สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1204 แม่บ้านของคุณชายเย่ 1108

ซือซือเห็นเย่เชินหลินตั้งแต่แรกแล้ว สายตาของเย่เชินหลินแค่กวาดผ่านเธอแล้วจ้องมองแต่เซี่ยชีหรั่น
ซือซือที่ซบอยู่กลางอกของหลินเจี๋ยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ แต่เธอกลับพูดคำพูดที่อบอุ่น “เห็นคุณไม่เป็นไรฉันก็สบายใจแล้ว”
หลินเจี๋ยมองหน้าเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ซือซือ หลินเจี๋ยถอนหายใจแล้วพูดกับเซี่ยชีหรั่น “ชีหรั่น ผมรู้สึกเหนื่อยแล้ว ผมจะกลับประเทศก่อน โทษทีนะไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนพวกคุณต่อ”
“หลินเจี๋ย” เซี่ยชีหรั่นไม่รู้จะพูดอะไรต่อ หลินเจี๋ยจึงตัดคำพูดของเธอแล้วยิ้มพูด “เรื่องที่ผมพูดในวันนั้นเป็นเรื่องจริงนะ หลังกลับประเทศอย่าลืมมาร่วมงานแต่งพวกเราด้วยล่ะ”
หลินเจี๋ยพยักหน้ากับเย่เชินหลิน เย่เชินหลินตบบ่าหลินเจี๋ยเบา ๆ “รักษาตัวด้วย” จนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นจากไป ซือซือถึงเอ่ยปากพูด “ตัดสินรีบร้อนขนาดนี้เดี๋ยวเธอจะเสียใจภายหลัง”
“ไปกันเถอะ” หลินเจี๋ยมองหน้าซือซือ เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มให้กับผู้หญิงคนนี้ที่มาหาเขาโดยเฉพาะ
รถยนต์ค่อย ๆ แล่นผ่านต้นเมเปิลริมถนนทีละต้น เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ทิวทัศน์นอกหน้าต่างและเก็บอารมณ์ที่มีต่อเรื่องของหลินเจี๋ยเมื่อครู่นี้ “นี่มันทางกลับบ้านของahernนี่”
“อื้ม” เย่เชินหลินจดจ่ออยู่กับการขับรถและตอบเธอตามสัญชาตญาณ
เซี่ยชีหรั่นเงียบลง แต่ในใจกลับนึกถึงคนที่เธอพยายามจะลืม “เสี่ยวฉุนยังอยู่ที่นั่นใช่ไหม”
เย่เชินหลินตอบกลับว่าใช่แต่ไม่แสดงออกทางวาจา เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าลงแล้วมีมือข้างหนึ่งยื่นเข้ามาจนทำให้เส้นผมของเซี่ยชีหรั่นยุ่งเหยิงไปหมด “อย่าคิดมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหลินเจี๋ยหรือว่าเสี่ยวฉุน”
เซี่ยชีหรั่นเอียงศีรษะเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนของอีกฝ่ายแล้วตะโกนพูด “ฉันไม่ได้คิด ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันก็ไม่มีความรู้สึกต่อคุณหรอก แต่มีความรู้สึกต่อสวีเห้าเซิงต่างหาก!”
ชื่อที่หายไปนานถูกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง อุณหภูมิภายในรถลดลงอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นกวาดสายตามองไปที่ใบหน้าเย็นเยือกของเย่เชินหลิน จากนั้นเธอหันไปมองอีกข้าง ระหว่างทางทั้งสองไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
กำแพงของโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีถูกปกคลุมไปด้วยภาพถ่ายบุคคลสำคัญจากทั่วทุกมุมโลก เย่เชินหลินเดินก้าวยาวเข้าไป ส่วนเซี่ยชีหรั่นก็เดินตามไปอย่างใกล้ชิด
ความเฉยเมยของชายที่อยู่ข้าง ๆ ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอึดอัดและต้องหาเรื่องชวนคุย “เราไม่จำเป็นต้องเช็คอินหรือ?”
เย่เชินหลินเข้าลิฟต์แก้วที่มีคำว่า ‘VIP’ เซี่ยชีหรั่นทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยืนก้มหน้ามองรองเท้าของตัวเอง
“ผมมีหุ้นส่วนที่นี่ด้วย” แม้น้ำเสียงจะแข็งทื่อแต่เย่เชินหลินก็ยังอธิบาย
คำอธิบายที่ชัดเจนของเย่เชินหลินทำให้เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่คาดคิดและรู้สึกอบอุ่นในใจลึก ๆ ชั้นบนสุดของโรงแรมมีห้องสูทเพียงห้องเดียว
เย่เชินหลินป้อนรหัสประตูและประตูก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ จากนั้นทั้งสองก็เข้าไป
นอกอาคารที่สูงที่สุดในอิตาลีนั้นเป็นทิวทัศน์ทั้งหมดที่รวมเป็นจุดเดียวกัน เซี่ยชีหรั่นแตะกระจกที่ฝังด้วยเพชรพลอยแล้วหันมองไปที่ชายคนนั้น
คุณชายเย่ทิ้งตัวลงที่โซฟานุ่มแล้วปลดกระดุมเสื้อออกสองสามเม็ด เผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อที่คออย่างชัดเจน
“เอ่อ……คุณจะอาบน้ำมั้ย?” ไฟสลัวที่ไม่ได้เปิดไว้ทั้งหมดทำให้บรรยากาศในห้องมีความคลุมเครืออยู่
“คุณกำลังจะชวนผมใช่ไหม?” เย่เชินหลินนั่งตัวตรงแล้วเอนตัวไปหาเซี่ยชีหรั่นทำให้เห็นกล้ามเนื้อของเขาได้ใกล้ชิดขึ้น
เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างหัวร้อน “ฉันจะเข้าไปอาบก่อน!” จากนั้นเธอแทบจะวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปในห้องน้ำและปิดล็อคประตูอย่างเสียงดังฟังชัด เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ในห้องน้ำรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงและมีความสุขลึก ๆ ในใจ เธอบอกกับตัวเองว่า “ยังมีอารมณ์มาแกล้งฉัน หมายความว่าไม่ได้โกรธแน่เลย”
เซี่ยชีหรั่นยัดตัวเองลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฟองน้ำ แต่ใบหน้าของเธอยังดูเยือกเย็นเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเสี่ยวฉุน
เรื่องที่เย่เชินหลินเลือกเสี่ยวฉุนแทนที่จะเป็นเธอนั้นยังคงเป็นเหมือนหนามที่ฝังอยู่ในใจลึก ๆ เธอส่ายหัวและพยายามบังคับตัวเองให้หยุดคิดถึงเรื่องนี้ ทันใดนั้นความสนใจของเซี่ยชีหรั่นถูกสิ่งของบนชั้นวางดึงดูดไป
เซี่ยชีหรั่นหยิบซิลิโคนสีชมพูที่อยู่บนชั้นวางนั้นมาแล้วลองบีบด้วยความสงสัย “นี่คืออะไร?”
หลังจากบีบเล่นไปสักพักเธอก็จามอย่างรุนแรงขึ้นมา ขณะที่เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นเธอถึงสังเกตว่าตัวเองลืมหยิบเสื้อผ้าใหม่เข้าไปด้วย
เธอเดินวนไปมาในห้องน้ำหลายรอบ สุดท้ายก็ทำได้เพียงเปิดประตูเบา ๆ แล้วเอื้อมมือไปเคาะกระจกฝ้า “คุณอยู่ไหมเย่เชินหลิน?”
เสียงเท้าเดินที่ชัดเจนและทรงพลังดังขึ้น ร่างที่สูงใหญ่คลุมเครือปรากฏขึ้นที่ด้านตรงข้ามของกระจกฝ้า เซี่ยชีหรั่นกระซิบพูด “ฉันลืมหยิบเสื้อผ้าเปลี่ยนมา”
เย่เชินหลินตอบสั้น ๆ แล้วเซี่ยชีหรั่นก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น จากนั้นตามด้วยคำพูดที่คลุมเครือของเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นคว้าผ้าขนหนูมาบังไว้อย่างทำตัวไม่ถูก จากนั้นก็รับเสื้อทีเชิ้ตที่ยืนเข้ามาจากประตู “เปลี่ยนก่อน”
เซี่ยชีหรั่นรับเสื้อมาแล้วคลี่ออก เมื่อเสียงเท้าเดินของเย่เชินหลินค่อย ๆ เดินจากไปเธอจำเป็นต้องพูดอย่างลำบากใจอีกครั้ง “กางเกง……ไม่มี…….”
เย่เชินหลินหยุดลง บทสนทนาแบบนี้ทำให้ทั้งคู่ต้องเขินอาย เซี่ยชีหรั่นเกือบจะพูดโพล่งออกมา “ช่างมันเถอะ ถือซะว่าฉันไม่ได้พูดอะไร”
เสื้อตัวนั้นยังมีกลิ่นอายแผ่วเบาอันเป็นเอกลักษณ์ของเย่เชินหลินอยู่ ความยาวของเสื้อเพียงแค่ครอบคลุมที่ต้นขาของเธอ เงาตรงกลางต้นขานั้นยากที่จะทำให้จินตนาการได้
เซี่ยชีหรั่นพยายามดึงเสื้อลง เธอลังเลอยู่นานสักพักก่อนจะออกจากห้องน้ำได้
เธอรู้สึกว่าสายตาของเย่เชินหลินกวาดมองมาที่เธอจากนั้นก็จากไปอย่างสงบ ความนิ่งของเย่เชินหลินทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอึดอัดใจมาก เธอรีบกระโดดขึ้นไปบนเตียงแล้วหดตัวอยู่แน่น ๆ
เซี่ยชีหรั่นที่กระโดดขึ้นเตียงได้ทำของบางอย่างหล่นลงพื้น นิ้วมือเรียวยาวของเย่เชินหลินก้มเก็บของที่เซี่ยชีหรั่นทำหล่นขึ้นมา
“นี่ไม่ใช่ของฉัน ฉันหยิบมันมาจากในห้องน้ำ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร” ใบหน้าที่แปลกประหลาดของเย่เชินหลินทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่
ความรู้สึกกดดันได้ลดลงหลังจากที่เย่เชินหลินปิดประตูห้องน้ำ เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจยาว ๆ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นรับโทรศัพท์อย่างมีความสุข “เซี่ยเนี่ยนโม่!”
“หม่ามี๊ครับ! ผมคิดถึงหม่ามี๊จังเลย” เสียงนุ่มนวลของเย่เนี่ยนโม่ดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นอดน้ำตาซึมไม่ได้ เธอพูดต่อด้วยเสียงอันซาบซึ้ง “หม่ามี๊ก็คิดถึงลูกนะ”
เย่เนี่ยนโม่พูดกับเซี่ยชีหรั่นอย่างมีความสุข “หม่ามี๊ครับ ผมมีเพื่อนใหม่คนหนึ่ง เขาเล่นกับผมทุกวันเลยครับ”
เมื่อได้ยินว่าเย่เนี่ยนโม่มีเพื่อนในวัยเดียวกันเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกสบายใจมาก เธอส่งจูบผ่านโทรศัพท์ให้กับเย่เนี่ยนโม่ “หม่ามี๊จะรีบกลับไปหาลูกนะ!”
เสียงที่นุ่มนวลในโทรศัพท์นั้นได้ปฏิเสธเซี่ยชีหรั่นอย่างจริงจัง เย่เนี่ยนโม่พูดว่า “เพื่อนใหม่ผมบอกผมแล้วครับ หม่ามี๊กับแดดดี๋ไปอยู่ในโลกของคนสองคนแล้ว เพราะว่ามีผมแดดดี๋กับหม่ามี๋ไม่ได้อยู่ในโลกของคนสองคนเลย ดังนั้นผมจะไปรบกวนหม่ามี๊กับแดดดี๊ไม่ได้”
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสมัยนี้กันแน่? ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ชายผู้แข็งแกร่งออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวบาง ๆ ที่คาดเอวและสิ่งที่น่าหลงใหลใต้ผ้าเช็ดตัวนั้น
กลิ่นหอมของเจลอาบน้ำมาจากด้านหลัง ลมหายใจที่อบอุ่นส่งผ่านเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์ไปแล้วพูดคุยปรึกษาเรื่องหุ้นกับเย่เนี่ยนโม่อย่างจริงจัง เมื่อได้ยินบทสนทนาที่ตึงเครียดของเขาทั้งสอง เซี่ยชีหรั่นจึงพูดอย่างไม่พอใจ “คุณช่วยคุยกับลูกเหมือนพ่อทั่ว ๆ ไปที่คุยกับเด็กได้ไหม”
เย่เชินหลินกดวางสายลง คราบน้ำที่เส้นผมของเขาค่อย ๆ ไหลผ่านลงมาที่คาง เย่เชินหลินมองหน้าเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดว่า “การที่เกิดในครอบครัวแบบนี้ก็หมายความว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์ทำตัวงอนหรือน้อยใจอะไร สิ่งที่เขามีนั้นก็คือเบื้องหลังทรัพยากรที่ดีที่สุด แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องสูญเสียอะไรบางอย่างไปด้วย เช่นอิสระ หรือว่าความรัก”
นิ้วมือที่ชุ่มชื้นยื่นเข้าไปเช็ดยดน้ำตรงใต้คางของเขา เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ฉันหวังว่าเซี่ยเนี่ยนโม่จะได้รับความรักที่สมควรได้รับ รับปากฉันนะว่าเราจะไม่บังคับเรื่องชีวิตคู่ในอนาคตของเขา”
เมื่อสัมผัสกับความนุ่มนวลของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินจึงพูดต่อ “หากถึงเวลานั้นเรายังต้องบังคับเรื่องการแต่งงานของเขา นั่นก็พิสูจน์ว่าเขายังไม่ดีพอ”
เซี่ยชีหรั่นยังไม่ทันพูดอะไร เย่เชินหลินก็หยิบซิลิโคนสีชมพูที่เซี่ยชีหรั่นทำหล่นออกมา
“คุณยังเก็บของนี้ไว้ทำไม!” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงดัง
เย่เชินหลินยิ้มอย่างพอใจ เขาแกว่งวัตถุในมือเบา ๆ แล้วพูดต่อ “ก็คุณอยากรู้มากไม่ใช่เหรอว่ามันคืออะไร ใช้ยังไง? ผมมีเวลาทั้งคืนบอกคุณว่ามันคืออะไรนะ”
เสื้อผ้าที่เธอเพิ่งสวมถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นก็มีเวลาทั้งคืนในการเรียนรู้วิธีการใช้งานของไอ้สิ่ง ๆ นั้น
เซี่ยชีหรั่นถูกปลุกด้วยเสียงเคาะประตู เธอรู้สึกเจ็บเอวมาก เธอพยายามลุกขึ้นแต่ก็ต้องล้มกลับไปที่นอนอีกครั้ง สารเลวเย่เชินหลินเมื่อคืนทรมานเธอนานมาก เซี่ยชีหรั่นยังสงสัยอยู่ว่าตัวเองได้พักผ่อนถึงห้าชั่วโมงไหม!
เสียงเคาะประตูด้านนอกดูเหมือนจะหยุดลงชั่วขณะ จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นอีกครั้งอย่างไม่หยุด เซี่ยชีหรั่นพยายามลุกขึ้น เธอมองไปที่กริ่งประตูบนผนังแล้วเดินไปอย่างยากลำบาก
หลังจากเปิดประตูแล้วเซี่ยชีหรั่นก็ถึงกับตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “Manuel คุณมาที่นี่ได้ไง!”
Manuelพูดอย่างหงุดหงิด “ด้วยความสามารถของผมมันไม่ยากหรอกที่ผมจะหาพวกคุณเจอได้” Manuelเม้มปากของเขา อันที่จริงเขารู้ดีว่าที่เขาสามารถหาเซี่ยชีหรั่นพบได้เร็วขนาดนี้ก็เพราะว่าเย่เชินหลินไม่คิดจะซ่อนตัวมากกว่า
แววตาManuelแปลกประหลาดขึ้นทันทีหลังจากที่เห็นร่องรอยที่คลุมเครือสีแดงอยู่บนคอของเซี่ยชีหรั่น จากนั้นเขาก็ถามคำถามที่เขาเองก็คาดคิดไม่ถึง “ดูเหมือนว่าเมื่อคืนพวกคุณน่าจะมีความสุขดีนะ”
เซี่ยชีหรั่นสังเกตสายตาของManuelแล้วเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองนอนเบลอจนลืมปิดในสิ่งที่เธอควรจะปกปิด เธอรีบดึงคอเสื้อให้สูง แต่เป็นผลทำให้สายตาของManuelร้อนรนขึ้น
“เซี่ยชีหรั่น” สายตาของManuelกวาดไปทั่วต้นขาอันขาวเนียนของเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดด้วยเสียงที่แหบแห้ง
เซี่ยชีหรั่นมองลงไปแล้วเห็นเสื้อเชิ้ตที่แต่เดิมยาวถึงต้นขาแต่ถูกดึงขึ้นมาอยู่ในระดับใต้สะโพกเท่านั้น เงาระหว่างต้นขานั้นทำให้ดึงดูดสายตาของคนอื่นมาก
“อ๊ากกกกก!!” เซี่ยชีหรั่นรีบกระโดดกลับขึ้นไปบนเตียงแล้วห่อตัวเองอย่างแน่นหนาในใต้ผ้าห่ม เหลือเพียงสองตาที่มองมาที่Manuelเท่านั้น
“สรุปว่าคุณมีธุระอะไร ฉันจะเปลี่ยนชุดแล้ว!” เซี่ยชีหรั่นกวางมองไปรอบ ๆ ห้อง เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นแสดงให้เห็นถึงฉากแห่งความบ้าคลั่งของเมื่อคืนนี้อย่างเต็มที่

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset