สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1232สาวใช้ของคุณชายเย่1136

บทที่ 1232สาวใช้ของคุณชายเย่1136
สายตาที่จริงจังทำให้เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงระเรื่อ เธอห่มผ้าบาง ๆ ผืนนั้นราวกับต้องการจะหลบหลีก พลางหันศีรษะไปทางอื่นและไม่แย่แสเย่เชินหลินอีกเลย
เย่เชินหลินยิ้ม รู้สึกว่าข้างกายมีคนสะกิดเขา เย่เชินหลินเงยหน้าขึ้นมองพบว่า มีแอร์โฮสเตสคนหนึ่งยิ้มพลางพูดกับเย่เชินหลินว่า:“คุณผู้ชายต้องการรับเครื่องดื่มไหมคะ?”
“ไม่ต้องการครับ”เย่เชินหลินนำสายตากลับมามองหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือ
แอร์โฮสเตสสาวกัดริมฝีปากที่วาดอย่างประณีต พลางนำกระดาษโน้ตยัดใส่ในมือของเย่เชินหลิน ค่อย ๆ เผยเนินอกขาวอวบออกมาพลางพูดขึ้นว่า “ขอทำความรู้จักหน่อยได้ไหมคะ”
เย่เชินหลินยกคิ้ว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ออกไป”
แอร์โฮสเตสหน้าแดง แต่กลับยังไม่อยากละความพยายาม จึงยังคงพูดขึ้นอย่างตะกุกตะกักว่า:“ฉันชอบคุณจริง ๆ นะคะ เรามาทำความรู้จักกันหน่อยได้ไหมคะ?”
เย่เชินหลินวางหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือลง จับมือเซี่ยชีหรั่นที่กำลังนอนหลับอยู่ พลางโน้มตัวลงไปจูบเบา ๆ ดวงตาของเซี่ยชีหรั่นจู่ ๆ ก็เบิกกว้าง เย่เชินหลินลูบสัมผัสใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน ยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“นอนต่อเถอะ”
เขาหันไปมองแอร์โฮสเตสด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แอร์โฮสเตสมองมาที่เซี่ยชีหรั่น รู้ว่าแม้ตนเองจะแต่งหน้าแต่ก็สวยสู้ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ เมื่อได้ยินเย่เชินหลินปฏิบัติต่อเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน สีหน้าของเธอก็แดงขึ้น และจากไปอย่างเงียบ ๆ
กระทั่งเซี่ยชีหรั่นลงจากเครื่องบินก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมแอร์โฮสเตสจึงมองตนอย่างกระอักกระอ่วน ด้านนอกสนามบิน ชายคนหนึ่งยืนอยู่เบื้องหน้ารถโรลล์ส รอยซ์รอเย่เชินหลินอยู่
“คุณเย่ คุณเซี่ย”เมื่อหลินต้าฮุยเห็นเย่เชินหลินก็รู้สึกซาบซึ้ง ไม่นานมานี้คนในครอบครัวของเขาป่วย เย่เชินหลินก็ให้เขาลาหยุดเป็นกรณีพิเศษ อีกทั้งยังรับมารักษาที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย ทำให้หลินต้าฮุยรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
รถยิ่งขับเข้าใกล้ถนนคนก็ยิ่งน้อยลง เซี่ยชีหรั่นถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่า:“ทำไมคนบริเวณนี้ถึงได้น้อยจังเลยคะ”
หลินต้าฮุยยิ้มพลางพูดขึ้น:“คฤหาสน์บริเวณนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ ๆ แพงที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ คนที่สามารถซื้อได้มีจำนวนไม่มาก”
รถจอดอยู่หน้าบริเวณคฤหาสน์ 2 ชั้น เซี่ยชีหรั่นวิ่งมาบริเวณด้านหน้าคฤหาสน์ซึ่งมีไอบ่อน้ำพุร้อนลอยขึ้นมา เธอยื่นมือออกไปอังกลุ่มควันเหล่านั้น หลินต้าฮุยเขยิบเข้าไปแนะนำ:“ที่คือบ่อน้ำพุร้อนของแท้ที่ยังหลงเหลืออยู่ในสวิตเซอร์แลนด์เพียงไม่กี่ที่
เมื่อเย่เชินหลินจินตนาการถึงรูปร่างดีของเซี่ยชีหรั่นในชุดว่ายน้ำ หัวใจก็เหมือนกับแมวตัวน้อยที่มีความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
พลบค่ำ เซี่ยชีหรั่นสวมชุดใหม่เอี่ยมจูงมือเย่เชินหลินเดินเข้าไปในร้านอาหารในสวนสัตว์ไห่หยาง
พนักงานเชิญพวกเขาเข้าไปในห้องวีไอพี เซี่ยชีหรั่นมองออกไปภายนอกผ่านกระจกโปร่งใสเห็นปลาโลมาก็ร้องด้วยเสียงตกใจ จึงหันศีรษะให้กับโต๊ะสี่เหลี่ยมและเขยิบเข้าใกล้เย่เชินหลินด้วยความตกใจ
“เป็น···เป็นอะไรไป?”
เย่เชินหลินใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบซอสที่ติดอยู่บริเวณริมฝีปากของเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็กลับเข้ามานั่งที่ พลางจ้องมองเซี่ยชีหรั่นที่กำลังตกใจด้วยสีหน้าปกติพลางพูดขึ้นว่า:“ทานข้าวกันเถอะ อย่าวอกแวก”
“ชีหรั่น!”ซือซือจูงมือของหลินเจี๋ย ทั้ง 2 เดินมุ่งตรงไปที่บริเวณโต๊ะของเซี่ยชีหรั่น
ซือซือแกล้งทำเป็นไม่สนใจกวาดสายตามองเย่เชินหลินยิ้มแล้วพูดว่า:“บังเอิญจริง ๆ ”
แม้ว่าเย่เชินหลินอยู่จะอยู่กับเซี่ยชีหรั่นตามลำพัง แต่ว่าเมื่อเห็นหลินเจี๋ยก็ตกใจ พลางพยักหน้าทักทายหลินเจี๋ย
“เซี่ยชีหรั่นพวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่เหรอครับ?”หลังจากที่หลินเจี๋ยและเย่เชินหลินทักทายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็มองมาที่เซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นดูมีความสุขเป็นอย่างมาก:“พวกเรามาเล่นสกี แล้วพวกคุณล่ะ?”
ขณะที่หลินเจี๋ยกำลังจะเอ่ยปากพูด ซือซือก็ชิงพูดขึ้นกว่าว่า:“บังเอิญจริง ๆค่ะ พวกเราก็มาเล่นสกีเหมือนกัน พวกเราเล่นด้วยกันไหมคะ”
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลินด้วยสายตาอ้อนวอน เย่เชินหลินลูบเส้นผมของเซี่ยชีหรันและพูดขึ้นอย่างผ่อนคลายว่า:“แล้วแต่คุณเลยครับ แต่ว่าวันนี้ต้องทานให้เต็มที่เลยนะครับ”
ปฏิสัมพันธ์ของทั้ง 2 ทำให้สีหน้าของหลินเจี๋ยกับซือซือหมองลง ทั้ง 4 คนนัดกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าตอนกลางวันจะไปรวมตัวกันที่ภูเขาหิมะ เซี่ยชีหรั่นรบเร้าให้เย่เชินหลินพาไปซื้ออุปกรณ์อย่างดีอกดีใจ กระทั่งเธอถูกเย่เชินหลินห่อตัวจนกลายเป็นก้อนหิมะ เซี่ยชีหรั่นถึงได้รับอนุญาติให้ออกไปข้านอกได้
“ผมเห็นข่าวที่ถงจืงจืง กับโยวเล่อฆ่าตัวตายแล้ว หวังว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับชีหรั่น ”เซี่ยชีหรั่นถูกซือซือจูงมาที่ด้านหน้ากองหิมะขนาดเล็ก เมื่อหลินเจี๋ยเห็นเซี่ยชีหรั่นก็ร้องเรียกเสียงดังด้วยความดีอกดีใจ พลางพูดขึ้นอย่างราบเรียบ
ในขณะเดียวกันเย่เชินหลินก็ส่งสายตาไปที่เซี่ยชีหรั่น ใบหน้าเย็นชานานเป็นแรมปีก็ผ่อนคลายลง:“ขอแค่มีผมอยู่ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม”
ขณะที่ทั้ง 2 กำลังพูดคุยกัน เย่เชินหลินก็ปรามหลินเจี๋ย และมองไปรอบ ๆ ทั้ง 4 ด้านอย่างระมัดระวัง จู่ ๆ ก็เหลือบตามองบริเวณที่เซี่ยชีหรั่นจากไปพลางร้องขึ้นเสียงดัง:“รีบกลับมา มีพายุหิมะ!”
เมื่อพูดจบ ลมก็พัดจากทางใต้มาทางเหนืออย่างรวดเร็วและรุนแรง หิมะสีขาวเต็มไปทั่วท้องฟ้าก็บดบังทุกสายตา เมื่อเย่เชินหลินได้ยินเสียงขอร้องของเซี่ยชีหรั่นสั้น ๆ จากนั้นเธอก็หายตัวไปในพริบตา
เขาอยากจะออกตามหาเซี่ยชีหรั่นแทบบ้าแต่กลับถูกหลินเจี๋ยโยนก้อนหินก้อนหนึ่งมาขวางไว้ “ตอนนี้ออกไปตามหายังไงก็หาไม่เจอ ไปหาที่ตายเปล่า ๆ คุณเคยคิดไหมว่าถ้าคุณตายไปแล้วเซี่ยชีหรั่นจะทำยังไง”
เย่เชินหลินปัดมือของหลินเจี๋ยออก เขามองไปที่ศูนย์กลางของพายุหิมะอย่างไม่ลังเล ขยับเขยื้อนอย่างยากลำบาก พลางแผดเสียงก้องอย่างบ้าคลั่งแฝงไว้ด้วยความแน่วแน่:“นายเคยคิดไม่ว่าถ้าผมสูญเสียเธอไปผมจะทำยังไง!”
หลินเจี๋ยกัดฟัน แล้วปะทะออกไปพร้อมกับเย่เชินหลิน หลังจากที่พายุหิมะสงบลง ทุกแห่งหนกลายเป็นสีขาวโพลน มีเพียงชาย 2 คนที่ยืนอยู่บนกองหิมะกองโต
“ชีหรั่น ชีหรั่น”หลินเจี๋ยนั่งคุกเข่าอยู่บนกองหิมะ ใจของเขาเจ็บปวดอย่างไม่สามารถควบคุมได้
เย่เชินหลินหน้าเขียว เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง และหยิบบัตรประจำตัวออกมายื่นให้กับหลินเจี๋ย :“ไปเข้าเฝ้าบรรดาศักดิ์กงเต๋แห่งราชวงศ์ราชวงศ์สวิสเซอร์แลนด์ ให้พระองค์ท่านส่งกองกำลังหนุนมาช่วย”
“แล้วคุณจะทำยังไงล่ะครับ!”หลินเจี๋ยขยับข้อเท้าที่แข็งทื่อ เย่เชินหลินมองไปที่กองหิมะที่กว้างใหญ่ไพศาล และก้าวเท้าออกไปด้วยความเด็ดเดี่ยว:“ผมจะไปตามหาเธอ !”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมาก็พบว่าลำตัวอีกครึ่งหนึ่งของตนเองถูกกองหิมะทับไว้ หางตาเห็นคน ๆ หนึ่งกำลังมาที่ภูเขาหิมะด้วยความยากลำบาก
“ซือซือ?”เซี่ยชีหรั่นส่งเสียงเรียก
ซือซือหยุดฝีเท้าลง มองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาซับซ้อน เธอคิดมาตลอดว่าเซี่ยชีหรั่นตายไปแล้ว เธอโยนโทรศัพท์ที่ไร้สัญญาณทิ้งบนกองหิมะ ซือซือดึงขาขึ้นมา และช่วยนำกองหิมะที่ทับร่างของเซี่ยชีหรั่นออก
“ขาของคุณเป็นอะไรเหรอคะ?”เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล สีหน้าของซือซือไม่สู้ดีนัก :“ขาหักขณะที่กำลังไถลลงมา”
เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกไปประคองซือซือ:“พวกเรารีบไปตามหาพวกเขากันเถอะ พวกเขาจะต้องเป็นห่วงพวกเรามากแน่ ๆ ”
ซือซือยิ้มอย่างเย็นชา :“พวกเขาก็คงจะเป็นห่วงคุณแค่คนเดียวเท่านั้นแหระ”
เซี่ยชีหรั่นไม่พูดอะไรออกไป พยุงซือซือเดินสักพัก ซือซือเดินอย่างสะเปะสะปะ เห็นว่าด้านกองหิมะด้านหน้ามีช่องว่างอยู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นหน้าผาเล็ก ๆ
“เหมือนฉันเห็นเงาของคนจากตรงนั้น พวกเราไปดูตรงนั้นกันเถอะ”ซือซือพูดขึ้น ใจเต้นอย่างแรง ถ้าหากเซี่ยชีหรั่นตายอยู่ที่นี่ ก็เป็นเพราะหิมะถล่ม เย่เชินหลินก็จะไม่รู้
เซี่ยชีหรั่นอยากจะพยุงซือซือเดินไปด้วยกันอย่างไม่มีข้อสงสัย ซือซือผละมือของเซี่ยชีหรั่นออกพลางพูดขึ้นว่า:“ฉันอยากจะพักผ่อน คุณลองไปดูหน่อยเถอะว่ามีใครอยู่ตรงนั้นไหม”
ซือซือมองดูเซี่ยชีหรั่นเดินไปยังกองหิมะ จากนั้นเซี่ยชีหรั่นก็เดินกลับมา:“เหมือนคุณจะดูผิดนะ”
“เหรอคะ?”ซือซือมองไปที่ด้านหน้ากองหิมะอย่างสงสัย เกาะกิ่งไม้แล้วเดินไปดู 2 ก้าว
“ฮง ฮง!”
เสียงดังกังวานทำให้ทั้ง 2 ตกใจอย่างมาก ซือซือหันหลังคิดจะหนี แต่เป็นเพราะเคลื่อนไหลแรงเกินไป ทำให้เธอไถลลงไปในหน้าผา
“อย่าปล่อยมือ!” ซือซือมองไปที่ด้านหลังของตนที่เป็นหน้าผาที่สูงชัน มองเซี่ยชีหรั่นด้วยความหวาดกลัว
เซี่ยชีหรั่นออกแรงทั้งหมดเพื่อยัดเกาะกิ่งไม้ไว้:“ฉันไม่ปล่อยมือ คุณก็อย่าปล่อยมือเหมือนกันนะ!”
กิ่งไม้ไม่สามารถรับน้ำหนักของทั้ง 2 คนได้ ซือซือมองดูมือของตนเองที่ยิ่งห่างออกจากเซี่ยชีหรั่นเรื่อย ๆ เซี่ยชีหรั่นกัดฟัน กิ่งไม้หักออก ทั้ง 2 หล่นลงไปในหน้าผา
“ชีหรั่น!”เย่เชินหลินพบว่าเสียงของตนเองเหลือเพียงเสียงสะท้อนกลับที่ว่างเปล่า ด้านล่างของเท้าไปปะทะกับของแข็ง เมื่อหยิบขึ้นมาพบว่าเป็นโทรศัพท์ไร้สายเครื่องหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นอยู่ที่ไหนกันแน่นะ?
“ซือซือ คุณเป็นยังไงบ้าง?”เซี่ยชีหรั่นผลักไหล่ของซือซืออย่างรีบร้อนเบา ๆ ชายที่อยู่ข้าง ๆ ลุกขึ้นมาดึงเซี่ยชีหรั่นออก พลางทำสัญลักษณ์มือให้เงียบ ๆ เซี่ยชีหรั่นทำได้เพียงหวังว่าซือซือจะไม่เป็นอะไรมาก
“เจ็บจังเลย!”ซือซือตื่นขึ้นอย่างงุนงง เมื่อเห็นทิวทัศน์ที่อยู่รอบ ๆ ก็ร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจ:“นี่คือที่ไหน?”สิ่งก่อสร้างหรูหราสไตล์โกธิค บนหลังคามีอัญมณีขนาดใหญ่ประดับอยู่
เซี่ยชีหรั่นใช้จังหว่ะที่ชายพวกนั้นไม่ทันได้สังเกต พูดขึ้นต่อหน้าซือซือว่า:“แต่ก่อนสถานที่แห่งนี้ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ต่อมาคนพวกนี้ก็ยึดครองพื้นที่ตรงนี้ ในแผนที่น่าจะยังไม่มีการระบุตำแหน่งที่ตั้ง”
ซือซือมองชายที่ถือกระบองเหล็กห้อมล้อมอยู่ทุกหนทุกแห่ง จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากวงล้อม แต่ก็กลับถูกชายพวกนั้นจับกลับมาโยนกองอยู่ที่พื้น ชายผู้นั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“เงียบ ๆ หน่อย ไม่งั้นเห็นดีกันแน่”
เซี่ยชีหรั่นปกป้องซือซืออยู่ด้านหน้า พยายามใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบพูดขึ้นว่า:“พวกเราเป็นชาวจีน หวังว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกับหัวหน้าของพวกท่าน และยอมให้พวกเรากลับไป”
ชายหนุ่มมองหน้าเซี่ยชีหรั่นอย่างสนใจ เขยิบมาข้างหน้าอยากจะบีบคางของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นหลบหลีก จ้องมองชายผู้นั้นด้วยสายตารังเกลียด ชายหนุ่มยักไหล่:“บนแผนที่ยังไม่มีสถานที่แห่งนี้ปรากฎอยู่ พวกคุณตัดใจซะเถอะ สำหรับหัวหน้าที่มีตำแหน่งสูงสุดของที่นี่นั้น เดี๋ยวอีกไม่นานพวกคุณก็จะได้เจอหัวหน้าสูงสุดของพวกเรา”
ซือซือเห็นชายผู้นั้นมองดูเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาปรารถนา มุมปากเผยยิ้มที่สวยงามออกมา ดูเหมือนว่าเรื่องมันก็ไม่ได้เลวร้ายเสียทั้งหมด
พลบค่ำ เซี่ยชีหรั่นนอนปกป้องซือซืออยู่ด้านนอก หลังจากได้ยินเสียงลมหายใจที่หนักแน่นของเซี่ยชีหรั่น ซือซือก็แอบลุกขึ้น ชายหนุ่มก็ลืมตามองไปที่ซือซือ
“ฉันอยากจะทำข้อแลกเปลี่ยนกับคุณ!”ซือซือมองลงไปยังชายผู้นั้น
ชายผู้นั้นยักคิ้ว ซือซือสูดหายใจเข้าเต็มปอดพลางพูดขึ้นว่า:“ฉันเห็นว่าคุณสนใจในตัวของเพื่อนฉันไม่น้อย เอาแบบนี้ดีไหม คุณปล่อยฉันไป แล้วเธอก็จะกลายเป็นของพวกคุณ ฉันจะไม่บอกใคร”
ชายผู้นั้นหัวเราะ พลางยื่นมือโอบซือซือเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ซือซือร้องครู่หนึ่ง แล้วเก็บซ้อนแววตารังเกียจไว้ พลางมองชายผู้นั้นด้วยสายตายิ้มแย้ม
ชายผู้นั้นเขยิบเข้าใกล้ซือซือ:“แม้ว่าข้อเสนอของคุณจะน่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่ปกติผมไม่ชอบฟังคนพูดจาขายเพื่อน เพราะว่าคนซื้อสามารถขายเพื่อนได้ก็มักจะขายคนอื่นได้เหมือนกัน!”
เมื่อถูกชายผู้นั้นผลักออกอย่างไร้เยื่อใย ซือซือก็กลับมาที่ข้างกายของเซี่ยชีหรั่นความแค้น เธอเข้าไปใกล้เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นกำลังหลับฝันพลางพูดขึ้นว่า:“ซือซือ ไม่ต้องกลัว ฉันจะปกป้องคุณเอง”
  

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset