สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1249 สาวใช้ของคุณชายเย่ 1149

บทที่ 1249 สาวใช้ของคุณชายเย่ 1149
“เหมือนว่าฉันจะเคยเจอคุณมาก่อนนะคะ” เซี่ยชีหรั่นมองชายหนุ่มสวมแว่นไร้กรอบที่ท่าทางสุภาพเรียบร้อยตรงหน้า
“ผมก็มักจะเห็นคุณบนนิตยสารบ่อยๆ” ชายหนุ่มหยอกเย้า ทำให้ความรู้สึกคลื่นไส้ของเซี่ยชีหรั่นดีขึ้นเล็กน้อย
“อากาศในสวนค่อนข้างจะดีกว่า ต้องการให้ผมไปเดินเล่นเป็นเพื่อนคุณหรือไม่” สายตาของชายหนุ่มมีความชื่นชมและแววทอดถอนใจโดยไม่มีการอำพราง
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า “ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ ฉันไปเองก็ได้แล้ว” เห็นฝีเท้าเซี่ยชีหรั่นที่จากไปอย่างเร่งรีบแล้ว ชายหนุ่มก็ยิ้ม พึมพำว่า “จะต้องได้เจอกันอีกแน่นอน”
เย่เชินหลินคิ้วขมวดกวาดตามองผ่านฝูงชนด้วยความสงบเยือกเย็น ดูเหมือนว่าเงาร่างของเซี่ยชีหรั่นจะไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ แสงไฟมืดสลัวลงกะทันหัน พิธีกรเอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า
“ลำดับต่อมาจะเป็นห้านาทีในความมืด ทุกคนมีโอกาสสามนาทีในการหาคู่ของตัวเองคนนั้น หลังจากที่แสงไฟมืดลงแล้ว ถึงแม้ว่าจะเลือกผิดก็ไม่สามารถเปลี่ยนคนได้แล้วนะครับ เวลา 5 นาทีนี้อยากจะทำอะไรล้วนได้หมด”
“เซี่ยชีหรั่นจัดอะไรขึ้นมาเนี่ย!” หลินหลิงหน้าแดงระเรื่อ ไห่ลี่หมินโอบรอบเอวของหลินหลิง เอ่ยเย้าว่า “ผมคิดว่าไม่เลวเลย”
แสงไฟสีฟ้าขยับไปมาภายในห้อง เย่เชินหลินเห็นเซี่ยชีหรั่นที่ดูเหมือนว่ากำลังมองมาที่ตัวเองยืนอยู่ไม่ไกล จึงเดินอ้อมผู้คนไปโอบหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง แสงไฟทั้งหมดล้วนมืดสนิท
ป่าเอ๋อร์สัมผัสได้ถึงความรู้สึกตื่นเต้นที่เย่เชินหลินอยู่ใกล้แค่เอื้อม มือของฝ่ายตรงข้ามยังคงเกาะเกี่ยวอยู่ที่เอวของตัวเอง ดูเหมือนว่าจะสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของเย่เชินหลินด้วย
ป่าเอ๋อร์ยื่นมือที่สั่นระริกทั้งสองข้างไปโอบรอบคอเย่เชินหลิน เคลื่อนริมฝีปากเข้าไปเล็กน้อย ร่างกายสั่นเบาๆ ในที่สุดเธอก็ได้จูบผู้ชายคนนี้แล้ว
“คุณมั่นใจว่าจะทำแบบนี้แน่หรือ” เย่เชินหลินเล่นปอยผมของป่าเอ๋อร์พลางเอ่ยถามเบาๆ
ป่าเอ๋อร์มองความคิดของเย่เชินหลินไม่ออก จึงทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ตรงนั้น เย่เชินหลินกุมมือป่าเอ๋อร์เอาไว้แล้วเคลื่อนไหว จู่ๆก็ออกแรงหมุนป่าเอ๋อร์ไปข้างๆท่ามกลางความมืด
มีเสียงด่าว่าดังขึ้นเสียงแล้วเสียงเล่าภายในความมืด แสงไฟสว่างขึ้น ป่าเอ๋อร์ไม่รู้ว่าชนเข้ากับโต๊ะได้อย่างไร เหตุการณ์ในสถานที่นี้อลหม่านเป็นอย่างมาก
หวังเฉิงมองป่าเอ๋อร์อย่างไม่สบอารมณ์ครั้งหนึ่ง ขยี้เท้าแล้วไม่สนใจลูกสาวที่ไม่ได้ความคนนี้อีก
“โอเคไหมครับ!” ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างประคองป่าเอ๋อร์เงียบๆ ป่าเอ๋อร์มองชายหนุ่มคนนี้แวบหนึ่ง ภายใต้แว่นไร้กรอบนั้นคือรอยยิ้มที่สุภาพนุ่มนวล
ป่าเอ๋อร์ดึงกระดาษซับหน้ามาจากมือของชายหนุ่ม โดยไม่กล้ามองปฏิกิริยาตอบสนองของผู้คนรอบด้าน ยกกระโปรงขึ้นและพุ่งตัวออกไปจากห้อง
เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่บนเก้าอี้มองดวงดาวบนท้องฟ้าของรีสอร์ต เย่เชินหลินค่อยๆโค้งตัวลงเอียงหน้าไปจูบริมฝีปากของเซี่ยชีหรั่น “ไปที่ไหนมาหรือ”
เซี่ยชีหรั่นตอบอย่างรู้สึกผิดว่า “เมื่อครู่นี้รู้สึกว่าท้องไม่ค่อยสบาย ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าไปค่ะ”
เย่เชินหลินใช้มือใหญ่ช่วยลูบให้เซี่ยชีหรั่นผ่อนคลายมากขึ้นอย่างเข้าใจ แต่จู่ๆก็ทำท่าเชื้อเชิญออกมา “ยินยอมจะเต้นรำกับผมสักเพลงหรือไม่”
แสงจันทร์สาดสองลงบนร่างของเย่เชินหลินทำให้เกิดเงายาว เซี่ยชีหรั่นยกมุมปากขึ้นเงียบๆ เย่เชินหลินโอบกอดเซี่ยชีหรั่นอย่างเบามือ เหมือนปฏิบัติต่อของล้ำค่า ไม่มีเสียงเพลง เซี่ยชีหรั่นเต้นรำไปตามการชักนำของเย่เชินหลิน
ป่าเอ๋อร์มองคนสองคนที่งดงามภายใต้แสงจันทร์แล้ว น้ำตาก็รินไหลลงมาอย่างอดไม่อยู่ ในแรกเริ่มนั้นเพียงแค่เข้าใกล้เย่เชินหลินอย่างหยิ่งยโส แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเข้าแล้วจริงๆ
“พวกเขาสองคนเหมาะสมกันมาก” ชายหนุ่มที่สวมแว่นไร้กรอบมองไปทางสองคนนั้นที่โอบกอดกันและกันอยู่บนสนาม พลางเอ่ยยิ้ม “ผมชื่อโยวจื๋อ”
“ฉันไม่ได้สนใจว่าคุณจะชื่ออะไร!” ป่าเอ๋อร์ปาดน้ำตา เอ่ยเหยียดหยาม
โยวจื๋อเอ่ยอย่างลึกซึ้งว่า “เย่เชินหลินไม่ชอบผู้หญิงนิสัยแบบนี้” ป่าเอ๋อร์นั้นเหมือนกับถูกเหยียบเข้าที่หางจึงผลักโยวจื๋ออย่างแรงครั้งหนึ่ง “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะจัดการเซี่ยชีหรั่นไม่ได้!”
ท่ามกลางความฝัน จางห้านรู้สึกว่ามีคนเกาะเกี่ยวตัวเองอยู่ ทั้งยังสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ไม่ได้เป็นของตัวเองอย่างเลือนราง จากนั้นก็ผล็อยหลับไป
“ป่าเอ๋อร์! คุณ……คุณ…….” จางห้านมองป่าเอ๋อร์ที่มีเพียงแค่ผ้าห่มห่อตัวอยู่ เผยหัวไหล่เปลือยเปล่าออกมาแล้วเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก
นัยน์ตาของป่าเอ๋อร์รื้นน้ำตา หน่วยตาแดงระเรื่อ พลางเอ่ยว่า “เมื่อวานนี้คุณเมา บังคับลากฉันมาที่ห้องของคุณ”
จางห้านนึกถึงเมื่อวานนี้ ตัวเองดื่มเหล้าเยอะมากเพราะป่าเอ๋อร์จริงๆ เอ่ยกับป่าเอ๋อร์อย่างรู้สึกเสียใจในสิ่งที่กระทำลงไป “ทำไมคุณถึงไม่ฟาดผมให้มีสติล่ะ”
ป่าเอ๋อร์เอ่ยอย่างน้อยใจว่า “คุณตามจีบฉันมานานขนาดนี้ ฉันคิดว่า ถ้าหากว่าคบกับคุณก็ไม่เลว เพียงแต่ว่า หลังจากนี้คุณจะต้องรักและทะนุถนอมฉันอย่างดี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องฟังฉัน”
จางห้านอ้ำอึ้งรับปาก “คุณวางใจเถอะ เป็นผมที่ทำผิดต่อคุณ ผมจะรับผิดชอบแน่นอน”
“อย่างนั้นก็ดี……..ฉันต้องการให้คุณทำเรื่องหนึ่ง” ป่าเอ๋อร์เขยิบเข้ามาใกล้จางห้าน เอ่ยแผนการของตัวเองเบาๆข้างหูจางห้าน
ตกดึก เงาร่างหนึ่งบิดหลบกล้องวงจรปิดทั้งหมดภายในรีสอร์ต และโยนวิดีโอแต่ละม้วนเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบ
เซี่ยชีหรั่นมองคนที่แอบมองตัวเองเงียบๆแต่ละคนด้วยความประหลาดใจ เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะเอ่ยว่า “พวกคุณเป็นอะไรกันหรือ”
“ไม่มีอะไรครับ” คนนั้นยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน หลังจากนั้นก็รีบเดินจากไป “ชีหรั่น!” ไห่ลี่หมินเรียกเซี่ยชีหรั่นจากด้านหลังด้วยสีหน้าวิตกกังวลเล็กน้อย
“คุณได้ยินอะไรหรือไม่” ไห่ลี่หมินมองเซี่ยชีหรั่นอย่างเคร่งเครียด
เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างสงสัย “ได้ยินอะไรหรือ แต่ฉันรู้สึกว่าวันนี้ทุกคนดูเหมือนว่าจะแปลกมากจริงๆ!”
ไห่ลี่หมินเขกศีรษะเซี่ยชีหรั่น เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “กำลังคิดอะไรอยู่ พอตั้งครรภ์แล้วจึงได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจง่ายขึ้นใช่หรือไม่ หลินหลิงต้องจัดการเรื่องบางอย่าง ฉันอยากจะขอให้เธอช่วยดูแลโจ๋ซวนสักหน่อยได้ไหม”
“ได้แน่นอน ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาโจ๋ซวนกับเนี่ยนโม่ไปเล่นในสวน” เซี่ยชีหรั่นทำท่าจะโทรศัพท์หาผู้ดูแลให้พาเนี่ยนโม่และโจ๋ซวนมา ไห่ลี่หมินรีบหยุดเซี่ยชีหรั่น พลางเอ่ยว่า “โจ๋ซวนเป็นหวัดเล็กน้อย เล่นอยู่ในห้องจะดีกว่า”
ไห่ลี่หมินมองเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในห้องเนี่ยนโม่และโจ๋ซวนแล้ว ก็เอ่ยกับบริกรที่อยู่ด้านข้างอย่างจริงจังว่า “ระวังปากของพวกนายให้ดี ถ้าหากว่าคุณเซี่ยออกมาจากห้องล่ะก็ ต้องรีบแจ้งฉันหรือเย่เชินหลินให้ทราบทันที”
ในวิดีโอนั้น หญิงสาวหันหลังให้กับกล้อง เส้นผมยุ่งเหยิง บนเก้าอี้มียกทรงตัวหนึ่งแขวนอยู่พอดี บนนิ้วของหญิงสาวมีแหวนอยู่วงหนึ่ง แหวนก็ขยับไปมาตามจังหวะเคลื่อนไหวของชายหนุ่ม
ภายใต้แสงไฟอันมืดสลัวนั้น เห็นแค่ใบหน้าครึ่งเดียวของชายหนุ่ม ชายหนุ่มคนนั้นขยับไปมา พลางตะโกนเรียกชื่อของคนคนหนึ่งออกมา “เซี่ยชีหรั่น!”
แหวนและยกทรงล้วนเป็นของเซี่ยชีหรั่นไม่ผิดแน่ อย่างนั้นชายหนุ่มและหญิงสาวที่อยู่ในกล้องนี้ก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรขนาดนั้น เพียงแค่ต้องการรู้ว่าคลิปวิดีโอนี้พุ่งเป้าไปที่เซี่ยชีหรั่นก็พอแล้ว
ตอนที่ไห่ลี่หมินเปิดประตูดูเนื้อหาในคลิปวิดีโอนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหน้าขึ้นสี สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่า ตอนที่เขาเปิดวิดีโอขึ้นมานั้นตกตะลึงมากเพียงใด และปิดวิดีโอนี้ลงตามจิตใต้สำนึก จนกระทั่งหลินหลิงชี้ว่าคนคนนั้นไม่ใช่เซี่ยชีหรั่นอย่างแน่นอน
เย่เชินหลินมองเรือนร่างของคนสองคนที่เกี่ยวกระหวัดกันไม่หยุดบนคลิปวิดีโอแล้ว มือที่อยู่บนที่เท้าแขนก็บีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันจะไปหาบันทึกกล้องวงจรปิดของเมื่อคืนวาน” ไห่ลี่หมินรู้ว่าโทสะของเย่เชินหลินนั้นพุ่งไปถึงจุดสูงสุดแล้ว
“ไม่ต้องแล้ว เธอล่ะ” เย่เชินหลินปิดวิดีโอ พลางเอ่ยถาม
ไห่ลี่หมินตอบ “กำลังเล่นเป็นเพื่อนโม่เนี่ยนและโจ๋ซวน ตอนนี้เธอยังไม่รู้”
“รวบรวมวิดีโอทั้งหมดเอาไว้” เสียงของเย่เชินหลินเย็นยะเยือก ไห่ลี่หมินถอนหายใจ “เก็บรวบรวมหมดแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ทุกคนล้วนรู้แล้ว ถ้าหากว่าหลุดออกไป จะถูกคนที่ไม่รู้เรื่องราวสร้างกระแสเอาได้ จัดการยากมาก”
เย่เชินหลินเคาะที่วางแขนเบาๆด้วยความเร็วที่ช้าลงเรื่อยๆ ครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยอย่างลึกซึ้งว่า “คิดอยากจะแก้ไขปัญหานี้ ต้องฟื้นฟูสภาพการณ์ให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ปิดเส้นทางเอาไว้ เพื่อไม่ให้เล็ดรอดออกไป”
เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่บนเก้าอี้ ฟังเย่เนี่ยนโม่บรรเลงเปียโน ไห่โจ๋ซวนก่อกวนอยู่ด้านข้าง กดแป้นลงไปอย่างสุ่มๆหนึ่งปุ่ม เสียงเสียดหูก็ดังขึ้นมา เย่เนี่ยนโม่เบะปากอย่างไม่พอใจ “นายชั่วร้าย!”
“ฉันก็สามารถบรรเลงเพราะๆได้นะ!” ไห่โจ๋ซวนวางมือคู่เล็กลงบนแป้นเปียโนแล้วบรรเลงเพลงโชแปงออกมาเพลงหนึ่ง
เซี่ยชีหรั่นมองเด็กทั้งสองคนอย่างอ่อนโยน ยิ้มพลางเอ่ยถามว่า “พวกหนูยอดเยี่ยมขนาดนี้แล้ว หลังจากนี้จะต้องมีเด็กสาวมาชอบพวกหนูมากมายแน่นอน”
“ผมไม่ชอบให้ผู้หญิงมาชื่นชอบหรอก ผมต้องการหม่ามี้” เย่เนี่ยนโม่เอ่ยอย่างจริงจัง ไห่โจ๋ซวนหันหน้าไปถาม “ความชอบคือต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหรือครับ”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า “ใช่แล้ว ดังนั้นถ้าหลังจากนี้ชอบเด็กผู้หญิงคนไหน จะต้องพยายามไขว่คว้าเอาไว้ ถ้าคลาดกันไปแล้วก็ไม่มีแล้วนะ” เซี่ยชีหรั่นคิดไม่ถึงเลยว่า คำพูดของตัวเองจะเป็นการเปิดฉากความวุ่นวายโกลาหลในชีวิตของเด็กทั้งสองคนนี้ในภายหลัง
ภายในห้องโถงกว้างใหญ่ รอบด้านมีบอร์ดี้การ์ดจำนวนมากเฝ้ารักษาการณ์ โดยไม่อนุญาตให้ใครสักคนเข้ามาหรือออกไป เย่เชินหลินมองด้านล่างเวทีที่เงียบเชียบอย่างทะมึน พลางเอ่ยว่า
“ผมรู้ว่าเมื่อวานนี้พวกคุณอาจจะได้รับของขวัญชิ้นหนึ่ง และในวันนี้เพียงแค่ต้องการจะบอกพวกคุณว่าให้พวกคุณลบความทรงจำเมื่อวานนี้ไปให้หมด”
สายตาของเย่เชินหลินกวาดมองด้านล่าง และหยุดอยู่ที่ร่างของป่าเอ๋อร์ชั่วครู่ ป่าเอ๋อร์คิดจะเบียดตัวไปด้านหลังอย่างร้อนตัว แต่แผงอกของคนทางด้านหลังปิดกั้นเส้นทางไปของเธอ โยวจื๋อมองขึ้นไปบนเวที เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “กล้าทำก็ต้องแสร้งทำท่าทางกล้าหาญออกมาให้ถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นจะมีพิรุธได้ง่ายนะ”
“คุณอย่าพูดจาเหลวไหลจะดีที่สุด!” ป่าเอ๋อร์ถลึงตาใส่โยวจื๋ออย่างดุร้าย ยืดออกขึ้น มองกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ สายตาของเย่เชินหลินมองไปทางอื่นนานแล้ว
“เย่เชินหลิน อย่าอาศัยว่า ตอนนี้คุณมีเงิน มีอิทธิพลแล้วจะสามารถทำตามอำเภอใจได้นะ ปัจจุบันนี้เป็นสังคมที่ยึดถือระบอบกฎหมายแล้ว คุณทำแบบนี้เป็นการข่มขู่และกักขัง!” ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนออกมาท่ามกลางฝูงชนอย่างมีโทสะ
หวังเฉิงส่งสายตาชื่นชมให้กับชายคนนั้น เย่เชินหลินเกลียดอาจารย์ลุงของตัวเองขนาดนั้น ในเมื่อเขาทำแบบนี้ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะทำแบบนี้เช่นกัน เมื่อคืนวานนี้ได้วางแผนร่วมมือกับเพื่อนเก่าบางส่วนให้เย่เชินหลินมีสภาพดูไม่ได้ แล้วตัวเองก็จะก้าวออกมาช่วยเย่เชินหลินแก้ไขวิกฤต  
“หลานชาย ไม่อย่างนั้นหลานก็ยอมอ่อนลงสักหน่อย เอ่ยขอโทษกับลุงจางก็ได้แล้ว เรื่องนี้พวกเราสามารถเข้าใจได้” หวังเฉิงก้าวขึ้นมาพูด ยิ้มร่าเริง
เย่เชินหลินกวาดตามองหวังเฉิงอย่างเย็นชา พลางเอ่ยว่า “เมื่อครู่นี้ผมบอกว่าให้คุณลืมเรื่องเมื่อวานทั้งหมดไปเสีย”
หวังเฉิงอ้ำอึ้งอยู่ชั่วครู่ ก็ปิดปากไม่พูดอะไร พลางส่งสายตาให้เพื่อนสนิทที่มีเจตนาก่อกวนครั้งหนึ่ง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset