สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1210 แม่บ้านของคุณชายเย่ 1114

เย่เชินหลินเลิกคิ้วและรู้สึกอารมณ์ดีมาก ทุกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้เลือกเขา เขาก็จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เมื่อคืนเขากดเซี่ยชีหรั่นติดกับกำแพงและพูดเพียงแค่คำเดียว ระวัง kiu ไว้ เซี่ยชีหรั่นได้ทำตามคำพูดของเขาแล้ว สมกับเป็นผู้หญิงของเขาจริง ๆ
เซี่ยชีหรั่นมองข้ามสายตาที่แทบจะกลืนกินคนทั้งคนของเย่เชินหลินแล้วเดินไปหาฉินเฟิง จากนั้นพูดด้วยคำขอโทษ “แม้ว่าคุณจะอยากทำร้ายฉันมาตลอด แต่คุณยังคงเป็นเพื่อนของฉัน ถ้าหากทุกอย่างมันไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ ฉันยินดีที่จะอยู่กับคุณจนวินาทีสุดท้าย”
เสียงคำรามของเย่เชินหลินดังขึ้นจากข้างหลัง “เซี่ยชีหรั่น คุณพูดอะไรอยู่!”
เซี่ยชีหรั่นหันหลังแล้วมองเย่เชินหลินอย่างเฉยเมย “คุณทำเพื่อเสี่ยวฉุนได้ ฉันก็จะทำเพื่อฉินเฟิงเหมือนกัน”
ฉินเฟิงยิ้มแล้วส่ายหัวพูด “ชีหรั่น ขอบคุณนะ แต่ต้องขอโทษจริง ๆ ที่พาคุณมาถึงที่แปลกประหลาดแห่งนี้ ผมหวังว่าอนาคตของคุณจะมีความสุขและอย่าให้ได้เจอกับคนแบบพวกเราอีกเลย”
เดินเข้าไปหา kiu เย่เชินหลินได้สลับถ้วยที่เคลือบด้วยยาพิษให้กับ kiu ตอนนี้ kiu เริ่มทนกับความเจ็บปวดในระยะแรกของยาพิษนี้
“ไปกันเถอะ” ฉินเฟิงพยุง kiu ไว้ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดของอีกฝ่าย แต่ก็จำเป็นต้องพาเขาออกไป ก่อนจากไปเขาหันกลับไปมองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาที่ซับซ้อนอีกครั้ง “มีผู้หญิงสองคนที่คุณต้องระวังเป็นพิเศษ คนแรกก็คือโยวเล่อที่เป็นดีไซน์เนอร์ ส่วนอีกคนผมไม่เคยเห็น แต่เธอไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน”
มาถึงสนามบินอีกครั้ง เซี่ยชีหรั่นก็ยังรู้สึกคร่ำครวญ เธอมองไปรอบ ๆ ถึงอย่างไรก็ต้องกลับประเทศอยู่ดี ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งขับมาจอดอยู่ข้างเซี่ยชีหรั่น Manuel ลงมาจากรถแล้วยืนแหวนวงหนึ่งให้กับเซี่ยชีหรั่น
นี่เป็นแหวนวงแรกที่เซี่ยชีหรั่นทำให้กับอริสเบต แม้ดอกกุหลาบบนแหวนจะเหี่ยวเฉา แต่เห็นได้ชัดว่ามันถูกรักษาไว้อย่างดี
“ฉินเฟิงฝากผมเอามาให้คุณ” Manuel เห็นเย่เชินหลินกำลังเดินเข้ามาด้วยสายตาอันซับซ้อน เขาจึงเลือกที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว
“คนที่คุณรักคือเสี่ยวฉุน แล้วทุกสิ่งที่ทำนี้มันคุ้มค่าสำหรับคุณหรือ?” เย่เชินหลินโอบเอวเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดเบา ๆ เสี่ยวฉุนเป็นเหมือนหนามที่ทิ้มแทงหัวใจของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าแล้วมอง Manuel อย่างสับสน
มือของ Manuel ที่กำลังจะเปิดประตูรถได้หยุดลง จากนั้นเขาพูดอย่างช้า ๆ ว่า “เธอแค่อยากอยู่ในใจคุณ จึงขอให้ผมยิงคุณ ผู้หญิงโง่เขลา ทำแบบนี้ก็เพราะอยากให้คุณจดจำเธอตลอดไป”
“ผู้ชายโง่เขลา!” เซี่ยชีหรั่นโพล่งออกมาอย่างไม่พอใจ เย่เชินหลินและ Manuel ต่างก็หันมามองเซี่ยชีหรั่น Manuel รู้สึกตกใจ แต่เย่เชินหลินนั้นรู้สึกอุ่นใจ
“ถ้าชอบเธอจริง ๆ ก็ต้องหว่านเมล็ดพันธุ์ลงในใจเธอแล้วดูแลมันให้ดีสิ ไม่ใช่จะทำในสิ่งที่คุณคิดว่าดีต่อเธอ ทำแบบนี้ก็ได้แต่เจ็บปวดทั้งสองฝ่าย” เซี่ยชีหรั่นพูดคำเดียวสั้น ๆ และรู้สึกว่าน้ำหนักที่เอวของเธอหนักขึ้นกว่าเดิม
Manuel ถึงกับผงะไปชั่วครู่ จากนั้นฝืนยิ้มแล้วพูดต่อ “จริงเหมือนกัน ผมควรห้ามเธอไว้ตั้งแต่แรก” เขาโบกมือให้ทั้งสองแล้วเอาทุกอย่างจากไป
เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นแล้วเข้าไปในสนามบิน สาวแอร์ฮอตเตรดมองมาที่เย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นพยายามดิ้นหลุดจากมือที่โอบเอวเธอไว้ “ปล่อย!”
เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นแน่นขึ้นแล้วพูดอย่างมีสาระ “ผมคิดว่าคำพูดของคุณเมื่อกี้นี้มีเหตุผลดีนะ”
เมื่อกลับไปยังถนนที่คุ้นเคยและสถานที่ที่คุ้นเคย เซี่ยชีหรั่นแทบจะวิ่งเข้าไปในบ้าน “เซี่ยเนี่ยนโม่!”
“หม่ามี๊!” เย่เนี่ยนโม่ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ก็รีบวิ่งออกไปกอดเซี่ยชีหรั่นไว้แล้วไม่ยอมปล่อย
เซี่ยชีหรั่นแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอจูบเย่เนี่ยนโม่ไปหลายครั้ง “เด็กดี คิดถึงหม่ามี๊ไหม”
เย่เนี่ยนโม่ส่ายหัว “ตอนแรกก็คิดถึงอยู่ครับ แต่ตอนนี้ไม่คิดถึงแล้ว เพราะมาผมเห็นหม่ามี๊ทุกวันเลย!”
เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความสงสัย “แล้วเห็นหม่ามี๊ทุกวัน? เห็นยังไง?”
เย่เนี่ยนโม่วิ่งเข้าไปในห้องนอนของเขาแล้วให้แม่บ้านช่วยยกกองนิตยสารและหนังสือพิมพ์ออกมา จากนั้นเย่เนี่ยนโม่ชี้ไปที่นิตยสารที่มีรูปแหวนที่เขาเป็นคนออกแบบเองแล้วพูดต่อ “หม่ามี๊ ตอนที่หม่ามี๊ไม่อยู่นิตยสารและหนังสือพิมพ์พวกนี้มีแต่รูปของหม่ามี๊หมดเลยครับ”
เซี่ยชีหรั่นหยิบนิตยสารในมือของเย่เนี่ยนโม่มาอย่างประหลาดใจ แหวนที่ตีพิมพ์ในนิตยสารเป็นแบบที่เธอออกแบบให้สำหรับเหล่าชนชั้นสูงในอิตาลี เธอไม่รู้ว่าถูกสั่งตีพิมพ์ตั้งแต่เมื่อไหร่
เย่เนี่ยนโม่มองนิตยสารนั้นซ้ำไปซ้ำมาแล้วพูดอย่างอารมณ์ดี “ก็ไม่เลวนะ”
วันถัดไป เซี่ยชีหรั่นที่ห่างหายไปนานได้ปรากฏตัวที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นทำให้ทุกคนให้ความสนใจเธอมาก kitty พูดอย่างตื่นเต้น “ประธานเซี่ยคะ ที่แท้คุณไปสำรวจตลาดที่อิตาลีมานี่เอง! คุณน่าจะไม่ทราบนะคะว่าผลงานออกแบบของคุณได้มีชื่อเสียงโด่งดังบนนิตยสารระดับนานาชาติไปแล้ว สุดยอดไปเลย”
คำพูดของ Kitty ทำให้ทุกคนรู้สึกอารมณ์ดีและบางคนถึงกับโห่ร้องอย่างดีใจ “ท่านประธานเซี่ยครับ ผลงานของเราได้เข้าสู่ตลาดอิตาลีแล้ว คืนนี้เราควรจะฉลองกันหน่อยดีไหมครับ?”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วมองไปที่กลุ่มพนักงานอายุน้อยกลุ่มนี้ “ได้สิ พวกคุณเลือกร้านเลยนะ เดี๋ยวฉันจะเช็คบิลเอง”
หลังเลิกงานเซี่ยชีหรั่นไปถึงที่จอดรถ เมื่อมีรถถอยผ่านเซี่ยชีหรั่นเธอจึงตะโกนร้องอย่างดีใจ “ชิงเหยียน!”
เหยนชิงเหยียนสงสัยที่ได้ยินเสียงคนร้องเรียกชื่อของเขา และเมื่อเห็นหน้าเซี่ยชีหรั่นแล้วเขาจึงรีบตอบกลับ “ชีหรั่น ยินดีด้วยนะ ได้ข่าวว่าแหวนที่คุณออกแบบมีชื่อเสียงมากในอิตาลี”
แม้เซี่ยชีหรั่นจะรู้สึกว่ารอยยิ้มของเหยนชิงเหยียนไม่ได้เต็มใจมากนัก แต่ความรู้สึกที่ไม่ได้เจอเพื่อนเป็นเวลานานทำให้เธอตื่นเต้น จากนั้นเธอก็ยิ้มถามเหยนชิงเหยียนต่อ “จิ่วจิ่วเป็นยังไงบ้าง” หลังพูดจบเธอชี้ไปที่ท้องด้วยอารมณ์ขำขัน
เมื่อพูดถึงจิ่วจิ่ว สายตาของเหยนชิงเหยียนถึงดูจริงใจขึ้น “เธอสบายดี ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ จริงสิ คุณรู้แล้วยังว่าหลินเจี๋ยหัวหน้าตระกูลหลินแต่งงานแล้ว?”
เซี่ยชีหรั่นถึงกับผงะไปชั่วขณะ เธอรู้ว่าหลินเจี๋ยกล้าพูดกล้าทำ แต่ไม่รู้ว่ามันจะเร็วขนาดนี้ เหยนชิงเหยียนพูดต่อ “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรีบแต่งขนาดนี้ น่าจะสัปดาห์หนึ่งได้แล้วล่ะ แต่เจ้าสาวสวยดีนะ”
เมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยชีหรั่นเริ่มเปลี่ยนไป เหยนชิงเหยียนรีบกล่าวลาแล้วจากไป เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจแล้วโทรหาหลินเจี๋ย
“ชีหรั่น?” หลินเจี๋ยรับสายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เซี่ยชีหรั่นพูดต่อ “ยินดีด้วยนะ”
เสียงในสายเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นไม่นานคำตอบของหลินเจี๋ยก็มาพร้อมกับรอยยิ้ม “ขอบคุณนะ ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ไม่ได้รอคุณกลับมาก่อน”
หลังพูดจบหลินเจี๋ยก็เงียบไปอีกครั้ง เซี่ยชีหรั่นอยากพูดต่อแต่หลินเจี๋ยขัดจังหวะเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงธรรมชาติที่สุด “เซี่ยชีหรั่น ผมจะพยายามปล่อยคุณไปให้ได้ ดังนั้นคุณไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ” หลังวางสายลงเซี่ยชีหรั่นได้ยินเสียงที่วุ่นวาย “ประธานเซี่ยทำอะไรอยู่คะ!” เสียงของ Kitty ดังขึ้น
“เปล่า!” เซี่ยชีหรั่นยิ้มแล้วอวยพรหลินเจี๋ยในใจ
แต่เหยนชิงเหยียนที่เพิ่งกล่าวลาเซี่ยชีหรั่นกลับรู้สึกไม่สบายใจ เขาเหยียบเบรกกะทันหันแล้วโทรหาซือซือ “คุณบอกว่าเซี่ยชีหรั่นเจอปัญหาในอิตาลีแล้วจะไม่กลับมาอีกไม่ใช่เหรอ! แล้วคนเมื่อกี้ที่โผล่ต่อหน้าผมคือใคร! ถ้าเซี่ยชีหรั่นกลับมาแล้วเย่เนี่ยนโม่บอกความลับของผมจะทำยังไง!”
ซือซือเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู เธอรอเสียงตะคอกในสายนั้นจบลงก่อนแล้วค่อยพูดอย่างเย็นชา “ฉันจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ถ้ากล้าอารมณ์เสียกับฉันอีกคุณก็หาหลุมฝังตัวเองได้เลย วันหลังอย่าขึ้นเสียงกับฉันอีก”
เหยนชิงเหยียนหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็วและจ้องมองโทรศัพท์อย่างดุเดือดราวกับว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นคือผู้หญิงในสาย การปรากฏตัวของเซี่ยชีหรั่นทำให้เขาหัวเสียมาก
ซือซือในสายยังคงพูดอย่างใจเย็น “ต่อให้เซี่ยชีหรั่นจะมีชีวิตรอดกลับมาจากอิตาลี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตอนาคตของเธอจะมีความสุขหรอกนะ”
หลังวางสายลง ซือซือจับราวบันไดแน่นขึ้น เมื่อมองไปที่คฤหาสน์สุดหรูของตระกูลหลินเธอก็ยิ้มอีกครั้ง ตอนนี้เธอคือสะใภ้ตระหลินแล้วไม่ใช่หรือ?
เซี่ยชีหรั่นพาคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปในร้านอาหาร Kittyชี้ไปที่ภาพบนผนังแล้วพูดว่า “ท่านประธานเซี่ยคะ นี่มันแบบที่คุณออกแบบไม่ใช่เหรอคะ?”
เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่จุดศูนย์กลางของภาพวาดแล้วเห็นแหวนที่ทำจากดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบสดใสแฝงด้วยเสน่ห์ภายในตัว นี่คือแหวนที่เซี่ยชีหรั่นมอบให้กับอริสเบต แต่ตอนนี้แหวนที่แห้งเหี่ยวนั้นถูกเก็บไว้ในชั้นวางหนังสือของเซี่ยชีหรั่นแล้ว
บางทีชาตินี้อาจจะไม่มีโอกาสได้เปิดมันออกอีก เช่นเดียวกับคนในอิตาลีที่ชอบใส่ต่างหูและมีรอยยิ้มที่สดใสคนนั้น อาจจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก
เสียงของ Kitty ไม่ได้ดังมาก แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจของผู้คน ผู้คนที่รับประทานอาหารในร้านอาหารหันมาให้ความสนใจในตัวของเซี่ยชีหรั่น บางคนที่จำหน้าเซี่ยชีหรั่นได้ เขาถือสมุดบันทึกแล้วเดินเข้าไปหาเซี่ยชีหรั่น
“คุณคือนักออกแบบเซี่ยชีหรั่นใช่ไหมครับ คู่หมั้นผมชอบผลงานเครื่องประดับของคุณมากเลยนะครับ แต่น่าเสียดายราคาเครื่องประดับของคุณสูงเกินไป ส่วนมากคงจะผลิตให้กับคนชนชั้นสูงเท่านั้นสินะ ผมกับคู่หมั้นกำลังจะแต่งงานกันครับ คุณช่วยเซ็นชื่อให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ถึงแม้ผมจะไม่มีปัญญาซื้อสินค้าของคุณ แต่ผมเชื่อว่าแฟนผมต้องดีใจมากที่ได้ลายเซ็นของคุณครับ”
เซี่ยชีหรั่นไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคนมาขอลายเซ็นจากเธอแบบนี้ เธอรู้สึกเขินเล็กน้อย จากนั้นก็รับสมุดบันทึกของชายคนนั้นมาเซ็นชื่อและพูดกับเขาว่า “พรุ่งนี้คุณพาคู่หมั้นของคุณไปเลือกแหวนในบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นของเรานะ ถือซะว่าเป็นของขวัญงานแต่งจากเราก็แล้วกัน”
ชายคนนั้นจากไปอย่างมีความสุข จากนั้นมีคนยิ้มพูดอยู่ข้าง ๆ เธอ “ชีหรั่น ทำแบบนี้เดี๋ยวจะมีคนมาขอฟรีอีกเยอะเลยนะ ของยังคิดจะขายอยู่ไหม?”
เซี่ยชีหรั่นหันไปมองอย่างประหลาดใจ “หลินเจี๋ย”
หลินเจี๋ยยิ้มพูด “ผมเป็นเจ้าของร้านที่นี่” หลินเจี๋ยพูดคุยกับเซี่ยชีหรั่นตามปกติ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หลินเจี๋ยรับสายแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “อื้ม ผมกำลังจะกลับแล้วล่ะ”
เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างรู้ใจ “คุณหลิน” หลินเจี๋ยยิ้มพูด “อื้ม งั้นผมขอตัวก่อนนะ” ทั้งสองจากกันอย่างกะทันหันทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่สบายใจ แต่เธอรู้ว่าจากกันแบบนี้ดีที่สุด หลังจากกล่าวลากันทั้งสองก็ต่างคนต่างไป
หลังรับประทานอาหารเสร็จเซี่ยชีหรั่นนั่งแท็กซี่กลับ ทันใดนั้นมีรถโรลส์รอยซ์แร่นเข้ามาด้วยความเร็วสูง คนขับถึงกับตกใจแล้วจนบ่นออกมา เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมอง นั่นมันรถของเย่เชินหลินไม่ใช่หรือ?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset