สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1243 สาวใช้ของคุณชายเย่1143

บทที่1243 สาวใช้ของคุณชายเย่1143 
“อืม เชื่อใจผม!”เย่เชินหลินพูดขึ้นเบาๆ สายตาฉายแววหดเหี้ยมออกมา เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนที่คิดจะทำร้ายเซี่ยชีหรั่นกับเย่เนี่ยนโม่อย่างเด็ดขาด
“นายหญิง ท่านประธาน ผมได้ตรวจสอบยี่ห้อของเสื้อผ้าตัวนั้นแล้ว เป็นยี่ห้อที่ค่อนข้างมีระดับที่ชื่อว่าRIYOKA มีขายทุกห้างสรรพสินค้าในเมืองแห่งนี้”
จางเฟิงอี้ขยายรูปภาพคอเสื้อของชายผู้นั้นร้อยเท่า แล้วนำรูปโลโก้ที่ชัดเจนให้เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินดู
“นับจากนี้เป็นต้นไปจัดหาคนตรวจสอบข้อมูลของเสื้อยี่ห้อนี้ทั้งเมือง ตรวจสอบคนที่ซื้อเสื้อผ้ายี่ห้อนี้ในระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา”
เย่เชินหลินเคาะโต๊ะพลางกำชับอย่างใจเย็น เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ข้างๆถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า:“ทำไมต้องเป็นสามเดือน ทำไมถึงไม่ตรวจสอบนานกว่านั้น”
เย่เชินหลินชี้ไปที่โลโก้พลางพูดขึ้นว่า:“โลโก้ที่อยู่บนคอเสื้อยังใหม่อยู่ แสดงให้เห็นว่าเสื้อตัวนี้ซื้อมาได้ไม่นานมากเครื่องหมายการค้าบริเวณแขนเสื้อก็ไม่ตัดทิ้ง เห็นได้ว่าผู้ชายคนนี้ก็ไม่ใช่ผู้ชายที่มีรสนิยมอะไร อีกทั้งตัวเลขบนป้ายยี่ห้อมีเลขสามที่เลือนลาง ตัวอักษรแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นวันที่ผลิต”
จางเฟิงอี้เหลือบมองเย่เชินหลินครู่หนึ่งด้วยความเลื่อมใส เขาหยิบรายงานนี้แล้วออกไปจากห้องทำงาน เซี่ยชีหรั่นลังเล เย่เชินหลินขมวดคิ้ว:“ไม่ได้”
เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า:“ฉันอยากจะไปช่วยตามหาด้วยตนเอง ถ้าให้ฉันมัวแต่นั่งอยู่ไม่ทำอะไรเลย ฉันรู้สึกว่าฉันไร้ค่า”
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ทอดถอนหายใจพลางพูดขึ้นว่า:“คุณเองก็ต้องระวังนะ”
“หลายวันมานี้คุณกำลังทำอะไรอยู่เหรอ ไม่อยู่บ้านเลย”จิ่วจิ่วโยนกระดานไปบนตัวของเหยนชิงเหยียนด้วยความโกรธ
เหยนชิงเหยียนบีบจมูกด้วยความเหน็ดเหนื่อยพลางพูดขึ้นว่า:“ที่บริษัทมีงานเยอะ คุณอย่างี่เง่าเลย ผมต้องทำโอที”
จิ่วจิ่วยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่:“ทำโอที?ฉันถามคนที่บริษัทของคุณแล้ว พวกเขาบอกว่าไม่เห็นคุณที่บริษัท!”
สีหน้าของเหยนชิงเหยียนลุ่มลึกขึ้น น้ำเสียงก็สูงขึ้น เขาพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยมว่า:“คุณตรวจสอบผม?แล้วคุณรู้อะไรบ้างล่ะ?”
จิ่วจิ่วตกใจกับสีหน้าท่าทางของเหยนชิงเหยียน น้ำตาคลอเบ้า: “ที่แท้คุณก็มีผู้หญิงอยู่นอกบ้านจริงๆ คุณเคยใส่อารมณ์กับฉันที่ไหนกัน!”
เหยนชิงเหยียนทอดถอนหายใจ โอบกอดจิ่วจิ่วไว้ในอ้อมกอดของเขา พลางพูดปลอบใจว่า:“ร้องไห้บ่อยๆมันจะกระทบกับลูกในท้องนะ อย่าคิดมาก ผมไม่ได้มีผู้หญิงอื่น ให้เวลาผมหน่อย อีกไม่นานพวกเราก็จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมแล้ว”
เหยนชิงเหยียนตัดสินใจ แทนที่จะฆ่าเย่เนี่ยนโม่ ใช้เย่เนี่ยนโม่ในการข่มขู่เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลินเพื่อแลกกับเงินก้อนหนึ่งดีกว่า ถ้าทำแบบนี้ จิ่วจิ่วกับลูกก็จะมีชีวิตที่สุขสบาย
เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในช็อปขายเสื้อผ้าของRIYOKA พนักงานในร้านเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นใส่เสื้อผ้าที่มีราคาแพงจึงล้อมหน้าล้อมหลังอย่างกระตือรือร้น
“สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าคนผู้หญิงต้องการเสื้อผ้าแบบไหนให้กับคุณผู้ชายคะ?”พนักงานถามขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
เซี่ยชีหรั่นหยิบรูปใบหนึ่งขึ้นมาพลางถามขึ้นว่า:“ขอถามหน่อยคะว่าพวกคุณมีเสื้อผ้าแบบนี้ขายไหม ถ้ามีความสามารถให้ข้อมูลลูกค้ากับฉันได้ไหมคะ”
พนักงานมองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาประหลาดไม่พูดไม่จา ไม่มีใครเต็มใจที่จะเสียเวลาไปกับความต้องการปลาดๆของผู้หญิงคนนี้ เพราะมันเสียเวลาของตนเอง
เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ เซี่ยชีหรั่นเดินออกมาจากร้านด้วยความหดหู่หงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวา รถโรลส์รอยซ์จอดรออยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าร้านอย่างเงียบๆ พนักงานที่ปฏิบัติตัวไม่ดีกับเซี่ยชีหรั่นมองดูชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาที่ลงมาจากเบาะคนขับด้วยความตกตะลึง
เย่เชินหลินเดินมาเบื้องหน้าของเซี่ยชีหรั่นลูบหูของเธอพลางถามว่า:“มีอะไรคืบหน้าไหม?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัวพลางพูดขึ้นว่า:“ทุกคนต่างไม่ยอมเสียเวลาบอกฉัน”
พนักงานรับรู้ได้ถึงสายตาเย็นชาที่จู่ๆก็มองมาที่ตน ทำให้รู้สึกร้อนตัวอย่างบอกไม่ถูก วันรุ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามาในร้านพนักงานรีบรินน้ำให้กับเซี่ยชีหรั่น:“คุณผู้หญิงดื่มน้ำก่อนค่ะ”
“ไม่ ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้มาซื้อเสื้อผ้า ฉันแค่มาถามข่าว”พวกพนักงานรีบหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น ท่านอยากจะสอบถามเรื่องอะไรสอบถามได้เลยนะคะ
เซี่ยชีหรั่นชี้ไปที่รูปภาพด้วยความรู้สึกเสียใจพลางพูดขึ้นว่า:“ฉันอยากจะถามหน่อยว่าในรอบสามเดือนนี้พวกคุณได้ขายเสื้อผ้าชนิดนี้ออกไปบ้างไหม ถ้าหากว่ามีเอาบันทึกการจำหน่ายสินค้ามาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ ได้อยู่แล้ว” ผู้จัดการร้านหยิบสมุดบัญชีออกมาด้วยตนเองพลางยิ้มอย่างเบิกบาน กรุณารอสักสิบนาทีนะคะ เดี๋ยวพวกเราขอตรวจสอบก่อน
เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นเดินออกไปจากร้าน ผู้จัดการร้านและพนักงานต่างทอดถอนหายใจ ภายในหนึ่งคืนบริษัทRIYOKAก็ถูกซื้อเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเจ้าของคนใหม่ยังได้ยังได้มอบหมายภารกิจแรก นั้นก็คือดูแลคุณเย่ให้ดี
หลังจากที่ผ่านการคัดกรองของ จางเฟิงอี้ยังเหลือข้อมูลของชายอีกห้าคนที่มีรูปร่างสอดคล้องกับความเป็นไปได้ เซี่ยชีหรั่นยังไม่ได้พูดอะไรออกมา เย่เชินหลินก็พูดขึ้นว่า:“เรื่องนี้ก็พอแค่นี้ คุณพยายามมามากพอแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นบ่นพึมพำว่า:“ไม่ ฉันยังทำไม่ดีพอ ตอนนี้ผ่านไปสามวันแล้ว ไม่มีข่าวคราวของเนี่ยนโม่เลยแม้แต่น้อย ขอร้องล่ะคุณยอมให้ฉันไปเถอะ”
จางเฟิงอี้มองไปที่เย่เชินหลินรอให้เขาตอบกลับ หมอบอกแล้วว่าเซี่ยชีหรั่นไม่สามารถรับการกระตุ้นความรู้สึกได้อีกแล้ว เมื่อเห็นแววตาแห่งความปรารถนาของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า:“ต้องระวังความปลอดภัยด้วยนะ”
ขณะที่มือของเซี่ยชีหรั่นถือข้อมูลอยู่ ก็ผลักประตูใหญ่ของชุมชนเล็กๆชุมชนหนึ่ง กริ่งประตูถูกกดนานมาก ชายใส่แว่นหน้าตาหล่อเหลาเปิดประตูออกมา ยิ้มให้กับเซี่ยชีหรั่นพลางพูดขึ้นว่า:“ไม่ทราบว่าคุณคือใครครับ?”
“หลายวันมานี้ คุณได้ซื้อเสื้อแบบนี้ไหมคะ?”เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าทรงผมของชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ค่อยเหมือนกับในรูปสักเท่าไหร่ แต่ก็ปลุกความกล้าในตัวเองแล้วถามขึ้น
สายตาของผู้ชายมองลำคอที่เรียบเนียนของเซี่ยชีหรั่นและค่อยๆเคลื่อนย้ายสายตาลงไปข้างล่าง มุมปากยิ้มอย่างมีเลศนัย เปิดประตูพร้อมพูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า:“ใช่ ผมมีอยู่ตัวหนึ่ง คุณจะเข้ามาดูไหมครับ?”
เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างลังเลใจว่า:“คงไม่ต้องหรอกค่ะ คุณหยิบมันมาให้ฉันดูไหมคะ?”
ชายผู้นั้นมองเซี่ยชีหรั่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:“ถ้างั้นก็ช่างเถอะ คุณไปเถอะ”
“รอก่อนค่ะ”เซี่ยชีหรั่นกัดฟันแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เสียงล็อคประตูของชายผู้นั้นทำให้เซี่ยชีหรั่นตกใจ จึงพยายามตั้งสติและพูดขึ้นว่า:“ให้ฉันดูเสื้อตัวนั้นหน่อยค่ะ”
ชายผู้นั้นยักไหล่พลางพูดขึ้นว่า:“เสื้อตัวนั้นน้องของผมเป็นคนซื้อ เห็นบอกว่า จะไปทำเรื่องใหญ่ แต่ว่าความโชคดีของวันนี้ก็ไม่น้อยเลย”
ชายผู้นั้นหรี่ตามองเซี่ยชีหรั่น และค่อยๆเข้าใกล้เซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นก็ค่อยๆถอยออกไปพลางพูดขึ้นอย่างราบเรียบว่า:“ฉันคิดว่า คุณอย่าเข้ามาใกล้ฉันมากน่าจะดีกว่า”
ชายหนุ่มยิ้มพลางพูดขึ้นอย่างไม่แยแสว่า:“คุณสวยกว่าดาราในทีวีอีก วันนี้จะปล่อยคุณไปได้ยังไง!”
เสียงดังลอดผ่านกระจกเข้ามา เฉียดผ่านแก้มของชายผู้นั้น จากนั้นก็มีเสียงยิงรอดผ่านผนัง
ชายหนุ่มมองดูลำกล้องบนกระจกอย่างงุนงง สายตามองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างไร้วิญญาณ เซี่ยชีหรั่นกระแอบเบาๆ:“ฉันบอกคุณตั้งแต่แรกแล้ว”
“ครั้งหน้าคงไม่ได้ยิงโดนที่หน้า แต่จะเป็นหัว”จางเฟิงอี้นำคนเข้าไปข้างใน แล้วล้อมชายคนนั้นไว้
ชายหนุ่มมองดูเซี่ยชีหรั่นด้วยความหวาดกลัว:“คุณเป็นใครกันแน่”
เซี่ยชีหรั่นครุ่นคิดอย่างเคร่งขรึม พลางตอบว่า:“เป็นคนดี”
ค่อยๆเดินเข้าไปในห้องรับแขกอย่างเงียบเชียบ น้ำเสียงของเย่เชินหลินก็ดังออกมาจากโซฟา:“ได้ยินว่าวันนี้คุณผจญภัยมาไม่น้อย”
เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างราบเรียบ แต่เซี่ยชีหรั่นผู้ซึ่งผ่านการผจญภัยมาเมื่อครู่ก็ถูกเย่เชินหลินจัดการเสียจนเหลือเพียงครึ่งชีวิต
เซี่ยชีหรั่นเดินมาอยู่เบื้องหน้าของเย่เชินหลินอย่างกระตือรือร้นเพื่อรับผิด:“ขอโทษด้วยนะคะที่ฉันประหมาทเกินไป ต่อไปจะไม่ทำอีก”
เย่เชินหลินเลิกคิ้ว:“ยังมีครั้งต่อไปอีกเหรอ?”
เขาเคาะโต๊ะเบาๆ ไม่นานนัก จางเฟิงอี้ ก็พาชายจำนวนมากต่อแถวเข้ามา
ดวงตาของพวกผู้ชายเหล่านั้นถูกแปะด้วยพลาสเตอร์สีดำ เซี่ยชีหรั่นตะโกนร้องโดยไม่รู้สึกตัวว่า:“คุณพาพวกเขาทั้งหมดมาแล้วเหรอ”
เย่เชินหลินมองไปที่ชายที่เรียงแถวกันอยู่ กดเสียงลงต่ำพลางพูดขึ้นว่า: “หากต้องการให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด วิธีที่ดีที่สุดก็คือต้องกวาดพวกเขาให้เรียบไม่เหลือ”
รูปถ่ายที่จางเฟิงอี้ยื่นให้ เย่เชินหลินดูด้วยตนเองทีละรูปๆ แล้ววางรูปถ่ายที่อยู่ในมือลง โบกมือแล้วพูดขึ้นว่า:“ปล่อยไปให้หมด”
“ไม่มีรูปไหนที่ใช่เลยเหรอ?” ใจของเซี่ยชีหรั่นผิดหวังอย่างแรง
เย่เชินหลินไม่อาจฝืนทนที่จะโกหกเธอได้ พยักหน้า “ไม่มีใครที่ใช่เลย”
จางเฟิงอี้นำตัวพวกคนเหล่านั้นไป น้ำตาของเซี่ยชีหรั่นค่อยๆร่วงหล่นลงมา เนี่ยนโม่หายไปสี่วันแล้ว สีหน้าของเย่เชินหลินขรึมลงเรื่อยๆ ช่วงเวลาสำคัญเขาอาจต้องของความช่วยเหลือจากผู้ชายคนนั้น ใช้อำนาจที่มีมากกว่าของชายผู้นั้น
“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง”จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ไม่นานมากพ่อบ้านก็รีบร้อนหยิบโทรศัพท์อย่างรีบร้อน พร้อมกับทำรูปปากว่า:“คุณหนู”
เย่เชินหลินยกคิ้วขึ้น สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากสักเท่าไหร่ สายตาก็กลับเข้าสู่ความเย็นชาอีกครั้ง กุมมือเซี่ยชีหรั่นที่ร้อนรนจนอยู่ไม่สุข เย่เชินหลินกำชับขึ้นว่า:“เปิดลำโพง”
“หม่ามี๊!”เสียงของเย่เนี่ยนโม่ลอดผ่านโทรศัพท์อย่างชัดเจน
“เนี่ยนโม้ หม่ามี๊อยู่นี่!”เซี่ยชีหรั่นรีบลุกไปที่โทรศัพท์อย่างรีบร้อน
“นายหญิงเซี่ย คุณชายเย่”เสียงแปลกๆดังออกมาจากโทรศัพท์
เย่เชินหลินรู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามทำการดัดเสียง จึงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า:“พูดเข้าเรื่องมาเลย”
ฝ่ายตรงข้ามนึกไม่ถึงว่าเย่เชินหลินจะมีปฏิกิริยาตอบกลับเย็นชาขนาดนี้ แทบจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงพาลโกรธว่า:“ลูกชายของคุณอยู่ที่นี่กับผม ทางที่ดีคุณพูดให้มันดีๆกับผมหน่อยนะ”
เย่เชินหลินพูดขึ้นอย่างเงียบสงบว่า:“หากเย่เนี่ยนโม่เป็นอะไรไปแม้แต่ปลายเล็บ ผมจะให้คุณได้รับความเป็นปวดเป็นการตอบแทนอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลย อย่ามัวพูดพล่ามอยู่ พูดเข้าเรื่องเลยดีกว่า”
ราวกับชายคนนั้นขาดการติดต่อไปพักหนึ่ง นานจนเซี่ยชีหรั่นคิดว่าฝ่ายตรงข้ามได้วางสายไปแล้ว:“สามสิบล้านดอลล่า ให้เซี่ยชีหรั่นนำมาที่ สวนสาธารณะแจซิง ด้วยตนเอง”เสียงของชายผู้นั้นดังขึ้นอีกครั้ง
คิ้วของเย่เชินหลินขมวดขึ้น เตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“หากทำร้ายเย่เนี่ยนโม่ ผมจะทำให้คุณตายเพียงคนเดียว หากทำร้ายเซี่ยชีหรั่นทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ที่เกี่ยวข้องกับคุณต้องจากไปทุกคน คุณคิดดีแล้วใช่ไหม?”
ชายคนนั้นคิดไม่ถึงเลยว่าเย่เชินหลินจะมีท่าทีกำเริบเสิบสานแบบนี้ จึงพูดขึ้นอย่างแข็งนอกอ่อนใน:“สรุปแล้วก็ให้เซี่ยชีหรั่นมาคนเดียวก็แล้วกัน”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset