สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1183 สาวใช้ตัวแสบ 1087

ตอนที่ 1183 สาวใช้ตัวแสบ 1087
“หนีเร็ว!”หญิงสาวผลักเซี่ยชีหรั่น พยายามยืดขาสกัดให้จ้าวเป่าสะดุดล้ม เซี่ยชีหรั่นจึงฉวยโอกาสวิ่งออกไป
แสงไฟสลัวภายในคลับสาดส่องบนเรือนร่างของชายหญิงในนั้น ผู้คนโยกย้ายไปมาอย่างสุดฤทธิ์ เซี่ยชีหรั่นเบียดเสียดเข้าไปในกลุ่มคนอย่างไม่ทันรู้ตัว วิ่งตรงไปยังพื้นที่ที่ค่อนข้างโล่งกว้าง
เสียงสาปแช่งตามหลังมาไม่หยุดทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกได้ว่าจ้าวเป่ายังคงไล่ตามตนเอง
“เพื่อนๆทุกคน วันนี้เป็นค่ำคืนที่highที่สุดในวันหยุดสุดสัปดาห์อีกครั้ง หัวข้อหลักของวันนี้คือการพูดสิ่งที่คุณต้องการที่สุดออกมาดังๆ ใครจะขึ้นมาลองเป็นคนแรก!”
ร่างเล็กกระทัดรัดรีบวิ่งขึ้นไปบนเวที หลังจากพิธีกรมองเห็นโฉมหน้าของเซี่ยชีหรั่นดวงตาก็เป็นประกาย ดึงเซี่ยชีหรั่นและกล่าวว่า:“หาได้ยากที่สาวสวยจะมีน้ำใจเช่นนี้ รีบบอกพวกเรามาว่าคืนนี้คุณต้องการอะไรที่สุด สุภาพบุรุษทุกคนจะได้เตรียมพร้อม”
เสียงผิวปากดังขึ้นมาจากด้านล่างเวทีไม่หยุดหย่อน กลุ่มคนที่แต่เดิมเบาบางเมื่อมองเห็นโฉมหน้าของเซี่ยชีหรั่นต่างเข้ามาใกล้อย่างควบคุมตนเองไม่ได้ ทันใดนั้นก็คึกคักไปด้วยผู้คน
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันขอผ่าน”เซี่ยชีหรั่นพยายามสบัดมือของพิธีกรออก จ้าวเป่าเดินขึ้นบันไดด้วยรอยยิ้มอย่างมึนเมา
พิธีกรมองเห็นเธอไม่ได้แต่งหน้าแต่กลับไม่มีจุดด่างพร้อย หญิงสาวที่ดูคล้ายกับตุ๊กตาทำให้ความรู้สึกทะนุถนอมเกิดขึ้นในหัวใจอย่างกะทันหัน เขาพยายามกล่าวให้ช้าลง :“ไม่เป็นไรครับ พูดอะไรสักประโยคก็ได้”
เซี่ยชีหรั่นจดจ่อไปที่บันไดขั้นสุดท้าย จ้าวเป่ากำลังยิ้มลามกและมองมาที่ตนเอง:“ฉันจะพูดแทนเขา!”
แสงไฟขนาดใหญ่บนเวทีสาดบนร่างกายของจ้าวเป่าตามทิศทางการชี้ของเซี่ยชีหรั่น:“ผู้ชายคนนี้ไร้สมรรถภาพ!”
จ้าวเป่าไม่คาดคิดว่าเซี่ยชีหรั่นจะจี้จุดเจ็บปวดของตนเองบนเวที สีหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวสีม่วง เสียงอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจและหัวเราะเยาะจากด้านล่างเวทีทำให้เขาโมโหเดือดดาลถึงที่สุด พุ่งเข้าใส่เซี่ยชีหรั่นอย่างรวดเร็ว
พิธีกรต้องการปกป้องเซี่ยชีหรั่น จึงถูกจ้าวเป่าที่กำลังโมโหอย่างสุดขีดยกขึ้นอย่างโซเซ ยังไม่ทันจะเข้าถึงตัวของเธอ มือใหญ่ในชุดสูทสีน้ำตาลยื่นออกมาด้านข้าง บิดมือของจ้าวเป่าไขว้ที่ด้านหลัง
“ประธานจ้าว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” หลินเจี๋ยส่งสายตาให้เซี่ยชีหรั่น เธอรีบกระโดดลงจากเวที
“โอ้ยๆๆๆ!คุณปล่อยผมนะ!” จ้าวเป่าร้องโหยหวน หลินเจี๋ยถือโอกาสปล่อย แต่ก็ไร้เงาของเซี่ยชีหรั่นเรียบร้อย
“ผู้หญิงคนนั้นไปไหนแล้ว!” จ้าวเป่าลุกลี้ลุกลน สายตาที่แผดเผาจากด้านล่างเวทีทำให้เขาอับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
“โอ้ เมื่อสักครู่ผมคิดว่าประธานจ้าวกำลังจะล้มลง ถึงได้พยุงคุณเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณขายหน้าในที่สาธารณะ ” หลินเจี๋ยเยาะเย้ยใช้มือจัดเสื้อสูทที่ยับย่น หันตัวเดินจากไป เมื่อลงบันไดเขาหันกลับมาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้“โอ้ จริงสิ ประธานจ้าว ผมไม่รู้ว่าคุณไร้สมรรถภาพ ถึงได้พาผู้หญิงมาให้ ครั้งหน้าลองเปลี่ยนเป็นผู้ชายดูไหม?”
ใบหน้าของจ้าวเป่าเริ่มเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเขียว จากสีเขียวเป็นสีม่วง
หลินเจี๋ยเดินออกมาจากคลับ สายตาสอดส่องไปรอบๆ มีเสียงเรียกเบาๆมาจากปากซอยด้านข้าง“หลินเจี๋ย ฉันอยู่นี้ค่ะ”
“ชีหรั่น ทำไมคุณถึงได้มาอยู่ในสถานที่แบบนี้ ” หลินเจี๋ยดึงเซี่ยชีหรั่นออกมา สังเกตเธอหัวจดเท้าอยู่หลายครั้ง เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรถึงจะถอนหายใจออกมายาวๆ
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้า เธอไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องนี้กับหลินเจี๋ยอย่างไร ก็ได้ยินอีกฝ่ายกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล:“ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ผมจะไปส่งคุณกลับบ้าน”
“แชะๆๆ!”เสียงแฟลชดังขึ้นในซอย หลินเจี๋ยหันหลังให้กับแสงสว่างตามสัญชาตญาณ กดศีรษะของเซี่ยชีหรั่นแนบบนหน้าอกของตนเองแน่น จู่ๆมือถือของหลินเจี๋ยดังขึ้น เขากดตัดสายทิ้ง
“ไอ๊หยา!”กล้องในมือของนักข่าวที่กำลังแอบถ่ายถูกดึงไป และเอาม้วนฟิลม์ออก
“คุณเซี่ยควรจะกลับได้แล้วครับ”คนขับรถยืนอยู่ด้านข้างเอ่ยด้วยความเคารพ ใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ คลับมีขนาดใหญ่มาก เขาหาเซี่ยชีหรั่นเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ โชคดีที่เธอออกมาอย่างปลอดภัยและไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น มือถือยังคงดังไม่หยุด เซี่ยชีหรั่นกล่าวว่า:“ ถ้าคุณมีธุระ ก็ไปก่อนได้เลย ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
หลินเจี๋ยมองมือถืออย่างไม่แยแส และส่งยิ้มให้เซี่ยชีหรั่น:“ไม่มีธุระอะไร ผมจะไปส่งคุณกลับ”ทันทีที่พูดจบ มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง เซี่ยชีหรั่นหัวเราะ“ไม่ต้องหรอก ฉันกลับกับคนขับรถก็ได้”
มองเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในรถ หลินเจี๋ยดูมือถือ ซือซือโทรหาเขาไม่หยุดหลายสาย แท้จริงแล้วมีธุระอะไรกันแน่?
กดโทรออกเบอร์ของซือซือ ปลายสายดูเหมือนเสียงดังมาก และเสียงของซือซือหม่นหมองเล็กน้อย:“คนกลุ่มนั้นดูเหมือนจะทำอะไรกันสักอย่าง เมื่อสักครู่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์”
เมื่อหลินเจี๋ยรีบไปถึงพบว่าซือซือกำลังนั่งอยู่ข้างทาง มีรอยรถเบรกเป็นทางยาว เมื่อมองเห็นหลินเจี๋ย ซือซือหัวเราะขึ้น:“ถ้าเป็นเซี่ยชีหรั่น เดาว่าคุณคงจะบินมาเลย”
เม้มปากสนิท หลินเจี๋ยอุ้มซือซือรีบไปโรงพยาบาล ซือซืออยู่ในอ้อมแขนของหลินเจี๋ยอย่างเชื่อฟัง ริมฝีปากเผยรอยยิ้มขึ้นมาแวบหนึ่ง
ภายในบ้านตระกูลเย่ ตรงหน้าของเย่เชินหลินคืออาหารตลอดทั้งวันของเซี่ยชีหรั่น นอกจากยาบำรุงที่ดื่มไปตอนเช้า อาหารเช้าและอาหารเที่ยงกินไปเพียงเล็กน้อย
เซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามาในห้องโถงก็สัมผัสได้ถึงความกดดันรอบด้าน พ่อบ้านรีบเข้ามาช่วยเธอถือกระเป๋า หลังจากนั้นจึงพาคนใช้ในห้องโถงออกไป
“ทำไมถึงไปหาจ้าวเป่า?”เย่เชินหลินลูบแหวนหยกในมือเอ่ยถามอย่างช้าๆ
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกหวาดกลัวเมื่อมองเห็นสีหน้าตามปกติของฝ่ายชาย ไม่ตอบอะไรออกมาสักคำ
เซี่ยชีหรั่นไม่ตอบ ดูเหมือนเย่เชินหลินจะไม่สบอารมณ์ ลูบแหวนหยกช้าลงเรื่อยๆ“ปัง!”แหวนหยกของราชวงศ์หมิงวางคว่ำลงบนโต๊ะกาแฟอย่างรุนแรงจนสั่นสะเทือนเสียงดัง
“คืนนั้น ในงานเลี้ยง เขา ···เขา···”เซี่ยชีหรั่นกัดริมฝีปากอย่างรุนแรง
เย่เชินหลินลุกขึ้นเดินไปข้างชีหรั่น ก้มมองเธอ และใช้นิ้วมือแทรกเข้าไปในปากเพื่อขัดขวางไม่ให้อีกฝ่ายทำร้ายริมฝีปากของตนเอง จนนิ้วเปียกชุ่ม
“ดังนั้น?”
เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ หรือว่าเย่เชินหลินไม่สนใจสักนิดว่าตนเองจะถูกแทะโลม!
เย่เชินหลินก็ขมวดคิ้ว เขาช่วยเธอแก้แค้นแล้วไม่ใช่หรือ หรือว่ายังไม่พอ เขากล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า:“ถ้าคุณรู้สึกว่ายังไม่พอ ผมจะทำให้เขาไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้”
น้ำตาไหลอาบแก้มของเซี่ยชีหรั่น ค้างอยู่ในปากที่เปิดออกเล็กน้อย เธอส่ายหน้าเบาๆ ท่าทางเย็นชาของเย่เชินหลินทำให้เธอรู้สึกอึดอัด เหมือนถูกคนถอดเสื้อผ้าจนหมดและโยนทิ้งไว้บนถนน
“ไม่ต้องการให้มันตาย งั้นคุณต้องการอะไร!”เย่เชินหลินโกรธมาก รู้สึกคลุมเครือว่าเรื่องนี้อาจจะต่างจากสิ่งที่ตนเองคิด แต่น้ำตาของเซี่ยชีหรั่นทำให้เขาร้อนรน
“ฉันไม่ได้ต้องการอะไร ปล่อยฉันนะ!”เซี่ยชีหรั่นถอยหลังไปเรื่อยๆ ลูบริมฝีปากของตนเอง จากนั้นก็รู้สึกเวียนหัว สองมือคว้าความว่างเปล่า ตกลงสู่อ้อมแขนที่อบอุ่นและส่งกลิ่นหอมจางๆ
เย่เชินหลินคว้าเอวอุ้มเธอขึ้นมา คุณหมอที่นอนอยู่ในห้องพักแขกนำกล่องยาวิ่งเหยาะๆมาที่ห้องโถง ตรวจอาการของเซี่ยชีหรั่นอย่างตัวสั่นภายใต้แววตาที่จะกินคนได้ของเย่เชินหลิน
“ทำไมความดันโลหิตของเธอถึงได้ต่ำเช่นนี้!”คุณหมอร้องอุทาน
เย่เชินหลินกวาดตามองอาหารที่แทบจะไม่ถูกแตะต้องบนโต๊ะ และออกคำสั่งด้วยสีหน้าน่าเกลียดทันที:“ให้น้ำเกลือเธอ”
เซี่ยชีหรั่นเคลื่อนไหวอย่างไม่สบายตัวเมื่อฟื้นขึ้นมา การกักขังบนหน้าอกทำให้แขนของเธอชาจนยิ่งเพิ่มความเจ็บปวด
มือข้างหนึ่งของเย่เชินหลินโอบเซี่ยชีหรั่น ส่วนอีกข้างพลิกหนังสือพิมพ์ตามอำเภอใจ เซี่ยชีหรั่นโน้มตัวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว ตกใจกับหัวข้อบนหนังสือพิมพ์หน้าแรก
“คุณชายของตระกูลหลินมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับไฮโซสาว?นัดพบกันที่คลับอย่างเพลิดเพลิน!”หลินเจี๋ยสีหน้าโมโหหันหลังให้กล้องขึ้นอยู่บนหน้าแรกขนาดใหญ่ ในอ้อมแขนมีศีรษะโผล่มาครึ่งหนึ่ง
เย่เชินหลินมองเห็นเซี่ยชีหรั่นฟื้นขึ้น จึงนำหนังสือพิมพ์วางลงข้างเธอ
“คุณเชื่อหรือเปล่า?”เซี่ยชีหรั่นถามอย่างยากลำบาก
“คุณคิดว่าผมควรที่จะเชื่อไหม?”เย่เชินหลินก้มตัวลงถามกลับไป
เซี่ยชีหรั่นเอนหลังเพื่อหลีกเลี่ยงการจ้องมองของชายคนนั้นและส่ายหน้า:“ฉันไม่รู้”
เย่เชินหลินดึงหนังสือพิมพ์มาอย่างอ่อนแรง เห็นได้ชัดว่าความเป็นจริงที่เขารู้ไม่เหมือนกับในหนังสือพิมพ์ เห็นได้ชัดว่าบอดี้การ์ดได้มาขอคำสั่งว่าต้องการให้เผยแพร่ไหม เขาแค่อยากเห็นว่าผู้หญิงคนนี้จะอธิบายเพราะกลัวเขาเข้าใจผิดหรือเปล่า ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้!
“ดูเหมือนมีแค่สวีเห้าเซิงคุณยังไม่พอ ต้องมีหลินเจี๋ยด้วยถึงจะพอใจ”เย่เชินหลินโยนหนังสือพิมพ์ใส่เซี่ยชีหรั่นอย่างเย็นชาลุกขึ้นเดินจากไป
ทั้งวัน เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ได้เจอหน้าเย่เชินหลินอีกเลย มีเพียงอาหารสามมื้อที่ตรงเวลาและเย่เนี่ยนโม่ที่นำอาหารสามมื้อมาให้ใหม่เพื่อชักชวนให้เซี่ยชีหรั่นรับประทาน
“หม่ามี๊ อันนี้ผมเคยกินแล้ว อร่อยมากๆเลยครับ!”มือเล็กของเย่เนี่ยนโม่ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้ ต้องการใส่ลงไปในชามของเซี่ยชีหรั่นอย่างงกๆเงิ่นๆ
เส้นผ่านมาได้ครึ่งทางก็คลายตัวและร่วงลง เซี่ยชีหรั่นรีบนำชามไปรองรับไว้ ลูบไล้เส้นผมที่อ่อนนุ่มของเย่เนี่ยนโม่เงียบๆ เซี่ยชีหรั่นปลุกใจให้มีชีวิตชีวากินเข้าไปคำใหญ่
มือถือในกระเป๋าดังขึ้นอย่างเบิกบาน เซี่ยชีหรั่นรับสาย เสียงน่ารักของโยวเล่อดังขึ้นมาจากปลายสาย:“ชีหรั่น ผลงานของฉันออกแบบเสร็จแล้ว ต้องการแชร์กับเธอสักหน่อย!”
เซี่ยชีหรั่นฟังอย่างอิจฉา ผลงานของตนเองยังเป็นแค่เพียงภาพร่าง ส่วนของโยวเล่อวาดเสร็จแล้ว จึงถามอย่างไม่แน่ใจ“ขอดูได้ไหม?”
“ได้แน่นอน ตอนนี้เธอคือคนที่ฉันให้ความสำคัญที่สุด” โยวเล่อส่งเสียงหัวเราะเหมือนระฆังเงิน บอกที่อยู่อย่างรวดเร็วและวางสายไป ไม่ให้โอกาสเซี่ยชีหรั่นได้เอ่ยปฏิเสธ
“หม่ามี๊ หม่ามี๊จะออกไปข้างนอกหรือครับ?”เนี่ยนโม่หมอบอยู่ที่ประตูมองเห็นเซี่ยชีหรั่นกำลังมัดผม
“เนี่ยนโม่เด็กดี หม่ามี๊จะออกไปพบกับคุณน้าโยวเล่อ”เซี่ยชีหรั่นปล่อยมือออกมาข้างหนึ่งลูบหน้าผากของเย่เนี่ยนโม่
เย่เนี่ยนโม่สบัดมือของเซี่ยชีหรั่นด้วยหน้าตาทะเล้นและวิ่งออกจากห้องไป ในไม่ช้าก็สวมหมวกกวางน้อยเรียบร้อยมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเซี่ยชีหรั่น:“หม่ามี๊ ผมเตรียมตัวเสร็จแล้วครับ!”
ภายในร้านกาแฟ สวีเห้าเซิงกำลังสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์
“มีชื่อเสียงในวงการวิทยาศาสตร์ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่มีศักยภาพที่สุดของอนาคต คุณสวีในฐานะที่คุณกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่ประเทศนี้ให้ความสำคัญมากอะไรคือความปรารถนาของคุณคะ”
“สามารถใช้ความสามารถของตนเองเพื่อประเทศคือความปรารถนาของผมครับ”สวีเห้าเซิงยิ้มอย่างอ่อนโยน ทำให้พิธีกรสาวที่สัมภาษณ์หน้าแดง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset