหรั่นจะหลุดพ้นจากเย่เชินหลินแล้ว
“ขอโทษนะพี่ ฉันว่าฉันไปหาห้องพักข้างนอกดีกว่า บ้านพี่กับพี่สะใภ้ฉันไม่อยากรบกวนแต่ไว้ฉันจะไปเยี่ยมนะ”
เซี่ยชีหรั่นพูดยิ้มๆ ไม่ว่าโม่เสี่ยวจุนคิดยังไง เซี่ยชีหรั่นจะไม่ไปที่บ้านของโม่เสี่ยวจุน เดิมทีจะไปหลินเจียง รู้จักสวีเห้าเซิงแต่เซี่ยชีหรั่นไม่อยากเป็นคนทำร้ายครอบครัวของโม่เสี่ยวจุน เขาจะเป็นพี่ชายของเธอตลอดไป
“เธอเป็นผู้หญิงจะไปอยู่ข้างนอกคนเดียวยังไง”
โม่เสี่ยวจุนไม่โอเค ถ้าไม่ใช่ตอนนั้นเขาสนใจแต่ลูก คงไม่ปล่อยให้ชีหรั่นหายไปนานขนาดนี้หรอก ยังดีที่ชีหรั่นยังอยู่ ดีกว่าอะไรทั้งหมด ตอนนี้เขาจะไม่ให้ชีหรั่นหลุดรอดสายตาอีกรอบ
“พี่คะ ฉันอยู่ข้างนอกมานานแล้ว ชินแล้วค่ะ ถ้าว่างพี่กับพี่สะใภ้มาเยี่ยมฉันก็พอ”
เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างไม่ลดละ
โม่เสี่ยวจุนร้อนใจ ใช้สายตาจ้องเย่เชินหลิน เห็นว่าเซี่ยชีหรั่นจะไปทำไมเขายังแยแสอีก
เย่เชินหลิน นายชอบชีหรั่นไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลย เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวจะไปอยู่ข้างนอกกับลูกสองคนก็ไม่ปลอดภัย
ไม่ว่าโม่เสี่ยวจุนจ้องเย่เชินหลินยังไง เย่เชินหลินก็นั่งไม่ขยับ คล้ายว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา
“คุณเย่ พี่คะ รีบห้ามชีหรั่นเร็วเข้า”
จิ่วจิ่วพูดอย่างร้อนใจ คิดว่าชีหรั่นพาลูกไปอยู่ข้างนอกก็ไม่วางใจ เธอมองเย่เชินหลินอย่างข้องใจเช่นเดียวกับโม่เสี่ยวจุน เย่เชินหลินรีบรั้งชีหรั่นเร็วสิ
ทุกคนต่างมองไปที่เย่เชินหลินอย่างคาดหวัง ชีหรั่นมองเย่เชินหลินขมวดคิ้ว เธอกลัวว่าเย่เชินหลินจะไม่ให้เธอไป แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วเซี่ยชีหรั่นก็จะไป อย่างน้อยตอนนี้เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ร่วมกับเย่เชินหลินไม่ได้
จงหวีฉวนเป็นภูเขาลูกใหญ่ที่กั้นระหว่างพวกเขา
“เย่เชินหลิน รีบพูดอะไรเข้า”
โม่เสี่ยวจุนมองเซี่ยชีหรั่นที่ใจแข็ง เขาร้อนใจมาก บางทีเพราะเคยเจอเรื่องชีหรั่น โม่เสี่ยวจุนถึงได้มีด้านที่ร้อนอกร้อนใจแบบนี้
เย่เชินหลินหมุนรถเข็นกลับมา ค่อยเดินออกไป มองสายตาทุกคน
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าทำไมในใจรู้สึกว่ามีความหวังว่าเย่เชินหลินจะรั้งเธอไว้ เธอส่ายหน้า ชีหรั่น เธอต้องแน่วแน่สิ
“คุณไปเถอะ”
เหนือความคาดหมาย เย่เชินหลินไม่ได้เอ่ยรั้งชีหรั่นไว้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรั้งเธอไว้แต่เย่เชินหลินเข้าใจดีว่าตอนนี้ไม่ว่ายังไงก็รั้งชีหรั่นไว้ไม่ได้ เย่เชินหลินจึงเปลี่ยนแผน เขาเชื่อว่าในใจยัยตัวเล็กมีเขา ไม่ว่าจะไปไหนก็มีเขา มีแค่เขา เย่เชินหลินมั่นใจว่าจะยังรั้งใจเธอไว้ได้
“ชีหรั่น จะไปจริงๆเหรอ” โม่เสี่ยวจุนมองชีหรั่น ดูท่าชีหรั่นจะไปไม่ช้าก็เร็ว แต่ว่าเขาไม่แน่ใจว่าในใจชีหรั่นอยากอยู่ต่อมั้ย
“ตอนนี้ฉันจะไปหาที่พักใหม่ รอแม่แป๊บนะ แม่จะพาเนี่ยนโม่กลับปารีส”
เซี่ยชีหรั่นคิดว่าธุรกิจของเธอยังอยู่ที่ปารีส ไม่มีผู้ชายก็ได้แต่เธอยังต้องมีงานทำ ไม่งั้นเธอจะเลี้ยงเนี่ยนโม่ยังไง
“ให้เนี่ยนโม่อยู่ที่นี่เถอะ ถ้าพาไปด้วยจะไม่สะดวกนะ” ฝู้เฟิ่งหยีเอ่ยอย่างร้อนรน คล้ายว่ากลัวว่าถ้าไม่พูดเนี่ยนโม่จะถูกพาไป
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันจะพาเนี่ยนโม่ไปด้วย ไม่ว่ายังไงลูกต้องไปกับฉัน” อย่างอื่นปรึกษากันได้ แต่สำหรับเรื่องนี้ เซี่ยชีหรั่นกัดฟัน ไม่ยอมให้เนี่ยนโม่แยกจากเธอ นี่เจ็บปวดมากกว่าแล่เนื้อตัวเองเสียอีก
โม่เสี่ยวจุนเห็นสีหน้าเซี่ยชีหรั่นไม่สู้ดี เขาเข้าใจว่าลูกสำคัญกับชีหรั่นมาก
“แม่ อย่าพรากเนี่ยนโม่ออกจากชีหรั่น แค่ชื่อก็น่าจะรู้ว่าเด็กคนนี้สำคัญกับชีหรั่นยังไง” โม่เสี่ยวจุนช่วยพูดแทนเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นมองโม่เสี่ยวจุนอย่างซาบซึ้งใจ เขาคิดแทนเธอเสมอ เป็นที่พึ่งให้เฮเวลาเหนื่อย เป็นที่หลบฝน
“ให้เนี่ยนโม่ไปกับชีหรั่นเถอะ”
เย่เชินหลินทำให้คนอื่นตกตะลึงอีกครั้ง นี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดอย่างแน่นอน ฝู้เฟิ่งหยีมองไปที่เย่เชินหลินอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่เชื่อว่าเย่เชินหลินจะเต็มใจปล่อยเซี่ยชีหรั่นไปหรือพาเด็กไป เขาไม่ได้ยินชีหรั่นพูดว่ารอให้จ้าวเหวินอิงดูขึ้นแล้วจะไปเหรอ? ฝู้เฟิ่งหยีมองไปที่เย่เชินหลินอย่างสงสัยและแสดงความไม่เข้าใจของเธอต่อเขา
“เชินหลิน”
“แม่ครับ เชื่อผม ชีหรั่นแค่ออกไปชั่วคราว”
เย่เชินหลินมั่นใจในตัวเองแล้วกระซิบข้างหูฝู้เฟิ่งหยี นัยน์ตาเขาเข้มลึกมองไปที่เซี่ยชีหรั่น คล้ายมองไปส่วนที่ลึกที่สุดในใจเธอ ทำให้เธอหนีไม่พ้น
เซี่ยชีหรั่นอยากรู้ว่าเย่เชินหลินพูดอะไรกับฝู้เฟิ่งหยีแต่สุดท้ายก็ล้มเลิก เธอไม่อยากยื่นหน้าไปฟัง อีกอย่างเธอเป็นแบบนี้แล้ว ฝู้เฟิ่งหยีคงไม่บอก
เซี่ยชีหรั่นทำเพียงมองฝู้เฟิ่งหยีและเย่เชินหลินพูดคุยกันเบาๆ
“ชีหรั่น งั้นก็พาเนี่ยนโม่ไปเถอะ แต่ว่าวันนี้ถ้ายังหาที่พักไม่ได้ก็อยู่ที่นี่ไปก่อนนะ จะไปซื้อห้องให้ ห้ามปฏิเสธ ถือว่าเป็นของขวัญให้หลาน”
ฝู้เฟิ่งหยีไม่รอเซี่ยชีหรั่นแก้ไขเรื่องทั้งหมดก่อน เซี่ยชีหรั่นจะได้จะปฏิเสธไม่ได้ เธอจูงเนี่ยนโม่ที่พยักหน้าแล้วไปยังห้องโถง ตอนนี้ก็เป็นแบบนี้ โม่เสี่ยวจุนมองไม่ออกว่าอารมณ์ไหน เขาเป็นห่วงความปลอดภัยเซี่ยชีหรั่นที่สุด
ฝู้เฟิ่งหยีเห็นเย่เชินหลินรับปากในใจก็คลายกังวล เธอเข้าใจว่าชีหรั่นเป็นเด็กดี ยังไงก็รับ ไม่ผิดจากที่คิด เซี่ยชีหรั่นตกลง
ฝู้เฟิ่งหยีให้คนไปทำอาหาร เธอค่อยๆลากเซี่ยชีหรั่นและเนี่ยนโม่ไปพูดคุย โม่เสี่ยวจุนถูกฝู้เฟิ่งหยีลืมเป็นครั้งแรก
“ชีหรั่น ถ้าออกไปแล้วมีปัญหาอะไรก็พาลูกกลับมานะ ที่นี่ต้อนรับเราเสมอ” ฝู้เฟิ่งหยีจูงชีหรั่นพลางพูดอย่างเมตตา แถมยังย้ำอีกสามรอบ กลัวชีหรั่นจะลืม
“ค่ะ” เซี่ยชีหรั่นไม่รู้จะตอบฝู้เฟิ่งหยียังไง จึงได้แต่รับคำ ไม่ใช่ไม่อยากตอบแต่เธอไร้แรงจะตอบ เรื่องโหดร้ายแบบนี้เธอเองก็เข้าใจฝู้เฟิ่งหยีว่าขมขื่นแค่ไหน จึงทำได้แค่รับคำ
“งั้นกินข้าวก่อนนะ กินไม่นานหรอก วันนี้เนี่ยนโม่ก็ยังไม่ได้กินข้าวเลยนี่นา เสี่ยวจุนก็ด้วย กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไปเลือกห้องนะ ชีหรั่นไปด้วยกันนะ เลือกได้ตามสบายเลย เลือกที่ดีที่สุด แม่จ่ายเอง” ฝู้เฟิ่งหยีเอ่ยอย่างใจกว้าง เธอรู้ว่าลูกต้องหารให้ชีหรั่นอยู่ที่บ้านนานขึ้นอีกนิด ใจคนเป็นพ่อแม่นะ เธอเองก็อยากช่วยลูก
เซี่ยชีหรั่นไม่กล้าปฏิเสธ คำปฏิเสธอ้อยอิ่งอยู่ในปากเนิ่นนาน แต่สุดท้ายก็ยังไม่พูดออกไป
หลังจากรับประทานอาหารแล้ว บรรยากาศที่มุมซ้ายบนนั้นผิดปกติมาก ดูเหมือนว่าจะไม่มีฝนตกหรือมีลมแรงมาเป็นเวลานานทันใดนั้นก็มีลมพัดแรง ทุกอย่างหายไปอย่างไร้ร่องรอย โต๊ะทั้งหมดเต็มไปด้วยอาหารชั้นสูง
จิ่วจิ่วรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนผ้าห่มเข็ม เนี่ยนโม่ยิ้มส่วนเซี่ยชีหรั่นยังคงสงบและไม่ได้พูด คนที่นิ่งที่สุดคือเย่เชินหลิน เขาเป็นนั่งเฉย เมื่อสิ่งต่างๆพัฒนา ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงคนสัญจรผ่านไปมาไม่ใช่ผู้กลับมา
“ชีหรั่น คุณจะจากไปจริงๆเหรอ” จิ่วจิ่วถามอย่างไม่เต็มใจ เธอกับชีหรั่นกำลังจะแยกจากกันภายในไม่กี่วันหลังจากที่เจอกัน จิ่วจิ่วไม่ต้องการ เธอยังคงชอบวันที่ชีหรั่นอยู่ด้วยกัน
ชีหรั่นพยักหน้าเธอต้องไป
“เนี่ยนโม่อยากไปหรือเปล่า”
จิ่วจิ่วเห็นความตั้งใจที่จะจากไปของเซี่ยชีหรั่น เธอจึงเปลี่ยนไปถามเนี่ยนโม่ได้เท่านั้น ยังไงเด็กก็กล่อมง่ายขอแค่เนี่ยนโม่ไปไม่ได้ ชีหรั่นก็จะอยู่ต่อไป โม่เสี่ยวจุนไม่ได้พูด ดวงตาของเขาขัดแย้ง เขาไม่รู้ว่าจะคิดอย่างไร ตอนนี้เขาคิดว่าชีหรั่นจะเป็นอันตราย แต่ตอนนี้เขาก็คิดออกแล้ว ที่นี่คือตงเจียง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset