สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1172 สาวใช้ตัวแสบ 1076

ตอนที่ 1172 สาวใช้ตัวแสบ 1076
เซี่ยชีหรั่นยืนขึ้นมา มองแสงสว่างในดวงตาเย่เชินหลิน เดินไปทางเนี่ยนโม่
เย่เชินหลินเห็นเซี่ยชีหรั่นเดินมาทางนี้ ก็พูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า “พรุ่งนี้ ประธานจางจะมารับคุณ!”
“รับฉัน?” ในดวงตาเซี่ยชีหรั่นเต็มไปด้วยความสับสน เธอไม่รู้ว่าเย่เชินหลินจะพูดอะไร และไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่สิ่งที่เธอมั่นใจก็คือมีบางอย่างจะเกิดขึ้นต่อไปแน่ๆ
“คุณสนใจเครื่องประดับมากมาตลอดไม่ใช่เหรอ?” เย่เชินหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเซี่ยชีหรั่น หันตัวมายกเนี่ยนโม่ขึ้นเหนือศีรษะต่อไป
เซี่ยชีหรั่นจ้องแววตาเย่เชินหลิน เธออยากรู้ ผู้ชายคนนี้จะพูดอะไรกันแน่
“ฉันจะให้คุณไปทำงานที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น!” เย่เชินหลินพูดประโยคนี้อย่างสบายๆ
เมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินสี่คำนี้ ก็อดสั่นไม่ได้ สี่คำนี้มันจริงจังมากสำหรับเธอ กี่ครั้งแล้วที่เธอสูญเสียแล้วได้มันกลับมา ตอนนี้ได้ยินว่าเย่เชินหลินอยากให้ตนไปทำงานที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไร เธอก็รู้สึกดีใจมาก
“ทำไม? ไม่คิดจะขอบคุณฉันเหรอ?” เย่เชินหลินเห็นความตื่นเต้นบนใบหน้าเซี่ยชีหรั่น ก็พูดประโยคเหล่านี้ออกมาอย่างยั่วยุ
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินเงียบๆ ไม่รู้ว่าเย่เชินหลินมีแผนการอะไรอีก
“ตอนนี้คุณเป็นพนักงานบริษัทเย่ซื่อของฉัน ฉันเป็นเจ้านายคุณ” มุมปากเย่เชินหลินมีรอยยิ้มนิดๆ มองเซี่ยชีหรั่น
ในดวงตาเซี่ยชีหรั่นเต็มไปด้วยความเย็นชา นี่คือวิธีการทรมานเธอแบบใหม่ของเขาหรือเปล่า? เดินเข้าไปในห้องโดยที่ไม่พูดอะไรเลย
ลมในค่ำคืนนี้นุ่มนวลมาก
เช้าวันรุ่งขึ้น
เมื่อเซี่ยชีหรั่นล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเมื่อครู่นี้ ก็เห็นจางเฟิงอี้ขับรถไมบัคสีดำคันนั้นมารอนอกลานคฤหาสน์
“คุณเซี่ย ขึ้นรถสิครับ” จางเฟิงอี้เปิดประตูรถให้กับเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นยิ้มเล็กน้อยให้กับจางเฟิงอี้อย่างค่อนข้างเขินอาย วันนี้เธอมาทำงานเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน จึงสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายเป็นพิเศษ กางเกงยีนขาดๆ ตัวหลวม เสื้อกันหนาวสีเหลืองเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าสุดเซ็กซี่สองข้าง รวบผมไว้ด้านหลังศีรษะอย่างเป็นธรรมชาติ
ตลอดทางไปรายงานยังบริษัทเย่ซื่อกรุ๊ป หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ จางเฟิงอี้ก็ส่งเซี่ยชีหรั่นไปที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น
ที่นี่ เธอไม่ได้มานานมากแล้ว ตั้งแต่วันที่มันล้มละลาย เธอก็ไม่อยากมาที่นี่ ตอนนี้เมื่อกลับมาเยือนถิ่นเก่า เห็นว่ามันฟื้นฟูความเจริญในอดีตแล้ว
เซี่ยชีหรั่นมองบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นที่ยังคงส่องแสงเหมือนในอดีตอย่างเหม่อลอย ความรู้สึกตื่นเต้นดีใจก็เกิดขึ้นในใจทันที
ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น เปิดประตูกระจกบานนั้น มองกลุ่มคนที่เดินไปมาอยู่ด้านใน
“ประธานเซี่ย!” เสียงคมชัดหนึ่งดังก้องด้านหลังเซี่ยชีหรั่น
เมื่อหันตัวไปมองก็เห็นใบหน้าคุ้นเคยของ Kitty แค่ดูซีดเซียวกว่าเมื่อก่อนมาก
“Kitty? ทำไมเธอ……” เซี่ยชีหรั่นจ้องมอง Kitty อย่างสงสัยอยู่นานมาก เธอกำลังสงสัยว่าทำไมกลับมาอีกครั้ง ไม่ได้ทำในซูเปอร์มาร์เก็ตเหรอ……
Kitty เหมือนมองออกถึงความสงสัยในดวงตาเซี่ยชีหรั่น พูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า “หลังจากที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นถูกบริษัทเย่ซื่อซื้อไป พนักงานของเราทุกคนก็สามารถกลับมาทำงานต่อได้ค่ะ”
มีรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจบนใบหน้าเธอ
“ประธานเซี่ย!”
“ประธานเซี่ย!”
“……” 
ล้วนเป็นเสียงโห่ร้องแสดงความซาบซึ้งต่อเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม
ที่นี่ก็คือบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นในอดีต รู้สึกเหมือนไม่เคยล้มละลายมาก่อนเลย กลับมามีชีวิตชีวาเหมือนก่อนหน้านี้
“ประธานเซี่ย ในที่สุดเราก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ขอบคุณคุณมากจริงๆ”
“ประธานเซี่ย ขอบคุณที่ให้เรากลับมา”
เหล่าพนักงานเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งต่อเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นมองคนที่นี่ ยิ้มเล็กน้อย ในใจกลับรู้สึกเต็มไปด้วยความสงสัย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่นี่คือกลุ่มคนเดิม เธอคิดว่าหลังจากถูกบริษัทเย่ซื่อซื้อไปแล้วพนักงานทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นคนที่บริษัทเย่ซื่อเลือกมา
แต่เมื่อตนยืนอยู่ที่นี่ ถึงได้รู้ว่า คนของที่นี่ยังเป็นคนเดิม ช่างเป็นฉากที่คุ้นเคยอย่างมาก
หรือว่าเย่เชินหลินทำทั้งหมดนี้เหรอ? 
จางเฟิงอี้ตามอยู่ด้านหลัง เห็นท่าทางค่อนข้างสงสัยของเซี่ยชีหรั่น ก็พูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า “ประธานเย่มอบอำนาจทุกอย่างของบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นให้กับผม ผมเลยคิดว่าใช้ทีมงานเดิมของบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นดีกว่า ยังไงแล้วทุกคนก็คุ้นเคยกันและกัน และค่อนข้างคุ้นเคยกับการพัฒนาบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น มันเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น”
ในที่สุดความสับสนในดวงตาเซี่ยชีหรั่นก็คลี่คลายลง เธอเริ่มเยาะเย้ยในที่สิ่งที่ตัวเองคิดเมื่อครู่นี้ คนอย่างเย่เชินหลิน จะทนกับคนก่อนหน้านี้และให้ทำงานที่นี่ต่อได้อย่างไร? 
จางเฟิงอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจจริงๆ ก่อนที่จะมาส่งเซี่ยชีหรั่นที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น ทำไมเย่เชินหลินต้องเตือนเขาว่าไม่ต้องบอกความจริงกับเซี่ยชีหรั่นเกี่ยวกับทีมงานเดิม ว่าการตัดสินใจนี้เขาเป็นคนทำเองล่ะ?
จางเฟิงอี้ส่ายศีรษะ
เย่เชินหลินในขณะนี้กำลังนั่งภายในตึกระฟ้าบริษัทเย่ซื่อ มองไปทางบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น แสงแดดยามเช้าส่องกระทบใบหน้าของเขา ความเย็นชาที่แตกต่างกันปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา มีร่องรอยความอบอุ่นนิดหน่อย
ตอนนี้ เซี่ยชีหรั่นน่าจะไปถึงบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นแล้ว
เขาไม่เต็มใจที่จะบอกเซี่ยชีหรั่นเกี่ยวกับเรื่องใช้ทีมงานเดิมของบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น เพราะเขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นติดหนี้อะไรตน
ผู้หญิงคนนี้น่าเป็นห่วงจริงๆ 
เพราะเซี่ยชีหรั่นรู้จักบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นเป็นอย่างดี เลยจัดการปัญหามากมายให้ชัดเจนอย่างรวดเร็ว
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นด้านนอกประตูเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นเงยศีรษะขึ้นมองไปทิศทางของประตู พูดขึ้น “เข้ามา!”
Kitty หอบกองเอกสารหนึ่งเดินมาหาเซี่ยชีหรั่น และวางเอกสารไว้ตรงหน้าเซี่ยชีหรั่น
“ประธานเซี่ย คุณดูเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของเครื่องประดับ” เสียงอ่อนโยนมากดังขึ้นในหูเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นถือเอกสารไว้ในมือ อ่านมันอย่างรอบคอบ เห็นเทรนด์ยอดนิยมในตอนนี้ เซี่ยชีหรั่นก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เพียงแค่ไม่กี่เดือนเอง เทรนด์แฟชั่นเครื่องประดับมีการเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนโลกแล้ว เหลือเชื่อจริงๆ 
บางที ไม่กี่เดือนมานี้ไม่ได้มีงานวิจัยใดๆ เกี่ยวกับเครื่องประดับเลย เกรงว่า สำหรับบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นจะเป็นเรื่องที่……
คิดถึงตรงนี้ เซี่ยชีหรั่นก็ลูบหน้าผากตัวเองเพราะความกลัว
“ประธานเซี่ย มีคนมาหาที่ห้องรับแขก” เสียงหนึ่งดังขึ้นในหูเซี่ยชีหรั่น
“ใคร?” เซี่ยชีหรั่นยืนขึ้นมา เดินออกไปด้านนอก เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เพิ่งมาทำงานที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นวันแรก ก็มีคนมาหาแล้ว ข่าวคนนี้ไวจริงๆ
เปิดประตูใหญ่ห้องรับแขกออกมา คนที่ปรากฏต่อหน้าตนไม่ใช่ใครอื่น คือหลินเจี๋ยเอง
“หลินเจี๋ย คุณมาที่นี่ได้ไง?” เซี่ยชีหรั่นมองหลินเจี๋ยอย่างค่อนข้างประหลาดใจ ถามอย่างสงสัย
“ฉันได้ยินว่าเธอมาทำงานที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น แต่ตอนฉันมาถึงก็รู้สึกประหลาดใจจริงๆ คนที่นี่ยังเป็นคนเดิม ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด!” ใบหน้าหลินเจี๋ยเผยรอยยิ้มนิดๆ เขายิ่งรู้สึกสงสัย จากรายงานของสื่อและความเข้าใจของเขาที่มีต่อเย่เชินหลิน สไตล์การทำงานแบบนี้ของเขาไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้เลย
ที่นี่ดูเหมือนไม่เคยล้มละลายมาก่อน แค่ลาพักร้อนอย่างสบายๆ ไปช่วงระยะหนึ่งเท่านั้น
“ทำไมคะ? แล้วทางด้านคุณยังโอเคไหม?” เซี่ยชีหรั่นมองหลินเจี๋ย ยิ้มเล็กน้อย
Kitty เห็นหลินเจี๋ยมา ก็ถอยออกมาอย่างรู้เป็นนัยๆ และถือกาแฟมา
“ก็ยังโอเค ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเทรนด์แฟชั่นเครื่องประดับเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เครื่องประดับหรูมันก็เป็นแบบนี้แหละ” หลินเจี๋ยขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “แต่หลังจากที่เธอออกไป บริษัทหลินซื่อของเราก็สูญเสียนักออกแบบที่มีความคิดสร้างสรรค์ไปคนหนึ่ง มันทำให้บริษัทหลินซื่อของเราขาดทุนครั้งใหญ่!”
มุมปากหลินเจี๋ยยิ้มนิดๆ เหมือนมีสีหน้าเศร้าโศกบนใบหน้า
เซี่ยชีหรั่นมองหลินเจี๋ยแล้วพูดขึ้น “ได้ยังไงล่ะคะ ฉันรู้สึกว่าถึงแม้คุณจะไม่ใช่มืออาชีพในอุตสาหกรรมนี้ แต่ด้วยความเข้าใจของคุณที่มีต่อเครื่องประดับในระยะสั้นๆ สถานการณ์ของบริษัทเครื่องประดับหลินซื่อในอนาคตยังอยู่ในแง่ดีมาก”
เซี่ยชีหรั่นนั่งข้างๆ หลินเจี๋ย รู้สึกถึงลมหายใจอันคุ้นเคยของหลินเจี๋ย
หลินเจี๋ยมองเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดขึ้น “อ่อ จริงสิ คุยกันตั้งนาน ที่ฉันมาหาเธอเพราะมีเรื่องสำคัญ เมื่อวานเธอกับเย่เชินหลินออกมาจากงานปาร์ตี้โดยไม่บอกลา อาการป่วยของเธอดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
เซี่ยชีหรั่นเห็นความปวดใจในดวงตาหลินเจี๋ย เซี่ยชีหรั่นในตอนนี้ยังคงอยู่ในอาการป่วยอยู่ แต่เย่เชินหลินเชิญหมอมืออาชีพให้เซี่ยชีหรั่น แถมยังมีทักษะในการรักษาผู้ป่วยมากจริงๆ แค่ยายเม็ดเดียวเท่านั้น รู้สึกว่าปอดดีขึ้นมาก และด้วยเหตุนี้ถึงมารายงานตัวที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น
ความเป็นห่วงของหลินเจี๋ยทำให้เซี่ยชีหรั่นอบอุ่นใจ ช่วงเวลาที่ทำงานกับหลินเจี๋ยก็ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าผู้ชายตรงหน้านี้ไม่เพียงแต่เป็นห่วงตนเพราะสวีเห้าเซิง แต่ปฏิบัติต่อตัวเองเป็นเพื่อนจริงๆ
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่ยอมเห็นฉันเป็นเพื่อนนะคะ” เซี่ยชีหรั่นมองหลินเจี๋ยด้วยความจริงใจ คำพูดพวกนี้เธออยากพูดตั้งนานแล้ว
ขอบคุณ? เพื่อน? ในใจหลินเจี๋ยหัวเราะขมขื่น เห็นดวงตาบริสุทธิ์ของเซี่ยชีหรั่น จู่ๆ ในใจก็เกิดความรู้สึกอยากบอกความรู้สึกตนกับผู้หญิงคนนี้ แต่ปากไปไวกว่าสมอง ยังไม่ทันได้คิด หลินเจี๋ยก็พูดโพล่งออกไปแล้ว
“ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นเพื่อน”
“ฮะ?” เซี่ยชีหรั่นมองหลินเจี๋ยด้วยความกระอักกระอ่วนและทำอะไรไม่ถูก ในใจคิดว่าหรือตัวเองคิดไปเองฝ่ายเดียว เพราะการปฏิเสธของหลินเจี๋ยทำให้ใบหน้าเธอเห่อแดง ไหล่ถูกจับด้วยแขนแกร่งคู่หนึ่ง
“เซี่ยชีหรั่น ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นเพื่อน แต่เป็นผู้หญิงที่ฉันจีบอยู่” หัวใจหลินเจี๋ยเต้นแรงมาก นั่นเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน