สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1122 สาวใช้ตัวแสบ 1026

ตอนที่ 1122 สาวใช้ตัวแสบ 1026 
ไป เธอต้องไปแน่นอนอยู่แล้ว เธอจะต้องไปคุยกับผู้ชายที่ไม่รักษาคำพูดและวางอำนาจคนนั้นให้รู้เรื่องสักรอบ!
บอดี้การ์ดขับรถพาเซี่ยชีหรั่นเข้ามาถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่อย่างช้า ๆ ข้างในคฤหาสน์ตระกูลเย่นั้นเงียบสงบ
ในเวลานี้ เซี่ยชีหรั่นได้อุ้มเนี่ยนโม่ไว้ในอกแล้ว
เนี่ยนโม่มองไปนอกกระจกหน้าต่างรถอย่างสงสัย แล้วถามเซี่ยชีหรั่นขึ้นว่า “แม่ครับ เราจะกลับมาที่บ้านคุณย่าเหรอครับ?”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า “ใช่จ้ะ แต่ว่า เราอยู่แค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ไปแล้วจ้ะ”
เนี่ยนโม่มองแม่อย่างงุนงง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อเช้าพวกเขาต้องจากไป แล้วตอนนี้ก็กลับมา จากนั้นอีกสักครู่ก็จะจากไปอีก
โลกของผู้ใหญ่นี่ช่างวุ่นวายจริง ๆ เลย
พอเข้ามาถึงห้องรับแขก เย่เชินหลินก็กำลังนั่งรออยู่บนโซฟาเหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรอยู่แล้ว และมองมาทางสองแม่ลูก
ฝู้เฟิ่งหยีที่รอแทบไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว เธอก็รีบเดินหน้าไปไม่กี่ก้าวแล้วก็รับตัวเนี่ยนโม่มาอุ้มไว้ในอ้อมอกและหอมแก้มเขาอย่างอดใจไม่ได้
“อ๋ายโยว หลานของย่า ย่าคิดถึงหนูมากเลยนะ มาให้ย่าดูหน่อยเร็ว……เอ๊ะ นี่เป็นอะไรไปล่ะ? ทำไมดูไม่สดใสร่าเริงเลย?”
ก็สมแล้วที่เป็นย่าคน แค่มองทีเดียวก็ดูออกแล้วว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ
ฝู้เฟิ่งหยีถลึงตาโต และมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างไม่พอใจ “นี่ตกลงเธอดูแลลูกยังไงกัน? เมื่อเช้าตอนที่เธอพาออกไปจากบ้านฉันยังดี ๆ อยู่เลยนะ แต่ทำไมพอไปอยู่ที่เธอแล้วถึงเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกผิดจนก้มหัวลง
เป็นความประมาทเลินเล่อของเธอเองจริง ๆ เพราะว่าช่วงนี้เธอค่อนข้างยุ่งมาก จึงทำให้ละเลยเนี่ยนโม่ไปบ้าง วันนี้ถึงได้ทำให้เขาไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนแบบนี้ ที่จริงในใจของเธอนั้นทั้งปวดใจและโทษตัวเองอยู่
แน่นอนว่าเย่เชินหลินนั้นสามารถดูออกได้ว่า ในใจของเซี่ยชีหรั่นนั้นเสียใจอยู่ไม่น้อย แต่ว่า เขากลับไม่ได้หยุดยั้งการตำหนิของมารดา
เพราะว่า เขาอยากจะยืมเหตุผลนี้มาใช้ เพื่อให้เซี่ยชีหรั่นย้ายกลับมา
ฝู้เฟิ่งหยีก็ยังคงไม่พอใจ “ตกลงเธอเลี้ยงลูกเป็นไหมเนี่ย? เธอดูเนี่ยนโม่ของบ้านเราซิ เป็นเด็กดีแค่ไหน เป็นคนเข้าใจหัวอกคนอื่นมากแค่ไหน แล้วเธอดูตอนนี้ซิ เขากลับไม่มีชีวิตชีวาเลยสักนิด”
เนี่ยนโม่เอาหน้าชิดหัวของคุณย่า แล้วเปิดปากพูดอย่างว่าง่าย “คุณย่าครับ คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมแค่เป็นไข้เฉย ๆ คุณแม่พาผมไปโรงพยาบาลมาแล้ว คุณลุงหมอก็ฉีดยาให้ผมแล้วด้วย ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้วครับ”
ฝู้เฟิ่งหยีลูบหัวเขาอย่างห่วงใย “ฉีดยาเจ็บไหมจ๊ะ? ไหนมาให้ย่าแตะหัวดูหน่อยซิ ตอนนี้ยังเป็นไข้อยู่หรือเปล่า?”
เนี่ยนโม่ส่ายหน้าอย่างเชื่อฟัง แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นแล้วครับ ยาของคุณลุงหมอดีมากเลยครับ คุณย่า ผมเก่งมากเลยนะครับ ผมไม่ได้ร้องไห้เลย”
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งก้มหน้าต่ำลงไปเรื่อย ๆ ในที่สุดจึงพูดขึ้นเสียงขรึมว่า “ชีหรั่น วันนี้คุณจำเป็นจะต้องพาเนี่ยนโม่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่”
เซี่ยชีหรั่นโต้กลับไปอย่างไม่พอใจ “ฉันนึกว่าเมื่อวานฉันได้พูดชัดเจนดีแล้วนะ ฉันจะไม่มีทางกลับมาแน่ สำหรับเรื่องนี้คุณตายใจไปได้เลย”
เย่เชินหลินไม่สะทกสะท้าน “คุณดูอย่างตอนนี้ซิ เนี่ยนโม่เป็นแบบนี้ คุณวางใจได้เหรอ? ผมเป็นพ่อของลูก ผมมีสิทธิ์ที่จะให้การดูแลที่ดีที่สุดกับแก ถ้าหากคุณไม่อยากกลับมาละก็ งั้นคุณก็เอาลูกมอบไว้ให้ผม”
อะไรนะ?
เซี่ยชีหรั่นลืมตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ พูดไปพูดมาแล้ว เขาก็ยังจะแย่งลูกกับเธออยู่ดี
ไม่มีทาง เนี่ยนโม่เป็นชีวิตของเธอ เธอจะไม่มีทางเอาลูกให้คนอื่นตลอดกาลแน่
“ไม่ คุณจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้นะ”
น้ำเสียงของเซี่ยชีหรั่นนั่นอ่อนแรงมาก ๆ เธอรู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเป็นลมแล้ว
และถึงแม้เย่เชินหลินจะทนทำใจบีบบังคับเธอแบบนี้ไม่ได้ แต่ว่าเขาอยากจะตื่นทุกเช้าแล้วสามารถเห็นหน้าพวกเขาแม่ลูกเป็นคนแรกมากจริง ๆ เลย
“ที่คุณพูดนั้นไม่นับ ผมให้เวลาคุณไปเก็บของครึ่งวัน คุณจะต้องรู้ไว้นะว่า ทนายของตระกูลเย่เรานั้นถือได้ว่ามีฝีมือมากที่สุดในประเทศนี้ ขอแค่ผมอยากได้ ไม่มีสิ่งที่หามาไม่ได้หรอกนะ”
เย่เชินหลินกำลังแอบสัญญาณส่งบอกเป็นนัย ๆ ให้เซี่ยชีหรั่นว่า ถ้าหากเธอไม่ทำตามที่เขาสั่งแล้วละก็ งั้นเขาก็คงต้องไปแย่งอำนาจในการปกครองของเนี่ยนโม่ในชั้นศาลแน่ ๆ
ในดวงตาของเซี่ยชีหรั่นนั้นมีน้ำตารื้นขึ้นมาแล้ว เธอส่ายหัวอย่างเอาเป็นเอาตาย “ไม่ได้นะ คุณจะมาแย่งลูกกับฉันไม่ได้นะ ทั้ง ๆที่คุณตอบตกลงกับฉันไปแล้วชัด ๆ”
เย่เชินหลินพยายามอดกลั้นความอยากที่จะเอาเธอมากอดไว้ในอ้อมกอด แต่ยังคงมองเธออย่างเย็นชาเช่นเดิม “เพราะว่าเมื่อก่อนผมค่อนข้างเชื่อใจในตัวคุณ ผมนึกว่าคุณจะมีความสามารถมากพอในการดูแลเนี่ยนโม่ แต่ว่า เรื่องของวันนี้ทำให้ผมพบว่า คุณไม่มีทางที่จะทำได้”
เซี่ยชีหรั่นอยากจะไปรับเนี่ยนโม่กลับมา แต่ปรากฏว่ากลับโดนฝู้เฟิ่งหยีอุ้มหลบหลีกไป
ฝู้เฟิ่งหยีเปิดปากพูดเสียงเย็น “ชีหรั่น เธอทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังมากเลย เธอไม่สงสารลูกชายตัวเอง แต่ว่าฉันยังสงสารหลานของฉันอยู่นะ!”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าตัวเองเกือบจะหยัดยืนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอพยายามฝืนกับความเวียนหัวที่มีเป็นระลอก ๆ และต่อต้านกับเย่เชินหลินอย่างอ่อนแรง “ฉันดูแลลูกมาอย่างดีตลอด เหตุการณ์ในวันนี้ก็เป็นแค่เรื่องไม่คาดฝันเท่านั้น ฉันรับรองว่าต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว คุณอย่าแย่งเขาไปเลยนะ……”
ฝู้เฟิ่งหยีไม่ได้สนใจว่าเธอกำลังพูดอยู่ แล้วก็อุ้มเนี่ยนโม่ไปเล่นที่สวนข้างนอกตัวคนเดียว
เนี่ยนโม่หันหน้ากลับไปร้องเรียกเซี่ยชีหรั่น “แม่ แม่เป็นอะไรไปครับ?”
เซี่ยชีหรั่นรีบเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วก็พยายามฝืนยิ้มออกมาให้กับลูกชายทีหนึ่ง “เนี่ยนโม่เป็นเด็กดี แม่ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ แม่จะคุยธุระบางอย่างกับพ่อ หนูไปเล่นกับคุณย่าที่สวนดอกไม้สักพักหนึ่งก่อนดีไหมจ๊ะ?
พอเนี่ยนโม่ได้ยินแม่พูดแบบนี้ ถึงยิ้มออกมาได้ “ครับ งั้นหนูไปเล่นเป็นเพื่อนคุณย่าสักพักก่อน แล้วค่อยมาหาแม่นะครับ”
เซี่ยชีหรั่นรอจนลูกชายออกไปจากสายตาแล้ว ถึงได้มองไปที่เย่เชินหลินอย่างโกรธจัด
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินอย่างเย็นชา ปากเล็ก ๆ นั้นที่ทำให้เย่เชินหลินทั้งรักและเกลียด กลับเอ่ยแต่คำที่ไม่น่ารักออกมา “ฉันคิดว่า ตอนนี้คุณติดค้างคำอธิบายฉันข้อหนึ่ง”
ปฏิกิริยาของเย่เชินหลินนั้นดูผ่อนคลาย และยังสบาย ๆ
เขายิ้มแล้วตอบว่า “อ๋อ? คุณอยากได้คำอธิบายอะไรล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่พอใจกับท่าทีเฉื่อยชาแบบนี้ของเขาเอามาก ๆ อย่างกับว่าการกระทำของเขาคือกำลังรับมือกับเด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ยังไงอย่างงั้น
เธอเหวี่ยงหมัดไปมาอย่างโมโหจัด “คุณยังไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ก็ลักพาตัวฉันกับเนี่ยนโม่มา ตกลงคุณอยากจะทำอะไรกันแน่?”
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้จริง ๆ ว่าตกลงเย่เชินหลินกำลังคิดอะไรอยู่บ้าง ทั้ง ๆ ที่พวกเขาได้จบกันไปแล้ว แล้วทำไมเขายังต้องลำบากมาตอแยไม่จบไม่สิ้นกันแบบนี้อีกล่ะ?
ในดวงตาของเย่เชินหลิน แอบซ่อนความรู้สึกลึกซึ้งมากมายที่ไม่มีทางพูดออกมาได้ ยังมีความลับที่แอบซ่อนไว้อย่างขมขื่น และแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้นั้น เซี่ยชีหรั่นล้วนไม่รู้ทั้งสิ้น
เย่เชินหลินทำได้แค่ต้องแสร้งทำเป็นไม่สนใจเท่านั้น “คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอก คุณรู้ไว้แค่ว่า ผมสามารถสั่งให้คุณทำได้ทุกเรื่อง ขอแค่ผมมีความสุข ถ้าหากคุณไม่ยินดี คุณสามารถทิ้งลูกชายไว้ แล้วจากไปตัวคนเดียวได้”
เย่เชินหลินได้คว้าจุดอ่อนของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้แล้ว เขารู้ว่าเธอไม่มีทางที่จะทิ้งเนี่ยนโม่ไว้แน่
เขามีความเชื่อมั่น ว่าครั้งนี้จะต้องให้เธอยินยอมด้วยใจที่จะอยู่ข้างกายตัวเองแน่
ในใจของเซี่ยชีหรั่นรู้สึกเจ็บปวด ผู้ชายคนนี้ ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ มีแต่คอยจะข่มขู่ตัวเอง ไม่เคยเคารพความคิดเห็นของตัวเองเลยสักครั้ง
ช่างมันเถอะ ปล่อยตามเขาไปเถอะ ใครให้ตอนนี้ตัวเองยังไม่มีความสามารถมากพอจะต่อกรกับเขาได้ล่ะ?
เขาอยากจะทำอะไรก็ตามสบาย ต่อไป เธอก็จะคิดซะว่าตัวเองเป็นร่างที่ไร้วิญญาณร่างหนึ่งก็พอแล้ว
จะไม่มีความคิดเป็นของตัวเองอีกแล้ว จะไม่ดีใจ จะไม่เสียใจ และก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องปวดสมองอีก
เย่เชินหลินมองปฏิกิริยาของเซี่ยชีหรั่นจากโกรธจัด จนถึงสงบนิ่ง และก็จนถึงเกือบจะชินชา ในใจของเขาก็กระตุกวูบขึ้นมา
เธอคงจะไม่ใช่ว่าจะเข้าใจตัวเองผิดแล้วจริง ๆ หรอกนะ แล้วนึกว่าตัวเองจะแย่งลูกกับเธอ?
“ผม……” เย่เชินหลินเปิดปากพูดขึ้นเบา ๆ แต่ว่าพอเขาเพิ่งจะเปิดปากพูดได้คำเดียว ก็โดนเซี่ยชีหรั่นพูดขัดขึ้นอย่างเย็นชาว่า
“ได้ ฉันรู้แล้ว คุณยังมีอะไรอย่างอื่นจะสั่งอีกไหม ถ้าไม่มีแล้วละก็ ฉันไปแล้วนะ”
น้ำเสียงของเธอราบเรียบจนไม่มีความรู้สึกอะไร ราวกับหุ่นยนต์ที่ยังประกอบไม่เสร็จยังไงอย่างงั้น ที่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเลย
เย่เชินหลินรู้สึกไม่พอใจกับเซี่ยชีหรั่นที่เป็นแบบนี้เอาอย่างมาก แต่ว่าก็ไม่มีหนทางอื่นที่จะสามารถรั้งเธอให้อยู่ต่อได้แล้ว
เขาคิดว่า ชีวิตต่อไปยังอีกยาวไกล ค่อยเป็นค่อยไปละกัน แล้วมันจะต้องมีสักวันที่เธอจะต้องเห็นความจริงใจของเขาแน่นอน
เซี่ยชีหรั่นเห็นเย่เชินหลินแค่เอาแต่จ้องเธออยู่แต่กลับไม่พูดอะไร ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วถามขึ้นอีกครั้งว่า “คุณยังมีเรื่องอื่นอีกไหม?”
อยู่ ๆ เย่เชินหลินก็พบว่า เมื่อเทียบกับผู้หญิงคนที่เหมือนตายซากเมื่อกี้แล้ว ที่จริงเขาชอบผู้หญิงคนที่ดูมีอารมณ์นิด ๆ และดูจริงจังตรงหน้าคนนี้มากกว่า
มีไฟโกรธเล็ก ๆ แบบนี้ ทำให้เซี่ยชีหรั่นดูไปแล้วทั้งตัวดูมีเลือด มีเนื้อหนัง และมีวิญญาณขึ้นมาเยอะเลย
ริมฝีปากของเย่เชินหลินคลี่ขึ้นเล็กน้อย “ไม่มีแล้ว คุณสามารถกลับไปเก็บข้าวของได้เลย ส่วนเนี่ยนโม่ก็ให้รออยู่ที่นี่ก่อน”
เซี่ยชีหรั่นเพิ่งรู้ตัวว่าอารมณ์ของตัวเองเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว ก็รู้สึกหงุดหงิดจนกัดริมฝีปากเอาไว้
เธอนี่ช่างไม่มีความอดทนเลยจริง ๆ มักจะโดนคนอื่นทำให้โกรธได้ง่าย ๆ ตลอดเลย
เซี่ยชีหรั่นไม่อยากจะไปมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่ารังเกียจของเย่เชินหลินอีกแล้ว เธอเลยรีบหมุนตัวออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลเย่เลย
ฝู้เฟิ่งหยีที่อยู่ที่สวนดอกไม้พอเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นจากไปแล้ว ก็นึกว่าเธอจะไม่เอาเนี่ยนโม่แล้ว เขาก็เลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธขึ้นมา “คนเป็นแม่แบบนี้ ทำไมถึงเชื่อถือไม่ได้ขนาดนี้นะ? แค่จะประชดประชันกับผู้ใหญ่ แม้แต่ลูกก็ไม่นึกถึงแล้วเหรอ? แย่มากจริง ๆ เลย”
เนี่ยนโม่ไม่รู้ว่าที่ย่าพูดนั้นหมายถึงใคร แต่ว่าเขารู้สึกโดยสัญชาตญาณ เหมือนกับว่าคุณย่าจะไม่ค่อยประทับใจในตัวคุณแม่สักเท่าไหร่
เขาคิดแล้วก็ออกห่างจากอ้อมกอดของฝู้เฟิ่งหยี และพูดกับฝู้เฟิ่งหยีด้วยท่าทางจริงจังว่า “คุณย่าครับ คุณแม่ของผมเป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลกเลยครับ และผมก็รักแม่มาก ๆ ๆ ๆ ที่สุดเลย คุณย่าอย่าไม่ชอบคุณแม่ได้ไหมครับ?”
ฝู้เฟิ่งหยีจะมาปฏิเสธคำขอของหลานรักได้ยังไงกันล่ะ?
เธอก็เลยรีบตอบตกลงทันที “ไม่ใช่ ไม่ใช่ ย่าไม่ได้ไม่ชอบแม่ของหนู ย่าแค่พูดไปงั้น ๆ แหละ หนูจะกินของว่างไหมจ๊ะ?”
เด็ก ๆ นั้นหลอกง่ายมาก ถึงแม้ว่าเนี่ยนโม่จะฉลาดกว่าเด็กทั่วไปเยอะมากก็ตาม เพราะฉะนั้น เขาจึงไปกินของว่างกับฝู้เฟิ่งหยีที่ห้องอาหารอย่างดีใจ
การกระทำของเซี่ยชีหรั่นนั้นช้ามาก ในตอนที่เย่เชินหลินกำลังจะรอไม่ไหว และอยากจะส่งคนไปเร่งเธอ เธอถึงจะมาถึงอย่างเลยเวลาไป
อารมณ์ของเย่เชินหลินนั้นดีมาก ๆ เขาถึงขนาดสั่งให้คนรับใช้เอาข้าวของของเซี่ยชีหรั่นไปเก็บอย่างยิ้มแย้มเลยทีเดียว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset