สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1124 สาวใช้ตัวแสบ 1028

ตอนที่ 1124 สาวใช้ตัวแสบ 1028
เซี่ยชีหรั่นหน้ายังไม่หันไปมองเขา แล้วตอบกลับไปคำหนึ่งว่า “ราตรีสวัสดิ์” ก็ปิดประตูลงและจากห้องนอนของเย่เชินหลินไป
แล้วทิ้งเย่เชินหลินไว้ให้นอนไม่หลับคนเดียวทั้งคืน
เซี่ยชีหรั่นอยู่ที่บ้านตระกูลเย่มาเกือบอาทิตย์หนึ่งแล้ว ในช่วงระหว่างนี้ เธอมักจะคอยหลบเย่เชินหลินทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
เย่เชินหลินค้นพบอย่างโกรธเคืองว่า ถึงแม้เขาจะพาตัวเธอกลับมาได้ แต่ก็กลับหาเธอไม่พบอยู่บ่อย ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอกาสที่จะได้อยู่กับเธอตามลำพังเลย
เนี่ยนโม่ค่อนข้างติดคนมากจริง ๆ แล้วในระยะเวลาทั้งวันมีเวลาอยู่ครึ่งวันที่เขาจะทำตัวติดหนึบอยู่ข้างกายเซี่ยชีหรั่น
ฝู้เฟิ่งหยีนั้นยินดีจะเล่นกับหลานมาก แต่ว่าพอเล่นได้ไม่นาน เนี่ยนโม่ก็จะไปหาแม่แล้ว
เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนั้น ตัวเธอเองไม่ได้ร้อนใจอะไร แต่เย่เชินหลินร้อนใจก็กลับพูดออกมาไม่ได้ แล้วผลปรากฏว่ากลายเป็นผู้ชมที่อยู่ข้าง ๆ อย่างจิ่วจิ่วและฝู้เฟิ่งหยีทั้งสองคนต้องมาไฟลุกโชนอยู่ข้าง ๆ แทน
ฝู้เฟิ่งหยีนั้นมีความหวังเป็นพันอันเลยที่อยากจะให้เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นกลับมาคืนดีกัน ทางที่ดีถ้าสามารถมีหลานให้เขาได้อีกคนได้เร็วที่สุดยิ่งดี
แต่ว่า เขาก็ไม่มีหนทางที่จะไปบังคับให้เซี่ยชีหรั่นพูดกับเย่เชินหลิน หรือว่าไปบังคับให้เธอปฏิบัติกับเย่เชินหลินดี ๆ ได้
เมื่อไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว ฝู้เฟิ่งหยีก็ทำได้เพียงแค่ คอยใช้หนทางต่าง ๆ มาช่วยสร้างโอกาสที่จะให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพังได้
เช้าวันนี้ ฝู้เฟิ่งหยีอุ้มเนี่ยนโม่ไว้แล้วจะพาหมาไปเดินเล่น เธอกำชับเซี่ยชีหรั่นว่า “เมื่อคืนเย่เชินหลินอดนอนจนดึกมากถึงจะได้เข้านอน ฉันก็เลยไม่ได้ปลุกเขามากินข้าว ในครัวยังมีซุปที่อุ่นไว้อยู่ รอเดี๋ยวเธอไปปลุกเขาตื่นมากินข้าวด้วยนะ”
เซี่ยชีหรั่นอยากจะปฏิเสธเธอมาก มีสิทธิ์อะไรมาใช้เธอทำงานแบบนี้ เธอไม่ใช่แม่บ้านของเย่เชินหลินสักหน่อย
และเป็นไปตามนั้น ฝู้เฟิ่งหยีไม่มีทางให้โอกาสเธอปฏิเสธด้วยซ้ำ เขาพูดจบแล้ว ก็รีบร้อนพาเนี่ยนโม่ออกจากบ้านไปเลย รับร้อนอย่างกับว่าข้างหลังมีผีตามมายังไงอย่างงั้น
เมื่อมองเห็นฝู้เฟิ่งหยีพาเนี่ยนโม่จากไปเร็วราวกับสายลมพัดแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ได้แต่เข้าไปในครัวอย่างเบื่อหน่าย แล้วก็ยกโจ๊กซุปไก่ตามขึ้นไปปลุกเย่เชินหลิน
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก……”
เซี่ยชีหรั่นเคาะประตูห้องนอนของเย่เชินหลินขึ้นเบา ๆ
แต่กลับไม่มีคนตอบกลับ
เซี่ยชีหรั่นก็ทำได้แค่บิดลูกบิดประตูอย่างเบามือ แล้วเธอก็เดินเข้าไปในห้องของเย่เชินหลินอย่างเบามือเบาเท้า
ในห้องเงียบสงบ เซี่ยชีหรั่นเดินอยู่บนพรหมขนแกะเปอร์เซียยาว ๆ ไม่ได้ทำให้เกิดเสียงอะไรออกมาสักนิด
เย่เชินหลินนอนคว่ำอยู่บนเตียง ยังคงนอนหลับสนิทอยู่
เซี่ยชีหรั่นเดินไปถึงข้างเตียงอย่างเงียบ ๆ และมองเย่เชินหลินที่กำลังอาบแสงแดดยามเช้าอยู่ ผ้าห่มของเย่เชินหลินตกมาอยู่ถึงเอว มือและแขนที่โผล่ออกมานั้นดูแข็งแรงและมีพละกำลัง บนร่างกายของเขาก็ยังคงมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและแน่นหนา ราวกับว่าถ้าได้อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว คงไม่ต้องหวาดกลัวลมฝนอะไรกระหน่ำเลย
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินอย่างลุ่มหลง และเผลอยื่นมือออกไป แตะโดนผมของเย่เชินหลินเบา ๆ แล้วอยู่ ๆ หัวของเย่เชินหลินก็ขยับขึ้นมาเล็กน้อย
เซี่ยชีหรั่นตกใจจนรีบชักมือกลับมา
เย่เชินหลินหยีตา และมองไปทางข้างเตียง แล้วเห็นเซี่ยชีหรั่นที่ใบหน้าไร้ปฏิกิริยาใด ๆ ยืนอยู่ข้างเตียง
ถึงแม้เซี่ยชีหรั่นจะยังคงไม่มีสีหน้าดี ๆ ให้เขาดู แต่ว่าพอลืมมาก็สามารถมองเห็นหน้าเธอได้ มันทำให้อารมณ์ของเขาก็ยังคงดีมาก ๆ เลย
“อรุณสวัสดิ์” เสียงแหบแห้งต่ำของผู้ชายดังขึ้นมา
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าลง พยายามข่มจิตใจที่ว้าวุ่น แล้วตอบกลับเสียงเบาว่า “อรุณสวัสดิ์ คุณป้าให้ฉันยกโจ๊กซุปไก่ขึ้นมาให้คุณ คุณรีบดื่มมันตอนยังร้อน ๆ ดีกว่า”
เย่เชินหลินลุกขึ้นนั่งลง แล้วบิดขี้เกียจทีหนึ่ง จากนั้นก็บอกกับเธออย่างเบื่อ ๆ ว่า “เอาวางไว้ตรงนั้นก่อนละกัน เดี๋ยวผมค่อยดื่ม”
เซี่ยชีหรั่นมองแผงอกที่เปลือยเปล่าในกลางอากาศของเขาอย่างล่องลอย แล้วตอบกลับว่า “อ๋อ ได้ค่ะ”
เห็นสภาพลุ่มหลงของเซี่ยชีหรั่นแบบนี้แล้ว อารมณ์ของเย่เชินหลินก็ยิ่งดีมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ดูพอหรือยัง? ถ้าดูพอแล้ว ผมจะใส่เสื้อผ้าแล้วนะ” เย่เชินหลินยิ้มและพูดหยอกขึ้น
เซี่ยชีหรั่นถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่า เธอจ้องร่างกายของเย่เชินหลินเป็นเวลานานเกินไปแล้ว
“ฉัน……ฉัน ฉันไม่ได้……ฉันออกไปก่อนนะคะ คุณใส่เสื้อผ้าไปเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นอธิบายกับเย่เชินหลินอย่างติด ๆ ขัด ๆ ใบหน้าแดงระเรื่อ และออกจากห้องไปอย่างลนลาน
เย่เชินหลินมองแผ่นหลังที่เผ่นหนีไปของเธอ แล้วก็ยิ้มอย่างมีความหมายอย่างอื่นลึกซึ้งขึ้นมา
ผู้หญิง เธอหนีไม่พ้นหรอก!
หลังจากนั้นแล้ว ฝู้เฟิ่งหยีก็ยังสร้างโอกาสให้เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินอยู่ด้วยกันตามลำพังอีกหลายครั้ง แต่ว่า ผลที่เกิดขึ้นก็ไม่ค่อยเป็นไปตามที่หวังสักเท่าไหร่
แล้วเนี่ยนโม่ก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเธอสักเท่าไหร่ เขามักจะโผล่ออกมาวุ่นวายตอนที่เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินกำลังอยู่กันตามลำพังเสมอ ไม่ก็จะให้แม่เล่านิทานให้เขาฟัง ไม่ก็จะให้พ่อร้องเพลงให้เขาฟัง ไม่ใช่ก้างขวางคอเล็ก ๆ ธรรมดาซะด้วย
ภายใต้ความไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ฝู้เฟิ่งหยีก็คิดแผนท่าไม้ตายออกมา
เธอเตรียมจะพาเนี่ยนโม่ไปพักร้อนที่ต่างประเทศ แล้วเหลือเวลาว่างไว้ให้คู่รักทั้งสองที่กำลังลังเลกันอยู่ เอ่อ ไม่ใช่ซิ ต้องเป็นคู่รักเก่าถึงจะถูก
ฝู้เฟิ่งหยีแอบกำชับอย่างลับ ๆ กับเย่เชินหลินว่า “ลูกชาย ตอนนี้แม่พาหลานออกไปเที่ยวเล่นแล้ว แกจะต้องรักษาโอกาสไว้ให้ดี ๆ นะ จะต้องชนะใจเซี่ยชีหรั่นกลับมาให้ได้ แม่หวังว่า พอถึงตอนที่แม่กลับประเทศมาแล้ว จะสามารถเห็นพวกแกกลับไปดีกันเหมือนเมื่อก่อนได้นะ”
เย่เชินหลินยิ้มอย่างขมขื่น แล้วพูดว่า “แม่ครับ ทำไมผมจะไม่อยากล่ะ? แต่ว่า ตอนนี้ผมรู้สึกว้าวุ่นจริง ๆ ผมกลัวว่าถ้าผมพยายามจนถึงที่สุดแล้ว ก็ยังจะเป็นความว่างเปล่าอยู่ดี”
ฝู้เฟิ่งหยีตบบ่าของเขาเบา ๆ แล้วให้กำลังใจว่า “อย่าเพิ่งท้อใจไป เมื่อก่อนแกทำให้เขารักแกได้ยังไง ตอนนี้แกก็ทำแบบนั้น พวกแกแม้แต่ลูกก็มีแล้วนะ และยังมีความรักเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องดีขึ้นแน่นอน ลูก ต้องสู้ ๆ นะ!”
ส่วนทางด้านเนี่ยนโม่นั้น ก็ยังคงลังเลเอามาก ๆ อยู่
เขาอยากไปเที่ยวเล่นกับคุณย่าที่ต่างประเทศ แต่ก็แยกจากแม่ไม่ได้
“แม่ครับ ไปเที่ยวเล่นพร้อมกับพวกเราด้วยดีไหมครับ?”
เนี่ยนโม่ดึงแขนเสื้อของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ และพูดกับเขาอย่างออดอ้อน
เซี่ยชีหรั่นกำลังช่วยเนี่ยนโม่เก็บกระเป๋า เธอก้มหน้าลงแล้วพูดยิ้ม ๆ ขึ้นว่า “ที่บริษัทของแม่ทางนี้ยังมีเรื่องอีกมากมาย ไม่มีทางไปเป็นเพื่อนหนูได้ หนูต้องเที่ยวเล่นกับคุณย่าดี ๆ ต้องเชื่อฟังคำพูดของคุณย่านะรู้ไหม?”
เนี่ยนโม่เขย่าเสื้อของเธอเบา ๆ อย่างไม่เห็นด้วย “งั้นถ้าหนูคิดถึงแม่แล้วจะทำยังไงล่ะครับ?”
ที่จริงแล้ว เขายังไม่ได้ไปเลย ก็เริ่มคิดถึงแม่แล้ว
อย่างงั้นจะทำยังไงดีล่ะ?
เนี่ยนโม่ขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปมแล้ว พอเซี่ยชีหรั่นเห็นเช่นนี้ ก็จิ้มจมูกของเขาอย่างรู้สึกตลก และพูดขึ้นว่า “หนูนี่ ถ้าหนูคิดถึงแม่แล้ว ก็โทรวิดีโอคอลมาหาแม่ซิ แบบนั้น ถึงแม้จะอยู่ต่างประเทศหนูก็ยังสามารถมองเห็นแม่ได้”
เนี่ยนโม่รีบหัวเราะออกมาทันที “ใช่ซิ หนูลืมไปเลย งั้นก็เอาตามนี้แหละ แม่ครับ ถ้าหนูไปต่างประเทศแล้วจะโทรวิดีโอคอลกับแม่ทุกวันเลย ได้ไหมครับ?”
“ได้ ได้จ้ะ หนูพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ” เซี่ยชีหรั่นบีบจมูกของเขาอย่างรักใคร่ และยิ้มและพูดขึ้น
เย่เชินหลินที่อยู่ข้างนอกประตู ยืนดูสองคนแม่ลูกที่ทั้งหัวเราะทั้งพูดคุยแล้วเก็บกระเป๋าไปอย่างเงียบ ๆ ความชื่นชมและอิจฉาในดวงตากะพริบผ่านไป
เขาอิจฉาที่เนี่ยนโม่สามารถอยู่ข้างกายเซี่ยชีหรั่นได้อย่างเปิดเผย และก็อิจฉาความสัมพันธ์ของเซี่ยชีหรั่นและเนี่ยนโม่ที่สนิทสนมกันอย่างไร้ขอบเขตแบบนี้
สิ่งเหล่านี้ ที่จริงแล้วตั้งแต่แรกมันควรจะเป็นของเขา……
สมาธิของเย่เชินหลินเริ่มล่องลอยไปในที่ห่างไกล
ถ้าหาก ระหว่างเขาและเซี่ยชีหรั่น ไม่ต้องเกิดเรื่องราววุ่นวายพวกนี้ขึ้นมาก็คงดี
ชีวิตคนเราถ้าเหมือนอย่างเช่นเริ่มต้นเสมอ จะดีงามแค่ไหนกัน……
ถ้าเป็นแบบนั้น เขาก็คงไม่ต้องเสียแรงกายแรงใจมาทำให้เซี่ยชีหรั่นกลับตัวกลับใจแล้ว
เขากับเซี่ยชีหรั่นคงจะได้โบยบินคู่กันไปตั้งนานแล้ว แค่อิจฉานกเป็ดน้ำแมนดาริน แต่ไม่อิจฉาเซียนแล้ว……
เจ้าโชคชะตาที่สมควรตายนี้ ได้พรากให้คู่รักอย่างพวกเขาสองคนต้องจากกันอย่างโหดเหี้ยม
แต่ว่า เย่เชินหลินก็ต้องขอบคุณโชคชะตา ที่ทำให้เซี่ยชีหรั่นได้คลอดลูกที่เป็นของพวกเขาสองคนออกมา ทำให้สายใยระหว่างพวกเขายังไม่ถูกทำลายไป
แล้ววันนี้ เขาอยากจะพึ่งความเชื่อมโยงอันน้อยนิดนี้ ให้ค่อย ๆ ดึงใจของเซี่ยชีหรั่นกลับมาอยู่ข้างกายตัวเอง
ฝู้เฟิ่งหยีเก็บกระเป๋าเสร็จอย่างรวดเร็ว เธอจูงมือของเนี่ยนโม่เอาไว้ แล้วบอกลาเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลิน
“ฉันจะพาเด็กออกไปเที่ยวเล่น ดูวิวทิวทัศน์ และเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมสักหน่อย ส่วนพวกเธอก็รอพวกเรากลับมาอยู่ที่บ้านดี ๆ นะเข้าใจไหม?”
ทั้งสองคนต่างก็ตอบตกลงแล้ว
แล้วฝู้เฟิ่งหยีก็หันไปทางเซี่ยชีหรั่น เธอมองใบหน้าขาวสะอาดสวยงามของเซี่ยชีหรั่น แล้วถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง “ชีหรั่น ป้าเอาเชินหลินยกให้เธอแล้วนะ เธอจะต้องดูแลเขาดี ๆ นะ อย่ามัวเอาแต่คิดถึงส่วนที่เขาทำผิด จะต้องคิดถึงส่วนที่ดีของเขาบ้างนะ”
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้รับคำของเขา เพียงแค่ยิ้ม ๆ เท่านั้น “คุณป้าคะ ระหว่างทางพวกคุณต้องระวังตัวด้วยนะคะ ถ้าเนี่ยนโม่ดื้อไม่เชื่อฟังแล้วละก็ คุณป้าก็พาเขากลับมาเลยนะคะ”
ฝู้เฟิ่งหยีเห็นเธอไม่ฟังคำพูดของตัวเองเข้าไป ทำได้แค่ได้แต่แอบถอนใจในใจเท่านั้น
สิ่งที่เธอสามารถทำได้ ก็มีแค่เท่านี้แล้ว สิ่งที่เหลือ ก็ต้องเพิ่งความพยายามของตัวเย่เชินหลินเองแล้ว
เธอแค่สามารถช่วยได้ถึงตรงนี้แล้ว
เย่เชินหลินจ้องเซี่ยชีหรั่นอย่างลึกซึ้ง และมือกำไว้แน่น
ฝู้เฟิ่งหยีและเนี่ยนโม่บอกลากับทั้งสองคน แล้วก็ขึ้นเครื่องบินที่บินมุ่งหน้าไปสู่ประเทศK
เซี่ยชีหรั่นอยู่รอจนเครื่องบินขึ้นบินแล้วถึงได้จากสนามบินออกไป เย่เชินหลินนั่งอยู่ในรถ เขาเห็นอารมณ์ของเซี่ยชีหรั่นเหมือนจะโศกเศร้าลงเล็กน้อย ก็เลยพูดปลอบใจเธอว่า “อย่ากังวลไปเลย คุณแม่จะต้องดูแลเนี่ยนโม่ให้ดีแน่นอน”
เพราะว่าอารมณ์ของเซี่ยชีหรั่นนั้นโศกเศร้าเอามาก ๆ เธอจึงลืมความคิดที่ว่าตัวเองจะเป็นมนุษย์หุ่นยนต์คนหนึ่งไป แล้วเธอก็พูดพึมพำขึ้นว่า “ฉันไม่ได้กังวล ฉันแค่คิดถึงแกเท่านั้น จะทำยังไงดี แกเพิ่งจะจากไปเอง ฉันก็เริ่มคิดถึงแกแล้ว”
ตั้งหลายวันขนาดนี้ จะให้เธออยู่ยังไงล่ะ?
เย่เชินหลินมองท่าทางคิดไม่ตกของเซี่ยชีหรั่น แล้วก็อดที่จะปลอบใจเธอเสียงเบาไม่ได้ “หลังจากนี้อีกห้าชั่วโมงพวกเขาก็ถึงแล้ว พอถึงตอนนั้น คุณก็โทรวิดีโอคอลกับแกได้ แบบนี้ก็จะได้เห็นหน้าแกแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นก็ยังคงอารมณ์ไม่ดี เพราะว่าตั้งแต่เนี่ยนโม่เกิดมาแล้ว เธอก็ไม่เคยแยกจากกับเนี่ยนโม่นานขนาดนี้มาก่อน
เย่เชินหลินได้แต่คอยปลอบโยนเซี่ยชีหรั่นตลอดทาง เพียงแต่ว่าเซี่ยชีหรั่นก็ยังคงดูซึม ๆ ไม่มีความสุข หลังจากที่กลับมาถึงบ้านแล้ว ก็ยังไม่เห็นดีขึ้น
เมื่อไม่มีทางแล้ว เย่เชินหลินก็ได้แต่ต้องพาเธอออกไปกินลมชมวิวผ่อนคลายข้างนอก กว่าจะทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาได้หน่อยหนึ่งอย่างยากลำบาก
ตอนกลางคืน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่ เซี่ยชีหรั่นก็อดทนไม่ไหวรีบไปเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้น และเชื่อมต่อกับการโทรวิดีโอคอล แล้วพูดคุยกับลูกชาย  

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset