สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1241สาวใช้ของคุณชายเย่1141

บทที่1241สาวใช้ของคุณชายเย่1141
เย่เชินหลินรับรู้ได้ว่าบางส่วนของร่างกายค่อยๆฟื้นขึ้นมา ความต้องการทำให้น้ำเสียงของเขาแหบลง
“ปล่อยผมนะ ซีหรั่น!”เย่เชินหลินพยายามระงับความต้องการนั้นพลางพูดขึ้นว่า
น้ำตาของเซี่ยชีหรั่นไหลไหลพรากออกมา “คุณจะไปหาดาราสาวคนเมื่อสักครู่ใช่ไหม?”
“อ่า!”หลังจากเสียงอุทานสั้นๆผ่านไป เซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะเป็นอย่างมาก กระทั่งสายตากลับมาสู่ภาวะปกติจึงรู้ว่าตนนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว แขนขาทั้งสี่ถูกเย่เชินหลินยึดไว้แน่น
“แล้วถ้าผมบอกว่าใช่ล่ะ?”เย่เชินหลินจ้องมองเซี่ยชีหรั่น ไม่ยอมพลาดที่จะมองดูทุกความรู้สึกบนใบหน้าของผู้หญิงคนนี้
เซี่ยชีหรั่นครุ่นคิด ใน หัวยังคงเต็มไปด้วยความมึนงง พูดขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือว่า“ถ้าใช่ ฉันก็จะชนเธออย่างแรงอีกสักครั้งหนึ่ง”
“เหอะๆ”เสียงหัวเราะที่หนักแน่นออกมาจากในกลางช่องอกของเย่เชินหลิน บนใบหน้าของเย่เชินหลินเหลือเพียงความอ่อนโยน
“เซี่ยชีหรั่น ผมควรจะทำยังไงกับคุณดี?”เย่เชินหลินพูดขึ้นเบาๆ กามารมณ์ทำให้น้ำเสียงของเขาไพเราะเป็นพิเศษ
เซี่ยชีหรั่นค่อยๆยื่นมือออกมากอดด้านหลังของเย่เชินหลิน รับรู้ได้ถึงพลังที่มาจากกล้ามเนื้อของฝ่ายตรงข้ามอายจนหน้าแดงก่ำ
“ถ้าหากคุณเชื้อเชิญผมเช่นนี้ ผมก็รับปาก”เย่เชินหลินยิ้มพลางก้มหน้าชิมรสชาติของผู้หญิงคนนี้ ที่ชิมเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ
อุณหภูมิเร่าร้อนราวกับคบเพลิง เผาไหม้แรงบันดาลใจของทั้งสอง ภายในห้องอันมืดสลัวมีเพียงโคมไฟสีเหลืองห่านดวงหนึ่ง ที่ส่องสว่างไปยังทั้งสอง และเป็นพยานของความอาจหาญและบ้าคลั่งของค่ำคืนนี้
“ชิงเหยียน คุณเป็นอะไรเหรอ?ช่วงนี้ดูคุณใจลอย”จิ่วจิ่วหยิบกระดานขึ้นมาเขียนตัวอักษร ตอนนี้ออกเสียงได้เพียงเสียงที่มีพยางค์เดียว
เหยนชิงเหยียนยิ้ม ยื่นมือออกไปลูบท้องของจิ่วจิ่ว พลางพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า:“นางฟ้าตัวน้อยกำลังจะมาแล้ว หมิงเย้าเมื่อได้ยินดังนั้นก็ดีใจเป็นอย่างมาก”
ฝู้เฟิ่งหยียอมรับจิ่วจิ่วในฐานะลูกสาวบุญธรรมแล้ว ปกติก็มักจะให้จิ่วจิ่วกับเหยนหมิงเย้าลูกของเหยนชิงเหยียนมาเล่นด้วยกันที่บ้าน
จิ่วจิ่วกดทับมือของเหยนชิงเหยียนที่วางอยู่บนหน้าท้องของตนเอง ยิ้มด้วยความเบิกบานใจ ราวกับนึกอะไรขึ้นได้แล้ววาดมันลงบนกระดาน:“ถ้าทารกเป็นผู้หญิงก็ให้ชื่อหมิงเม่ยมันคล้องกับชื่อหมิงเย้าใช่ไหมล่ะ?”
“หมิงเม่ย?”เหยนชิงเหยียนยกคิ้วขึ้น
“อืม คำว่าหมิง หวังว่าเขาจะเป็นคนที่เข้าใจเหตุผล เป็นคนใจกว้าง ส่วนคำว่าเม่ย หวังว่าชีวิตของเขาจะมีสีสันไม่จำเป็นต้องร่ำรวย แต่จะต้องใช้ชีวิตอย่างเป็นตัวของตัวเอง”
“เป็นชื่อที่ดี”เหยนชิงเหยียนหอมจิ่วจิ่ว
จิ่วจิ่วมีความสุขเป็นอย่างมาก พลางเขียนบนกระดานอย่างรวดเร็วว่า:“ถ้าเป็นแบบนี้เนี่ยนโม่ก็จะมีเพื่อนเล่นแล้ว”
สีหน้าของเหยนชิงเหยียนจู่ๆก็ครึมลง เย่เนี่ยนโม่เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้ ซือซือหายตายไปแล้ว นั้นก็หมายความว่า หากเย่เนียนโม่จำตัวเองได้ ตนก็คงต้องกลับไปอยู่ในสภาวะหัวเดียวกระเทียมลีบ
จิ่วจิ่วเห็นความผิดปกติในตัวของเหยนชิงเหยียน เขียนลงบนกระดาษอย่างเป็นกังวลว่า:“ดูเหมือนคุณไม่ชอบเนี่ยนโม่?”
เหยนชิงเหยียนกุมมือของจิ่วจิ่ว พูดอย่างอ่อนโยนว่า:“คิดอะไรอยู่เหรอ?ฉันกำลังคิดว่ามีชื่ออะไรดีๆอีก”
พลางโอบจิ่วจิ่วที่มีความสุขสู่อ้อมกอด ใบหน้าของเหยนชิงเหยียนเผยความโหดเหี้ยมและการสืบหาความจริงออกมา
เมื่อเซี่ยชีหรั่นเห็นถุงน้อยใหญ่ที่เหยนชิงเหยียนนำมาที่บ้านของตนก็ตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นก็พาเหยนชิงเหยียนมาที่ห้องรับแขกด้วยความดีอกดีใจ:“กำหนดคลอดของจิ่วจิ่วก็คือในช่วงครึ่งเดือนนี้ใช่ไหมคะ”
เหยนชิงเหยียนยิ้มพลางพยักหน้า:“เธอพูดหาแต่เนี่ยนโม่ วันนี้บังคับให้นำของเล่นมาให้เนี่ยนโม่ แล้วเนี่ยนโม่ล่ะ?”
เซี่ยชีหรั่นให้สาวใช้พาเนี่ยนโม่เข้ามา เนี่ยนโม่เพิ่งจะตื่นจากการนอนกลางวัน ยังคงสะลึมสะลืออยู่ ยื่นมือทั้งสองออกมาจะให้เซี่ยชีหรั่นอุ้ม
“เนี่ยนโม่อย่าดื้อ!ยังจำคุณลุงเหยนชิงเหยียนได้ไหมครับ?”เหยนชิงเหยียนพูดขึ้นด้วยจังหวะที่ช้าลง แล้วสังเกตสีหน้าของเนี่ยนโม่ อย่างละเอียด
เย่เนี่ยนโม่มองไปที่เหยนชิงเหยียน จู่ๆก็มุดหัวเข้าไปในอ้อมอกของเซี่ยชีหรั่น และไม่ยอมออกมาอีก
“หรือว่าเด็กคนนี้ไม่ชอบผม?หรือว่าผมทำอะไรให้เขารำคาญใจ?”เหยนชิงเหยียนหยั่งเชิงถามขึ้น
เซี่ยชีหรั่นลูบศีรษะของเย่เนี่ยนโม่ พลางปลอบใจเหยนชิงเหยียนว่า:“มันไม่ใช่ปัญหาของคุณหรอก เขายังเป็นเด็ก โตขึ้นก็คงจะดีกว่านี้”
เย่เชินหลินโทรศัพท์มา เซี่ยชีหรั่นขอโทษเหยนชิงเหยียนพลางยิ้มแล้วไปรับโทรศัพท์ เหยนชิงเหยียนหยั่งเชิงถามขึ้นว่า:“เนี่ยนโม่ หนูจำลุงไม่ได้เหรอครับ?”
เย่เนี่ยนโม่ก้มศีรษะลงต่ำ พลางเหลือบมองเหยนชิงเหยียนครู่หนึ่ง แล้วรีบส่ายหัว
ใจของเหยนชิงเหยียนผ่อนคลายลง ใบหน้ายิ้มแย้มดูจริงใจขึ้นมาก พยายามที่จะผูกมิตรกับเนี่ยนโม่ จึงพูดหยอกล้อกับเนี่ยนโม่ว่า:“ป้าจิ่วจิ่วก็มีลูกแล้ว ต่อไปหนูก็จะได้เล่นกับเขา”
เย่เนี่ยนโม่มองไปที่เหยนชิงเหยียน ถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า:“คุณลุงก็จะพาน้องตะลอนไปทุกที่ใช่ไหมครับ?”
ตะลอนไปทุกที่?เลือดฝาดบนใบหน้าของเหยนชิงเหยียนจางหายไป พลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า:“เนี่ยโม่ อะไรคือตะลอนไปทุกที่”
เนี่ยนโม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ส่ายศีรษะ และพูดขึ้นเพียงประโยคเดียวว่า:“พี่ใหญ่กับคุณพาเนี่ยนโม่ตะลอนไปเที่ยว หม่ามี๊จะเป็นห่วงมาก ไม่ดีเลย!”
“เขารู้แล้ว เขารู้มาโดยตลอด!”ท่าทีซับซ้อนของเหยนชิงเหยียนมองไปยังเย่เนี่ยนโม่ สายตาฉายแววอาฆาตออกมา กระทั่งเซี่ยชีหรั่นรับโทรศัพท์เสร็จกลับมา เหยนชิงเหยียนก็ไม่อยู่แล้ว
จิ่วจิ่วมองนาฬิกาเวลานี้แล้วแต่เหยนชิงเหยียนยังไม่กลับมา ก็มีความคิดอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาในใจว่า:“หรือว่าเหยนชิงเหยียนแอบมีผู้หญิงอยู่ข้างนอก?”
จิ่วจิ่วไม่เพียงแต่คิดถึงเรื่องที่ผู้ชายใช้โอกาสตอนที่ภรรยาท้องแอบไปกินข้างนอกบ้าน ภายในใจก็เริ่มเกิดความสับสนวุ่นวายเหยนชิงเหยียนกลับมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าทั่วร่างกาย เมื่อเห็นว่าจิ่วจิ่วยังไม่นอนก็ขเยิบเข้าไปพลางห่มผ้าให้กับเธอ:“ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ ไม่รู้เหรอว่าถ้าเป็นแบบนี้จะไม่ดีกับลูกในท้อง?”
จิ่วจิ่วยิ้มอย่างขมขื่น แกล้งทำเป็นนอนหลับแล้ว รอกระทั่งลมหายใจข้างกายค่อยๆนิ่ง จู่ๆจิ่วจิ่วก็ค่อยๆพาดไปยังเหยนชิงเหยียน และนำโทรศัพท์ของฝ่ายตรงข้ามมา
ในโทรศัพท์มีเบอร์ติดต่อกับคนแปลกหน้าอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ จิ่วจิ่วนำโทรศัพท์กลับไปวางที่เดิมด้วยอาการสั่นเครือ ภายในใจสับสนวุ่นวายนอนไม่หลับ
“จิ่วจิ่ว เป็นไปไม่ได้หรอกที่เหยนชิงเหยียนจะแอบมีผู้หญิงอื่นอยู่ข้างนอก เขารักเธอขนาดนี้”เซี่ยชีหรั่นปลอบใจจิ่วจิ่วที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าสิ้นหวัง!
“เหยนชิงเหยียนเป็นคนเก็บตัว ถ้าไม่สนิทจริงๆ ก็จะไม่มีการติดต่อทางโทรศัพท์บ่อยๆ”จิ่วจิ่วรีบเขียนลงบนกระดานอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นจะไม่เชื่อว่าเหยนชิงเหยียนมีเมียน้อย แต่ว่าเมื่อเห็นจิ่วจิ่วเป็นเช่นนั้นก็ปลอบใจว่า “ค่อยๆสังเกตดูกันไปก่อนเถอะ”
ตอนกลางคืน ขณะที่เย่เชินหลินกำลังอ่านหนังสืออยู่ เซี่ยชีหรั่นก็เดินไปเดินมาอยู่ข้างๆ ไม่นานนักก็ถูกเย่เชินหลินโอบไว้ในอ้อมกอด
เย่เชินหลินเปลี่ยนวิธีเพื่อต้องการให้เซี่ยชีหรั่นผ่อนคลายลง และอ่านหนังสือต่อ เซี่ยชีหรั่นยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเย่เชินหลิน จู่ๆก็พูดขึ้นว่า:“คุณว่า เป็นไปได้ไหมที่เหยนชิงเหยียนจะมีเมียน้อย?”
เย่เชินหลินนึกถึงผู้ชายที่ดูท่าทีเป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ทิ้งให้เซี่ยชีหรั่นบ่นพรึมพรำอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง:“แต่ว่าหากไม่เป็นแบบนั้นก็คงไม่กลับบ้านดึกๆ?”
“คุณมีประสบการณ์ด้านนี้มากเหรอ?”เย่เชินหลินปิดหนังสือลง นานๆทีจะได้หยอกเย้าเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้า ใบหน้าเริ่มแดงพลางพูดขึ้นว่า:“จิ่วจิ่วอยากรู้ว่าผู้ชายที่มีภรรยาน้อยอยู่นอกบ้านคิดอะไร ก็เลยดูซีรีย์วัยรุ่นเป็นเพื่อนเธอตลอดทั้งบ่าย”
เย่เชินหลินยกคิ้วขึ้น เริ่มครุ่นคิดว่าจะห้ามไม่ให้เซี่ยชีหรั่นคบหากับจิ่วจิ่วดีไหม:“อย่ามัวไปคิดแต่เรื่องที่ผมไม่คิดจะทำเลย”
เหยนชิงเหยียนออกไปข้างนอกอีกครั้ง ทำให้จิ่วจิ่วเบิกตากว้าง สวมเสื้อผ้าด้วยความทุกข์ทรมานแล้วนั่งแท็กซี่มายังบริษัทของเหยนชิงเหยียน เหยนชิงเหยียนไม่ได้มาที่บริษัท ถ้างั้นเขาจะไปที่ไหนล่ะ?
บริเวณมุมถนน ฝั่งตรงข้ามมีเงาที่คุ้นเคยเดินเข้ามา จิ่วจิ่วแอบหลบอยู่ในมุมมืด มองดูเหยนชิงเหยียนที่กำลังโทรศัพท์อยู่ ริมฝีปากขยับไม่หยุด หันหน้าเดินมายังบริษัท
เธอกังวลว่าเหยนชิงเหยียนจะเห็นเธอ จิ่วจิ่วจึงรีบจากไป ความสงสัยภายในใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“หม่ามี๊ หนูอยากไปดูยีราฟที่สวนสัตว์”เย่เนี่ยนโม่กอดขาของเซี่ยชีหรั่นแกว่งไปแกว่งมา
เย่เชินหลินกวาดสายตามายังเย่เนี่ยนโม่ แล้วค่อยๆปรากฎตัว:“เย่เนี่ยนโม่”
เมื่อได้ยินที่เย่เชินหลินพูด เย่เนี่ยนโม่ก็ยืนขึ้นอย่างเชื่อฟัง พร้อมทั้งพูดขึ้นอีกครั้งว่า:“หม่ามี๊หนูอยากไปสวนสัตว์”
เซี่ยชีหรั่นรีบอุ้มเย่เนี่ยนโม่มาบนตักหอมเขาพลางพูดขึ้นว่า “เด็กดี!เดี๋ยวหม่ามี๊จะพาไป!”
เซี่ยชีหรั่นคิดไม่ถึงเลยว่าสวนสาธารณะในวันหยุดคนจะมากมายขนาดนี้ พ่อบ้านอยู่ข้างหน้าของทั้งสองเพื่อเปิดทาง มีผู้หญิงคนหนึ่งไม่ทันระวังทำไอศครีมหกใส่พ่อบ้าน
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”เซี่ยชีหรั่นรีบพาพ่อบ้านหลบไปยังที่ที่มีคนน้อย สีหน้าของพ่อบ้านไม่ดีนัก:“ไม่เป็นไร?นายหญิงพวกเราไปกันต่อเถอะ”
“ฉันกับเนี่ยนโม่อยู่ที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ข้างๆมีห้างสรรพสินค้า คุณไปซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนเถอะ ไม่งั้นถ้าเป็นแบบนี้ก็คงจะไม่สะดวก”
พ่อบ้านครุ่นคิดและในที่สุดก็รับปาก รอยคราบไอศกรีมใหญ่มาก สายตาที่มองมาของคนที่พบเห็นทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง
เย่เนี่ยนโม่จูงมือเซี่ยชีหรั่นเดินๆหยุดๆ หน้าตาที่เป็นที่สะดุดตาของแม่ลูกคู่นี้ ทำให้ผู้คนต่างพากันมอง จู่ๆ เย่เนี่ยนโม่ก็ดึงมือเซี่ยชีหรั่นพลางพูดขึ้นว่า:“หม่ามี๊ดูสิ มีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง!”
เซี่ยชีหรั่นตั้งใจดูก็พบว่ามีเด็กผู้หญิงอยู่คนหนึ่งอยู่ตามลำพังท่ามกลางผู้คน ร้องเรียกแม่อย่างไม่หยุดหย่อน
“สาวน้อย หาแม่ไม่เจอใช่ไหม”เซี่ยชีหรั่นถามขึ้นอย่างอ่อนโยน
สาวน้อยพยักหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางพูดขึ้นว่า:“แม่บอกว่าจะไปซื้อขนมไหมสวรรค์ให้หนู แต่ก็ยังไม่กลับมาเลย!”เมื่อเซี่ยชีหรั่นนึกถึงพวกเด็กๆที่ถูกลักพาตัวไปขายที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิของตนเอง ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลกับสถานการณ์ของเด็กผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้า
“ไม่เป็นไรนะสาวน้อยฉันจะพาไปที่ประกาศคนหาย เมื่อแม่หนุได้ยินประกาศก็จะมาหาหนูที่นั้น”เมื่ออุ้มเด็กน้อยขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นก็ยื่นมุมกระโปรงให้กับเนี่ยนโม่:“เนี่ยนโม่ เด็กดี หม่ามี๊จะอุ้มน้องสาว เนี่ยนโม่จะจับชายกระโปรงของม่ามี๊และรับปากว่าจะไม่ปล่อยมือได้ไหม?”
เย่เนี่ยนโม่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง พลางพูดอย่างโดดเดี่ยวว่า:“หนูทำได้ครับ!หม่ามี๊อุ้มน้องสาวเถอะ”
ข้างๆจุดประกาศของหายเป็นสถานที่ที่คนพลุกพล่านมากที่สุด เซี่ยชีหรั่นอุ้มเดินน้อยเดินไปข้างหน้าด้วยความยากลำบาก มือน้อยๆของเย่เนี่ยนโม่ก็จับเซี่ยชีหรั่นไว้แน่น
จู่ๆด้านข้างก็มีมือๆหนึ่งดึงเย่เนี่ยนโม่อย่างแรง ขณะที่เย่เนี่ยนโม่ยังไม่ได้สติ ก็กลับถูกดึงออกไปจนไม่ได้อยู่ข้างกายของเซี่ยชีหรั่นแล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset