สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1206 แม่บ้านของคุณชายเย่ 1110

เซี่ยชีหรั่นเดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย เธอมองสายตาของผู้คนที่เดินสวนไปมาและรู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจเดินออกมาด้วยความโกรธ ตอนนี้ในตัวเธอยังพอมีเงินสดที่เย่เชินหลินยัดให้เธออยู่บ้าง
เซี่ยชีหรั่นเดินไปหยุดไป ในระหว่างทางเธอเห็นเจ้าของร้านขายขนมสีแดงอยู่ร้านหนึ่งกำลังเรียกเธออย่างกระตืนรือร้น เซี่นชีหรั่นจึงเข้าไปนั่งลงและไม่นานขนมอบนึ่งก็มาวางอยู่ตรงหน้าเธอ
“ผมรอคุณมาตั้งนาน คุณก็คือผู้อุปถัมภ์ของเกาะนี้ที่ถูกทำนายไว้นี่เอง” เด็กร่างผอมคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเซี่ยชีหรั่น
“ไป ๆ ๆ Dani กลับไปหาคนแก่ผีบ้า อย่ามารบกวนคนทำมาหากินที่นี่” เฒ่าแก่ร้ านออกมาไล่เด็กชายคนนั้นกลับไปแล้วพูดกับเซี่ยชีหรั่นพร้อมกับคำขอโทษ “อย่าไปสนใจมันนะ เด็กคนนี้สมองไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เห็นใครก็พูดกับเขาแบบนี้จนคนทั้งหมูบ้านชินกันแล้ว”
เสียงหัวเราะของคนด้านข้างดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นยังคงมองไปที่เด็กผู้ชายตัวผอมตรงหน้าเธอ เด็กชายกำลังจ้องมองไปที่ขนมอบบนโต๊ะนั้น
เซี่ยชีหรั่นฉีกขนมปังแล้วแบ่งให้เด็กผู้ชายคนนั้นไปครึ่งหนึ่ง “เอาไปกินสิ” เด็กชายรีบรับขนมปังแล้วกินอย่างหิวโหย เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ท้องฟ้าแล้วเตรียมที่จะกลับไปหาเย่เชินหลิน
แต่เด็กผู้ชายคนนั้นเดินตามหลังเธอมาด้วย เขาพูดโดยที่ขนมปังยังอยู่เต็มปาก “ผมค่อนข้างมั่นใจว่าคุณคือคนที่เรากำลังหาอยู่”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างเป็นมิตรต่อเด็กผู้ชายคนนั้น เธอเดินไปอย่างไม่หยุด แต่เซี่ยชีหรั่นไม่ทันระวังถูกชนเข้าจากด้านหลังจนทำให้เธอเดินโซเซและกระเป๋าตังของเธอถูกเด็กผู้ชายคนนั้นถือไว้แล้ว
“อยากได้ก็มาแย่งสิ” เด็กผู้ชายวิ่งอย่างรวดเร็วและหายไปในมุมทันที
“เกิดอะไรขึ้นชีหรั่น?” ฉินเฟิงเดินออกมาจากอีกซอยของถนน ในมือเขายังถือเงินหนึ่งแสนเหรียญ ซึ่งดูแล้วค่อนข้างตลก
“เด็กคนนั้น เด็กคนนั้นเอากระเป๋าสตางค์ของฉันไป” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างรีบร้อน
ทั้งสองวิ่งไล่ตามไปเรื่อย ๆ เด็กคนนั้นวิ่งเร็วและว่องไวมาก แต่เขามักจะปรากฏตัวให้เห็นในช่วงที่ทั้งสองคลาดสายตาจากเขา จนกระทั่งถึงกระท่อมหลังเก่าหลังหนึ่งเด็กชายคนนั้นก็ไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีก
มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลังของกระท่อมหลังนั้น ทั้งสองจึงรีบอ้อมกระท่อมไป กำแพงบ้านหลังนั้นได้ทรุดตัวลงและสามารถเห็นถนนที่ปูด้วยก้อนหินได้ จางเฟิงอี้ยืนอยู่บนกองก้อนหินนั้นและในมือเขามีวัตถุระเบิดขนาดเล็กอยู่ด้วย
เมื่อเห็นเย่เชินหลินที่นิ่งเฉยยืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกโกรธและหันหน้าหนีเขา
สายตาของเย่เชินหลินกวาดมองไปที่เซี่ยชีหรั่น จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม “มานี่สิ”
เซี่ยชีหรั่นยังคงหันหน้าหนีเย่เชินหลิน แต่เย่เชินหลินลดเสียงลงเล็กน้อยแล้วพูดซ้ำอีกครั้ง “มานี่”
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นยกเท้าขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเย่เชินหลิน เย่เชินหลินลูบผมเธอเบา ๆ จากนั้นอุ้มเธอขึ้นแล้วเดินไปที่บันไดหิน
“คุณทำอะไรเนี่ย ปล่อยฉันลง!” เซี่ยชีหรั่นบ่นพึมพำด้วยความประหลายใจ
“มีคนปลูกมอสส์บนก้อนหินนี้” เย่เชินหลินยกเซี่ยชีหรั่นขึ้นสูง ๆ เซี่ยชีหรั่นพยายามหันกลับมามองอย่างยากลำบากและเธอก็ได้เห็นมอสเขียวบาง ๆ ที่ปกคลุมอยู่ทั่วพื้นดิน ถ้าไม่ทันสังเกตเห็นก็อาจจะลื่นล้มได้
ฉินเฟิงก็ล้มไปแล้วครั้งหนึ่ง เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างเขินอาย แม้แต่จางเฟิงอี้ก็ต้องเหงื่อแตกไปด้วย “พวกคุณมาจนได้” เด็กชายมองไปที่ทุกคนแล้วเดินนำเข้าไปข้างในก่อน
เซี่ยชีหรั่นเดินตามเย่เชินหลินแล้วถามเขา “แล้วคุณมาที่นี่ได้ไง?”
เย่เชินหลินปัดใยแมงมุมบนศีรษะของเซี่ยชีหรั่นออกแล้วพูดเบา ๆ “ตำนานที่พิเศษที่สุดของที่นี่คือชายชราผู้เป็นอมตะและแสงสีม่วง”
“หรือว่าพวกคุณก็ได้ยินด้วยเหมือนกัน? ผมไม่อยากเชื่อเลย!” ฉินเฟิงที่อยู่ด้านข้างพูดต่ออย่างไม่น่าเชื่อ “ชายชราคนหนึ่งมีอายุนับร้อยปีแล้วยังไม่พอ หลังจากที่เขาตายไปก็มีแสงสีม่วงเปล่งประกายแล้วจากนั้นเขาก็ฟื้นคืนชีพอย่างน่าอัศจรรย์”
ในที่ลึกสุดของห้องมืด มีร่างชราคนหนึ่งที่ห่อด้วยผ้าผืนใหญ่แล้วมีหินก้อนใหญ่ก้อนเล็กถูกจัดวางอยู่บนพื้นในรูปทรงแปลก ๆ มากมาย
“พวกคุณเป็นคนกลุ่มที่สองที่มาถึงที่นี่” ชายชราคนนั้นยังดูแข็งแรงอยู่ เขามองไปที่เย่เชินหลินจากนั้นก็หันไปมองที่เซี่ยชีหรั่น
“มีคนมาก่อนหน้าเราหรือ?” เซี่ยชีหรั่นถาม
เย่เชินหลินขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ผู้หญิงคนหนึ่ง”
“ถูกต้อง เธออยากได้ยาลบความจำจากที่นี่ ผมจึงให้คำแนะนำเธอไป”
เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความสงสัย “แล้วถ้าเธอเอามันไปทำร้ายคนอื่นล่ะ?”
ชายชราส่ายหัวแล้วมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความมั่นใจ “ถ้านางไม่ทำเช่นนี้ ชีวิตนี้คุณคงไม่มีโอกาสมาที่นี่แล้วล่ะ”
“ทำไม!” คำพูดของชายชราทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกถึงความลึกลับ
“ผมเคยบอกแล้วว่าคุณคือเจ้าของดาวสิบสามดวง คุณคือนักพยากรณ์ ที่นี่คือสถานที่กำเนิดของดาวสิบสามดวง” Manuelเดินเข้ามาพูดกับเซี่ยชีหรั่น ส่วนเสี่ยวฉุนได้แต่มองไปที่เย่เชินหลินอย่างเงียบ ๆ
ชายชราหันกลับไปหยิบก้อนหินสีม่วงแล้วยื่นให้กับทุกคน เขาส่งสัญญาณให้เสี่ยวฉุนยื่นมือไปแตะก้อนหิน เสี่ยวฉุนจึงค่อย ๆ เอามือไปวางไว้บนก้อนหินนั้นแต่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ
ฉินเฟิงหายใจเขาลึก ๆ และวางมือบนก้อนหิน แต่ก็ยังไม่มีการตอบสนองใด ๆ เหมือนกัน จนกว่าหินก้อนนั้นจะส่งมาถึงมือของเซี่ยชีหรั่น สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ตัวเซี่ยชีหรั่นและหินก้อนนั้น
เซี่ยชีหรั่นยื่นนิ้วออกมาแตะที่ก้อนหินเบา ๆ ทันใดนั้นดาวสิบสามดวงในตัวเธอก็เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย “เป็นไปได้ไง! มันน่ามหัศจรรย์จริง ๆ”
ชายชราเก็บก้อนหินแล้วพูดกับเซี่ยชีหรั่นต่อ “เกาะนี้เป็นดินแดนพิเศษของรุสก้าคนรักของซีซาร์ ในเวลานั้นจักรพรรดิซีซาร์ได้เลือกและทำกริชเล่มนี้ให้กับรุสก้าที่นี่ ตอนนี้คุณมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้คือฟ้าลิขิต”
เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างงุนงง “รุสก้า? ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดอะไรอยู่?”
ชายชราเหลือบมองไปที่เย่เชินหลิน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เย่เชินหลินเลิกคิ้วและมองเขา จากนั้นชายชราก็พูดอย่างพึมพำ “คล้ายกันจริง ๆ คล้ายกันเหลือเกิน!”
จากนั้นชายชราก็ได้ยื่นก้อนหินให้กับเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดต่อ “ผมรู้ว่าพวกคุณต้องการจะไปไหนและทำอะไร ตอนนี้คุณช่วยโยนหินลงตรงกลางนี้ แล้วคุณจะพบเส้นทางที่ถูกต้อง”
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลินและเย่เชินหลินพยักหน้าตอบ เธอจึงโยนหินก้อนนั้นลงไปท่ามกลางก้อนหินที่จัดเรียงกันอยู่ข้างชายชรา การก่อตัวของหินทำให้เกิดเสียงที่คมชัดและหินก้อนนั้นก็ตั้งขึ้น
จนกระทั่งระหว่างการเดินทางเซี่ยชีหรั่นยังไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเห็น “ยังมีของวิเศษเช่นนี้บนโลกอีกเหรอ?”
เย่เชินหลินจับมือเซี่ยชีหรั่นแล้วเดินไปข้างหน้าและพูดเบา ๆ “ยังมีหลายสิ่งในโลกที่เราไม่เข้าใจ”
“แล้วมีอะไรที่แปลกประหลาดกว่านี้อีกหรือ?” เซี่ยชีหรั่นพึมพำ
เย่เชินหลินเห็นเซี่ยชีหรั่นก้มหน้าลง หัวใจของเขาอ่อนนุ่มจนแทบจะละลายกลายเป็นน้ำทะเล เขาไม่ได้บอกเซี่ยชีหรั่นว่าการที่ได้พบเธอ การที่ตกหลุมรักเธอ มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่สุดที่เขาเคยพบมาแล้ว
สถานที่ที่ชายชราบอกกับทุกคนเป็นเกาะที่ไม่มีชื่อซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง วิธีเดียวที่จะไปยังเกาะคือการนั่งเรือ เซี่ยชีหรั่นและเสี่ยวฉุนนั่งด้วยกัน ส่วนเย่เชินหลิน ฉินเฟิงและManuelนั่งด้วยกัน
“พี่เซี่ยคะ พี่กับพี่เชินหลินพบกันได้อย่างไรคะ” เสี่ยวฉุนถามเซี่ยชีหรั่นพลางจับแก้มของตัวเองไปด้วย
เซี่ยชีหรั่นมองคลื่นน้ำที่ซัดผ่านไป ความคิดของเธอยังคงจมอยู่กับคำพูดของชายชราคนนั้น เธอเป็นนักพยากรณ์จริง ๆ งั้นหรือ? จากนั้นเธอก็ตอบคำถามของเสี่ยวฉุนอย่างใจไม่อยู่กับที่ “ฉันทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของเขา”
ใบหน้าของเสี่ยวฉุนบิดเบี้ยว เธอพูดต่อด้วยความโอ้อวด “ที่เชินหลินเคยมาที่นี่เมื่อหลายปีก่อน ในตอนนั้นเขาถูกคนอื่นทำร้าย แต่พ่อของหนูช่วยเขาไว้ เขาเคยใช้ชีวิตอยู่กับพวกเราอยู่สักพักเหมือนกัน”
เสี่ยวฉุนพูดอย่างฉะฉาน เธอพยายามทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอิจฉา แต่เซี่ยชีหรั่นยังคงมองไปที่คลื่นน้ำอย่างนิ่งเฉย เธอเออออกับคำพูดของเสี่ยวฉุนไปด้วยอย่างเฉยเมย
เสี่ยวฉุนแอบนินทาในใจ อะไร ขนาดบอกให้เธอรู้ว่าฉันมีอดีตกับเย่เชินหลินแล้ว แต่เธอกลับทำเหมือนไม่ได้ยินได้ไง?!
แทบจะพูดด้วยความโกรธ “พี่เซี่ย พี่คิดว่าหนูมีสิทธิ์ชอบพี่เชินหลินไหม”
คำถามนี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องหันกลับมามองเสี่ยวฉุน “เธอน่าจะรู้นะว่าฉันถูกสะกดจิตอยู่ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ทำให้ฉันโมโหไม่ได้หรอก เสี่ยวฉุน เธอมีความสุขไหม? เธอทำตัวแบบนี้มีความสุขไหม?”
คำพูดของเซี่ยชีหรั่นทำให้เสี่ยวฉุนหน้าซีดลงทันที เธอยืนขึ้นแล้วจับไหล่ของเซี่ยชีหรั่นเหมือนคนขาดสติ “ฉันจะไม่มีความสุขได้ไง ถ้าไม่มีเธอฉันจะมีความสุขแน่!”
เซี่ยชีหรั่นรีบลุกขึ้นแล้วพยุงตัวของเสี่ยวฉุนไว้ “เสี่ยวฉุน รีบนั่งลง คลื่นมันแรงนะ”
เสี่ยวฉุนที่รู้สึกโกรธอยู่จึงไม่ฟังคำเตือนของเซี่ยชีหรั่น ทันใดนั้นเรือก็ชนกับคลื่นลูกใหญ่จนทำให้เสี่ยวฉุนกระเด็นออกไปอีกข้างจนเกือบจะตกลงไปจากเรือ “ช่วยด้วย!” เสี่ยวฉุนตะโกนร้อง
เซี่ยชีหรั่นรีบเข้าไปหาเสี่ยวฉุนแล้วพูดอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องกลัวนะ ฉันกำลังไปช่วยเธอ” แรงสั่นสะเทือนทำให้เซี่ยชีหรั่นยืนไม่นิ่ง ทันใดนั้น มีแรงผลักจากด้านหลังอย่างกะทันหันจนทำให้เซี่ยชีหรั่นตกลงไปจากเรือ
เกือบจะในเวลาเดียวกัน อีกฟากของเรือก็มีเสียงของการตกน้ำดังขึ้น เสี่ยวฉุนตะโกนร้อง “พี่เชินหลิน”
น้ำทะเลไหลเข้าจมูกและช่องปากของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นสำลักน้ำออกมาด้วยร่างกายที่อ่อนแรง เธอถูกมือคู่ใหญ่คู่หนึ่งโอบเอวแล้วพาเธอไปยังฝั่ง
เซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจแล้วลุกขึ้นนั่งทันที เมื่อเธอเห็นว่าร่างกายของตัวเองเปลือยอยู่เธอจึงรีบดึงเสื้อที่ยาวถึงต้นขาขึ้นมาปิดเหนือหน้าอกไว้
เย่เชินหลินเดินเข้าไปหาเซี่ยชีหรั่นแล้วเอามือแตะที่หน้าผากเธอไว้ เขากอดเซี่ยชีหรั่นไว้แน่น ๆ ก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมา
“เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่น” เย่เชินหลินไม่สามารถขจัดความกลัวในใจได้ เขามักจะคิดไปเองเสมอว่าเซี่ยชีหรั่นกำลังจะตื่นขึ้นมา และทุกครั้งที่เซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมาแล้วสลบไปอีกหนึ่งนาที เขาก็จะทนทุกข์ทรมานมากขึ้นอีกหนึ่งนาที
เมื่อรู้สึกถึงการสั่นของร่างกายของฝ่ายตรงข้าม เซี่ยชีหรั่นจึงกอดเย่เชินหลินไว้แน่น ๆ “ฉันขอโทษ”
เสียงท้องร้องทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องหน้าแดง เย่เชินหลินปล่อยเซี่ยชีหรั่นลงแล้วลูบผมเธอเบา ๆ “เดี๋ยวผมไปหาของกินมาให้ คุณต้องรออยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟังนะ”
มือของเซี่ยชีหรั่นจับเย่เชินหลินไว้แน่น ๆ แล้วพูดอย่างรีบร้อน “ฉันจะไปกับคุณ”
ดวงตาอันบอบบางของเซี่ยชีหรั่นทำให้คนมองแล้วไม่อาจต้านทานได้ เย่เชินหลินจึงพยักหน้าเบา ๆ แล้วหยิบเอาเสื้อผ้าที่แห้งแล้วให้เซี่ยชีหรั่นสวมใส่ ทั้งสองจึงเดินออกจากถ้ำ ด้านนอกถ้ำนั้นเป็นอีกฟากหนึ่งของเกาะ ลมทะเลโชยมาจากสี่ทิศ ทำให้เส้นผมของเซี่ยชีหรั่นปลิวไสว “สวยจังเลย!” เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะชื่นชม

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset