สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1252 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1152

บทที่ 1252 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1152
คำพูดของโยวจื๋อทำให้เซี่ยชีหรั่นลูบท้องตัวเองทันที หน้าท้องที่นูนออกมาทำให้เธอรู้สึกใจสงบ ในท้องของเธอยังมีอีกชีวิตหนึ่งที่พึ่งพาตัวเอง ตัวเธอไม่สามารถจะล้มลงไปทั้งอย่างนี้ได้
“รบกวนคุณช่วยเรียกเย่เชินหลินเข้ามาได้ไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นพูดกับโยวจื๋อพลางยิ้มบางๆโยวจื๋อมองหญิงสาวที่คล้ายกับว่าไม่มีความโมโหตรงหน้าด้วยสีหน้าท่าทางซับซ้อน ปิดบังอาการตกตะลึงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเอาไว้ ดันแว่นไร้กรอบ พูดยิ้มๆว่า “แน่นอนว่าได้ครับ”
ตอนที่เย่เชินหลินเข้ามา เซี่ยชีหรั่นก็กำลังมองดูบุปผาที่ยังไม่ผลิดอกแย้มบานด้านนอกลาน เย่เชินหลินยืนอยู่เบื้องหน้าเซี่ยชีหรั่น ให้สายตาของฝ่ายตรงข้ามสามารถมองเห็นเพียงแค่ตัวเอง บดบังวิวทิวทัศน์และแสงในวสันตฤดูทั้งหมดเอาไว้
“เย่เชินหลิน ฉันต้องการพบผู้หญิงคนนั้นค่ะ” เซี่ยชีหรั่นเอ่ย เปลี่ยนท่าทางให้สบาย
“ไม่ได้!” เย่เชินหลินคิ้วขมวด อารมณ์ของเซี่ยชีหรั่นแปลกจริงๆ หรือว่าหลังจากที่ได้เห็นเทปบันทึกวิดีโอแล้ว เธอยังพบกับปัญหาอื่นๆอีก สิ่งเหล่านี้วนเวียนพิจารณาอยู่ในสมองของเย่เชินหลินรอบแล้วรอบเล่า
“เย่เชินหลิน ให้ฉันได้พบกับเธอเถอะค่ะ ฉันจะต้องถามให้ชัดเจนให้ได้ว่าเธอทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันแน่ ฉันไม่อยากคุณฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ” มือเซี่ยชีหรั่นลูบหน้าท้องตัวเองช้าๆ หลังจากนั้นก็ออกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
มือใหญ่คว้ามือข้อมือเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ทันที เย่เชินหลินหน้าเขียวคล้ำ ถามอย่างโหดเหี้ยมว่า “คุณรู้ไหมว่าตัวคุณกำลังทำอะไรอยู่”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มเฝื่อน คิดในใจเงียบๆว่า ลูกน้อย หม่ามี๊ทำผิดต่อหนู แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับมีสีหน้าดุร้าย “ถ้าหากว่าคุณพ่อของเขาเป็นคนที่สามารถใส่ความผู้อื่นไปทั่ว ใช้อำนาจตามอำเภอใจ อย่างนั้น ฉันก็ยินยอมให้เขาไม่ต้องเกิดออกมาตลอดกาล!”
“คุณ!” เย่เชินหลินเงื้อมือขึ้น ไม่เคยมีใครกล้าถามเขาจนถึงขั้นปฏิเสธเขาทั้งหมดแบบนี้มาก่อน
“ฉันต้องการพบเธอ!” เซี่ยชีหรั่นมองมือที่เงื้อสูงอยู่กลางอากาศ เอ่ยอย่างแน่วแน่ ด้านนอกประตู โยวจื๋อยิ้มน้อยๆและจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลิน หลังจากที่คนมากมายได้พบกับเคราะห์ร้ายขนาดนั้น โลกใบนี้จะยอมให้พวกคุณมีความสุขได้อย่างไรกัน
ภายในห้องที่มืดสลัว หญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บคลานมาถึงหน้าเซี่ยชีหรั่นอย่างยากลำบาก “ฉันเป็นผู้บริสุทธิ์ ขอให้พวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคลิปวิดีโอพวกนั้นมาจากที่ไหน”
มุมปากของหญิงสาวล้วนเต็มไปด้วยเลือด ชายคนนั้นพูดว่า ขอเพียงแค่เห็นเซี่ยชีหรั่น ก็สามารถพลิกเรื่องราวทั้งหมดได้ แบบนี้เธอก็สามารถได้เงินจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของลูกก็มีแล้ว
เย่เชินหลินที่นั่งอยู่ด้านข้างนั้น นอกจากสายตาที่ทอประกายแห่งความเป็นปรปักษ์อย่างสุดซึ้งออกมา ก็คล้ายกับว่าไม่แยแสต่อคำพูดของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย “ในเมื่อคุณไม่ได้ทำ ทำไมก่อนหน้านี้ถึงได้ยอมรับล่ะ” กลิ่นคาวเลือดบนตัวหญิงสาวทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่สบายตัวอยู่บ้าง
“ฉันไม่ได้ยอมรับนะคะ ฉันไม่ได้ทำจริงๆ ฉันถูกใส่ร้าย!” หญิงสาวมองเย่เชินหลินด้วยความระมัดระวังครั้งหนึ่ง เอ่ยพูดกับเซี่ยชีหรั่นเสียงดัง
“คุณมีหลักฐานไหม” เซี่ยชีหรั่นรู้สึกได้ว่าห้องห้องนี้ทำให้เธอหายใจไม่ออก จู่ๆก็ไม่อยากสืบค้นต่อไปแล้ว
“ฉันจะมีหลักฐานอะไรได้ คุณเซี่ยคะ คุณเป็นคนจิตใจดีที่สุด จะต้องไม่มองดูฉันถูกใส่ร้ายโดยไม่ทำอะไรเลยแน่นอน” หญิงสาวมองเซี่ยชีหรั่นอย่างร้อนรน
เซี่ยชีหรั่นมองหญิงสาวที่หมอบอยู่แทบเท้าตัวเองด้วยความสงสาร อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยตัวเองในใจ คนจิตใจดีอย่างตัวเองได้ใช้ลูกสาวมาทำการบีบบังคับ น่าขบขันเสียจริง เธอเอ่ยพูดกับหญิงสาวเรียบๆว่า “ฉันรู้ว่าคนร้ายไม่ใช่คุณ แต่ฉันก็รู้เช่นกันว่าคุณไม่ได้พูดความจริง คุณประเมินฉันต่ำเกินไปแล้ว
เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นยืน โดยไม่หันไปมองเย่เชินหลิน และประคองท้องจากไปด้วยตัวคนเดียว พร้อมกับเสียงประตูที่ปิดลงอย่างแผ่วเบา หญิงสาวมองเย่เชินหลินด้วยความหวาดกลัว ทำไมเรื่องทั้งหมดจึงไม่เหมือนกับที่ผู้ชายคนนั้นพูดเอาไว้เลยสักนิดเดียว
“คุณรู้ไหมว่า ความผิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณก็คือเชื่อคนผิด ขอร้องผิดคน” เย่เชินหลินมองดูหญิงสาวจากที่สูง สายตาเย็นยะเยือก
“ไม่ๆ ฉันพูดแล้วๆ ครั้งนี้ฉันพูดความจริง” หญิงสาวตัดสินใจปกป้องตัวเอง
เย่เชินหลินใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก น้ำเสียงแข็งเล็กน้อย “ในเมื่อตอนแรกให้โอกาสคุณแล้ว คุณไม่พูด ผมคิดว่า หลังจากนี้ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอ้าปากพูดอะไรแล้ว” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวถูกอุดเอาไว้
“สวัสดีค่ะคุณเซี่ย”
“คุณเซี่ย”
เซี่ยชีหรั่นก้าวเดินอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางมีผู้คนเอ่ยทักทายตัวเองไม่หยุด แต่สายตาของพวกเขากลับทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกทุกข์ทรมาน ราวกับว่าตัวเองถูกปอกเปลือกออกจนเปลือย
เงาร่างอันคุ้นเคยที่อยู่ไม่ไกลกำลังย้ายกระถางต้นไม้ในแปลงดอกไม้ เซี่ยชีหรั่นปรับอารมณ์ความรู้สึก ก้าวขึ้นไปข้างหน้า พลางเอ่ยทักทาย “จางห้าน ไม่เจอกันนานเลยนะ ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
กระถางต้นไม้ในมือจางห้านร่วงลงพื้นทันที เห็นเซี่ยชีหรั่นแล้ว จางห้านก็รีบก้มหน้าให้กับหญิงสาวคนนี้ สุดท้ายแล้วเขาก็กอดความรู้สึกละอายเอาไว้ แต่ในสายตาของเซี่ยชีหรั่นกลับมองว่าทั้งหมดนี้เป็นการยอมรับเกี่ยวกับเรื่องเทปวิดีโอบันทึกนั้นไปโดยปริยาย
“คุณก็ดูแล้วหรือ” เซี่ยชีหรั่นถามเสียงเรียบ มือที่อยู่ข้างหลังกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ
จางห้านตะลึงค้าง เพิ่งจะนึกได้ว่าเซี่ยชีหรั่นถามถึงเรื่องอะไร จึงโบกมือส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ไม่ๆ ผมยังไม่ได้ดู อะไรผมก็ไม่เห็นทั้งนั้น”
เซี่ยชีหรั่นหมุนตัวจากไปอย่างเย็นชา การพยายามปกปิดของฝ่ายตรงข้ามทำให้เธอรู้สึกอับอายมากยิ่งขึ้น แสงอาทิตย์ยามบ่ายทำให้ตัวเซี่ยชีหรั่นชื้นไปด้วยเหงื่อ แขนข้างหนึ่งจากด้านหลังดึงเซี่ยชีหรั่นมุ่งหน้าไปยังสถานที่ให้ร่มเงา เสียงของโยวจื๋อเย็นชาเล็กน้อย “ไม่ต้องการเด็กแล้วหรือ”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกถึงท่าทีเย็นชาของฝ่ายตรงข้าม ก็รอจนเดินไปถึงสถานที่เย็นโล่ง โยวจื๋อคล้ายกับว่าเปลี่ยนกลับไปเป็นคุณหมอที่ยิ้มแย้มอารมณ์ดีคนนั้นอีกแล้ว “ในฐานะคุณแม่ ตอนกลางวันไม่สามารถตากแดดได้ อยากจะรับวิตามินจากแสงอาทิตย์ ให้เลือกช่วงตอนเช้า 8 โมงจะดีที่สุด”
เซี่ยชีหรั่นมองโยวจื๋อ ภาพลักษณ์เย็นชาของโยวจื๋อที่อยู่ในสมองก็ถูกทำลายไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื้นตันใจว่า “ขอบคุณค่ะ หมอโยว”
โยวจื๋อยิ้ม ดันกรอบแว่น พลางเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ผมเป็นคุณหมอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ผมควรทำ คุณเย่น่าจะกำลังตามหาคุณนะครับ คุณรีบไปเถอะ”
โยวจื๋อมองเงาหลังเซี่ยชีหรั่นที่เดินจากไปก็กลับสู่ท่าทีแบบเดิม เมื่อครู่เห็นท่าทางโดดเดี่ยวของเซี่ยชีหรั่นแล้วจึงเสียอากัปกิริยาไป หลังจากนี้จะไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินที่ยืนอยู่หน้าบานกระจกเงียบๆ เย่เชินหลินกำลังถ่ายทอดคำสั่งให้กับจางเฟิงอี้ ทุกประโยคเย็นยะเยือกและเยียบเย็นจนคล้ายกับว่าไร้ความรู้สึก
“มานี่” เมื่อมองเห็นเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินก็ประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็กระดิกนิ้วเรียกเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นถอยหลังไปหลายก้าว หมุนตัวจะจากไป
“ถ้าหากว่าคุณไป สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณจะไปจากคุณ” เสียงชัดเจนของเย่เชินหลินลอยผ่านประตูเข้ามา
เซี่ยชีหรั่นยิ้มเฝื่อน มองชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสและมีการเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี “ถ้าฉันพูดว่าคุณเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับฉัน แบบนั้นคุณจะไปจากฉันไหมคะ”
“ผมสำคัญที่สุดหรือ” เย่เชินหลินคล้ายกับยืนยันความจริงในประโยคนี้ หลังจากนั้นก็หัวเราะออกมา “ถ้าหากว่าผมสำคัญที่สุดล่ะก็ คุณคงไม่คิดถึงเนี่ยนโม่ก่อนในทุกๆเรื่องหรอก ถ้าหากว่าผมสำคัญที่สุด ก็คงไม่เทียบไม่ได้แม้กระทั่งผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ฝ่ายตรงข้ามพูดอะไร คุณก็เชื่อไปหมด!”
เย่เชินหลินคำรามเสียงต่ำ ข่มความคิดที่อยากจะดึงตัวเซี่ยชีหรั่นเข้ามาอย่างหยาบคายไม่ได้ แก้แค้นโดยการทับร่างฝ่ายตรงข้ามบนเตียง แต่มือกลับปกป้องท้องของเซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน
เซี่ยชีหรั่นเม้มริมฝีปากแน่น เย่เชินหลินมีโทสะอย่างน่าประหลาดใจ เขาขบกัดริมฝีปากคู่นั้นของเซี่ยชีหรั่นจนกระทั่งทั้งสองฝ่ายล้วนได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ
“ฉันไม่ต้องการเด็กคนนี้แล้ว” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยเรียบๆ
“คุณพูดอีกครั้งหนึ่งสิ!” เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นอย่างเย็นชา เซี่ยชีหรั่นลูบท้องตัวเองและเอ่ยซ้ำอีกรอบว่า “ถ้าหากว่าเด็กคนนี้ถือกำเนิดออกมาแล้วต้องเผชิญหน้ากับอุบายที่ต่างฝ่ายต่างหลอกลวงกันไปมามากมายแบบนี้ มารดาของเธออาจจะตกอยู่ในแผนการต่างๆนาๆ บิดาของเขาก็เป็นคนที่เลือดเย็นไร้ความรู้สึก แบบนั้นฉันยินยอมที่จะไม่ต้องการเด็กคนนี้!”
“เซี่ยชีหรั่น คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าไม่ต้องการลูกของผม” มือของเย่เชินหลินลูบท้องเซี่ยชีหรั่นเงียบๆ เอ่ยเตือนว่า “อย่าใช้วิธีการแบบนี้อีก ตลอดกาล!”
เซี่ยชีหรั่นมองดอกกุหลาบพันปีที่เบ่งบานนอกบานหน้าต่างแล้วก็ยิ้มออกมากะทันหัน “ถ้าหากว่าฉันไม่ต้องการ คุณจะหยุดยั้งฉันได้อย่างไรคะ”
นัยน์ตาเย่เชินหลินเต็มไปด้วยการเตือนอย่างจริงจัง “ผมจะล่ามตัวคุณเอาไว้ ให้สารอาหารไหลผ่านเข้าไปในร่างกายคุณ เพื่อที่เด็กจะได้เติบโตอย่างแข็งแรง คุณไม่มีโอกาสที่จะไม่ต้องการเธอ!”
“เหอะๆ!” เซี่ยชีหรั่นหัวเราะเสียงต่ำ หลังจากนั้นก็หัวเราะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆทั้งน้ำตา และเริ่มตบลงบนเตียงอย่างควบคุมไม่อยู่
“คุณหัวเราะอะไร” เย่เชินหลินยืดตัวตรง แววตาเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับว่าเซี่ยชีหรั่นที่เป็นแบบนี้มีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง
เซี่ยชีหรั่นปาดน้ำตา เอ่ยติดๆขัดๆว่า “เย่เชินหลิน คุณตลกเกินไปแล้ว ฉันขำจะตายแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นหัวเราะ พลางทุบตีท้องตัวเอง เย่เชินหลินจับมือของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ โทรศัพท์หาโยวจื๋อ “คุณมาที่นี่สักรอบเดี๋ยวนี้”
หลังจากที่โยวจื๋อรีบมาทันที เซี่ยชีหรั่นก็กำลังนั่งมองไปยังนอกหน้าต่างเงียบๆ ท่าทีสงบนิ่ง โทสะบนใบหน้าเย่เชินหลินยังไม่ทันจางหาย ก็เอ่ยสั่งเสียงเย็นว่า “ใช้วิธีการรักษาที่ดีที่สุดกับเธอ!”
โยวจื๋อย่นไหล่ มองไปทางเย่เชินหลินอย่างขลาดกลัวเล็กน้อย “คุณอย่าดุร้ายแบบนี้ได้ไหม ผมจะพยายามโอเคไหม”
เย่เชินหลินมองท่าทางที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของชายตรงหน้าแล้ว ก็มองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างไม่ชอบใจ นัยน์ตามีทั้งความสงสารและความไม่เข้าใจ หลังจากนั้นก็จากไป
“คุณหมอ ฉันไม่เป็นอะไร คุณไปเถอะค่ะ” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยเรียบๆ
โยวจื๋อถือเข็มฉีดยา เดินไปถึงหน้าเซี่ยชีหรั่นแล้วเอ่ยด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า “สองสามวันมานี้ อารมณ์คุณแปรปรวนมากเกินไปแล้วจริงๆ แบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อทารกในครรภ์จริงๆ ผมจะฉีดสารอาหารบางตัวให้คุณ มีประโยชน์ต่อสภาพจิตใจ”
เซี่ยชีหรั่นลูบท้องตัวเอง ปิดตาลงอย่างทรมาน “เด็กคนนี้ ฉันไม่ต้องการแล้ว!”
“ไม่ได้!” ปฏิกิริยาตอบสนองของโยวจื๋อที่เต็มไปด้วยโทสะนั้นทำให้เซี่ยชีหรั่นตะลึงค้าง หันหน้าไปมองโยวจื๋อด้วยความแปลกใจ
โยวจื๋อเสียงอ่อนลง “เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ ผมเห็นคุณแม่มากมายที่ใช้เหตุผลต่างๆนานๆมาเป็นข้ออ้างในการไม่ต้องการเด็ก แต่ว่าเด็กก็มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตนะครับ”
“สิทธิ์ในการมีชีวิตต่อไปหรือ” เซี่ยชีหรั่นพึมพำกับตัวเอง โยวจื๋อฉีดสารอาหารเข้าไปในหลอดเลือดดำ ในไม่ช้าจิตใต้สำนึกของเซี่ยชีหรั่นก็พร่ามัวลง โยวจื๋อมองเซี่ยชีหรั่นที่หลับลึกไป ก็พึมพำออกมาว่า “ยังไม่พอ เซี่ยชีหรั่น ความทรมานที่คุณได้รับนั้นยังไม่มากพอ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset