สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1186 สาวใช้ตัวแสบ 1090

ตอนที่ 1186 สาวใช้ตัวแสบ 1090
เย่เชินหลินกระตุกปาก นิ้วเรียวยื่นออกไปลูบไล้ทั่วไปใบหน้าขาวสะอาดของโยวเล่อ และเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ:“ปากของเธอชอบหลอกลวงคน ถ้าฉันตัดปากของเธอออกไป เธอคิดว่าจะเป็นอย่างไร?”
โยวเล่อมองเย่เชินหลินรับมีดสีดำจากคนขับรถมาอย่างหวาดกลัว หดตัวเข้าหากำแพง คร่ำครวญอย่างไม่น่าเชื่อ:“คุณทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นเซี่ยชีหรั่นจะต้องเกลียดคุณมาก!”
เย่เชินหลินสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ใบมีดคมกดลงไปบนแก้มของโยวเล่อ เขารู้สึกมีความสุขที่เห็นอีกฝ่ายมีเลือดไหลซึมออกมา ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าเซี่ยชีหรั่นให้ความสำคัญกับเพื่อนคนนี้ที่สุด
“ไปอธิบายถึงสิ่งสกปรกที่เธอทำด้วยตนเองให้ชัดเจน”เก็บมีดลง เย่เชินหลินมองร่างกายของโยวเล่อร่วงลงด้านข้างและยักไหล่เดินจากไป
“เย่เชินหลิน คนที่รักคุณไม่ได้มีเพียงเซี่ยชีหรั่น” โยวเล่อน้ำตาไหลมองดูเย่เชินหลินจากไปอย่างไม่ไยดี
เซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ พร้อมกับเสียงเปียโนอันไพเราะดังก้องอยู่ในหู แผ่นหลังอันแข็งแกร่งที่หันหลังให้ตนเองดูเหมือนจะรู้สึกได้ นิ้วมือของเย่เชินหลินหยุดลงบนเปียโนหยิบยาด้านข้างและกล่าวเพียงสั้นๆ :“ดื่มซะ”
เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว ช่วงนี้ร่างกายไม่ดีบ่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอต้องการดื่มยา เธอนั่งอยู่บนเตียงอย่างตะลึง จนลืมไปรับชามยาจากมือของเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินไม่ชอบที่เซี่ยชีหรั่นไม่สนใจตนเอง ไม่ว่าในเวลาใดก็ตาม เขาจับคางอีกฝ่ายเงยขึ้นกรองยาลงไปในปากของเธอ
เซี่ยชีหรั่นถูกบังคับให้ต้องทนกับยาน้ำรสชาติขม ใบหน้าเล็กๆยับย่นกลายเป็นดอกไม้หลังจากดื่มเสร็จ จากนั้นถูกยัดของเข้าไปในปากชิ้นหนึ่ง เมื่อใช้ปลายลิ้นสัมผัสดู พบว่าเป็นผลไม้เชื่อม
เย่เชินหลินดึงมือของอีกฝ่ายมาข้างเปียโน กดไหล่ของเซี่ยชีหรั่นให้นั่งลงไป
“ฉันเล่นไม่เป็น ดีดไม่ค่อยเพราะ”หลังจากได้ฟังเย่เชินหลินดีดเปียโน เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าฝีมือการดีดเปียโนของตนเองน่าขายหน้ามาก
“ดีด”เย่เชินหลินนำสองมือของเซี่ยชีหรั่นวางบนแป้นอย่างมั่นคง เปียโนส่งเสียงคมชัด คล้ายกับกำลังเร่งรัด
เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถปฏิเสธเย่เชินหลินได้ จึงสุ่มเลือกเพลงที่มีความสุข นิ้วมือกดลงบนแป้นเพื่อเริ่มเพลงก็พบว่ากดเสียงผิด
หยุดมือลงอย่างเก้อเขิน เซี่ยชีหรั่นบ่นอุบอิบ:“บอกแล้วไงว่าเล่นไม่เก่ง”
เย่เชินหลินเคาะลงบนแป้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย:“เล่นต่อไป”
เซี่ยชีหรั่นสูดลมหายใจเข้า สองมือขาวสะอาดเริ่มกดลงบนแป้นใหม่อีกครั้ง และดีดต่อไปเรื่อยๆ มือเรียวใหญ่พาดผ่านด้านหลังกดอีกด้านหนึ่งเพื่อเล่นท่อนคอรัสที่เบิกบาน
ทำนองไพเราะรื่นหูสามารถคลายความเบื่อหน่ายได้มากที่สุด เซี่ยชีหรั่นดีดเพลงเสร็จจึงยิ้มและกล่าวกับเย่เชินหลินว่า:“คุณดีดได้ไพเราะมาก”
เย่เชินหลินหัวใจเต้นผิดจังหวะไปกับรอยยิ้มของเซี่ยชีหรั่น หลังจากเอื้อมมือไปลูบปอยผมทัดข้างหู:“คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่บอกว่าผมดีดเปียโนได้ไพเราะ”
“ไม่จริงหรอก!”เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำพูดของเย่เชินหลิน
หางตาของเย่เชินหลินยกขึ้นเบาๆ ริมฝีปากบางส่องแสงภายใต้พระอาทิตย์ยามเย็นเป็นเส้นโค้งที่สวยงามที่สุด เซี่ยชีหรั่นมองแล้วหลงใหลเล็กน้อย ทำได้เพียงรับฟังอีกฝ่ายกล่าวเบาๆว่า:“เป็นเรื่องจริง เพราะคุณคือผู้หญิงคนแรกที่ได้ฟังผมเล่นเปียโน”
เสียงมือถือขัดจังหวะการสบตาของทั้งสองคน จางเฟิงอี้รายงานความเคลื่อนไหวของโยวเล่อจากปลายสาย เย่เชินหลินฟังอย่างเคร่งขรึม กดเปิดลำโพง
“ชีหรั่นฉันขอโทษ เรื่องภาพวาดเหล่านั้นเป็นฝีมือของฉันเอง ฉันมันแย่ ฉันได้พูดคุยกับสมาคมแล้ว คนที่ชื่อเสียงป่นปี้คือฉันเอง ไม่ใช่เธอ”เสียงโยวเล่อจากปลายสายเห็นได้ชัดว่าสั่นไหวเล็กน้อย
“คุณทำอะไรเธอ?”เซี่ยชีหรั่นได้ยินเสียงโยวเล่อผิดปกติ หันไปมองเย่เชินหลินอย่างเคร่งขรึม จากวิธีการของเขา โยวเล่อต้องตกอยู่ในอันตรายมากๆ
นิ้วมือที่อยู่บนเปียโนของเย่เชินหลินกดลงอย่างแรง ให้เสียงแหลมดังก้องไปทั่วห้อง ก้มลงตอบอย่างนุ่มนวล:“คุณควรจะถามว่าเธอทำอะไรกับคุณ”
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ถอยห่างเย่เชินหลิน เธอกล่าวด้วยสีหน้าทนไม่ได้:“ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ไว้ชีวิตของเธอด้วย”
เย่เชินหลินยักไหล่กดวางสายไม่ตอบอะไร จางเฟิงอี้ถอนสายตากลับมา มองเห็นโยวเล่อตัวสั่นบนหน้าผาสูงชัน จึงเอ่ยอย่างเห็นใจ :“เธอไม่น่าไปก่อกวนเซี่ยชีหรั่น”
เขาเข้ามาใกล้เรื่อยๆ โยวเล่อมองหน้าผาด้านหลังด้วยความหวาดกลัว เสียงคลื่นซัดสาดเหมือนเป็นเครื่องเตือน จู่ๆรถเบนซ์สีดำก็พุ่งออกมาจากกองหินด้านข้าง
ประตูข้างด้านคนขับเปิดออก โยวเล่อรีบปีนเข้าไปนั่งตำแหน่งข้างคนขับ จางเฟิงอี้มองเห็นคนขับใส่หมวกใส่แว่นดำมองไม่เห็นว่าเป็นใคร ขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ก้าวเข้าสู่นิทรรศการการออกแบบอีกครั้งในเวลาเพียงวันเดียว บริเวณทางเข้ามีคนเดินเข้ามาหาเซี่ยชีหรั่นอย่างเป็นกันเอง พาเธอเดินเข้าไปด้านใน
จางเฟิงอี้อยู่ด้านข้าง เย่เชินหลินนั่งอ่านรายงานอาการป่วยของโยวเล่อ โรคหลายบุคลิก และภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง
“ต้องการให้ผมส่งคนไปคุ้มกันคุณเซี่ยให้มากขึ้นไหมครับ” จางเฟิงอี้ล้วงมือถือออกมาทันที
เย่เชินหลินโบกมือ สายตามองเห็นจุดสีแดงเล็ก ๆ บนจอแสดงผลที่แสดงตำแหน่งของเซี่ยชีหรั่น คิ้วขมวดแน่นขึ้นทันที
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ถูกพาไปห้องแสดงนิทรรศการล่าสุด แต่เลี้ยวไปเลี้ยวมายังห้องที่หรูหรา ภายในห้องมีชายชราชาวต่างชาติมองเซี่ยชีหรั่นด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่า
“ผมรอคุณอยู่นานมาก ผมคือkiu” kiu เชิญให้เซี่ยชีหรั่นนั่งลง
“คุณพูดภาษาจีนได้!”เซี่ยชีหรั่นตะลึงคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะพูดภาษาจีนได้ดีขนาดนี้ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ชายชราพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ เดินเข้าไปด้านข้างและตบหลังของเซี่ยชีหรั่นเบาๆ จากนั้นเขาก็กลับมานั่ง
เย่เชินหลินมองไปที่จุดสีแดงที่หายไปอย่างกะทันหันในวิดีโอ รู้สึกกังวลอย่างอธิบายไม่ถูก ความรู้สึกแบบนี้เหมือนมีคนมาคว้าหัวใจของตนเองไปบีบอย่างโหดเหี้ยม ลุกขึ้นก้าวยาวๆออกไปนอกห้องทันที
Kiu พูดกับเซี่ยชีหรั่นอย่างเอื่อยเฉื่อย ในนั้นยังเล่าเรื่องโน้ตดนตรีที่เซี่ยชีหรั่นไม่เข้าใจไม่ยอมหยุด เธอรู้สึกเหนื่อยมาก เหมือนทั้งตัวถูกงมขึ้นมาจากน้ำอย่างอึดอัด
น้ำเสียงของชายชราที่เชื่องช้าทำให้คนไม่สามารถต่อต้าน หน้าผากของเซี่ยชีหรั่นหงุบลงเรื่อยๆ “ปัง!”ตื่นขึ้นมาทันที kiuที่อยู่ตรงข้ามยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ดูเหมือนว่าคนแก่อย่างผมพูดไม่น่าสนใจคุณเซี่ยกำลังจะหลับแล้ว”รอยยิ้มฉายในดวงตาของชายชรา
เซี่ยชีหรั่นก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร กล่าวขอโทษซ้ำไปมา จู่ๆมือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น เสียงของเย่เชินหลินเย็นชา:“อยู่เฉยๆอย่าขยับ”
สายจากเย่เชินหลินมาอย่างงุนงง kiu ดูเหมือนจะเหนื่อยเล็กน้อย เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นกล่าวลา kiu ไม่ได้ห้ามเอาไว้ เพียงแค่กล่าวกับเธอตอนเดินออกไปจากประตูด้วยความหมายลึกซึ้ง :“คุณเซี่ย พวกเราจะได้พบกันอีก”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า คว้ามือถือออกมานอกห้อง นิทรรศการการออกแบบเงียบสงัดไปรอบด้าน ไม่มีความคึกคักเหมือนเมื่อวาน เซี่ยชีหรั่นนึกถึงคำพูดในมือถือของเย่เชินหลิน หาม้านั่งยาวนั่งรอเย่เชินหลิน
มีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาจากข้างหลัง ผ้าเช็ดหน้าที่มีกลิ่นฉุนปิดจมูกของเซี่ยชีหรั่นอย่างแน่น เธอพยายามดิ้นรนและหมดสติไปในที่สุด
เมื่อก้าวเข้ามาในศูนย์การออกแบบ หัวใจของเย่เชินหลินจมลงทันที บริเวณที่เซี่ยชีหรั่นเคยปรากฏตัวยังคงมีกลิ่นยาอยู่จางๆ ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ด้านข้างพลิกนิตยสารอย่างสง่างาม
“คุณกำลังมองหาผู้หญิงใส่ชุดสีฟ้าอ่อนหรือเปล่า?”หญิงสาวบนม้านั่งกำลังอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน
“ซือซือ?”เย่เชินหลินแปลกใจ
“ไม่เจอกันนานเลยนะ ” ซือซือลุกขึ้นยิ้มอย่างสวยงาม จากนั้นเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้:“ฉันเห็นเซี่ยชีหรั่นรีบออกไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง”
ในสมองของเย่เชินหลินปรากฏภาพโยวเล่อแวบขึ้นมา ดวงตามืดมนไม่ชัดเจน หันหลังกลับตรงไปที่ประตู หยุดลงฉับพลันหันกลับมากล่าวด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายเล็กน้อย :“ขอบคุณมาก”
“ไม่ต้องเกรงใจ”ซือซือยิ้มหวาน โยวเล่อ ฉันใช้ความพยายามอย่างมากในการช่วยชีวิตเธอ เธออย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ
เมื่อเซี่ยชีหรั่นฟื้นขึ้นพบว่าตนเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย ลุกขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวเล็กน้อย จากนั้นก็ตกตะลึงกับรูปภาพของเย่เชินหลินกับตนเองที่มีอยู่อย่างหนาแน่น
ผนังห้องเต็มไปด้วยรูปโปสเตอร์ของเย่เชินหลิน ทั้งด้านตรง และด้านข้าง ส่วนรูปถ่ายของตนเองกับเย่เชินหลินในร้านกาแฟถูกฉีกออกจากกันอย่างรุนแรง
“เธอตื่นแล้วหรือ?”โยวเล่อเปิดประตูอย่างมีความสุขเดินมาด้านข้างเซี่ยชีหรั่นพร้อมกับคุกกี้และนม มองเห็นสายตาของ
เซี่ยชีหรั่นจ้องมองผนังอย่างหวาดกลัว ดูเหมือนจะไม่สนใจ
“โยวเล่อเธอ··”เซี่ยชีหรั่นกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก โยวเล่อวางนมลง จับใบหน้าของเธอด้วยมือสองข้างและกล่าวอย่างหลงใหล:“ชีหรั่นเธอสวยจริงๆ ใบหน้าของฉันเหมือนเธอทุกอย่าง แต่ยังไม่สวยเท่าเธอ ทำอย่างไรดีล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นเจ็บปวดผลักอีกฝ่ายออกไปอย่างรุนแรง โยวเล่อหลบไม่ทันล้มลง ยาบนโต๊ะหกลงบนพื้นหมด ยาโรคซึมเศร้า เต็มไปด้วยยาซึมเศร้า
“ฮาๆ!หมดเวลาต้อนรับแขกแล้ว พวกเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า”จู่ๆโยวเล่อก็ดึงมีดออกมาดึงฉุดลำคอของเซี่ยชีหรั่นเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า
เซี่ยชีหรั่นเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเซไปเซมา ตามมาด้วย โยวเล่อยืนบนดาดฟ้าสูง คนด้านล่างกลายเป็นเพียงมดตัวเล็ก
“มา ตอนนี้พวกเรามาโทรหาเย่เชินหลินดีกว่า” โยวเล่อหยิบมือถือของเซี่ยชีหรั่นออกมาอย่างมีความสุข
“ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้น”ประตูชั้นดาดฟ้าถูกถีบเปิดออก เย่เชินหลินเดินมาด้วยท่าทางทะนงองอาจ
“เย่เชินหลิน”ใบหน้าของโยวเล่อปรากฏความบ้าคลั่ง
เย่เชินหลินสองมือล้วงกระเป๋า สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก สายตาของเขาไม่ได้อยู่ที่ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นด้วยซ้ำ หลังจากกวาดมองมีดเย็นเยือกที่จอบนลำคอของเซี่ยชีหรั่นแววตาก็เคร่งเครียดเครียด
เสียงฝีเท้าบนพื้นซีเมนต์ทำให้เกิดเสียง“กรึบกรึบ”โยวเล่อใช้มีดจอเข้าใกล้ลำคอของเซี่ยชีหรั่นมากยิ่งขึ้น :“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันกับมันได้ตายพร้อมกัน!”
เซี่ยชีหรั่นถูกโยวเล่อที่ตึงเครียดผลักไปด้านหลังหลายก้าว จนส้นเท้าลอยอยู่เหนืออากาศ เย่เชินหลินอยู่ห่างจากโยวเล่อเพียงก้าวเดียว
ในตอนนี้เขาทำได้เพียงล้วงสองมือลงในกระเป๋าถึงจะไม่เผยความโมโหและความเจ็บปวดใจ เขาอยากจะฆ่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ให้เป็นชิ้นๆ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset