สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1114 สาวใช้ตัวแสบ 1018

ตอนที่ 1114 สาวใช้ตัวแสบ 1018
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกอึดอัดใจมาก เธอจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา “ในเมื่อเป็นคุณจุดประสงค์ทั้งหมดนี้ก็คงชัดเจนแล้วล่ะ จุดประสงค์ของคุณคือฉันใช่ไหม แล้วทำไมต้องทำให้เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้ บอกมาสิว่าเธอต้องการอะไร?”
เมื่อจางชิงได้ยินคำพูดนี้ก็หัวเราะออกมาดัง ๆ ราวกับว่าเธอเพิ่งได้ยินเรื่องตลกที่สุด “เซี่ยชีหรั่นเอ๋ยเซี่ยชีหรั่น ทำไมเธอถึงมั่นใจตัวเองขนาดนี้นะ? เรื่องอะไรฉันต้องทำเพื่อเธอด้วย? มีเงินให้ฟรี ๆ แบบนี้ฉันจะโง่ไม่เอาเหรอ?”
“สรุปแล้วคุณต้องการอะไร?” สวีเห้าเซิงที่อยู่ข้าง ๆ ไม่สามารถทนฟังต่อได้ สำหรับเขาแล้วผู้หญิงแบบนี้นอกจากรังเกียจก็มีแต่รังเกียจเท่านั้น
จางชิงจิบชาที่วางอยู่ข้างหน้าเบา ๆ แล้วโยนแฟ้มเอกสารที่เธอเตรียมมาลงบนโต๊ะ “พวกคุณดูกันเองก็แล้วกันนะ บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นของพวกคุณมันล้าสมัยไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้ถ้ายอมอยู่ในภายใต้อำนาจบริษัทของเรา ฉันอาจจะรับปากให้พวกคุณทำงานให้ฉันก็ได้ แล้วฉันจะให้เงินเดือนที่คุณสมควรได้รับ ถ้าไม่สนใจก็แค่เก็บกระเป๋าออกไปให้หมด แล้วรอชดใช้หนี้สิน ใช้ให้ตายไปเลย!”
เมื่อเห็นเอกสารตรงหน้า เซี่ยชีหรั่นก็ได้หยิบมาดู ในเอกสารนั้นไม่เพียงแต่มีหลักฐานการหลีกเลี่ยงภาษีของพวกเธอตั้งแต่เริ่มต้นและยังมีหลักฐานการติดสินบนกับเจ้าหน้าที่ทางรัฐด้วย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือหุ้น ความสูญเสียภายในและทุกสิ่งทุกอย่างที่เพิ่มขึ้น ทำให้พวกเขาไม่สามารถชดใช้หนี้สินได้แม้จะใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม
“ฉันขอเตือนคุณหน่อยก็แล้วกันนะ เงินที่ต้องชดใช้ทั้งหมดนั้นจำนวน 500 ล้าน นอกจากนี้บริษัทของพวกคุณก็ใกล้ถึงจุดจบแล้ว อย่าเปิดต่ออีกเลยนะ เปลี่ยนมาเป็นบริษัทแฟชั่นคิวบ์ดีกว่า” เธอพูดไปยิ้มไป
“เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนี้แล้วหรือ?” คนที่อยู่ใต้ชายคา จึงจำเป็นต้องก้มหัว เพื่อความอยู่รอดของบริษัท เซี่ยชีหรั่นจำเป็นต้องถามอย่างไม่เต็มใจ
จางชิงมองไปที่เซี่ยชีหรั่น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเซี่ยชีหรั่นทำตัวน่าสงสารขนาดนี้ เธอรู้สึกสะใจมาก เธออยากเห็นวันที่ตัวเองได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์อย่างเต็มทนแล้ว ถ้าถึงวันนั้นไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นมีสีหน้าแบบไหน เธอจะมาคุกเข่าขอร้องเธอไหม?
“ไม่มีทางอื่นแล้ว บริษัทของเราก็มีผู้ร่วมลงทุนอยู่เหมือนกัน ฉันจะให้เวลาพวกคุณตัดสินใจหนึ่งนาที” เมื่อพูดจบเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและไม่สนใจคนเหล่านี้เลย
ณ เวลานี้ อารมณ์ที่ซับซ้อนของเซี่ยชีหรั่นก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เธอไม่คิดเลยว่าจางชิงจะเป็นคนที่มาเจรจาในวันนี้ ถ้าหากเธอเป็นสาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น นั่นก็หมายความว่าเธอทำให้บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นต้องตกลงสู่ขุมนรกอีกครั้ง
สวีเห้าเซิงเห็นสีหน้าของเซี่ยชีหรั่นดูแย่มาก จึงตัดคำพูดพวกเขา “อย่าไปฟังเธอนะ เราต้องปฏิเสธ เราจะไม่ร่วมงานกับคนเลวอย่างเด็ดขาด อนาคตต้องจบไม่สวยแน่”
“แล้วถ้าเราต้องใช้หนี้จะทำยังไง? คุณจะช่วยเราใช่ไหม? คุณมีปัญญาหาเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรือ?” เสียงคัดค้านดังขึ้น ผู้ถือหุ้นเก่าหลายคนกังวลเรื่องเงินจนผมหงอก กว่าจะมีโอกาสนี้ พวกเขายังสามารถทำงานต่อได้ด้วย คุณคิดว่าพวกเขาจะปฏิเสธหรือ?
“ผมทราบว่าพวกคุณไม่ถูกกัน แต่ชีหรั่นเอ๋ย ช่วยคิดถึงลุงด้วย ทำเพื่อบริษัท คุณก็ควรเห็นด้วยเช่นกันนะ”
“นั่นสิ พวกเราไม่ได้เป็นวัยรุ่นแล้วนะ เราต่างก็อายุมากกันแล้ว ไม่เหมือนพวกคุณยังหนุ่มยังสาว ยังสามารถหาโอกาสได้ แต่พวกเราไม่มีโอกาสนั้นแล้ว”
เสียงเรียกร้องมากมายเข้ามาในจิตใจของเซี่ยชีหรั่น ทำให้เธอหงุดหงิดมาก จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยดี? ถ้าหากเห็นด้วย เธอสามารถช่วยบริษัทจากวิกฤตนี้ได้ แต่โดยส่วนตัวของเธอคงไม่ทำงานให้กับจางชิงอยู่แล้ว
วันนี้เธอสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ วันข้างหน้าเธอคงไม่ปล่อยให้เซี่ยชีหรั่นอยู่อย่างเป็นสุขอย่างแน่นอน อีกอย่างผู้หญิงคนนี้เคยทำกับลูกของเธออย่างไร เขายังเด็กขนาดนี้……
เมื่อคิดถึงจิตใจที่เลวทรามของเธอ เซี่ยชีหรั่นจึงตัดสินใจไม่ถูกจริง ๆ ……
“หนึ่งนาทีมันน้อยไป ให้เวลาพวกเรากลับไปคิดสองวัน คุณว่ายังไง? ผมคิดว่าบริษัทแฟชั่นคิวบ์คงไม่ใจร้ายใจดำขนาดนั้นหรอก แม้พวกคุณเคยทำเรื่องแย่ ๆ กับคนอื่นก็ตาม” เวลานี้สวีเห้าเซิงเสนอข้อคิดเห็น
เมื่อได้ยินคำพูดของสวีเห้าเซิง จางชิงก็เหมือนได้ยินคำพูดที่น่าเหลือเชื่อ
เธอจึงยกคิ้วข้างหนึ่งแล้วพูดอย่างไม่เกรงใจ “ทำเรื่องแย่ ๆ ให้พวกคุณเหรอ? โอ้พระเจ้า พวกคุณใส่ร้ายคนเก่งจริง ๆ เลยนะ!”
สวีเห้าเซิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ทุกการเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนี้ทำให้เขารู้สึกรังเกียจอย่างสุดบรรยายจริง ๆ
แต่ความจริงมันก็เป็นเช่นนี้ เขาจะยอมรับ หรือไม่ก็แบกรับผลที่ตามมา เป็นสองทางเลือกที่เจ็บปวดมากสำหรับเขา
สวีเห้าเซิงกัดฟันไว้แน่น ๆ เขาไม่อยากมองใบหน้าที่เย่อหยิ่งของจางชิงอีก
สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นดูแย่มาก เธอพูดอย่างเหลือทน “จางชิง ถือว่า……”
เธอกัดริมฝีปากแล้วพูดอีกครั้งด้วยความลำบาก “ถือว่าฉันขอร้องคุณก็แล้วกันนะ ให้เวลาพวกเราหน่อย ให้เราได้ปรึกษากันก่อนได้ไหม?”
จางชิงรู้สึกสะใจมากที่เห็นสีหน้าอันน่าสงสารของเซี่ยชีหรั่น
เพราะผู้หญิงคนนี้เธอถูกเย่เชินหลินไล่ออกจากบ้าน เขาไม่เคยแคร์ความรู้สึกของเธอเลย
เธออยู่กับผู้ชายคนนั้นมาสามปีเต็ม เธอต้องแลกด้วยช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเธอ
แต่สุดท้ายสิ่งที่เธอได้มาคือความไร้ความปราณีของเขา!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ดวงตาของจางชิงเปล่งประกาย
เธอมองไปที่เซี่ยชีหรั่นที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหน้า เธอรู้สึกมีความสุขมาก
เซี่ยชีหรั่น คอยดูนะ นี่เป็นแค่เริ่มต้นเท่านั้น ฉันจะให้เธอไม่ได้ตายดีแน่!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ จางชิงจึงแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างเห็นอกเห็นใจ “ในเมื่อคุณเซี่ยเอ่ยปากขอร้องฉันแล้ว ฉันคงต้องเห็นแก่คุณสักหน่อย เอาล่ะ ฉันจะให้เวลาพวกคุณอีกนิด ดูก่อนนะ……สักห้านาทีก็แล้วกันนะ! รีบปรึกษากันสิ!”
ห้านาที!
สวีเห้าเซิงรู้สึกโมโหมาก มันต่างอะไรกับหนึ่งนาทีก่อนหน้านี้?
มันเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้กำลังจะกลั่นแกล้งเซี่ยชีหรั่นชัด ๆ!
เขาทุบโต๊ะด้วยความโกรธ “จางชิง เธออย่ามากเกินไปนะ”
จางชิงยกมือขึ้นแล้วชี้หน้าสวีเห้าเซิงที่กำลังโกรธอย่างเย้ยหยัน “ถ้าคุณยังไม่รักษาโอกาสนี้ไว้ เดี๋ยวฉันจะให้คุณเจออะไรที่หนักกว่านี้! ถึงเวลาแล้วคุณอย่ามาคุกเข่าขอร้องฉันก็แล้วกันนะ! เหอะ!”
เซี่ยชีหรั่นรีบดึงแขนเสื้อของจางชิงแล้วพยายามส่งสายตาขอร้องอ้อนวอนเธออย่าเพิ่งใจร้อน
จางชิงคนนี้ยังมีหนักฐานสำคัญของพวกเขาอยู่ แม้เธอจะพูดจาดูถูกอย่างไร หรือจะทำเลวร้ายแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถคัดค้านเธอได้
ใครปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้มีหลักฐานสำคัญของบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นล่ะ?
“ไปกันเถอะ พวกเราออกไปคุยกันข้างนอก” เซี่ยชีหรั่นมองจางชิงที่กำลังได้ใจแล้วพูดกับสวีเห้าเซิง
สวีเห้าเซิงก็ได้เดินตามเซี่ยชีหรั่นออกไปอย่างไม่เต็มใจ
เขาไม่รู้ว่าจะช่วยเซี่ยชีหรั่นและบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นผ่านพ้นวิกฤตนี้ด้วยวิธีไหนแล้ว
สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นซีดเซียวมาก เธอไม่อยากแพ้แบบนี้และเธอไม่อยากให้บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นต้องล้มละลายแบบนี้จริง ๆ
แต่……
ตอนนี้เธอควรทำอย่างไร?
บริษัทนี้เป็นเหมือนเลือดเนื้อของเธอ แล้วเธอจะช่วยบริษัทได้อย่างไร?
ผู้ถือหุ้นที่อยู่ข้างนอกเริ่มใจร้อนกันแล้ว ทุกคนต่างก็ล้อมเข้ามา
“ตอนนี้ว่ายังไง?”
“พวกคุณจะตกลงกับเขาไหม?”
“พวกเขามีข้อเสนออะไรบ้าง?”
……
เซี่ยชีหรั่นยกมือขึ้นเพื่อหยุดการซักถามของผู้ถือหุ้น
เธอหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกำลังจะปลอบใจทุกคน ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
เธอเปิดโทรศัพท์และเห็นว่าเป็นสายโทรเข้าจากเย่เชินหลิน
เขาโทรมาตอนนี้ทำไมกันนะ?
เซี่ยชีหรั่นรับสายเขาอย่างสงสัย
“ฮัลโหล เซี่ยชีหรั่นพูดสาย”
“เย่เชินหลินเองนะ” เสียงแหบพร่าของเย่เชินหลินค่อย ๆ ดังขึ้น
“ว่าไง?” เซี่ยชีหรั่นถามอย่างมีความอดทน แต่ในความเป็นจริงตอนนี้เธออารมณ์ไม่ดีมาก เธอไม่อยากพูดอะไรสักคำเลย
ปัญหาตรงหน้าทำให้เธออยากร้องไห้ออกมาดัง ๆ
“ผมได้ข่าวแล้วว่าบริษัทคุณกำลังมีปัญหา ผมส่งผู้ช่วยพิเศษของผมไปแล้วนะ คุณอย่าเพิ่งยอมรับเงื่อนไขใด ๆ จากเขาล่ะ ผมรู้ว่าเขามีหลักฐานบางอย่างที่สามารถเอาผิดคุณได้ แต่คุณไม่ต้องกังวลนะ”
เสียงอันมั่นใจของเย่เชินหลิน มีนัยยะของความเย็นชาและเฉยเมย แต่เซี่ยชีหรั่นสามารถฟังออกว่าความเย็นชาของเขานั้นไม่ได้มีต่อเธอ แต่มีต่อคนที่ไม่ประสงค์ดีกับเธอมากกว่า
ดูเหมือนเขาจะโกรธมาก
เซี่ยชีหรั่นเริ่มเป็นห่วงคนที่ทำให้เย่เชินหลินโกรธ
แม้เย่เชินหลินพูดอย่างแข็งกร้าว แต่เซี่ยชีหรั่นไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณของเขาอีก
เธอไม่อยากมีข้อผูกมัดกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว เธอรู้สึกเหนื่อยใจมามากพอแล้ว
“ขอบคุณนะ แต่ไม่จำเป็นแล้วล่ะ ฉันจัดการเองได้”
เซี่ยชีหรั่นปฏิเสธเย่เชินหลินอย่างแผ่วเบา
เย่เชินหลินที่คุยสายอยู่อีกด้านได้บีบโทรศัพท์ไว้แน่น ๆ แล้วเสียงพูดของเขาก็เย็นเยือกกว่าเดิม “แล้วคุณคิดจะทำยังไง?”
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ฉันจัดการเองได้ งั้นแค่นี้ก่อนนะ”
เมื่อพูดจบ เซี่ยชีหรั่นกดวางสายลงทันทีโดยที่ไม่รอการตอบสนองของเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินโกรธมากจนทุบโทรศัพท์แหลกเป็นชิ้น ๆ
ผู้หญิงคนนี้! ทำไมถึงดื้อรั้นขนาดนี้! มันยากมากเลยหรือที่จะยอมรับความช่วยเหลือจากผู้อื่น?
เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นปฏิเสธ เย่เชินหลินก็รู้สึกเจ็บปวดใจอีกครั้ง
เขาต้องทำยังไงเพื่อให้เธอกลับมาเชื่อใจตัวเองอีกครั้ง?
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นวางสายแล้วเงยหน้าขึ้น เธอก็ได้เห็นสวีเห้าเซิงที่กำลังมองตัวเองอยู่อย่างจริงจัง
ผู้ชายคนนี้คอยอยู่เคียงข้างเธอกับลูกชายมานานหลายปี ในตอนนี้บริษัทของเธอกำลังเผชิญกับปัญหาที่ใหญ่ที่สุดและเขาก็ยังยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างเธอไม่ไปไหน
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หัวใจของเซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่ต้องรู้สึกผิดจริง ๆ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset