สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1221 สาวใช้ของคุณชายเย่ 1125

#####บทที่ 1221 สาวใช้ของคุณเย่1125
บทที่ 1221 สาวใช้ของคุณเย่1125
เย่เชินหลินยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อ คราบเลือดที่หน้าอกของเขายังคงเด่นชัด เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินนึกอยากจะพูด ก่อนจะกวาดมองไปที่ข้อเท้าเปลือยเปล่าของเซี่ยชีหรั่น ใบหน้าของเขาก็เข้มขึ้นมา “ทำไมถึงไม่ใส่รองเท้า?”
เซี่ยชีหรั่นลดศีรษะลง ในตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เย่เชินหลินก็ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เขาอดกลั้นต่อความคิดที่อยากจะอุ้มเธอขึ้น เย่เชินหลินขมวดคิ้วและมองไปที่คราบเลือดบนร่างกายของเธอ และพูดอย่างเย็นชาว่า “ไปรอบนเตียง”
เย่เชินหลินเดินไปที่ห้องน้ำ เซี่ยชีหรั่นใส่รองเท้าและมองไปที่เงาตรงประตูกระจกนั้น ก่อนจะเดินเบาๆ ไปที่ประตูห้องน้ำ และพูดเสียงเบาว่า “มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด ถ้าไม่มีฉัน วันนี้ถงจืงจืงคงไม่เจอเรื่องแบบนี้”
ไม่มีเสียงตอบรับจากในห้องน้ำ แต่เสียงของน้ำเงียบลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรู้ว่าเย่เชินหลินกำลังฟังคำพูดของเธอ เซี่ยชีหรั่นจึงนั่งยองๆ ที่ประตูห้องน้ำและพูดว่า
“พี่สวีก็กำลังจะแต่งงานแล้ว ฉันดีใจด้วยกับเขาจริงๆ อยู่กับฉันไม่ได้มีตอนจบที่สวยงาม ถงจืงจืงเป็นแบบนั้น พี่สวีก็ด้วย และคุณก็เช่นกัน”
ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง เซี่ยชีหรั่นไม่ทันระวังก็ล้มไปที่ขาของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินมองลงไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างเรียบนิ่ง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
“เซี่ยชีหรั่น รู้ไหมว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร?” เย่เชินหลินมองไปที่เซี่ยชีหรั่น
เย่เชินหลินมองลงไปที่เซี่ยชีหรั่น หยดน้ำบนศีรษะของเขาตกลงบนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นนั่งตัวตรง ลดศีรษะลงและพูดช้าๆ ว่า “ฉันบอกว่าเวลาพวกคุณอยู่กับฉันจะเจอแต่เรื่องโชคร้าย”
ยังไม่ทันจะพูดจบก็ถูกเย่เชินหลินรั้งเอวขึ้นมากอด เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นด้วยความโกรธและเดินพาเธอเข้าไปในห้อง ก่อนจะโยนเซี่ยชีหรั่นลงบนเตียงใหญ่
ก่อนที่เซี่ยชีหรั่นจะลุกขึ้นก็ถูกเย่เชินหลินกดไว้ใต้ร่างของเขา พร้อมไอน้ำชื้นนั้น เย่เชินหลินพูดอย่างดุเดือดว่า “พูดอีกครั้งสิ”
เซี่ยชีหรั่นถอยตัวเล็กน้อย เม้มริมฝีปาก และมองไปที่เย่เชินหลินโดยไม่พูดอะไร เย่เชินหลินถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลดศีรษะกดจูบที่มุมปากของเซี่ยชีหรั่น “ทำไมถึงพูดอย่างนั้น?”
ความอ่อนโยนของเย่เชินหลินทำให้อาการซึมเศร้าของเซี่ยชีหรั่นเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอก้มศีรษะลงและพูดว่า “ไม่ใช่ความผิดของถงจืงจืง เธอทำทั้งหมดก็เพื่อช่วยฉัน”
เย่เชินหลินหอมแก้มของเซี่ยชีหรั่นอย่างให้กำลังใจ “พูดต่อสิ”
เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นไว้ในอ้อมแขนของเขา เซี่ยชีหรั่นรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่พ่นบนใบหน้าของตัวเอง และพูดอย่างเขินอายว่า “ฉันพูดไม่ออกแล้ว”
เย่เชินหลินยิ้มขึ้น ก่อนจะดึงมือของเซี่ยชีหรั่นมาสัมผัสบนร่างกายที่ร้อนระอุนี้ ยกยิ้มและพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ถึงตาผมล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ข้างๆ ก็ปล่อยเสียงหายใจแผ่วเบาเพราะความเหนื่อยล้า ขณะเดียวกันก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มด้วย เย่เชินหลินสัมผัสผมนุ่มของเซี่ยชีหรั่น แล้วกระซิบว่า “การได้พบคุณเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดสำหรับผม”
เซี่ยชีหรั่นที่นอนหลับไปแล้วไม่ได้ยิน แต่ด้วยสัญชาตญาณก็หดศีรษะและขยับตัวเข้าไปในอ้อมแขนอันอบอุ่นนั้น
วันรุ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นรีบไปโรงพยาบาล ในห้อง VIP ที่จมูกของถงจืงจืงยังคงใส่สายออกซิเจน เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่อย่างนั้นทั้งวัน จนกระทั่งเย่เชินหลินมาถึงโรงพยาบาล
“คุณกินข้าวหรือยัง?” เย่เชินหลินถาม
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว ใบหน้าของเย่เชินหลินเย็นขึ้นเล็กน้อย “ยังไม่ได้กินทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็นเลย”
เซี่ยชีหรั่นตัวสั่นเล็กน้อย และพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เย่เชินหลินจับมือของเซี่ยชีหรั่นและต้องการพาไปข้างนอก ก็มีเสียงสะอื้นดังมาจากเตียง ถงจืงจืงลืมตาขึ้น และมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน
“จืงจืง” เซี่ยชีหรั่นสะบัดมือของเย่เชินหลิน และวิ่งไปที่เตียงคนไข้ เย่เชินหลินก็ตามมาด้วย
ถงจืงจืงมองไปที่เซี่ยชีหรั่น จากนั้นก็ย้ายสายตาจากเซี่ยชีหรั่นไปที่เย่เชินหลิน “เชินหลิน เชินหลิน! ฉันเจ็บ”
เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินต่างตกใจกับเสียงร้องย่างเจ็บปวดของถงจืงจืง พวกเขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ซับซ้อน ก่อนที่เย่เชินหลินจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อเรียกหานายแพทย์
“เชินหลิน คุณจะไปไหนอีกคะ?” ถงจืงจืงดีดดิ้นอย่างแรง
เซี่ยชีหรั่นคว้าเย่เชินหลิน “คุณอยู่กับเธอ ฉันไปเองค่ะ”
เซี่ยชีหรั่นมาพร้อมกับนายแพทย์ เย่เชินหลินยืนอยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าหม่นหมอง ถงจืงจืงจับมือของเย่เชินหลิน และมองไปที่เย่เชินหลินอย่างหลงใหล
“รักษาเธอ” เย่เชินหลินกลั้นคำออกจากปากของเขา
นายแพทย์ใหญ่รีบไปตรวจเช็ค ใช้เวลาอยู่นานก่อนที่เขาจะพูดกับเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลิน “เพราะเธอได้รับบาดเจ็บที่หลังศีรษะ ความทรงจำอาจจะเลอะเลือน ในจิตสำนึกของเธออาจสร้างบุคคลเสมือนจริงที่มีความสำคัญต่อเธอมาก และคิดว่ามันเป็นจริง”
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ถงจืงจืงบนเตียงด้วยความตกใจ ถงจืงจืงชอบเย่เชินหลินอย่างนั้นเหรอ?
เย่เชินหลินขมวดคิ้วหลังจากได้ยิน เขาจึงพูดกับนายแพทย์ว่า “รักษาเธออย่างเต็มที่ ค่าใช้จ่ายลงเป็นบัญชีของผมได้เลยครับ” เขาจับมือของเซี่ยชีหรั่นแล้วเดินออกไป “กินข้าว”
ถงจืงจืงเห็นว่าเย่เชินหลินกำลังจะจากไป ก็ส่งเสียงครวญครางออกมา เซี่ยชีหรั่นเดินออกไปนอกห้องผู้ป่วย และสะบัดมือเย่เชินหลินออก “เธอได้รับบาดเจ็บ และจำได้แค่คุณเท่านั้น คุณก็จะไม่สนใจเธอแบบนี้เหรอ”
สีหน้าของเย่เชินหลินไม่สู้ดีนัก ก่อนจะถามกลับว่า “หรือว่าคุณจะให้ผมไปอยู่กับเธอ?”
เซี่ยชีหรั่นไม่มีคำพูด เย่เชินหลินไม่อยากให้เรื่องนี้มาจุดประกายความโกรธของเขา ก่อนที่เขาจะหันตัวกลับเพื่อหาข้อยุติ เซี่ยชีหรั่นก็กอดเบาๆ ที่หลังของเย่เชินหลิน “เธอได้รับบาดเจ็บเพราะฉัน ชีวิตของเธอต่อจากนี้อาจจะไม่เหมือนเดิม มีวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ความรู้สึกผิดของฉันบรรเทาลง”
เย่เชินหลินหันกลับมา และโอบกอดผู้หญิงที่ก้มศีรษะเข้ามาที่หน้าอก “แน่ใจแล้วใช่ไหม?”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าในอ้อมแขนของเย่เชินหลิน เนื่องจากเธอเป็นหนี้ชีวิตถงจืงจืงเด็กสาวที่ไร้เดียงสาเช่นนี้ เธอก็อยากสานฝันให้เธอได้นานขึ้นไปอีกหน่อย
เมื่อถงจืงจืงเห็นเย่เชินหลิน สายตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้น จับแขนของเย่เชินหลินไม่ยอมปล่อย เย่เชินหลินนั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างและปล่อยให้ ถงจืงจืงจับแขนเสื้อของเขา ก่อนจะหยิบหนังสือและเปิดออก
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ถงจืงจืงด้วยรอยยิ้มอย่างพอใจ และปิดประตูอย่างเบามือ เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของสวีเห้าเซิงจนกระทั่งเธอจะออกจากโรงพยาบาล
พอลงจากรถก็รีบวิ่งไปโบสถ์ด้วยผมยุ่งๆ และใบหน้าที่ไม่ได้แต่ง ภายในโบสถ์บาทหลวงกำลังทำพิธีสาบาน
เซี่ยชีหรั่นหยุดฝีเท้า ก่อนจะถอยกลับไปที่กำแพง และฟังคำสาบานของพวกเขาอย่างเงียบๆ สวีเห้าเซิงดูเหมือนจะเหม่อลอยมองไปที่ประตูบ่อยๆ
เมื่อได้ยินคำว่า “รับค่ะ” ดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นถึงจะเดินเข้าไป คนที่แต่งงานกับสวีเห้าเซิงนั้นเป็นหญิงสาวธรรมดามาก มีเพียงดวงตาที่ชาญฉลาดคู่นั้นบนใบหน้ากลมที่พอมองได้
หญิงสาวคล้องแขนของสวีเห้าเซิงแล้วเดินไปหาเซี่ยชีหรั่นด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “สวยขนาดนี้จะต้องเป็นคุณเซี่ย เซี่ยชีหรั่นแน่นอนเลย”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างทำตัวไม่ถูก “วันนี้คุณก็สวยมากเช่นกัน ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ”
หญิงสาวพยักหน้าอย่างเขินๆ และพูดว่า “แม่ของฉันชอบเครื่องประดับที่คุณออกแบบมาก มีอยู่มากมายเลยค่ะที่บ้าน”
ชายอ้วนท้วมคนหนึ่งเดินมาหาพวกเขาพร้อมกับผู้หญิงอีกคน เซี่ยชีหรั่นจำได้ว่านี่คือผู้ว่าราชการจังหวัด
“ชีหรั่น” ผู้หญิงคนนั้นไปทักทายคนอื่นกับพ่อแม่ของเธอสวีเห้าเซิงถึงมีโอกาสได้คุยกับเซี่ยชีหรั่น
“คุณแต่งงานกับเธอ เธอ……” เซี่ยชีหรั่นหยุดพูด
สวีเห้าเซิงพยักหน้าอย่างเฉยเมย “ในเมื่อไม่ได้ครอบครองคุณ จะแต่งงานกับใครจะสำคัญอะไร ปู่ของเสี่ยวลี่เป็นที่ปรึกษาของผมเมื่อผมยังเรียนอยู่ และช่วยผมไว้มาก……”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างรีบร้อน เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยกับสวีเห้าเซิงในแบบนี้ ในตอนกลางคืน เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่บนโซฟาและดูนาฬิกาบนผนังที่เดินอยู่ จนกระทั่งเธอหลับไป เย่เชินหลินก็ไม่กลับมา
วันรุ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นพาใต้ตาคล้ำทั้งสองข้างไปที่โรงพยาบาลในตอนเช้า อีกด้านหนึ่ง ถงจืงจืงยังคงดึงแขนเสื้อของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินไม่ได้สลัดออก ปล่อยให้ถงจืงจืงดึงตัวเองอย่างนั้น
หลังจากส่งถงจืงจืงขึ้นรถ เย่เชินหลินดูเหมือนจะรู้ตัวและมองไปตรงหัวมุม เซี่ยชีหรั่นถอยกลับเข้ามุม หลังจากนั้นไม่นานรถก็หายไปจากสายตา
ในบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น Kittyมองไปที่เซี่ยชีหรั่นและพูดขึ้น เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นจากหนังสือภาพวาดและมองKitty “ตกลงเกิดอะไรขึ้น? สีหน้าท่าทางของเธอดูเหมือนมีอะไรอยู่เต็มไปหมด ถ้าไม่พูด ฉันต้องขาดอากาศหายใจตายแน่ๆ”
Kittyมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างระมัดระวังและพูดว่า “วันนี้ดิฉันเห็นประธานเย่อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งในโรงรถ และเขายังยอมให้ผู้หญิงคนนั้นจับแขนเสื้อของเขาอีกด้วย”
เซี่ยชีหรั่นมองไปทางหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว จากตรงนั้นสามารถเห็นชั้นบนอย่างชัดเจน มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ที่นอกราวบันได โดยโยกเยกเท้าไปมา จากนั้นเย่เชินหลินก็ออกมาและดูเหมือนจะว่ากล่าวอะไรบางอย่างอย่างรุนแรง ถงจืงจืงได้รับคำตักเตือนและก้มศีรษะลง หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็หายไปหลังราวบันได
“ประธานเซี่ย ฉันพูดมากเองค่ะ” Kittyพูดอย่างระมัดระวัง และมองไปที่ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นยิ้มให้ Kitty “นั่นคือนักเรียนของฉัน เธอได้รับบาดเจ็บ”
Kitty พึมพำ “บาดเจ็บก็ไม่ถึงกับต้องไปส่งที่ห้องทำงานหนิ”
ตอนเที่ยง เซี่ยชีหรั่นและ Kitty ไปที่ร้านอาหารใกล้ๆ เพื่อทานอาหารเย็น เซี่ยชีหรั่นหันหลังให้ประตู ก่อนจะมีเสียงของถงจืงจืงดังขึ้นมาจากด้านหลัง “เชินหลิน ฉันอยากกินอาหารเผ็ดๆ”
เย่เชินหลินหยิบเมนูออกไปอย่างไร้ความรู้สึก และพูดกับพนักงานเสิร์ฟว่า “ขอโจ๊กหนึ่งชามและพาสต้าหนึ่งจาน ขอบคุณครับ”
ถงจืงจืงไม่พอใจ ก่อนจะรีบวิ่งไปข้างเย่เชินหลิน “ฉันบอกว่าฉันอยากกินอาหารเผ็ดๆ”
เสียงทุ้มของเย่เชินหลินดังขึ้น “ถงจืงจืง ไปนั่งที่ของตัวเอง” หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกว่าน้ำเสียงของตัวเองดังไปหน่อย จากนั้นก็ค่อยๆ พูดว่า “กินรสเผ็ดไม่ดีต่อบาดแผล”
ถงจืงจืงเห็นว่าเย่เชินหลินห่วงใยตัวเอง ก็ยิ้มหวานขึ้น “ก็ได้ค่ะ! ในเมื่อเชินหลินพูดแบบนี้แล้ว งั้นฉันก็จะไม่กินอาหารรสเผ็ด”
เซี่ยชีหรั่นกินบะหมี่ของตัวเองอย่างไร้ความรู้สึก Kittyอดไม่ได้ และยืนขึ้นอย่างเสียงดัง “ประธานเย่ บังเอิญจังเลยนะคะที่คุณก็มาที่นี่ด้วย”
เย่เชินหลินพยักหน้าอย่างแผ่วเบา สายตาของเขามองไปด้านข้างที่มีเซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ เซี่ยชีหรั่นหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันไปทักทาย “สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะพี่!” ถงจืงจืงดูเหมือนจะจำใครไม่ได้นอกจากเย่เชินหลิน
เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น เย่เชินหลินพยักหน้าและรับโทรศัพท์ ถงจืงจืงวิ่งไปหาเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดว่า “พี่คะ ฉันอยากกินไอศกรีม เชินหลินไม่ให้ฉันกิน เขาบอกว่ามันไม่ดีต่อแผล”
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ถงจืงจืงด้วยความรักใคร่ ถงจืงจืงยังคงมีผ้าก๊อซสีขาวพันรอบศีรษะของเธอไว้ ก่อนจะพูดเบาๆ ว่า “พี่ให้เงินเธอไปซื้อโอเคไหม”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset