สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1138 สาวใช้ตัวแสบ 1042

ตอนที่ 1138 สาวใช้ตัวแสบ 1042 
“ชีหรั่น!” เมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่สดใส สวีเห้าเซิงทั้งดีใจและเสียใจ ดีใจเพราะว่ายังคงได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ เสียใจเพราะว่าเธอเรียกชื่อของเย่เชินหลินอย่างสนิทสนมเช่นนี้ ที่แท้ทั้งสองคนก็คืนดีกันแล้ว
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของสวีเห้าเซิงดูเศร้าโศก เซี่ยชีหรั่นก็เดาได้แล้วว่าทำไมหัวใจของเขาถึงสั่นไหว แต่ว่าที่เรียกเชินหลินก็เพราะตกลงกับเนี่ยนโม่ไว้เมื่อคืน
เนี่ยนโม่บอกว่าในเมืองตกลงไว้ว่าจะให้เย่เชินหลินทดลองเป็นพ่อของเขา งั้นก็ต้องสนิทสนมกันหน่อย ตอนที่เรียกชื่อของอีกฝ่ายจะเรียกชื่อเต็มไม่ได้ ต้องเรียกชื่อเล่น หรือไม่ก็เรียกว่าคุณพ่อ เนี่ยนโม่ คุณแม่เนี่ยนโม่
ตอนนั้นเย่เชินหลินกำลังดื่มกาแฟอยู่ในห้องนั่งเล่น การได้ยินความคิดเห็นนี้ของเนี่ยนโม่ แทบจะไม่ได้พ่นกาแฟออกมาทั้งหมด เซี่ยชีหรั่นเองก็ตาเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจ
นี้มัน…
เมื่อทั้งสองคนหันไปสบตากัน หน้าก็แดงรามขึ้นมายันหู
ยังดีที่มีอีกทางเลือกหนึ่งว่าให้เรียกชื่อเล่นอีกฝ่ายได้
ดังนั้นสวีเห้าเซิงถึงมาได้ยินเซี่ยชีหรั่นเรียกขานเย่เชินหลินอย่างสนิทสนมแบบนี้
“ลุงสวีมาได้ยังไงครับ ขอบคุณที่พาผมไปสวนสนุกนะครับ ผมยังไม่ทันจะได้ขอบคุณเลย แม่ก็บอกว่า ลุงมีเรื่องสำคัญต้องรีบกลับไปก่อน!”เนี่ยนโม่ทำตาโตมองไปยังสวีเห้าเซิง
“เนี่ยนโม่!”นานแล้วที่ไม่ได้เจอเด็กคนนี้ คิดถึงมากเหมือนกันนะเนี่ย
เย่เชินหลินมองไปยังเนี่ยนโม่แวบหนึ่ง และพูดบอกเซี่ยชีหรั่นไปว่า”ชีหรั่น ผมมีเรื่องต้องไปจัดการที่บริษัท พวกคุณเข้าไปคุยข้างในเถอะ!”ท่าทางเอาใส่ใจเป็นห่วงเป็นใย ทำให้สวีเห้าเซิงรู้สึกสงสัยว่าใช่เย่เชินหลินที่เขารู้จักรึเปล่า
แม้แต่เซี่ยชีหรั่นเอง เมื่อได้ยินประโยคนั้นของเย่เชินหลิน ยังรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนกับความฝันเลย
ทั้งสองคนยังไม่ทันจะได้สติกลับคืนมา คนขับรถของเย่เชินหลินก็เตรียมรถให้เขาเรียบร้อย รถโรลส์-รอยซ์คันนั้นจอดอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์
เย่เชินหลินก้าวขายาวๆเข้าไปนั่งในรถพลางยิ้มให้กับเซี่ยชีหรั่นและขับออกไป
“เชิญครับคุณสวี”รปภ.พูดด้วยท่าทางเคารพ
“ลุงสวี รีบเข้ามาดูบ้านใหม่ของเราเร็ว”เนี่ยนโม่รีบวิ่งไปดึงมือของสวีเห้าเซิง
เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างเกร็งๆพลางพูดกับสวีเห้าเซิงว่า”พี่สวี เข้ามาก่อนเถอะค่ะ “เธอเดินไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตูให้ด้วยตัวเอง
สวีเห้าเซิงถอนหายใจพลางเดินไปยังคฤหาสน์หลังนี้อย่างช้าๆ
คฤหาสน์ทุกหลังของตระกูลเย่ล้วนให้ความรู้สึกหรูหรา หลังนี้ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ที่นี่อบอุ่นเป็นพิเศษขึ้นมาหน่อย
“ชีหรั่น ผมนึกว่าเขาจะทำดีกับคุณไม่พอ”สวีเห้าเซิงพูดมาแบบนี้ จู่ๆก็รู้สึกว่าตัวเองโง่เง่ามาก เห็นว่าเธออ้วนกว่าก่อนหน้านี้นิดหนึ่ง ก็ควรจะเข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาเธอเป็นยังไง
“ก็ดีค่ะ พอได้อยู่พี่สวีพี่ก็ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคะ ควรแต่งงานได้แล้ว”เมื่อเซี่ยชีหรั่นคิดถึงฉากในวันนั้นที่สวนสนุก สวีเห้าเซิงสารภาพรักกับเธอ จู่ๆก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
สวีเห้าเซิงเข้าใจว่าคำพูดนี้ของเซี่ยชีหรั่นหมายถึงการตอบปฏิเสธเขาแล้ว สื่อให้เห็นว่าไม่ต้องรอเธอแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมายิ้มอย่างโง่ๆ เงียบอยู่นานกว่าจะพูดตอบว่า”แค่เธอมีความสุขก็พอ”
เย่เชินหลินกำลังขับรถอยู่จู่ๆก็รู้สึกร้อนอบอ้าว แต่ตอนนี้อากาศเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เขาคลายเน็กไทลงและมองตัวเองในกระจก
“ยัยผู้หญิงคนนี้ กล้าพาไอ้คนสกุลสวีเข้าบ้านจริงๆงั้นเหรอ?”
ตอนที่เขาออกมา เธอไม่ได้มองมาทางเขาเลยสักนิด
พอคิดมาถึงตอนนี้เขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง เขาเหยียบคันเร่งมุ่งไปยังบริษัท
“แม่เป็นยังไงบ้าง”สวีเห้าเซิงนึกถึงหลี่เหอไท้ที่มีชะตากรรมเดียวกัน
“แม่ฉันเหรอคะ? สบายดีค่ะ”แต่ก่อนเซี่ยชีหรั่นไม่เคยเข้าใจความเจ็บปวดของแม่ เธอรู้แค่ว่าวันเวลาทีเป็นเด็กกำพร้าผ่านมันมาได้อย่างยากลำบากเพียงใด
“ทำไมถึงถามเรื่องพวกนี้ล่ะ?”เซี่ยชีหรั่นข้องใจ สวีเห้าเซิงจะนึกถึงเรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้ยังไง แต่เมื่อเธอพูดมาแบบนี้ จู่ๆก็คิดได้ว่าเกี่ยวกับหลี่เหอไท้
ในเวลานั้นเสียงโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น ขัดจังหวะของทั้งสองคนขึ้น
สวีเห้าเซิงรู้สึกเสียมารยาทเล็กน้อยและลุกขึ้นรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือ…? ”
สวีเห้าเซิง ไม่ได้เรื่องเลยนะแกเนี่ย ไม่รู้จักแม้กระทั่งฉันงั้นเหรอ”คนปลายสายพูดประชดประชันกลับมา
“ใครมันจะไปกล้าลืมลูกชาย อย่างคุณละครับ คุณชายตระกูลหลินใช่ไหม? ”
สวีเห้าเซิงรู้สึกเซอร์ไพรส์และชั่วพริบตามุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมา “จริงเหรอเนี่ย! ”
“จริงสิว่ะ! ”
“แกจะแต่งงานเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกฉัน กลัวว่าฉันจะไม่มีปัญญาจ่าค่าของขวัญแต่งงานให้แกรึไง? ” สวีเห้าเซิงเค้นคอถามคนปลายสาย
“อีกสองวันฉันก็กลับไปแล้ว แกรอฉันก่อน เราไปดื่มกันไม่เมาไม่กลับ ! ”
“โอเค ฉันจะรอ ”
“แกแต่งงานรึยัง คุณนักวิทยาศาสตร์สวี”
“เออ…ยัง แต่ว่ามีคนที่ชอบแล้ว ! ”สวีเห้าเซิงมองไปยังเซี่ยชีหรั่นสีหน้าเต็มไปด้วยความสุข
“ต้องขยันหน่อยนะ เอาล่ะ รอฉันกลับไปด้วยล่ะ ขอจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน” หลังจากที่วางสาย บนใบหน้าของสวีเห้าเซิงยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าปลายสายนั้นเป็นเพื่อนที่ดีมากๆคนหนึ่งของสวีเห้าเซิง
“ทำไมเหรอคะ เพื่อนจะมางั้นเหรอ ” น้อยมากที่เซี่ยชีหรั่นจะเห็นสวีเห้าเซิงมีความสุขแบบนี้
“เพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ขาดการติดต่อกันไปนาน เพื่อนที่เคยอยู่ที่อเมริกาด้วยกันน่ะ “สวีเห้าเซิงยิ้มและมองไปยังเซี่ยชีหรั่น เขาเป็นลูกชายของเลขาธิการหลินในเมืองนี้น่ะ” “ดีแล้ว เพื่อนเยอะแหละดี”จู่ๆเซี่ยชีหรั่นก็นึกขึ้นมาได้ว่าไม่ได้สังสรรค์กับจิ่วจิ่วนานแล้ว ไม่รู้ว่าจิ่วจิ่วจะเป็นยังไงบ้าง แต่ก่อนจิ่วจิ่วไม่มีแฟนก็ยังมาหาเธอบ้าง แต่ตอนนี้เหมือนว่าจะได้แฟนแล้วลืมเพื่อนจริงๆ แต่จะโทษจิ่วจิ่วก็ไม่ได้ เป็นเธอเองที่ไม่ได้อยู่กับร่องกับรอย
“ชีหรั่น ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้โทรหาผมนะ ผมอยู่ข้างคุณเสมอ ! ”สวีเห้าเซิงเชื่อว่าเซี่ยชีหรั่นอยู่กับเย่เชินหลินไม่ได้มีวันเวลาที่ดีแน่ๆ แม้ว่าเย่เชินหลินจะมีฐานะมีความสามารถก็ตาม
ซือซือรู้ดีว่าสวีเห้าเซิงก็เป็นได้แค่หมากที่ทำให้เย่เชินหลินหึงได้เท่านั้น เรื่องอื่นก็คงใช้ประโยชน์ไม่ได้ ไม่มีค่าพอให้แน่ใจด้วย
หลังจากที่สวีเห้าเซิงจากไป เซี่ยชีหรั่นก็พาเนี่ยนโม่มาที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเป็นฝ่ายออกตัวมาบ้านตระกูลเย่ด้วยตัวเอง
ความวุ่นวายในอดีตของตระกูลเย่และตระกูลจงจบลงด้วยทางตัน พ่อเย่ตายเพราะตระกูลจง และเลือดที่หมุนเวียนอยู่ในตัวของเธอก็เป็นเลือดของตระกูลจง บางทีปัญหาพวกนี้ต่างหากที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด
เมื่อเนี่ยนโม่และเซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ตรงหน้าฝู้เฟิ่งหยี
ฝู้เฟิ่งหยีรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เธอที่อยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเย่ในขณะนั้นถึงกับชะงักไป
“เธอ … เธอมาได้ยังไง” ฝู้เฟิ่งหยียังคงโกรธอยู่บ้างแต่ก็ระงับความโกรธไว้ในใจ
“คุณป้า หนูพาเนี่ยนโม่มาเยี่ยมค่ะ หนูรู้ว่าคุณป้าคิดถึงเขาแล้ว” 
“คุณย่า!”เนี่ยนโม่รับรู้ได้ถึงความอึดอัดของทั้งสองคน เมื่อฝู้เฟิ่งหยีได้ยินเสียงของเนี่ยนโม่ก็หันไปพูดกับเขาอย่างมีความสุข”มานี่ มาหาคุณย่าตรงนี่ ไหนคุณย่าดูหน่อยว่าเนี่ยนโม่อ้วนขึ้นเท่าไหร่แล้ว”
เนี่ยนโม่เห็นสายตาอนุญาตของเซี่ยชีหรั่นก็วิ่งไปยังฝู้เฟิ่งหยีทันที
“เด็กดี! ”
ตลอดทั้งบ่ายมีความสุขสงบดี ในใจของเซี่ยชีหรั่นผ่อนคลายขึ้นมาก ฝู้เฟิ่งหยีและเนี่ยนโม่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดทั้งบ่าย
เมื่อไฟนีออนของเมืองนี้สว่างไสวขึ้น ซือซืออยู่เพียงลำพังในคฤหาสน์ชานเมือง สิ่งที่เธอไม่ชอบที่สุดก็คือไฟนีออนในยามกลางคืน ต้องอยู่ตัวคนเดียวในทุกๆคืน ทุกวันในเวลานี้ความเกลียดชังที่มีต่อเซี่ยชีหรั่นก็ท่วมท้นขึ้นเท่าตัว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลบความเงียบในค่ำคืนนี้ ทำลายความเงียบสงัดลง ซือซือรับโทรศัพท์ได้พูดเสียงอ่อนโยนว่า“ฮัลโหล คุณสามี! ”
“ผมจะกลับจีนในอีก 2 วัน คุณก็อยู่เฉยๆอย่าไปซนที่ไหนล่ะ!”
“ฉันรู้ค่ะ !ขอให้คุณเดินทางปลอดภัยนะ! ”
เสียงอันอ่อนโยนของซือซือดังเข้าไปหาคนปลายสาย
เสียงนี้ไม่เข้ากับผู้หญิงอย่างเธอเลยจริงๆ
ถ้าไม่ใช่ลูกของเลขาธิการหลิน เธอก็คงไม่ใช้ตามองเขา ถึงแม้ว่าเขาจะทัดเทียมกับเย่เชินหลิน มีทั้งรูปร่างหน้าตาดีและท่าทางที่ชั่วร้าย แต่ในใจของเธอกลับ… ไม่มีใครสักคนที่สามารถแทนที่เย่เชินหลินได้
ทันใดนั้นในหัวของเธอก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ ในเมื่อสวีเห้าเซิงไม่สามารถปราบเซี่ยชีหรั่นได้ งั้นลูกชายของเลขาธิการหลิน สามีของเธอหลินเจี๋ยล่ะเป็นไง เขาเป็นผู้ชายที่มีทั้งหน้าตาและฐานะดีเหมือนกับเย่เชินหลิน
ควรจะให้เขาได้ใกล้ชิดกับเซี่ยชีหรั่นยังไงดี
จู่ๆเธอก็นึกขึ้นมาได้ หลินเจี๋ยเคยบอกว่ามีเพื่อนอยู่ในจีนคนนึง บางทีเพื่อนคนนี้อาจจะช่วยได้!
บริษัทหลินซื่อ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนานเล็กที่มีชื่อเสียงบริษัทในประเทศ ที่เหลือที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากก็คือรีสอร์ทที่ได้ถูกขนานนามว่าเป็นสวรรค์บนดิน
ในเครืออสังหาริมทรัพย์มีชื่อเสียงพอๆกับตระกูลเย่ ไม่ได้ต่างกันเลยแม้แต่น้อย
สองวันต่อมาหลินเจี๋ยได้กลับมาจากอเมริกา เป็นครั้งแรกที่ได้สูดอากาศสดชื่นในประเทศ หลายปีแล้วที่ไม่ได้กลับมา ธุรกิจส่วนมากของบริษัทหลินซื่ออยู่การควบคุมของตาเฒ่าหลินทั้งหมด ไม่กี่วันที่แล้วได้ถูกตาเฒ่าหลินประกาศว่าให้รีบกลับมาประเทศ เพื่อมาสนับสนุนธุรกิจในประเทศ ไม่ต้องไปทำงานให้กับคนต่างชาติแล้ว
ตาเฒ่าหลินดื้อรั้นอยู่บ้าง เมื่อต้องเผชิญกับศตวรรษใหม่ เทคโนโลยีใหม่และความท้าทายใหม่ๆ ตาเฒ่าหลินก็ยังคงยึดติดกับความคิดแบบเดิมๆ
ดังนั้นนอกเสียจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ทันเจ๊ง
ยังได้ทำธุรกิจจิวเวลรี่ด้วย
เมื่อได้รับประสบการณ์จากต่างประเทศมา ตระกูลหลินก็ควรที่จะมีคนใหม่ๆเข้ามารับช่วงธุรกิจของบริษัทหลินซื่อได้แล้ว
ไอ้ลูกกตัญญูไม่เพียงแต่อยู่ต่างประเทศไม่กลับมา ทั้งยังหาแฟนผู้หญิงที่อยู่ต่างประเทศอีก เรื่องนี้ทำให้ตาเฒ่าหลินโกรธเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าผู้หญิงที่หลินเจี๋ยหามาไม่ใช่คุณหนูตระกูลใหญ่โตอะไร
ได้ยินหลินเจี๋ยบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงอ่อนโยนเรียบง่าย ตาเฒ่าหลินไม่ค่อยเชื่อมั่นในสายตาของเขา แต่ว่าก็ยังดีที่มันไม่ได้หาแหม่มกลับมาหาเขา แค่นี้ก็ต้องขอบคุณฟ้าขอบคุณดินแล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset