สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1137 สาวใช้ตัวแสบ 1041

ตอนที่ 1137 สาวใช้ตัวแสบ 1041
“แม่ก็รู้อยู่แล้วว่ายังไงชีหรั่นก็ให้เนี่ยนโม่มาเยี่ยมแม่บ่อยๆอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องบีบบังคับกับแบบนี้เลย”เย่เชินหลินขมวดคิ้วก้าวไปข้างหน้าและจับมือของฝู้เฟิ่งหยีไว้
“ป้าคะ เนี่ยนโม่จะมาเยี่ยมคุณป้าที่คฤหาสน์ตระกูลเย่บ่อยๆนะคะ”คำพูดของเซี่ยชีหรั่นยิ่งทำให้ฝู้เฟิ่งหยีโกรธมากขึ้น
“โอเคโอเค”ฝู้เฟิ่งหยีโกรธอยู่เต็มอก เดินขึ้นข้างบนไปโดยไม่พูดอะไรอีก
เหลือแค่เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นที่ยืนอยู่ห้องโถง
จู่ๆบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นเงียบสงัด เย่เชินหลินมองไปที่เนี่ยนโม่ที่ฟุบหลับอยู่บนไหล่ของเซี่ยชีหรั่นพลางเอ่ยขึ้นว่า”ดูเหมือนว่าเมื่อวานคนบางคนก็ไม่ได้นอนดีไปกว่าผมนะ”
เซี่ยชีหรั่นหน้าแดง
“ไปเร็ว กลับบ้าน!”เย่เชินหลินมองไปที่เซี่ยชีหรั่น มุมปากก็ยกยิ้มอย่างชั่วร้าย
ในเวลานี้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกละอายต่อเย่เชินหลินมาก เดิมทีเธอคิดว่าเย่เชินหลินเป็นคนวางแผน
ทั้งหมดนี้ แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจะเป็นแผนการของฝู้เฟิ่งหยีจริงๆ บางทีฝู้เฟิ่งหยีคงจะคิดถึงหลานมากจริงๆ แต่เธอไม่อยากจะกลับไปคฤหาสน์ตระกูลเย่แล้วจริงๆ ทุกครั้งที่กลับไปก็มักจะคิดถึงเรื่องมากมายในสมัยก่อนขึ้นมา ที่นั่นเป็นที่ที่ทำให้เธอเสียใจมากถึงมากที่สุดเลย
เย่เชินหลินไม่ได้ขับรถ แต่กลับไปพร้อมกันกับเซี่ยชีหรั่นเลย ถนนเส้นนี้ห่างไกลกันอยู่หลายพันเมตร
ดวงดาวในตอนกลางคืนสว่างวิบวับเข้าเข้าตา วันนี้ดวงดาวบนท้องฟ้าสวยเป็นพิเศษ
ในตอนที่เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามาในคฤหาสน์พร้อมกัน แม่บ้านได้เตรียมอาหารเย็นไว้ให้เซี่ยชีหรั่นเรียบร้อยแล้ว แค่เฝ้ารอการมาถึงของเธออยู่ที่ห้องโถง เห็นว่าเย่เชินหลินกลับมาพร้อมกันกับเซี่ยชีหรั่น แม่บ้านก็ถึงกลับทำตัวไม่ถูก
“คุณชาย คุณนาย”
แม่บ้านมองเห็นความเย็นชาในสายตาของเย่เชินหลินแล้ว
“ต่อไปนี้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากคุณเซี่ย ห้ามให้เนี่ยนโม่กับใครไปเด็จขาด แน่นอนว่ารวมถึงแม่ผมด้วย!” เย่เชินหลินพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเย็นชา ความอ่อนโยนของเขามีไว้ให้แค่ผู้หญิงที่เขารักเท่านั้น
“ทราบ..ทราบแล้วค่ะ คุณชาย!”แม่บ้านก้มหน้าพลางจัดเตรียมจานชามให้เสร็จสับ
จู่ๆเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกไม่คุ้นชินกับเย่เชินหลินในเวลานี้
ซือซือนั่งไม่ติด เส้นสายของเธอในบ้านตระกูลเซี่ยยังไม่มีการรายงานสถานการณ์ให้เธอฟัง สิ่งนี้ทำให้เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
และในตอนนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เสียงดนตรีไพเราะดังเข้าหูของซือซือ จากนั้นเธอก็รับโทรศัพท์
“เย่เชินหลินพาเซี่ยชีหรั่นออกไปจากบ้านตระกูลเย่แล้ว พวกเขาไปที่คฤหาสน์ของเซี่ยชีหรั่นด้วยกัน แล้วเย่เชินหลินก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการทวงสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเนี่ยนโม่คืนด้วย!”
ใบหน้าของซือซือแสดงออกถึงความเย็นชา ฝู้เฟิ่งหยีช่างทำให้เธอผิดหวังจริงๆ แต่ว่าก็ยังดีที่เรื่องที่เธอทุ่มเทมาทั้งหมดไม่ได้เสียเปล่า เย่เชินหลินพาผู้หญิงคนหนึ่งมากล่าวโทษฝู้เฟิ่งหยีต่อหน้า เธอผู้เป็นถึงแม่ของเขา
แต่จะว่าไป เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว เย่เชินหลินถึงกลับมาสร้างความโกรธเคืองให้กับแม่ตัวเอง!เซี่ยชีหรั่นนะเซี่ยชีหรั่น ฉันคงประเมินตำแหน่งของเธอในหัวใจของเย่เชินหลินต่ำไป ดูเหมือนตำแหน่งที่เซี่ยชีหรั่นคลองอยู่ในใจของเย่เชินหลินนั้น จะมากกว่าที่เธอคิดไว้มาก
ไม่รู้ว่าฝู้เฟิ่งหยีกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าหากฝู้เฟิ่งหยีเกิดสงสัยขึ้นมา เธอก็คงจะอยู่ข้างกายฝู้เฟิ่งหยีไม่ได้อีกต่อไป เธอกอดอกยืนอยู่หน้าบานกระจก มองออกไปยังดวงดาวที่เต็มท้องฟ้า คืนนี้คงเป็นอีกคืนที่ทำให้ไม่ได้นอนสินะ สงสัยคงต้องวางแผนยาวๆแล้ว
ในเวลานั้นเองโทรศัพท์ของซือซือก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ดังก้องกังวานอยู่ในคฤหาสน์เย็นๆหลังนี้
“ฮัลโหล ใช่ถิงถิงรึเปล่า?”
ซือซือขมวดคิ้วแน่น นี่มันเสียงของฝู้เฟิ่งหยีไม่ใช่เหรอ? หรือว่าจะโทรมาเค้นคอเธองั้นเหรอ ? โง่เขลาจริงๆ ถ้าจะโทษก็คงโทษได้แค่ตัวเองที่โง่เกินไป ดันตกลงในหลุมพรางของคนอื่น
เสียงเรียกดังในคืนที่เงียบสงบนี้ แต่ถ้าฝู้เฟิ่งหยีมาขอความช่วยเหลือกับเธอล่ะ? เผื่อว่าไม่ได้จะมาเค้นอะไรด้วย เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็รับโทรศัพท์ในเสียงเรียกเข้าครั้งสุดท้าย
“คุณป้าคะ ดึกขนานนี้แล้วยังไม่นอนอีกเหรอคะ?” ซือซือพูดไปยังปลายสายของฝู้เฟิ่งหยีอย่างอ่อนโยน
“ป้ารบกวนเธอรึเปล่า? ถิงถิงอ่า ตอนนี้ป้าโกรธมากๆเลย ลูกชายคนนั้นของป้า เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งแล้วมาแตกคอกันกับป้าครั้งแรก” ฝู้เฟิ่งหยีถอนหายใจไปด้วย พลางบอกเล่าเรื่องราวที่ทำให้ตัวเองไม่มีความสุขไปด้วย
“จะโทษลูกชายคุณป้าก็ไม่ได้นะคะ โทษได้แค่ลูกสะใภ้คนนั้นเท่านั้น!ที่ทำให้ลูกชายของป้าหลงจนโงหัวไม่ขึ้น!”ซือซือพูดกับฝู้เฟิ่งหยีอย่างขอไปที และแอบคิดในใจเงียบๆว่าดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะยังไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเธอคืออะไร ยังถือว่ามีค่าพอให้ใช้ประโยชน์อยู่!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ มุมปากของซือซือก็หยักยิ้มอย่างชั่วร้าย “ปัญหาเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูของเนี่ยนโม่แก้ไขเรียบร้อยรึยังคะ”
“ยัง ถ้าแก้ได้แล้ว ป้าจะอยู่บ้านคนเดียวแล้วมาระบายความในใจกับเธอได้ยังไง!”ฝู้เฟิ่งหยีถอนหายใจแรงๆอีกครั้ง
“คุณป้าคะ เรามาลองคิดหาทางออกกันเถอะค่ะ จะต้องมีวิธีแน่! ” แววตาของซือซือมีแววความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่
“มีวิธีจริงๆเหรอ? ดีเลยๆ ป้าจะรอข่าวจากเธอ! ” ฝู้เฟิ่งหยีโชคดีมากที่มีคนเช่นนี้คอยคิดแผนการให้ สำหรับซือซือแล้ว แต่ก่อนฝู้เฟิ่งหยีไม่เคยไว้ใจเลย เธอเคยให้คนไปสืบประวัติครอบครัวซือซือเป็นการส่วนตัวด้วย แต่ว่าข้อมูลเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของซือซือไม่ค่อยมีอะไรเหลือไว้อย่างเด่นชัดเลย
เพราะเหตุผลนี้ฝู้เฟิ่งหยีจึงให้ความสนใจกับผู้หญิงที่มีประวัติครอบครัวขาวสะอาดคนนี้มาก นอกจากต้องการพึ่งพาคนที่มีความคิดแบบนี้เพื่อช่วยเธอแก้ปัญหาบางอย่างแล้ว ในขณะเดียวกันเธอก็มีความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับการโผล่มาอย่างกะทันหันของซือซือด้วย ไม่ว่าทางใดก็ตาม ยังไงเธอก็ต้องการผู้หญิงที่อยู่ปลายสายคนนี้
ซือซือยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย ยังไงก็ต้องของคุณยัยผู้หญิงโง่คนนี้ แม้ว่าการทวงคืนสิทธิ์การเลี้ยงดูเนี่ยนโม่ในครั้งนี้จะไม่สำเร็จ แต่ว่าความขัดแย้งระหว่างฝู้เฟิ่งหยีกับเซี่ยชีหรั่นยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
เธอไม่รู้จะส่งคนไปเปิดโปร่งเรื่องของเซี่ยชีหรั่นให้สวีเห้าเซิงรู้เมื่อไหร่ ผู้ชายอ่อนแอคนนี้ เป็นคนที่จิตใจดีมากเกินไป!
ในตอนเช้าสวีเห้าเซิงก็ได้รู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินในช่วงนี้ ในใจก็เกิดปวดแปลบขึ้นมา
ทำไมยัยผู้หญิงโง่คนนี้ถึงได้รักเย่เชินหลินมากมายขนานนั้น สวีเห้าเซิงรู้สึกสลดในใจขึ้นมา
แต่ไม่ว่าจะยังไง สวีเห้าเซิงรู้ว่าเธอค่อนข้างที่จะผ่านไปได้อย่างยากลำบาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไปสอดส่องเซี่ยชีหรั่นดู
คฤหาสน์ตระกูลเย่เป็นสถานที่ที่สามารถหาได้ง่ายในเมืองนี้ แน่นอนว่าเรื่องที่สวีเห้าเซิงตามหาเซี่ยชีหรั่นเจอก็เป็นเรื่องง่ายราวกับปอกกล้วยด้วย
สวีเห้าเซิงจอดรอมาเซราติที่หน้าประตูบ้านของตระกูลเย่ เมื่อลงมาจากรถก็เห็นรปภ.ของบ้านตระกูลเย่กำลังเดินมาทางเขาพอดี
สมองของเขายังคงฉายภาพที่ประเทศ K ในวันนั้น ภาพที่เย่เชินหลินแสดงความรักต่อเซี่ยชีหรั่น เขาไม่ได้โง่ เขารู้มาตั้งนานแล้วว่าเย่เชินหลินส่งคนมาสืบชีวิตประจำวันของเซี่ยชีหรั่น แม้แต่ในเวลาที่เขาสวีเห้าเซิงอยู่เป็นเพื่อนเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินเองก็รู้อย่างแจ่มแจ้ง
ลูกกระเดือกของเขาสั่นเล็กน้อย ความเศร้าโศกในใจถูกกลืนกลับเข้าไป
“คุณครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร” รปภ.ที่ใส่แว่นดำเดินมาทางนี้
“ผมนามสกุลสวี ขอถามหน่อยว่าที่นี่คือที่ไหน” สวีเห้าเซิงเห็นว่ารปภ.ดูอันตราย เขาจึงมองพวกเขาด้วยความสับสนพลางเอ่ยถาม
“พวกเราเป็นรปภ.ของตระกูลเย่ คุณชายเย่ได้สั่งว่าไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ห้ามเข้าไปในที่พักของคุณเซี่ยตามอำเภอใจเด็ดขาด” รปภ.ถอดแว่นกันแดดออก บนใบหน้าของเขายังคงมีท่าทางนิ่งขรึม
“ผมเป็นเพื่อนกับคุณเซี่ย”สวีเห้าเซิงโกรธมาก ดูเหมือนว่าชีหรั่นจะลำบากอยู่จริงๆ แม้แต่จะไปไหนมาไหนก็ไม่มีอิสระในชีวิต มักจะถูกแทรกแซงโดยตระกูลเย่เสมอ
“ต้องขออภัยด้วยครับ! ” รปภ.โค้งขออภัยสวีเห้าเซิง
แม่บ้านกำลังทำความสะอาดบ้าน เห็นคนกำลังถกเถียงกันอยู่ข้างนอก และมีรถคันหนึ่งจอดที่หน้าคฤหาสน์ เห็นได้ชัดว่าเจ้าของรถเป็นคนที่กำลังโต้เถียงกับรปภ.อยู่ ในขณะที่เธอเดินเข้าไปใกล้ เธอก็ได้ยินเนื้อหาที่พวกเขาโต้เถียงกันอย่างคลุมเครือ
“เพื่อนของคุณเซี่ยงั้นเหรอ?”ในขณะที่แม่บ้านกำลังลังเลอยู่ว่าจะบอกเรื่องนี้กับเซี่ยชีหรั่นดีไหม ก็เห็นเย่เชินหลินเดินออกมาจากในคฤหาสน์
เย่เชินหลินเห็นการทะเลาะกันข้างนอก ก็ขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเห็นชัดว่าคนที่ทะเลาะกันอยู่เป็นสวีเห้าเซิง มุมปากของเย่เชินหลินก็ปรากฏรอยยิ้มเย็นชาขึ้นมา
ในตอนที่สวีเห้าเซิงกำลังทะเลาะกับรปภ.อยู่นั้น ก็ไม่ได้รับรู้ถึงการมาจากคฤหาสน์ของเย่เชินหลิน
รปภ.เห็นเย่เชินหลินเดินออกมาจากคฤหาสน์ ก็ละสายตาจากสวีเห้าเซิงไปทันที
“คุณ คุณเย่..!”
สวีเห้าเซิงถึงได้เข้าใจ ว่าทำไมท่าทางของรปภ.ถึงได้เปลี่ยนไปมากขนานนั้น เป็นเพราะเย่เชินหลินที่ไม่รู้มายืนอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ว่าทำไมเย่เชินหลินถึงได้เดินออกมาจากที่พักของเซี่ยชีหรั่นล่ะ?
“ที่แท้ก็เป็นคุณสวี ต้องขออภัยด้วยที่รปภ.ของตระกูลเย่ทำเสียมารยาทกับคุณ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผมบอกให้พวกเขาทำเอง!”สองมือของเย่เชินหลินล้วงกระเป๋ามองไปยังสวีเห้าเซิง มุมปากเผยรอยยิมเล็กน้อย
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาจำกัดสิทธิเสรีภาพของชีหรั่นคุณไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปในคฤหาสน์ ไม่เท่ากับว่ากำลังจำกัดอิสระของชีหรั่นหรอกเหรอ? คุณพูดเต็มปากว่ารัก คือรักแบบนี้เหรอ?”สวีเห้าเซิงรู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับสิ่งที่เย่เชินหลินทำ
“ฮ่าฮ่า!” จู่ๆเย่เชินหลินก็รู้สึกว่ามันตลกมาก สวีเห้าเซิงจะน่ารักเกินไปแล้ว ยังไม่ทันเข้าใจสถานการณ์ดี ก็เริ่มมาวิพากษ์วิจารณ์ซะอย่างงั้น
เมื่อเห็นเย่เชินหลินดูเหมือนจะไม่โกรธในสิ่งที่เขาพูดเลย และยิ้มอย่างได้ใจแบบนี้อีก สวีเห้าเซิงหน้าแดงและระงับความโกรธที่จะระเบิดไว้ในใจ
“เชินหลิน คุณลืมเอากระเป๋าแฟ้มมา!” เสียงอันนุ่มนวลของเซี่ยชีหรั่นดังขึ้นมาจากข้างหลังของ สวีเห้าเซิงกับเย่เชินหลิน
“อะไรนะ? เชินหลิน?เห็นอยู่…เห็นอยู่ชัดๆว่าเย่เชินหลินจำกัดอิสระของเซี่ยชีหรั่นไม่ใช่เหรอ
ทำไมถึง?” ความโกรธในดวงตาของสวีเห้าเซิงถูกแทนที่ด้วยความเศร้าทันที
“ เชินหลินงั้นเหรอ ฮ่าฮ่า” เขาเริ่มหัวเราะกับตัวเองอย่างโง่เขลา ยังไม่รู้สถานการณ์ดีก็มาโวยวายในรังรักของคนอื่นเขา
“ พี่สวีพี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ!” เซี่ยชีหรั่นไม่ได้เจอสวีเห้าเซิงนานมากแล้ว เพราะคืนนั้นที่เย่เชินหลิน สารภาพรักกับเธอในประเทศ K ใบหน้าที่มีความสุขของเซี่ยชีหรั่นสวีเห้าเซิงเห็นมันอย่างชัดเจน ในเช้าวันรุ่งขึ้น ในตอนที่เซี่ยชีหรั่นยังไม่ตื่น สวีเห้าเซิงได้เขียนจดหมายแยกทางแล้ววางไว้ที่ประตูของเซี่ยชีหรั่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset