สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1123 สาวใช้ตัวแสบ 1027

ตอนที่ 1123 สาวใช้ตัวแสบ 1027
ตั้งแต่เข้าประตูมาแล้ว อากัปกิริยาบนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นก็เฉยเมยอยู่ตลอด ไม่ดีใจและไม่เสียใจ เหมือนกับว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นไม่เกี่ยวกับตัวเองเลยสักนิด
อารมณ์ดี ๆ ของเย่เชินหลินนั้น หลังจากที่เจอกับท่าทีแบบนี้ของเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ค่อย ๆ ลดน้อยลงทีละนิดทีละนิด
“ทำไม ให้เธอกลับมานี่ มันต้องกล้ำกลืนฝืนทนอย่างยากเย็นขนาดนี้เลยเหรอ?” เย่เชินหลินถามขึ้นเสียงเย็น
“ใช่” เซี่ยชีหรั่นตอบกลับไปอย่างไม่อ้อมค้อม เธอพูดความรู้สึกในใจที่แท้จริงออกไปอย่างซะใจ
ยัยผู้หญิงสมควรตายนี่ นี่เธอถึงกลับกล้าตอบมาว่าใช่เลยเหรอ!
“อย่างงั้นก็คงจะต้องให้คุณทนกล้ำกลืนแล้วล่ะ” เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของเย่เชินหลินนั้นไม่สบอารมณ์
เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่สนใจเขาหรอก แน่นอนว่าถ้าท่าทีของเธอสามารถทำให้เขาโมโหได้ ในใจของเธอก็จะรู้สึกดีใจด้วย
ใครใช้ให้เขามักจะชอบวางอำนาจแบบนี้ล่ะ ไม่เคยคำนึงถึงความรู้สึกของเธอเลยสักนิด!
เซี่ยชีหรั่นก็เป็นเหมือนกับมนุษย์ไม้คนหนึ่ง และตอบกลับคำถามของเย่เชินหลินราวกับเป็นเครื่องจักรกล ที่ทำตัวถามมาคำหนึ่งก็ตอบไปคำหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่า แววตาของเธอที่ขยับบ้างเป็นบางครั้ง เขาเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังคุยอยู่กับตุ๊กตาไม้แล้ว
นี่ยังเป็นตุ๊กตาไม้ตัวหนึ่งที่ทำให้คนโกรธได้อีกด้วย!
เซี่ยชีหรั่นนั่งทื่อ ๆ อยู่ที่ห้องรับแขก แล้วปล่อยสมองของตัวเองให้โล่ง อะไรก็ไม่ต้องคิด แล้วก็รู้สึกขึ้นมาว่าวันเวลาก็ไม่ได้ผ่านไปอย่างยากลำบากเหมือนกับที่เธอคิดไว้นี่
เย่เชินหลินพูดกับเซี่ยชีหรั่นไปไม่กี่ประโยค ล้วนไม่ได้รับการตอบกลับอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ นี่ทำให้เขาอดทนได้อยากจริง ๆ
“เซี่ยชีหรั่น เธอจะหลบหนีฉันไปอย่างนี้เหรอ? จะใช้หน้าโลงศพแบบนี้มาเผชิญหน้ากับฉันตลอดกาลเลยเหรอ?” เย่เชินหลินทนไม่ไหวจนหลุดปากพูดออกมา หลังจากพูดคำพูดนี้ออกไปแล้ว เขาก็เริ่มรู้สึกเสียใจเลย
ทำไมเขาถึงไม่มีความอดทนขนาดนี้นะ?
และปรากฏว่าบนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นมีแววเยาะเย้ยขึ้นมาเล็กน้อยจริง ๆ ด้วย เธอยังคงใช้น้ำเสียงและคำพูดไร้เยื่อใยในการตอบกลับไปอยู่เช่นเดิมว่า “ใช่”
ไม่มีคำพูดไร้สาระเกินมาแม้แต่ตัวอักษรเดียว
น่ารังเกียจที่สุด ผู้หญิงที่ดื้อดึงคนนี้ จะทำให้เขาโมโหตายจริง ๆ อยู่แล้ว!
เส้นเอ็นสีเขียวบนหน้าผากของเย่เชินหลินโผล่ออกมาแล้ว เขาพยายามข่มความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ แล้วพูดเสียงเย็นว่า “เธอตามฉันมาที่ห้องหนังสือ มาช่วยฉันทำงานหน่อยซิ”
ถึงแม้เซี่ยชีหรั่นจะไม่อยากจะอยู่กับเขาตามลำพัง แล้วถ้าหากมันสามารถทำให้เธออารมณ์แปรปรวนจนตะคอกเสียงดังกับเขา เธอก็ไม่ยินดี
ในเมื่อเธอได้ตัดสินใจมานานแล้วว่าจะ แล้วแต่เขาอยากทำอะไร เธอแค่ต้องรักษาใจของตัวเองให้ดี ไม่ว่าลมฝนข้างนอกจะกระหน่ำแค่ไหน ก็อย่าเปลี่ยนความยืนกรานภายในจิตใจก็พอ
ใบหน้าของเย่เชินหลินมีแววพ่ายแพ้กะพริบขึ้น
จิตใจของเซี่ยชีหรั่นนั้นทำมาจากอะไรกันแน่ หรือว่าเขายังทำได้ไม่ดีพออีกเหรอ? ทำไมเธอถึงยังมองไม่เห็นจิตใจที่มีความจริงใจดวงนี้ของตัวเองอีกล่ะ?
เย่เชินหลินรู้สึกว่า ตั้งแต่วันแรกที่เขารู้จักกับเซี่ยชีหรั่นเป็นต้นมานั้น ความรู้สึกของเขาก็เริ่มโดนผู้หญิงคนนี้กุมไว้แล้ว เพียงแค่เซี่ยชีหรั่นสามารถยิ้มให้เขาอย่างมีความสุขได้ เขาก็รู้สึกพึงพอใจราวกับได้ครอบครองโลกทั้งใบไว้แล้ว
ทั้งสองคนที่อยู่ในห้องหนังสือ กลับไม่มีการสื่อสารกันแม้แต่คำเดียวเกิดขึ้น ได้แต่นั่งเงียบ ๆ กันอยู่อย่างงั้นทั้งคืน
ตอนกลางคืน เซี่ยชีหรั่นและเนี่ยนโม่กำลังนอนอยู่ในห้อง เนี่ยนโม่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เขากอดหมอนไว้ แล้วถามเซี่ยชีหรั่นขึ้นว่า “แม่ครับ หนูไปนอนกับคุณพ่อได้ไหมครับ? หนูยังไม่ได้บอกราตรีสวัสดิ์กับพ่อเลย”
เซี่ยชีหรั่นหอมแก้มเนี่ยนโม่อย่างเอ็นดู แล้วพูดกับเขาเสียงเบาว่า “ไปเถอะลูกรัก บอกราตรีสวัสดิ์กับพ่อเสร็จแล้วก็กลับมาเข้านอนได้แล้วนะ”
เนี่ยนโม่กระโดดลงจากเตียงอย่างดีใจ แล้วใส่รองเท้าเสร็จแล้วก็รีบไปเคาะประตูห้องของเย่เชินหลิน
กลางคืนเย่เชินหลินดื่มเหล้าไปหลายแก้ว เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นก็นอนอยู่แค่ห้องข้าง ๆ ที่ห่างจากตัวเองไปแค่กำแพงเดียว
แต่ว่า เขากลับไม่มีทางเดินเข้าไป กอดเธอแล้วนอนหลับไปด้วยกันได้
เย่เชินหลินรู้สึกอารมณ์หงุดหงิด นอนอยู่บนเตียงก็พลิกตัวไปมานานแล้วก็นอนไม่หลับ สุดท้ายได้แต่ลุกขึ้นมาดูเอกสารและทำงานต่อไป
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก……”
ที่นอกประตูมีเสียงเคาะประตูลอยมา
เย่เชินหลินนวดหัวคิ้วขึ้นเบา ๆ ในใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจ เขาเคยกำชับพวกคนรับใช้ไว้แล้วว่า ตอนกลางคืนอย่ามารบกวนเขาไปเรื่อย ทำไมถึงยังมีคนกล้ามาอีก?
“เข้ามา” น้ำเสียงของเย่เชินหลินฟังดูไม่ดีเอามาก ๆ
“แกร๊ก” เสียงประตูถูกผลักออก เย่เชินหลินกวาดสายตาเย็น ๆ มองไปที่ประตูทีหนึ่ง
เอ๊ะ? ทำไมไม่มีคนล่ะ?
สายตาของเย่เชินหลินอดไม่ได้ที่จะมองต่ำลงไป ก็มองเห็นหัวเล็ก ๆ ฟู ๆ หัวหนึ่งกำลังชะเง้อมองมาอยู่ตรงประตู และมองมาที่ตัวเองอย่างหวาดกลัว
ที่แท้เป็นเนี่ยนโม่นี่เอง
ท่าทีของเย่เชินหลินรีบเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที แล้วเขาก็กวักมือให้เนี่ยนโม่ “มาเร็ว มาหาพ่อเร็ว”
สายตาของเนี่ยนโม่ก็สว่างขึ้นมาทันที เขากอดหมอนรักของตัวเองเอาไว้ แล้ววิ่งมาถึงข้างเตียงของเย่เชินหลินอย่างรวดเร็ว
เย่เชินหลินขยับไปข้าง ๆ อย่างใช้แรง เพื่อเว้นที่ออกมาให้เนี่ยนโม่ได้สามารถนอนเคียงข้างตัวเองได้
“ทำไมยังไม่นอนล่ะ? แล้วแม่ของหนูล่ะ?” เย่เชินหลินถามเนี่ยนโม่ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
ถึงแม้ว่านิสัยของเย่เชินหลินจะค่อนข้างเย็นชา และตัวบุคคลก็ค่อนข้างเยือกเย็น แต่ว่า สำหรับเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงหนึ่งเดียวของตัวเขาเองแล้ว เขากลับมีความอดทนและความรักแบบเต็มเปี่ยม
ลูกรักคนนี้ เป็นสิ่งที่หลอมรวมมาจากความรักของเขาและเซี่ยชีหรั่น เขาจึงรู้สึกแต่เพียงว่าจะรักยังไงก็ยังรักไม่พออยู่ดี
“หนูยังไม่ได้บอกราตรีสวัสดิ์กับพ่อเลย ส่วนแม่กำลังรอหนูกลับไปนอนอยู่ครับ” เนี่ยนโม่เอียงหัวนอนอยู่ข้าง ๆ เย่เชินหลิน ดวงตาคู่โตที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากเย่เชินหลินนั้น เต็มไปด้วยความรู้สึกเคารพรักต่อผู้ใหญ่
เย่เชินหลินอดไม่ได้ที่แววตาจะอ่อนโยนลงอย่างไม่รู้ตัว เขายื่นมือออกไปข้างหนึ่ง แล้วก็พยายามขยี้ผมของเนี่ยนโม่
“พ่อก็ลืมบอกราตรีสวัสดิ์กับหนูแล้ว ราตรีสวัสดิ์ ลูกรัก”
“ราตรีสวัสดิ์ครับพ่อ” น้ำเสียงของเนี่ยนโม่ทั้งนุ่มนวลและอ่อนหวาน จนทำให้ในใจของเย่เชินหลินมีความอบอุ่นพุ่งขึ้นมาเป็นระลอก ๆ
เจ้าเด็กน้อยคนนี้ นี่มันน่ารักมากจริง ๆ เลย
เนี่ยนโม่จ้องมองพ่อ ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย แล้วเขาก็หลับตาลง
“พ่อครับ หนูหลับตาแป๊บเดียวนะ แค่แป๊บเดียวก็พอแล้ว แล้วเดี๋ยวหนูจะกลับไปหาแม่…… แล้วก็…… นอน…… อืม…… กับแม่นะครับ……”
เย่เชินหลินพบว่าช่างน่าตลก ที่เนี่ยนโม่พูดไปพูดไป อยู่ ๆ ก็นอนหลับไปเลย
เธอเอียงตัวอย่างระมัดระวัง แล้วเอาผ้าห่มมาห่มบนตัวให้เนี่ยนโม่อย่างเบามือ
เย่เชินหลินจ้องมองเนี่ยนโม่อย่างตั้งใจ ดูเด็กน้อยคนนี้ที่มีหน้าตาเหมือนกับเขามากจนน่าตกใจ
เรื่องอย่างกรรมพันธุ์นี้ช่างเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์จริง ๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะสามารถมีลูกคนหนึ่งแบบนี้ ลูกคนหนึ่งที่ทั้งน่ารัก หล่อเหลา และฉลาดแบบนี้
ในตอนแรก เขาเกือบจะทำแท้งเด็กคนนี้ไปแล้ว……
เย่เชินหลินยื่นมือไปกอดเนี่ยนโม่ไว้ไม่หยุด ในตอนนั้นเขาช่างโง่เขลานัก ทำไมเขาถึงสามารถทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้นะ?
อุ้มมือใหญ่ของเย่เชินหลินลูบไล้แก้มน้อย ๆ ของเนี่ยนโม่ แก้มน้อย ๆ ของเนี่ยนโม่สว่างใส นุ่มลื่นจนบรรยายไม่ถูก
ท่าทางของเนี่ยนโม่สงบนิ่ง นอนหลับสบาย ดูไปแล้วเหมือนเทวดาน้อย ๆ ตนหนึ่ง ที่สามารถทำให้คนรักคนหลงได้
เย่เชินหลินก้มตัวลงไปหอมแก้มเขาอย่างอดใจไม่ไหว จากนั้นเขาก็ช่วยเนี่ยนโม่ดึงผ้าห่มขึ้นมาสูง ๆ ห่มไว้บนตัวเขาอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันเขาไม่สบาย
เซี่ยชีหรั่นรออยู่ที่ห้องรอแล้วรอเล่า รอจนเธอเกือบจะนอนหลับไปแล้ว ก็ยังไม่เห็นเนี่ยนโม่กลับมา
เมื่อไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว เธอจึงทำได้แค่เอาเสื้อมาคุ้มไว้ แล้วไปตามหาคนที่ห้องของเย่เชินหลิน
เวลาดึกมากแล้ว ที่ระเบียงทางเดินนอกจากแสงไฟสลัวจากโคมไฟติดผนังแล้ว ก็ไม่มีแสงสว่างอย่างอื่นอีกเลย
ภายใต้สิ่งแวดล้อมแบบนี้ อยู่ ๆ เซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เธอรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น จนถึงสุดท้ายเกือบจะเป็นวิ่งไปจนถึงหน้าห้องของเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นที่ใจกำลังเต้นโครมคราม เธอไม่กล้าหันหลังกลับไปมองระเบียงทางเดินที่มืดสลัวเลยแม้แต่นิดเดียว มันเหมือนกับกำลังมีมือที่มองไม่เห็น กำลังขยับเข้ามาใกล้ตัวเธออย่างช้า ๆ
พอมาถึงหน้าประตูห้องของเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นก็รีบร้อนเข้าไปอย่างลนลานโดยที่ไม่ได้เคาะประตูห้องด้วยซ้ำ
เย่เชินหลินกำลังมองภาพเนี่ยนโม่ที่กำลังหลับอย่างเหม่อลอย แล้วอยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออกอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง
ในเวลานี้ เนี่ยนโม่ก็กำลังพึมพำอะไรบางอย่าง แล้วก็พลิกตัวแล้วนอนหลับต่อไป
ในใจของเย่เชินหลินรู้สึกโกรธมาก
เขานึกว่าเป็นสาวใช้คนไหนไม่รู้เรื่อง วิ่งเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา แล้วทำให้รบกวนถึงการนอนของลูกชายของเขา
“ไสหัวออกไป!”
สายตาที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งของเย่เชินหลินกวาดมองไปเห็นเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเพิ่งวิ่งเข้ามาจากข้างนอก กำลังพิงประตูหอบหายใจอยู่
พอเธอได้ยินเย่เชินหลินพูดคำพูดแล้งน้ำใจแบบนี้ออกมากับเธอ หน้าของเธอก็ขาวซีดขึ้นมา
เย่เชินหลินพบเห็นแล้วก็ตกใจ คนที่เข้ามากลับเป็นเซี่ยชีหรั่น เขาเลยรีบพูดเสริมขึ้นประโยคหนึ่งว่า “ผมไม่ได้ว่าคุณ ผมนึกว่าเป็นคนรับใช้……”
สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นยังคงขาวซีด เธอยิ้มขมขื่นกับตัวเองในใจ ดูซิ ที่เธอมาที่นี่ ล้วนแล้วแต่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น เขาไม่ได้ต้อนรับเธอเลยสักนิด
เซี่ยชีหรั่นพยายามฝืนยิ้มที่ดูไม่ได้เลยออกมาทีหนึ่ง “ฉันรอเนี่ยนโม่ในห้องตั้งนานแล้ว ก็ไม่เห็นเขากลับมาสักที เพราะฉะนั้น ฉันก็เลยมาหาเขา……. ตัวเขาล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นไม่เห็นตัวลูกชาย ก็เลยอดที่จะแปลกใจไปไม่ได้
เย่เชินหลินก้มหัวลงแล้วพูดเสียงเบา ๆ กับเธอว่า “เขานอนหลับแล้ว”
นอนหลับแล้วเหรอ?
เซี่ยชีหรั่นรีบเบามือเบาเท้าขึ้นมาทันที แล้วค่อย ๆ เดินไปที่ข้างเตียงของเย่เชินหลิน
เนี่ยนโม่กำลังนอนหลับฝันหวานอยู่บนเตียงของเย่เชินหลิน แม้แต่ตอนนอนปากของเขาก็ยังมีรอยยิ้มไว้ด้วย
เซี่ยชีหรั่นก้มตัวลงไป อยากจะอุ้มเนี่ยนโม่ขึ้นมา
เย่เชินหลินรีบดึงมือของเธอเอาไว้ก่อน แล้วถามขึ้นเสียงต่ำว่า “คุณจะทำอะไร?”
เซี่ยชีหรั่นก็ตอบกลับเสียงเบาเหมือนกันว่า “ฉันจะอุ้มเขากลับไปนอน จะให้เขาอยู่รบกวนการนอนของคุณที่นี่ได้ยังไง”
เย่เชินหลินพูดอย่างไม่ชอบใจ “อะไรคือรบกวนผม? เขาหลับสนิทขนาดนี้ แล้วถ้าการกระทำของคุณทำให้เขาตกใจขึ้นมาล่ะจะทำยังไง? ให้เขานอนที่นี่น่ะดีแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วก็ยังคงส่ายหน้า “ถ้าเกิดเขาตื่นขึ้นมา แล้วไม่เห็นฉัน เขาจะรู้สึกกลัวได้นะคะ”
เย่เชินหลินกวาดตามองเธอทีหนึ่ง แล้วพูดเสียงเรียบว่า “ผมเป็นพ่อของเขา ถ้าเขาตื่นมาแล้วก็ต้องมีผมอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนเขาอยู่แล้ว จะต้องกลัวอะไร?”
เอาเถอะ อยู่ภายใต้สายตาที่แหลมคมแบบนี้ของเย่เชินหลินแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ค่อย ๆ พ่ายแพ้ไป แล้วเธอก็รีบฟื้นคืนท่าทางซักกะตายแบบเมื่อกลางวันอย่างรวดเร็วอีกแล้ว
“งั้นก็เอาตามนี้ก็ได้ ฉันไปนอนแล้ว”
น้ำเสียงของเซี่ยชีหรั่นไม่มีความรู้สึกใด ๆ และเงียบสงบราวเครื่องจักร
เย่เชินหลินมองตามแผ่นหลังของเธออย่างหงุดหงิด แล้วถามขึ้นว่า “คุณยังไม่ได้พูดราตรีสวัสดิ์กับผมเลย”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset