สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1132 สาวใช้ตัวแสบ 1036

ตอนที่ 1132 สาวใช้ตัวแสบ 1036
“เฮ้อ เรื่องมันยาว……”ฝู้เฟิ่งหยียังไม่ทันพูดจบ ก็ถอดหายใจด้วยความคับแค้นใจออกมาหลายเฮือกแล้ว ก็ผู้หญิงอ่ะนะ ก็ต้องอยากจะหาที่ระบาย ปกติแล้วฝู้เฟิ่งหยีจะอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง และไม่ออกไปข้างนอกบ่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จะรับฟังหล่อนนั้นก็คงจะมีไม่มากนัก ซือซือ ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าหล่อนนั้นดูเป็นแม่ศรีเรือนขนาดนี้ ความรู้สึกเสียดายที่เจอเธอช้าไปก็ปะทุขึ้นมา
ซือซือนั้นดูออกว่าฝู้เฟิ่งหยีนั้นพึงพอใจในตัวเธอไม่น้อย เธอนั้นเข้าใจรอยยิ้มของฝู้เฟิ่งหยีเป็นอย่างดี และก็ไม่รู้ว่าทำไมพอพูดถึงบ้านตระกูลเย่นั้นภายในใจของเธอนั้นมักจะรู้สึกโกรธแค้น!นั้นก็เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นเพียงคนเดียว!
“อ่า!”ฝู้เฟิ่งหยีอุทานออกมาด้วยความตกใจ เท้านั้นรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
“ขอโทษนะคะคุณป้า ขอโทษค่ะ!”ซือซือกล่าวขอโทษ เมื่อนึกถึงตระกูลเย่เธอนั้นก็โกรธจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร!” ฝู้เฟิ่งหยีคลายคิ้วที่ขมวดออก
จากการที่ซือซือนั้นนวดเท้าให้กับฝู้เฟิ่งหยี ทำให้ฝู้เฟิ่งหยีนั้นคลายความเจ็บลงมาก พวกเขาทั้งสองคนนั้นพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกันตลอดทั้งบ่าย อีกทั้งการที่ซือซือนั้นเข้าใจฝู้เฟิ่งหยีเป็นอย่างดีว่าหล่อนนั้นอยากฟังเรื่องอะไร จุดนี้เองยิ่งทำให้ฝู้เฟิ่งหยีนั้นถูกใจซือซือมากยิ่งขึ้น
“หากมีสะใภ้ที่เป็นแม่ศรีเรือนแบบเธอก็คงจะดีนะ!” ฝู้เฟิ่งหยีมองไปที่ซือซือพร้อมกับถอนหายใจไม่หยุด ซึ่งเสียงถอนหายใจนี้มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
“คุณป้า หนูก็ชอบคุณป้ามากเหมือนกันค่ะ!”ซือซือยิ้มแล้วมองไปที่ฝู้เฟิ่งหยี ดวงตาคู่นั้นแสดงออกให้เห็นว่าเธอนั้นชอบฝู้เฟิ่งหยีเพียงใด
“เอาแบบนี้แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้ที่อยู่บ้านของฉันกับหนูไว้ ถ้าหนูว่างก็มาเที่ยวบ้านฉันนะ!”ฝู้เฟิ่งหยีจับมือน้อยๆของซือซือแล้วลูบมือเธอเบาๆ
เมื่อพูดถึงบ้านของเย่เชินหลิน สายตาของซือซือก็แสดงออกถึงความโกรธออกมา เธอนั้นโกรธเกลียดบ้านหลังนั้นเป็นอย่างมาก ทุกหนแห่งล้วนเป็นที่ๆเธอนั้นไม่อยากสัมผัส
“ดีจังเลยค่ะ!”ดวงตาเป็นประกายของเธอนั้นแสดงออกถึงความดีใจ การที่เธอนั้นได้เข้าใกล้ฝู้เฟิ่งหยีก็เท่ากับว่าเธอนั้นเข้าใกล้ความสำเร็จแล้ว!
ฝู้เฟิ่งหยีนั้นเขียนที่อยู่ให้กับซือซือ
“ลาก่อนนะคะคุณป้า ถ้ามีเวลาหนูจะไปเยี่ยมท่านนะคะ!”ซือซือยิ้มอ่อน หลังจากที่ได้รับที่อยู่จากฝู้เฟิ่งหยีแล้ว เธอนั้นไม่ชายตามองเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรีบเก็บมันเข้าไปในกระเป๋า คฤหาสน์ตระกูลเย่นั้นอยู่ที่ไหน เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน!
“แล้วเจอกันนะ มีเวลาก็มาเที่ยวบ้านป้าบ้างล่ะ!”ฝู้เฟิ่งหยีมองไปที่เงาหลังของซือซือที่อยู่ไกลออกไป หล่อนนั้นรู้สึกว่าเงาหลังนี้มันช่างคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็คิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน หล่อนนั้นลูบที่หน้าผากของตนเอง:“เฮ้อ ลืมถามชื่อเธอเลย!”
ตอนนี้รถของตระกูลเย่มาจอดรออยู่ที่หน้าประตูของร้านดุนหวางอย่างตรงเวลา ฝู้เฟิ่งหยีนั้นเดินออกมาจากร้านดุนหวาง คนขับรถนั้นเดินลงจากรถเพื่อมาเปิดประตูให้กับและพยุงหล่อนขึ้นรถ
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลเย่ ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม เมื่อเข้ามาถึงคฤหาสน์อันกว้างใหญ่นี้ ฝู้เฟิ่งหยีนั้นก็รู้สึกคิดถึงเนี่ยนโม่ขึ้นมา หล่อนนั้นคิดถึง เนี่ยนโม่แทบจะทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นก็อยากที่จะให้เนี่ยนโม่มาอยู่ข้างกายหล่อน กอดเขานอนในทุกๆคืน
“คุณนาย ด้านนอกมีคนมาเยี่ยมค่ะ!”
ขณะที่ฝู้เฟิ่งหยีนั้นกำลังถอนหายใจ สาวใช้ก็เข้ามารายงาน
“มีคนมาเยี่ยม?ดึกขนาดนี้แล้ว ใครมา?”ฝู้เฟิ่งหยีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ดวงตาคู่นั้นมองไปที่สาวใช้ อยากที่จะได้รับคำตอบจากหล่อน
“เป็นสาวสวยคนหนึ่งค่ะ!”
ท่าทางของซือซือนั้นผุดขึ้นมาในหัวของฝู้เฟิ่งหยี ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า:“เร็ว……รีบไปเชิญเธอเข้ามา!”ขณะที่กำลังกังวลใจอยู่นั้น เธอก็มาพอดี ช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ!
เมื่อพูดจบหล่อนจัดแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็สั่งให้สาวใช้ชงชาชั้นดีไว้หนึ่งกา
ซือซือนั้นเดินเข้ามาที่คฤหาสน์จากการนำทางของสาวใช้ เธอนั้นมองไปที่บรรยากาศรอบๆคฤหาสน์ทั้งสี่ด้าน หลายปีแล้วที่ไม่ได้มา ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ทุกอย่างราวกับย้อนกลับสู่อดีต
เธอนั้นยืนอยู่ริมทะเลสาบ มองไปที่แสงไฟที่กำลังส่องสว่างในความมืด เงาที่สวยงามของเธอสะท้อนอยู่บนผิวน้ำ
“คุณผู้หญิง เชิญตามฉันมาค่ะ!” สาวใช้มองไปที่ซือซือที่กำลังเหม่อลอยอยู่ จากนั้นเธอก็หันกลับมายิ้มให้กับสาวใช้
“อืม ได้!”คำพูดของสาวใช้ทำให้ซือซือมีสติกลับมา เธอนั้นเดินตามหลังสาวใช้เข้าไปในคฤหาสน์
ตลอดการเดินบนทางเดินที่ปูด้วยหินนั้น ล้วนได้ยินเสียงของรองเท้าส้นสูงที่กระทบกับพื้น ขณะที่กำลังจะเข้าไปด้านใน ก็ได้กลิ่นของลาเวนเดอร์ที่ฝู้เฟิ่งหยีนั้นชอบที่สุด ซึ่งลาเวนเดอร์นี้ จะช่วยให้ฝู้เฟิ่งหยีนั้นนอนหลับสบาย
“มาแล้ว!เร็ว รีบนั่ง !”ฝู้เฟิ่งหยียิ้มแล้วมองไปที่ซือซือ
เห็นเพียงกวาดสายตามองการตกแต่งคฤหาสน์หลังนี้ของฝู้เฟิ่งหยี ตกแต่งอย่างหรูหราสง่างาม นี้เป็น สไตล์ของเย่เชินหลิน หลายปีมาแล้วก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อเห็นฝู้เฟิ่งหยีนั้นกำลังมองตนอยู่ เธอจึงยิ้มให้กับฝู้เฟิ่งหยีอย่างกระอักกระอ่วนใจ:“คุณป้าค่ะ ท่านรสนิยมดีจริงๆ ที่นี่ตกแต่งได้สวยจริงๆค่ะ!”
“การตกแต่งของที่นี่หนะเหรอ?เป็นฝีมือของลูกชายป้าทั้งหมดเลย ป้าไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก!”ฝู้เฟิ่งหยียิ้มจากนั้นก็เข้าไปโอบไหล่ซือซือ
“ใช่แล้ว ฉันยังไม่รู้จักชื่อของหนูเลย!” ฝู้เฟิ่งหยีมองไปที่ซือซือ เธอสวมใส่เสื้อคลุมบางๆสีส้มอิฐ กับถุงน่องสีดำ ทำให้ดูเซ็กซี่
ช่างเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่มาก!
“อ่อ หนูชื่อหลิ่วถิงถิงค่ะ!” ชื่อของซือซือนั้นไม่ได้ตั้งขึ้นมาแบบส่งเดช เธอใช้ชื่อนี้มาหลังจากที่เธอนั้นทำศัลยกรรม
“ถิงถิง? เพราะดี!”ฝู้เฟิ่งหยีพยักหน้า จากนั้นยิ้มอ่อนๆแล้วพูดว่า หล่อนมองหลิ่วถิงถิงด้วยความสงสัยแล้วพูดขึ้นว่า:“ทำไมถึงได้มาที่นี่ดึกดื่นขนาดนี้ล่ะ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ หนูว่างไม่มีอะไรทำ ก็เลยคิดถึงคุณป้าขึ้นมาค่ะ”ซือซือลูบผมที่หน้าผากของตน พลางยิ้มให้กับฝู้เฟิ่งหยี
“อ่อ ไม่เป็นไรๆ หนูจะมาเมื่อไหร่ฉันก็ต้อนรับหนูทุกเมื่อ!” ฝู้เฟิ่งหยีลูบที่มือของซือซือพลางมองเธอด้วยความอ่อนโยน ถึงแม้ว่าใบหน้านี้จะเหมือนคนแปลกหน้า แต่ท่าทางของเธอนั้นก็มักจะรู้สึกเหมือนว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน
“คุณป้ามีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่าคะ?”เธอนั้นเข้าใจฝู้เฟิ่งหยีเป็นอย่างดี ท่าทางทุกอย่างของหล่อนนั้นไม่อาจที่จะหลบสายตาของเธอได้
“เฮ้อ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของหลานชายของฉันหรอก ลูกชายไม่เอาไหนของฉันคนนี้ทำให้ฉันต้องไปเยี่ยมหลานที่บ้านของคนอื่น!”ฝู้เฟิ่งหยีพูดไปพลางถอนหายใจไปพลาง
“มีเรื่องอะไรเหรอคะ?บางทีฉันอาจจะช่วยคุณป้าหาทางออกได้นะคะ?”ซือซือมองไปที่ฝู้เฟิ่งหยีที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ ยิ้มแล้วพูดขึ้น
“เฮ้อ มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดสั้นๆได้”
ฝู้เฟิ่งหยีที่อยู่เบื้องหน้านั้นไม่ค่อยเข้าใจซือซือนัก แต่ว่าไม่รู้ว่าเป็นเพราะมนต์สะกดอะไรกันที่ทำให้หล่อนนั้นยอมเล่าทุกเรื่องให้กับซือซือฟัง
“อึม เมื่อฟังคุณป้าเล่าจนจบ แม้ว่าหนูจะไม่รู้จักลูกสะใภ้ของท่านดีพอ แต่ว่าผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกัน และแน่นอนว่าจะไม่ยอมให้ใครแย่งลูกชายของตนไป”เมื่อซือซือพูดคำพูดนี้ออกมา เธอนั้นจ้องมองไปที่สีหน้าท่าทางของฝู้เฟิ่งหยีอย่างไม่คลาดสายตา เธอนั้นจับอารมณ์ของฝู้เฟิ่งหยีได้แล้ว และรู้แล้วว่าฝู้เฟิ่งหยีนั้นรู้สึกเครียดกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ดีมาก ในที่สุดเธอก็บรรลุเป้าหมายของตนแล้ว
“แต่ว่าเขาเป็นหลานชายของฉันนะ!” ฝู้เฟิ่งหยีนั้นไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาขัดแย้งคำพูดของฝู้เฟิ่งหยี คิดได้เพียงคิดผลนี้ ซึ่งแม้ว่ามันจะดูไม่เหมือนเหตุผลสักเท่าไหร่
“ก็เพราะว่าคุณป้าเป็นคุณย่าของเนี่ยนโม่ หล่อนถึงได้เป็นห่วง หากท่านพาเนี่ยนโม่หนีไป แล้วหล่อนจะทำยังไง?”ซือซือขมวดคิ้ว มองไปที่ดวงตาคู่นั้นของฝู้เฟิ่งหยี เธอต้องการที่จะให้ฝู้เฟิ่งหยีได้สติว่าให้รีบลงมือกับเนี่ยนโม่ได้แล้ว
“ทำไงดีล่ะ?” เมื่อได้ฟังซือซือพูดเช่นนั้น ฝู้เฟิ่งหยีก็รู้สึกถึงอันตรายเป็นครั้งแรก หล่อนนั้นเริ่มไม่ไว้วางใจเซี่ยชีหรั่น แม้ว่าหล่อนนั้นจะอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ตาม
“คุณป้า อย่าคิดมากไปเลยค่ะ บางทีหากรอให้เด็กน้อยโตขึ้น เขาก็อาจจะกลับมาตามหาย่าของเขาก็ได้นะคะ!”ซือซือลูบไหล่ของฝู้เฟิ่งหยี เธอนั้นเหลือบมองไปที่ดวงตาของฝู้เฟิ่งหยีด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ตามหาย่า?ตอนนี้เขานั้นยังจำย่าของเขาได้ แต่ต่อไปจะจำได้หรือไม่ได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว!”เมื่อพูดประโยคนี้จบ ฝู้เฟิ่งหยีก็กลับเข้าไปอยู่ในวังวนของห้วงความคิดอีกครั้ง
“คุณป้าค่ะ รบกวนคุณป้านานแล้ว หนูควรกลับโรงแรมแล้วนะคะ ไม่รบกวนคุณป้าแล้ว!” ซือซือนั้นรู้เป็นอย่างดีว่าเป้าหมายของตนนั้นสำเร็จแล้ว หากเธอนั้นยังอยู่ที่นี่ต่อ อาจจะดูไม่ดี เพราะยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอนั้นมาเยือนคฤหาสน์ตระกูลเย่
“จะไปแล้วเหรอ?ทำไมจะกลับไปพักที่โรงแรมล่ะ?สู้มานอนที่บ้านป้าดีกว่า”ฝู้เฟิ่งหยีมองซือซือด้วยความจริงใจ
“ไม่ดีกว่าค่ะคุณป้า หนูไปพักที่โรงแรมดีกว่า!”ซือซือพูดไปพลางเดินออกจากประตูบ้านตระกูลเย่พลาง
สำหรับเหตุผลที่ซือซือนั้นปฏิเสธฝู้เฟิ่งหยี ก็เป็นเพราะว่าจุดมุ่งหมายในการมาบ้านตระกูลเย่ของเธอนั้นไม่ใช่การมาพักที่บ้านตระกูลเย่ แน่นอนว่าเธอนั้นก็มีแผนเช่นนั้นเช่นเดียวกัน แต่วัตถุประสงค์ของวันนี้ก็แค่เพียงต้องการให้ฝู้เฟิ่งหยีนั้นรู้ตัวว่าจะต้องแย่เนี่ยนโม่มา และต้องกระตือรือร้นมากกว่านี้
หลังจากที่ซือซือจากไป ฝู้เฟิ่งหยีก็นั่งครุ่นคิดอยู่บนโซฟาอยู่นาน คำพูดของซือซือนั้นวนเวียนอยู่ในหูของหล่อน
เวลานี้ เย่เชินหลินนั้นรีบกลับมาจากข้างนอก ขณะที่เปิดประตูเข้ามาก็พบว่าสีหน้าของฝู้เฟิ่งหยีนั้นไม่ปกติ หล่อนขมวดคิ้วพร้อมกับพูดขึ้นว่า:“ลูก เมื่อไหร่ลูกจะพาเนี่ยนโม่มาอยู่บ้านตระกูลเย่?”
“แม่ครับ แม่เป็นอะไรไปครับ?หากแม่คิดถึงเนี่ยนโม่แม่ก็ไม่หาเซี่ยชีหรั่นได้นะครับ!”เย่เชินหลินนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขานั้นมองไปที่ฝู้เฟิ่งหยีและรับรู้ได้ถึงความไม่ปกติของหล่อน
“ลูก แบบนี้มันไม่ใช่วิธีที่ดีเลย คืนนี้แม่อยากนอนกอดหลานชาย แต่ก็ยังต้องวิ่งไปบ้านคนอื่นอีก!นี่มันหมายความว่ายังไง!”ฝู้เฟิ่งหยีมองเย่เชินหลินด้วยความไม่พอใจ
“แม่ครับ ผมก็กำลังพยายามอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?แม่รอหน่อยนะครับ” เย่เชินหลินมองไปที่ฝู้เฟิ่งหยีจากนั้นก็ปลอบใจเบาๆ
“แต่ว่า……” ฝู้เฟิ่งหยีรู้สึกไม่สบายใจ หล่อนนั้นคิดว่าจะต้องรออีกนาน หล่อนรอนานขนาดนั้นไม่ไหวแล้ว
“แม่ครับ ไปนอนเถอะครับ อย่าคิดมากเลย ผมกำลังพยายามอยู่ครับ!”เย่เชินหลินมองฝู้เฟิ่งหยีด้วยความทรมานใจ
ค่ำคืนนี้ ฝู้เฟิ่งหยีนั้นนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงเนื่องจากนอนไม่หลับ เช้าวันพรุ่งนี้ ขณะที่แสงอาทิตย์กำลังส่องสว่างเข้ามาในเมืองๆนี้ ฝู้เฟิ่งหยีก็ลุกขึ้นจากเตียง
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าตนนั้นคิดมากเกินไป เพราะหากเซี่ยชีหรั่นนั้นไม่ต้องการให้ตนเข้าใกล้หลานชายของตนแล้วจะมาอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ตรงข้ามตนทำไมกัน อีกอย่างหนึ่ง คฤหาสน์หลังนั้นก็เป็นของตระกูลเย่ด้วย เมื่อคิดได้เช่นนี้ฝู้เฟิ่งหยีก็รู้สึกสบายใจขึ้น
แต่ในเวลานี้โทรศัพท์กลับดังขึ้น เสียงที่ดังเข้ามาในหูของฝู้เฟิ่งหยีราวกับเสียงนาฬิกาปลุก:“คุณป้า ตื่นนอนหรือยังคะ?เมื่อวานฉันคงไม่ได้พูดมากเกินไปนะคะ ฉันกลัวว่าเมื่อคืนนี้คุณป้าจะนอนไม่หลับค่ะ!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset