สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1205 แม่บ้านของคุณชายเย่ 1109

ดวงตาของManuelร้อนรุ่มมากขึ้น เขาเดินเข้าไปหาเซี่ยชีหรั่นแล้วยื่นดาวสิบสามดวงให้กับเธอ “ไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ แต่ของสิ่งนี้ก็เป็นของคุณ รับเอาไว้ แล้วอย่าทิ้งมันตามใจชอบอีก”
เซี่ยชีหรั่นยังไม่ทันปฏิเสธ Manuelก็มองเธอด้วยสายตาอันลึกซึ้งแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
เซี่ยชีหรั่นถูกเย่เชินหลินส่งตรงไปยังสนามบินส่วนตัว ฉินเฟิงที่ได้มาถึงก่อนหน้านี้เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เขาพยักหน้าให้กับเซี่ยชีหรั่นจากนั้นก็หันหน้าไปโดยที่ไม่หันกลับมามองอีกเลย
สีหน้าของManuelดูแย่มาก แต่เมื่อเห็นดาวสิบสามดวงที่อยู่ในเอวของเซี่ยชีหรั่นแล้วเขาก็รู้สึกดีขึ้น ส่วนKiuที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้าไม่ดีเลย เพราะลูกชายของเขายังอยู่ในมือของชายคนที่ชื่อเย่เชินหลินอยู่
“รอก่อนคะพี่เชินหลิน!” รถที่แล่นมาแต่ไกลยังไม่ทันรอให้รถหยุดเสี่ยวฉุนก็เปิดประตูออกจากรถแล้ววิ่งเข้าไปหาเย่เชินหลินทันที
“เสี่ยวฉุน เธอมาทำอะไรที่นี่?” เย่เชินหลินขมวดคิ้ว เดิมทีที่อารมณ์ดี ๆ อยู่ก็ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง สายตาของเขาไม่เห็นด้วยกับการปรากฏตัวของเสี่ยวฉุนที่นี่เลย
“พวกคุณจะไปหายารักษาให้พี่เซี่ยใช่ไหม!” ดวงตากลมโตของเสี่ยวฉุนกระพริบ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสงสัยและอยากรู้อยากเห็น
เย่เชินหลินไม่ได้พูดอะไร ฉินเฟิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้แล้วยิ้มตอบแทนเย่เชินหลิน “อืม ใช่แล้ว”
เสี่ยวฉุนพยักหน้าอย่างตื่นเต้น จากนั้นหันกลับไปมองเซี่ยชีหรั่นที่อยู่ในอ้อมแขนของเย่เชินหลินแล้วพูดอย่างน้อยอกน้อยใจ “พี่เซี่ยคะ พี่ช่วยขอกับพี่เชินหลินให้หนูไปกับพวกพี่ด้วยได้ไหมคะ หนูรับปากว่าหนูจะไม่สร้างปัญหาค่ะ”
เซี่ยชีหรั่นได้แต่อยู่เงียบ ๆ ถ้าเธอไม่ได้เห็นLucy ถ้าเธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ใส่ร้ายเธอเพื่อต้องการแย่งเย่เชินหลิน เธอจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้สวยราวกับนางฟ้า ตอนนี้เธอเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ทั้ง ๆ ที่เกลียดเธออยู่แต่แสร้งทำเป็นคนดี
ความเงียบของเซี่ยชีหรั่นทำให้ดวงตาของเสี่ยวฉุนผิดหวังเล็กน้อย เธอยังคงมองไปที่เย่เชินหลินอย่างน่าสงสาร จางเฟิงอี้เดินลงจากเครื่องบินแล้วพยักหน้าให้กับเย่เชินหลิน
ขณะที่เย่เชินหลินกำลังจะหันไปเสี่ยวฉุนก็หยิบแหวนสีแดงออกมา “เย่เชินหลิน! คุณพ่อเคยบอกให้คุณดูแลฉันดี ๆ ก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไป”
เย่เชินหลินหันกลับมาแล้วพูดอย่างเย็นชา “เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ บ้านหลังใหญ่ที่เธอพักอาศัยอยู่ ของฟุ่มเฟือยที่เธอใช้อยู่มันมาจากไหน? อีกอย่าง ผมไม่ชอบการที่ถูกใครคุกคามนะ”
นั่งอยู่ในห้องโดยสาร เซี่ยชีหรั่นมองออกไปที่เสี่ยวฉุนที่ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวด้านนอกนั้น เธอเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ยืนก้มหัวอยู่เหมือนเด็กที่กำลังจะสูญเสียโลกทั้งใบไป
“เราพาเธอไปด้วยก็ได้นะ ดูน่าสงสารจัง” เซี่ยชีหรั่นไม่แน่ใจว่าเย่เชินหลินจะฟังเธอหรือไม่ แม้เธอจะลังเลแต่สุดท้ายก็พูดมันออกมา
เย่เชินหลินวางจูบลงที่ริมฝีปากของเธออย่างดุเดือดก่อนที่จะให้จางเฟิงอี้ไปเรียกคนเข้ามา จากนั้นเสี่ยวฉุนก็วิ่งกระโดดเข้าไปอย่างรวดเร็ว “พี่เชินหลินใจดีที่สุดแล้ว”
“เย่เชินหลินไม่ได้พูด เซี่ยชีหรั่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เป็นคนพูดต่างหาก” Manuelพูดประชดอยู่ด้านข้าง
เสี่ยวฉุนเงียบไปชั่วขณะ แววตาของเธอแสดงถึงความไม่เต็มใจและจากนั้นเธอก็กลายเป็นผู้หญิงที่แสนหวาน “พี่เซี่ยก็ใจดีที่สุดเล้ยยย!”
เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวบินไปยังเขตชานเมืองของเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอัลดาบรา เสียงสั่นสะเทือนของเครื่องบินลำใหญ่ดึงดูดความสนใจของชาวบ้านให้มารวมตัวกัน
เซี่ยชีหรั่นต้องการยืนขึ้นเพื่อยืดเอว แต่ทันทีที่เธอยืนขึ้นก็เกือบล้มลงกับพื้น Manuelและฉินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ พยายามจะรับเธอไว้ แต่เย่เชินหลินเร็วกว่าเขาทั้งสอง
เขากอดเซี่ยชีหรั่นไว้ แต่เซี่ยชีหรั่นพยายามใช้มือผลักเขาออกเบา ๆ เพราะที่นี่คือต่างประเทศ ยังมีคนอีกมากมายมองเธออยู่ เธอจึงไม่อยากแสดงความใกล้ชิดกับเย่เชินหลินมากเกินไป
“อยู่นิ่ง ๆ” เสียงทุ้มต่ำทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกมีแรงสั่นสะเทือนมาจากอกของเขา เซี่ยชีหรั่นถูกเย่เชินหลินกอดไว้แน่น ๆ จนกระทั่งเย่เชินหลินอุ้มเธอลงจากเครื่อง
kiuเหลือบมองManuelด้วยสีหน้าจริงจัง ฉินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ แสร้งทำเป็นไม่มองเซี่ยชีหรั่นและเสี่ยวฉุนที่มองเซี่ยชีหรั่นด้วยความละโมบก็ถอนหายใจดัง ๆ
เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวลำใหญ่เกินไป คนกลุ่มนี้จำเป็นต้องจอดเครื่องบินอยู่ชานเมืองแล้วเดินเข้าไปในเมือง เมื่อคนในเมืองเห็นคนกลุ่มนี้เข้ามาก็จับตามองอย่างใกล้ชิด
เซี่ยชีหรั่นหดตัวไว้จนแทบจะกลายเป็นนกกระจอกเทศไปแล้ว เสื้อสูทคลุมหัวเธอไว้ “ถ้าไม่อยากให้เขาเห็นก็เอานี่คลุมไว้” เสียงแผ่วเบาของเย่เชินหลินดังขึ้น
เมื่อเดินเข้าไปในโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่Manuelวางบัตรเครดิตสีทองไว้บนโต๊ะ “ขอห้องที่เงียบและสบายที่สุดของโรงแรมให้พวกเราด้วย”
เมื่อเจ้าของโรงแรมเห็นบัตรเครดิตสีทองก็ถึงกับต้องกลืนน้ำลาย “ต้องขออภัยด้วยนะครับ ทางโรงแรมไม่ค่อยมีคนภายนอกมาใช้บริการ จึงไม่สามารถรับชำระเป็นบัตรเครดิตได้ครับ ทางเราต้องใช้เงินสดเท่านั้นนะครับ!”
“รูดบัตรไม่ได้งั้นเหรอ?” ฉินเฟิงและManuelต่างก็ขมวดคิ้ว เพราะทั้งสองพกเพียงบัตรเครดิตเท่านั้น!
เย่เชินหลินที่ถูกทั้งสองตัดหน้าก็ได้เข้ามา เขาอุ้มเซี่ยชีหรั่นไปนั่งลงที่โซฟาก่อน จากนั้นก็ให้จางเฟิงอี้ถือกระเป๋ามาวางไว้บนเค้าเตอร์ และเมื่อเปิดกระเป๋าออกมาข้างในก็เต็มไปด้วยเงินดอลลาร์
เมื่อเย่เชินหลินเป็นคนจ่ายค่าที่พัก ฉินเฟิงและManuelทั้งสองสีหน้าก็ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากด้อยกว่าคนอื่น
“ตอนนี้คุณบอกผมในสิ่งที่คุณรู้ได้หรือยัง?” เย่เชินหลินนั่งสบาย ๆ บนโซฟาแล้วพูดกับ Kiu ที่แทบไม่ได้พูดอะไรเลยในระหว่างการเดินทาง
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ Kiu Kiuสีหน้าเฉยเมยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ที่เหลือผมไม่รู้ ผู้หญิงคนนั้นบอกเพียงว่าแหล่งที่มาของยาคือสถานที่ที่หนึ่งบนเกาะอัลดาบรา ส่วนรายละเอียดที่เหลือเธอไม่ยอมบอก”
นิ้วของเย่เชินหลินเคาะเบาะเบา ๆ บนพนักแขนของโซฟา kiu ไม่จำเป็นต้องโกหกเขาจริง ๆ เพราะถึงอย่างไรลูกชายของเขาก็อยู่ที่เย่เชินหลิน
สำหรับผู้หญิงลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด เย่เชินหลินหัวเราะอย่างเย็นชา “ต้องหามันให้เจอ”
kiu คิดว่าเย่เชินหลินกำลังพูดถึงยาบนอัลดาบรา เขาหันศีรษะไปอย่างเหยียดหยาม ไม่นานหลังจากนั้น จางเฟิงอี้นำกระเป๋ามาวางไว้ตรงหน้าทุกคน ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นเงินดอลลาร์ที่เต็มไปในกระเป๋า
“คุณหมายความว่าอะไร” Manuelพูดอย่างไม่พอใจ
“ทุกคนรับเงินหนึ่งแสนเหรียญไป แล้วไปตามหาข่าวที่เกี่ยวข้องในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้” เย่เชินหลินให้คำอธิบายสั้น ๆ
“คุณเอาเงินมากมายนี้มาจากไหนกันแน่” เซี่ยชีหรั่นมองไปที่แบงค์ดอลลาร์ใหม่ที่เต็มในกระเป๋านั้น
“ไอคิว” เย่เชินหลินกวาดมองไปรอบ ๆ แล้วพูดอย่างเย็นชา
คำพูดของเย่เชินหลินทำให้สีหน้าการแสดงออกของทั้งสามคนเปลี่ยนไป ฉินเฟิงเป็นคนเริ่มนับเงินหนึ่งแสนเหรียญบนโต๊ะก่อน จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าค่อนข้างแย่ “งั้นผมไปก่อนนะ”
Manuel และ kiu ต่างก็นับเส่วนแบ่งของตน จากนั้นก็ออกไปคนละทิศคนละทาง
“พี่เชินหลินคะ หนูก็ต้องไปด้วยเหรอ?” เสี่ยวฉุนนั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วถามเย่เชินหลินด้วยความงุนงง
เย่เชินหลินเหลือบมองแล้วตอบเสี่ยวฉุนว่า “แล้วแต่”
“อย่าพูดกับเสี่ยวฉุนเย็นชาขนาดสิ” เซี่ยชีหรั่นตบแขนเย่เชินหลินเบา ๆ
นัยน์ตาเสี่ยวฉุนเกิดความเศร้าหมอง จากนั้นเธอก็หันไปมองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาที่ขอบคุณ เย่เชินหลินลุกขึ้นแล้วพาเซี่ยชีหรั่นเดินไปที่ประตูโรงแรมโดยที่ไม่ได้สนใจเสี่ยวฉุน
ในห้องมืดมีเพียงแสงไฟสลัวข้างเตียงส่องสว่างทั้งสองคนที่พัวพันอยู่บนเตียงและถอนหายใจเฮือกใหญ่ การสั่นสะเทือนในห้องนอนทำให้ฟังออกได้อย่างชัดเจนว่ามีการเผาผลาญพลังงานอย่างฟุ่มเฟือยกันอยู่
ใบหน้าที่เผยให้เห็นในความมืดนั้นช่างดูคุ้นเคยเสียเหลือเกิน เสี่ยวฉุนยกคางอันบอบบางของเธอขึ้นเล็กน้อย มือที่ขาดนิ้วนั้นได้สัมผัสกับกลางอกที่แข็งแกร่งอย่างใกล้ชิด
“เย่เชินหลิน เย่เชินหลิน” ใบหน้าของเสี่ยวฉุนแดงระเรื่อและตะโกนเรียกชื่อเย่เชินหลินไปด้วย
“ถึงขนาดนี้แล้วคุณยังลืมเขาไม่ได้เหรอ?” เสียงทุ้มต่ำและแหบแห้งดังขึ้น
เสี่ยวฉุนมองไปที่ชายคนนั้น “คุณบอกว่าคุณแค่ต้องการใช้การเป็นนักพยากรณ์ของเซี่ยชีหรั่นเพื่อยึดครองอิตาลี แต่ฉันคิดว่าคุณดูเหมือนจะสนใจเธอจริง ๆ เข้าแล้วนะ Manuel”
Manuelเคลื่อนไหวอย่างดุเดือด เขาตอบด้วยความเกลียดชังและความพึงพอใจ “เสียงปรบมือของผู้ชมจะดังขึ้นได้อย่างไรถ้าหากการเล่นไม่สมจริง”
“หวังว่าหนังที่คุณแสดงอยู่จะมีคนชมจนถึงตอนสุดท้าย และไม่ได้ถูกเย่เชินหลินทำลายไปเสียก่อนนะ” ดูเหมือนว่าเย่เชินหลินสามคำนี้จะกระตุ้นความรู้สึกของ Manuelจนทำให้เขาก้มลงและเคลื่อนไหวอย่างดุเดือดมากขึ้น
เราจะไปไหนกัน เซี่ยชีหรั่นพยายามเดินตามเย่เชินหลินให้ทัน แม้เย่เชินหลินจะลดความเร็วแล้ว แต่สำหรับเซี่ยชีหรั่นก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่
และสามนาทีต่อมาทั้งสองได้นั่งลงในสถาบันสายอาชีพที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ หน้าอกที่อวบอิ่มของหญิงสาวชาวยุโรปได้บีบระหว่างไหล่ของเย่เชินหลิน ดวงตาของผู้หญิงเต็มไปด้วยความสนใจในตัวเขา เขาไม่เหมือนผู้ชายขี้เหร่พวกนั้น ผู้ชายคนนี้อ่อนโยนและสง่างาม ใบหน้าชาวตะวันออกแต่มีเสน่ห์อันลึกซึ้งมากกว่าชาวตะวันตก พวกเธอคงไม่ปล่อยให้ของดีแบบนี้ผ่านไปง่าย ๆ แน่นอน
เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างลำบากใจ นักแสดงสาวบางคนถึงกับไม่ยอมปล่อยเซี่ยชีหรั่นไว้ด้วย “เอาเรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดของพวกคุณมา แล้วเงินพวกนี้จะเป็นของคุณ”
จางเฟิงอี้วางเงินทั้งหมดลงบนโต๊ะและดวงตาของนักร้องก็สบเข้ากับเย่เชินหลินและเงินของเขาด้วยความโลภ
“ถ้าคุณพูดจริง ฉันมีเรื่องน่าสนใจที่สุดจะเล่าให้ฟังนะ” นักร้องคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับน้ำลายสอ
“แต่ฉันอยากค้างคืนกับคุณด้วย” หญิงสาวหันศีรษะมาและกดแขนของเย่เชินหลินแล้วค่อย ๆ ลูบไล้เหมือนงูน้ำกำลังเลื้อยคลาน
ความกล้าหาญของอีกฝ่ายทำให้เซี่ยชีหรั่นแทบจะพูดไม่ออก ใบหน้าของเธอแดงจนไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหนอีก นิ้วของเย่เชินหลินค่อย ๆ แตะที่คางของสาวนักร้องแล้วพูดอย่างยั่วยวนว่า “ถ้าเรื่องที่คุณจะเล่ามีคุณค่ามากพอ ก็อาจจะทำให้ผมสนใจได้”
“ฉันจะออกไปเดินเล่น!” เซี่ยชีหรั่นยืนขึ้นและเดินออกไปข้างนอกทันที เย่เชินหลินได้แต่มองไปที่เซี่ยชีหรั่นจากด้านหลังด้วยสายตาอันลึกซึ้งจนกระทั่งร่างเล็ก ๆ นั้นได้เดินหายไปจากสายตา
เย่เชินหลินจัดกระดุมแขนเสื้อแล้วพูดอย่างเย็นชา “ยังไม่รีบพูดอีก”
หญิงสาวจึงพูดด้วยความตกใจและความกลัว “เมื่อกี้คุณสัญญากับฉันแล้วนะว่าจะอยู่กับฉัน”
เมื่อเย่เชินหลินนึงถึงสีหน้าอันบูดบึ้งของเซี่ยชีหรั่นแล้วรู้สึกดีอย่างอธิบายไม่ถูก ความเอาใจใส่ของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกมีความอดทนมากขึ้น และเขาไม่อยากมองผู้หญิงที่มีเสน่ห์รอบตัวเขาอีก จากนั้นเขาพูดเบา ๆ ว่า“ผมสนใจแต่ร่างกายของผู้หญิงคนนั้น”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset