สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1242 สาวใช้ของคุณชายเย่1142

บทที่1242 สาวใช้ของคุณชายเย่1142
“สวัสดีค่ะ เด็กคนนี้หาแม่ไม่เจอค่ะ!”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างรีบร้อน
พนักงานรีบประชาสัมพันธ์หลายครั้ง แต่ว่าก็ไม่มีใครมารับ “เนี่ยนโม่ พวกเราไปตามหาแม่ของเด็กคนนี้กันเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าลง มุมกระโปรงของตนเองมีร่องรอยจับอยู่ แล้วเนี่ยนโม่ล่ะ?
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ มีเด็กอีกคนหนึ่งหายไปค่ะ เขาชื่อเนี่ยนโม่!”เซี่ยชีหรั่นรีบพูดขึ้น จากนั้นก็มุดเข้าไปในกลุ่มฝูงชน
“เนี่ยนโม่ลูกอยู่ไหน?”เสียงตะโกนเรียกของเซี่ยชีหรั่นดังขึ้นพร้อมกับเสียงประชาสัมพันธ์ซ้ำไปซ้ำๆมา คนที่อยู่ข้างๆมองดูเซี่ยชีหรั่นด้วยความเย็นชา ราวกับไม่สนใจเซี่ยชีหรั่นที่กำลังวิ่งวุ่นอยู่ มีเพียงสายตาสงสัยแค่ไม่กี่สายตาที่มองด้วยความแปลกใจเท่านั้น
“นายหญิง เกิดอะไรขึ้นครับ?”พ่อบ้านรีบวิ่งมาด้วยความรีบร้อน
เซี่ยชีหรั่นนั่งยองๆอยู่ที่พื้นอย่างสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว:“เนี่ยนโม่ เนี่ยนโม่หายตัวไป!”
กระทั่งแสงแดดด้านหน้าของตนเองถูกบดบัง เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ เย่เชินหลินยืนอยู่ย้อนแสงอยู่ เซี่ยชีหรั่นมองแววตาของเย่เชินหลินไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่:“ฉันทำเนี่ยนโม่หาย”
เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆคว้าเซี่ยชีหรั่นด้วยความขี้ขลาด แต่เซี่ยชีหรั่นหลบอย่างเห็นได้ชัด เศร้าเสียใจจนต้องหลบอยู่ภายใต้แขนของตนเอง
เย่เชินหลินขยิบตาให้พ่อบ้านนำเด็กคนนี้ไป พลางกอดผู้หญิงที่กำลังสั่นอยู่ตรงหน้าเบาๆและปลอบใจด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า:“ยังมีผมอยู่ทั้งคน”
ภายในห้องกล้องวงจรปิด พนักงานพูดขึ้นอย่างละอายใจว่า:“ไม่รู้ว่าสองสามวันนี้กล้องวงจรปิดเป็นไร ทำไมถึงได้ถูกคนทำเสีย ยังไม่ได้ซ่อมเลยครับ ก็เลยไม่ได้เปิดกล้องวงจรปิด!”
เซี่ยชีหรั่นทิ้งน้ำหนักทั้งหมดไว้บนตัวของเย่เชินหลิน แทบที่จะยืนต่อไม่ไหว เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา:“ค้นหารูปภาพของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่มาท่องเที่ยวในสวนสัตว์แห่งนี้ ขอเพียงแค่ส่งรูปเข้ามาในอีเมลของพวกเรา ก็จะได้รับค่าตอบแทน1รูปต่อ 100 หยวน ”
พนักงานมองดูชายที่อยู่เบื้องหน้าอย่างตกใจจนพูดไม่ออก ต้องรู้ว่ามีคนอยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้เป็นพันคน แต่ละคนอย่างน้อยมีรูปไม่ต่ำว่าสิบรูป หากรวมกันก็นับเป็นมูลค่ามากกว่าสิบกว่าล้านหยวน
ยามคำคืน เซี่ยชีหรั่นอยู่ภายในห้องของเย่เนี่ยนโม่ มองดูรูปวาดของเย่เนี่ยนโม่อย่างเงียบๆ เย่เชินหลินนำกล่องข้าวมาวางไว้ด้านหน้าของเซี่ยชีหรั่น พร้อมทั้งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่า:“กินซะ!”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว แล้วเคลื่อนสายตามองไปยังรูปของเย่เนี่ยนโม่ที่ยิ้มอย่างสดใสอีกครั้ง ภายในรูปเขาถูกมือขนาดใหญ่คู่หนึ่งพาไป เซี่ยชีหรั่นตะโกนเข้าไปเหมือนแทบจะบ้า:“เอาเนี่ยนโม่คืนมาให้ฉันนะ”
เย่เชินหลินเล่นตามบทไปกับเธอ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“กินข้าวที่อยู่บนโต๊ะให้หมดก่อนแล้วผมจะคืนให้คุณ”
เซี่ยชีหรั่นกระโจนเข้าไปด้านหน้าชามอาหารพลางยัดซาลาเปาเข้าปากอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่กำลังสะอึกสะอื้นก็ดื่มนม กลิ่นแสบจมูกของนมทำให้น้ำตาของเธอไหลออกมา เซี่ยชีหรั่นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้น้ำตาไหลพรากลงมา เธอกินอย่างตะกละตะกลาม
บนใบหน้าของเย่เชินหลินไม่มีอารมณ์ความรู้สึกมากนัก ใจนั้นเจ็บจนเหมือนตะคริวกิน เขานั้นเป็นห่วงทั้งเย่เนี่ยนโม่ และเป็นห่วงท่าทีของเซี่ยชีหรั่น ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพที่อึดอัด เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นก็รีบพุ่งไปอยู่ข้างๆเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินกดลำโพง:“รูปทั้งหมดของวันนั้นค้นหาครบแล้ว ตอนนี้วางอยู่ที่ออฟฟิศ”
เย่เชินหลินเช็ดคราบนมบริเวณริมฝีปากของเซี่ยชีหรั่น พร้อมพูดอย่างอ่อนโยนว่า:“รอผมกลับมาอย่างเชื่อฟังนะ”
เซี่ยชีหรั่นพูดวิงวอนขึ้นว่า:“ให้ฉันตามไปด้วยเถอะค่ะ ขอร้องล่ะ ให้ฉันได้ช่วยอะไรบ้างเถอะคะ!”
ขณะที่ลงจากรถ เซี่ยชีหรั่นเกือบหกล้ม เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นมากระทั่งถึงบริษัท มองดูรูปภาพที่กองเต็มไปหมด เซี่ยชีหรั่นมองดูรูปแล้วรูปเล่าด้วยความสั่นเทา
เวลาที่อยู่เบื้องหน้าค่อนๆผ่านไปทีละน้อยๆจนใกล้จะเช้าแล้ว เย่เชินหลินกุมมือเซี่ยชีหรั่น:“ไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
“ฉันไม่เหนื่อย”ดวงตาของเซี่ยชีหรั่นเต็มไปด้วยรอยแดง แต่ก็ยังคงพลิกดูรูปภาพเหล่านั้นอย่างแข็งขัน
เย่เชินหลินมองไปยังหมอที่รอคำสั่งอยู่ด้านข้างพยักหน้า เซี่ยชีหรั่นถูกจับไว้แน่น ยาระงับประสาทถูกฉีดเข้าไปในเส้นเลือดของเซี่ยชีหรั่น
“อย่า ขอร้องล่ะ ฉันไม่ต้องการ!ถ้าฉันยังตามหาเนี่ยนโม่ไม่เจอ ฉันจะนอนไม่ได้!” เซี่ยชีหรั่นมองไปยังเย่เชินหลินอย่างขอร้อง กระทั่งเธอค่อยๆนอนลงในอ้อมกอดของเย่เชินหลิน
นำเซี่ยชีหรั่นวางลงนอนบนเตียงของออฟฟิศข้างๆ เย่เชินหลินจูบลงใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ความกังวลในฐานะที่ตนเป็นพ่อก็ค่อยๆเปิดเผยออกมา
เมื่อขยี้หัวตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เย่เชินหลินก็เคลื่อนสายตามายังรูปภาพที่อยู่บนโต๊ะอีกครั้ง รูปภาพของผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เขาสะดุดตา นั้นคือเซี่ยชีหรั่น
ร่างครึ่งหนึ่งของเซี่ยชีหรั่นได้อยู่นอกเลนส์กล้อง เย่เนี่ยนโม่ก็ดึงชายกระโปรงเซี่ยชีหรั่นอย่างเชื่อฟัง เย่เชินหลินพยายามหารูปของเซี่ยชีหรั่นที่เหลือ และในที่สุดก็พบในอีกรูปหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นยังคงอยู่ แต่ว่าข้างกายเซี่ยชีหรั่นนั้นไม่มีเงาของเย่เนี่ยนโม่แล้ว
“คุณหนูเนี่ยนโม่!”จางเฟิงอี้หยิบรูปๆหนึ่งส่งให้กับเย่เชินหลิน บนรูปนั้น รถเบนซ์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทางบริเวณทางเข้า มีผู้ชายในชุดสีดำอุ้มเด็กคนหนึ่ง หากดูให้ดี เด็กผู้ชายคนนั้นก็คือเย่เนี่ยนโม่
“เอารูปไปขยายใหญ่ แล้วดูว่าเสื้อผ้าของผู้ชายคนนั้นยี่ห้ออะไร”เย่เชินหลินชี้ไปที่ยี่ห้อที่ปรากฏอยู่บนหลังคอเสื้อของชายผู้นั้น เหยนชิงเหยียนจ้องมองเย่เนี่ยนโม่ที่กำลังหลับอยู่ มีดที่อยู่ในมือสั่นไม่หยุด เด็กที่เคลื่อนไหวในท้องของจิ่วจิ่วทำให้เขารู้สึกถึงความสุขของคนเป็นพ่ออย่างชัดเจน แต่ตอนนี้กำลังจะมีชีวิตน้อยๆชีวิตหนึ่ง ที่กำลังจะจากไปด้วยเนื้อมือของเขา
“เถ้าแก่ ผมได้ทำตามที่ท่านสั่งแล้วว่าให้นำลูกสาวของผมเป็นตัวล่อเหยื่อ และขโมยเด็กคนนั้นขึ้นรถก่อนหน้าที่พวกเราตกลงเรื่องราคากันไว้ เมื่อไหร่ถึงจะคิดบัญชี”ชายผู้หนึ่งที่มีรอยแผลเป็นอยู่บนใบหน้าพูดขึ้น
เหยนชิงเหยียนวางเช็ก4W ไว้บนโต๊ะ และพูดเตือนชายคนนั้นว่า:“เรื่องๆนี้อย่าแพร่งพรายออกไป ทางที่ดีก็ออกไปหลบที่ต่างประเทศซะ”
ชายผู้นั้นหยิบเช็กขึ้นมาจูบ พลางพูดขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงว่า:“ได้ข่าวว่าที่มาที่ไปของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาเลย คุณก็ระวังตัวด้วยนะ”
เซี่ยชีหรั่นรู้ดีว่าตนเองกำลังหลับฝัน ภายในความฝันมีเสียงเสียงหนึ่ง เด็กผู้ชายจูงมือเด็กผู้หญิง เด็กผู้หญิงเรียกเธอว่าแม่ใบหน้าของเด็กผู้ชายเป็นที่คุ้นเคยมาก แต่จู่ๆกลับไม่เห็นเสียแล้ว!
“เนี่ยนโม่!”เซี่ยชีหรั่นร้องเรียกด้วยความตกใจ จากนั้นก็ถูกโอบกอดด้วยรวดเร็ว เย่เชินหลินโอบกอดเซี่ยชีหรั่น และลูบหลังของเธอเบาๆ:“ยังเช้าอยู่เลย นอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ!”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว สายตามองไปที่พื้น เย่เชินหลินขมวดคิ้วมองไปยังเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นผลักเย่เชินหลินออก รีบวิ่งไปยังห้องของเย่เนี่ยนโม่ด้วยเท้าเปล่า ร้องขึ้นอย่างตกใจว่า:“เหมือนฉันได้ยินเสียงของเย่เนี่ยนโม่”
ของทุกอย่างภายในห้องจัดวางอยู่อย่างนิ่งเงียบ ไร้ซึ่งอุณหภูมิราวกับใจของเซี่ยชีหรั่นในตอนนี้ เซี่ยชีหรั่นบ่นพึมพำว่า:“เป็นความผิดของหม่ามี๊เอง หม่ามี๊ไม่ควรช่วยคนมั่วซั่ว เป็นความผิดของฉันเอง”
หมอหยิบยาระงับประสาทแล้วเข้าไปใกล้ๆ เซี่ยชีหรั่นรีบหลบเข้าไปบริเวณมุมกำแพง พลางพูดขึ้นอย่างอลหม่านว่า:“อย่าใช้วีแบบนี้ทำให้ฉันสลบ ฉันกลัวว่าถ้าเย่เนี่ยนโม่กลับมา ฉันไม่ได้อยู่ข้างๆเขา เขาจะเสียใจ”
หมอมองไปที่เย่เชินหลินด้วยความลำบากใจ เย่เชินหลินโบกมือให้หมอออกไป จากนั้นก็นั่งย่อเข่าอยู่เบื้องหน้าของเซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกไปแล้วนำเซี่ยชีหรั่นมาซบที่ไหล่ของตนเอง มองไปที่รูปของเย่เนี่ยนโม่ที่แขวนอยู่ที่ผนังพลางพูดขึ้นอย่างราบเรียบว่า:“ไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมได้เบาะแสแล้ว อีกไม่นานก็จะได้ข่าวของเย่เนี่ยนโม่แล้ว”
เซี่ยชีหรั่นฟังอย่างนิ่งเงียบ ไม่พูดและไม่ปฏิเสธ ทำให้เย่เชินหลินยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น ตลอดทั้งวันเซี่ยชีหรั่นก็รับประทานอาหารอย่างเชื่อฟัง เพียงแต่ว่าพอตกเย็นไม่ยอมนอนเท่านั้นเอง
“เนี่ยนโม่ หม่ามี๊อยู่ที่นี่ ขอเพียงแค่หนูกลับมา หม่ามี๊ก็จะได้เจอหนู”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างราบเรียบ
เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นเข้ามาในห้อง ร่างของเขากดทับร่างของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และความรู้สึกว่า:“ในเมื่อคุณไม่ยอมนอน งั้นพวกเราก็มาทำอย่างอื่นกันเถอะ”
เซี่ยชีหรั่นส่งเสียงเหิงสั้นๆ น้ำตาไหลออกมาจากหัวตา เย่เชินหลินจูบลงที่หัวตาอย่างเจ็บปวด ครอบครองเซี่ยชีหรั่นอย่างรุนแรง
เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ข้างๆเหนื่อยจนส่งเสียงหอบเหนื่อยออกมา เย่เชินหลินคลุมชุดคลุมอาบน้ำให้กับเธอ หมอรออยู่ด้านนอกของประตู
“สภาพร่างกายของเธอเป็นยังไงบ้าง?”เย่เชินหลินถามขึ้น
“จิตใจได้รับการกระทบกระเทือนเป็นอย่างมาก เธอไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าลูกของเธอหายตัวไป และยิ่งรับไม่ได้ด้วยว่าตนเองเป็นคนทำให้ลูกของตนหายตัวไป หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เธออาจจะบ้าคลั่ง ตอนนี้สิ่งเดียวที่สามารถทำได้ก็คือให้เธอพูดสิ่งที่เธอโทษตนเองอยู่ในใจออกมาให้หมดสิ้น”หมอพูดกับเย่เชินหลินอย่างเคร่งเครียด
เมื่อกลับไปถึงห้อง เซี่ยชีหรั่นยังคงนอนหลับอยู่ เย่เชินหลินมองดูเซี่ยชีหรั่นพลางจูบลงที่มุมปากของเซี่ยชีหรั่นเบาๆ:“ฝันดีนะ”
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูลงเบาๆ เซี่ยชีหรั่นก็ลุกขึ้นมา ด้านนอกหน้าต่างมีเสียงฟ้าแลบ เซี่ยชีหรั่นลงมาข้างล่างอย่างระมัดระวัง มองดูที่รถด้วยความลังเล แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเดินออกจากประตูใหญ่คฤหาสน์ตระกูลเย่
“นายหญิงไม่ได้นั่งรถไป เดินแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะถึงล่ะ”พ่อบ้านยืนอยู่ด้านหลังของเย่เชินหลินพลางพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไปเปิดไฟถนนสายนี้ให้หมด แล้วส่งคนไปตรวจตราถนนให้เรียบร้อย ถ้าหากมีรถมาไม่ให้ผ่านเด็ดขาด”
เย่เชินหลินมองดูเซี่ยชีหรั่นอกสั่นขวัญหายพร้อมพูดกำชับเบาๆ เซี่ยชีหรั่นค่อนๆเดินอย่างช้าๆ เสียงลมพัดกระทบกิ่งไม้ก่อนที่ฝนจะตกหนักดังขึ้น
ด้านหน้ามีคนมีคนคอยจัดการอุปสรรคบนท้องถนน เพื่อมอบสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยที่สุดให้กับเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าตนเองเดินมานานแค่ไหนแล้ว เท้าเริ่มรู้สึกเจ็บจนชา ประตูใหญ่ที่คุ้นเคยยังคงเปิดอยู่
ผู้ชายหยิบกุญแจเพื่อบังเงาของตน เซี่ยชีหรั่นมองดูสถานที่ที่สุดท้ายที่ตนอยู่กับเนี่ยนโม่ เมื่อมาถึงบริเวณของช้าง เนี่ยนโม่ยิ้มอย่างเบิกบานใจ เมื่อมาถึงสวนยีราฟ เย่เนี่ยนโม่ก็ถูกยีราฟแย่งหมวกไป
เม็ดฝนขนาดเท่าเมล็ดถั่ว หล่นลงกระทบใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นทีละเม็ดๆ ผสมผสานกับน้ำตาของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ที่บันได ฝนที่ตกลงมาทำให้ตัวเธอนั้นเปียก ริมฝีปากแข็งจนขาวซีด
เย่เชินหลินยืนอยู่ข้างๆมองดูเซี่ยชีหรั่น เล็บมือของเขาจิกลงฝ่ามือ เลือดสีแดงถูกน้ำฝนชะล้างออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีของเหลวไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ในระยะไกล จู่ๆก็ส่งเสียงร้องแหลมขึ้นมาอย่างดัง เสียงร้องนั้นทำให้คนรู้สึกใจสลาย เย่เชินหลินมองดูอย่างเงียบๆ เป็นเพื่อนเซี่ยชีหรั่น กระทั่งเสียงของฝ่ายตรงข้ามค่อยๆอ่อนลง และเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นแทน
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่ามีเงาคนๆหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ เธอเอนตัวไปอิงแนบขาฝ่ายตรงข้ามโดยที่ไม่เหลือบมองเลยแม้แต่น้อย:“เย่เชินหลิน พวกเราต้องหาเย่เนี่ยนโม่ให้เจอให้ได้นะ!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset