สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1255 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1155

บทที่ 1255 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1155
“ฉันไม่จำเป็นต้องให้อภัยคุณ” คำพูดของเซี่ยชีหรั่นทำให้ผู้คนโกลาหลขึ้นมา เจียเจียร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม เอ่ยด้วยเสียงสะอื้นว่า “ฉันทำถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังต้องการอะไรอีก!”
เซี่ยชีหรั่นคิดจะประคองให้เจียเจียลุกขึ้น เอ่ยเสียงเรียบว่า “แม้ว่าฉันจะไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาที่คุณพูด แต่ฉันเคารพสิทธิ์ในการพูดของคุณ ถ้าหากว่าฉันก็ทำแบบเดียวกัน แบบนี้ฉันกับคุณจะแตกต่างกันตรงไหน”
เจียเจียคิดจะยืดตัวขึ้น แต่ก็เห็นเย่เชินหลินที่มองมาทางตัวเองอย่างลึกซึ้ง จึงโค้งตัวให้เซี่ยชีหรั่นอีกทันที “ขอให้คุณให้อภัยฉันด้วยค่ะ!”
เซี่ยชีหรั่นประคองเจียเจียอย่างไร ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ยอมลุกขึ้น จึงหันหน้าไปเอ่ยกับเย่เชินหลินว่า “ปล่อยเธอไป!” เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่น เอ่ยเสียงเย็นว่า “คุณรู้หรือไม่ว่า คุณกำลังพูดอยู่กับใคร”
เซี่ยชีหรั่นถูกความเย็นชาของเย่เชินหลินทำให้ถอยไปก้าวหนึ่ง จากนั้นก็มองเย่เชินหลินด้วยนัยน์ตาที่ดื้อรั้น “สิ่งเหล่านี้ในวันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ ปล่อยเธอไปค่ะ!”
แววตาของเซี่ยชีหรั่นจริงจังมาก เย่เชินหลินจึงโบกมือให้เจียเจีย “ไป!”
เจียเจียรีบหมุนตัวไปจากเสี้ยววินาทีที่ทำให้เธอกระอักกระอ่วนจนชีวิตนี้ก็ลืมไม่ลงอย่างเร่งรีบ สายตาของเย่เชินหลินหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นตั้งแต่ต้นจนจบ จู่ๆก็เขยิบเข้าไปใกล้เซี่ยชีหรั่น เอ่ยเสียงเบา “คุณบอกผมสิว่า คุณต้องการอะไร”
“บางที ไม่ว่าอะไร ฉันก็ไม่ต้องการค่ะ” เซี่ยชีหรั่นเอ่ย
ป่าเอ๋อร์กำลังมองทั้งสองคนโต้เถียงกันอยู่อีกด้าน นัยน์ตาจับจ้องอยู่ที่ชุดราตรีบนตัวเซี่ยชีหรั่นตลอดเวลา เมื่อมองดูตัวเลขเล็กๆบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือแล้ว ในไม่ช้าช่วงเวลาแห่งการแสดงของเซี่ยชีหรั่นก็จะถึงแล้ว
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าตัวเองแตะโดนเกล็ดย้อนของเย่เชินหลินเข้าแล้ว ฝ่ายตรงข้ามสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่มือกลับล็อกที่เอวตัวเองแน่น
เซี่ยชีหรั่นบิดเอวไปมา คิดอยากจะดึงตัวออกมา เมื่อสบเข้ากับแววตาไม่สบอารมณ์เล็กน้อยของเย่เชินหลินเข้า เซี่ยชีหรั่นก็ถอนหายใจ เป็นฝ่ายโอนอ่อนให้ก่อน ตบลงที่แขนของเย่เชินหลิน “ฉันแค่อยากไปเข้าห้องน้ำสักรอบค่ะ”
การโอนอ่อนและการอธิบายของเซี่ยชีหรั่นทำให้อารมณ์ของเย่เชินหลินเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ปล่อยมือด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก และพยักหน้าเป็นสัญญาณให้กับเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นยกกระโปรงยาวเดินลงเวทีไป รู้สึกว่าซิปด้านหลังตัวเองค่อยๆปริออกจากกันช้าๆ เซี่ยชีหรั่นมองไปรอบด้านด้วยความตื่นตระหนกอย่างคนที่ทำอะไรไม่ถูก ทางไปห้องน้ำนั้นคนเยอะเกินไปแล้ว!
ปกคอเสื้อหลวมขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยชีหรั่นจำเป็นต้องใช้มือทั้งคู่จับปกคอเสื้อทั้งสองด้านเอาไว้ ใบหน้าแดงก่ำ จู่ๆก็มีเสื้อสูทตัวหนึ่งคลุมทับลงบนร่างเซี่ยชีหรั่น
“ผมจะประคองคุณไป” หุบเอ่ยพูดเสียงเบาข้างหูเซี่ยชีหรั่น
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าขอบคุณ มือทั้งสองข้างจับปกคอเสื้อ ตรึงให้อยู่กับที่ โยวจื๋อโอบไหล่เซี่ยชีหรั่นเดินไปทางห้องน้ำ เมื่อถึงห้องน้ำแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็รีบพุ่งตัวเข้าไป
รอยเย็บบริเวณปกคอเสื้อนั้นปริออกหมดแล้ว ถ้าโยวจื๋อไม่ได้คลุมเสื้อสูทไว้ที่หลังตัวเองได้ทันเวลาล่ะก็ เสื้อผ้าก็จะคลายตัวออกทั้งหมดในไม่ช้า “ต่อจากคลิปวิดีโอก็ต้องวิ่งเปลือยเสื้อผ้าต่อหน้าผู้คนหรือ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มเฝื่อน มองดูเสื้อผ้าที่พังแล้ว
โยวจื๋อรออยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำตลอด สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร ป่าเอ๋อร์พุ่งออกมาจากด้านข้างอย่างมีโทสะ “คุณทำอะไรกันแน่ ไม่ง่ายเลยที่ฉันจะมีโอกาสทำให้เธออับอายต่อธารกำนัล คุณคิดดูนะ เดินๆแล้วเสื้อผ้าก็ถูกดึงออกจากกัน จะตลกมากแค่ไหน แต่ว่าคุณดูสิว่าคุณทำอะไรลงไป!”
มีเสียงปึกดังขึ้นที่ข้างกำแพง ป่าเอ๋อร์ปิดปากทันที มองโยวจื๋อที่เก็บมือกลับมาจากกำแพงอย่างเชื่องช้า โยวจื๋อมองป่าเอ๋อร์ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก พลางเอ่ยว่า “ถ้าหากว่าวันนี้คุณทำให้เซี่ยชีหรั่นอับอายครั้งหนึ่ง เย่เชินหลินสามารถหาแหล่งที่มาจากเครื่องแต่งกายได้ง่ายมาก อ้างอิงจากเบาะแสบางอย่างก็สามารถหาตัวคุณพบ คุณคิดว่าคุณจะยังมีชีวิตอยู่อีกหรือ!”
ในหัวของป่าเอ๋อร์มีเสียงระเบิดดังขึ้น ใช่แล้ว ขอเพียงแค่นักออกแบบคนนั้นบรรยายรูปร่างหน้าตาของตัวเองสักหน่อย ถึงตอนนั้นตัวเองก็จะถูกเปิดเผยออกมา จึงมองขอความช่วยเหลือไปทางโยวจื๋ออย่างอ้ำๆอึ้งๆ “อย่างนั้นฉันจะทำอย่างไรดี”
โยวจื๋อขมวดคิ้วมองผู้หญิงคนนี้ เริ่มรู้สึกเสียใจที่ร่วมมือกับเธอ สูดลมหายใจลึกและเอ่ยออกมารวดเดียวว่า “ตอนนี้เรื่องข่าวคลิปวิดีโอยังไม่ผ่านไป เย่เชินหลินไม่รามือแน่นอน เซี่ยชีหรั่นได้รับความสะเทือนใจจากเรื่องนี้มาก พวกเราจำเป็นต้องรอเวลาที่กำหนดเอาไว้ให้เธอสูญเสียเด็กคนนี้ไป อย่างนั้นทั้งสองคนก็เป็นไปไม่ได้แล้ว”
โยวจื๋อกังวลว่าป่าเอ๋อร์จะหาเรื่องอะไรให้ตัวเองอีก จึงเล่าแผนการตัวเองให้ป่าเอ๋อร์ฟังก่อน ทั้งยังย้ำแล้วย้ำอีกว่า “ช่วงนี้อยู่อย่างสงบๆหน่อย อย่าวางแผนต่อรองอะไรในสมองตัวเองอีก ถึงตอนนั้นผมก็ช่วยคุณไม่ได้เช่นกัน อย่าดูถูกความน่ากลัวของเย่เชินหลินและสติปัญญาของเซี่ยชีหรั่น”
เซี่ยชีหรั่นยังคงคลุมเสื้อสูทออกมาปรากฏตัว สีหน้ากระอักกระอ่วนอยู่บ้าง ปกคอเสื้อนั้นจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่จะร่วงบ้างไม่ร่วงบ้างอยู่มาก
โยวจื๋อที่กำลังสูบบุหรี่ รีบดับบุหรี่ลงอย่างรวดเร็ว เอ่ยพูดเสียงอ่อนโยนว่า “ดูท่าคุณไม่อยากจะเข้าไปในงานเร็วขนาดนั้น ไม่สู้พวกเราออกไปนั่งข้างนอกกันดีกว่า”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เดินตามโยวจื๋อออกไปด้านนอก นอกประตูมีชิงช้าเรียงกันเป็นแถว เซี่ยชีหรั่นนั่งบนชิงช้า มองเอื่อยเฉื่อยไปยังสถานที่ไกลๆ
เด็กสองคนที่อยู่ด้านข้างดึงดูดความสนใจของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเด็กสองคนที่กำลังเล่นกัน
“คุณพ่อคุณแม่ของฉันไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนฉันนานมากแล้ว เพื่อนอนุบาลล้วนรังแกฉัน บอกว่าฉันเป็นเด็กที่ไม่มีแม่” เด็กคนหนึ่งบ่นออกมา เซี่ยชีหรั่นใจสั่น มือทาบลงบนท้องตัวเอง
“คุณพ่อบอกว่าคุณแม่หนีไปกับผู้ชายคนอื่นแล้ว ฉันถามว่าหนีตามเขาไปหมายความว่าอะไร คุณพ่อฉันบอกว่าหนีไปแล้วก็หมายความว่า ฉันจะไม่ได้พบกับคุณแม่อีกตลอดกาล” เสียงเบาๆนั้นทำให้เซี่ยชีหรั่นสงสาร สมองปรากฏภาพเด็กสองคนที่เศร้าเสียใจ
“ถ้าไม่สามารถรับผิดชอบในตัวเด็กได้ อย่างนั้น ให้กำเนิดออกมาแล้วก็จะเป็นภาระ ทำให้เด็กต้องเจ็บปวด” โยวจื๋อที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้นมาเงียบๆ
มือของเซี่ยชีหรั่นสั่นไม่หยุด จะให้ลูกของตัวเองมีชีวิตอยู่ภายใต้การหลอกลวงซึ่งกันและกันได้อย่างไร นึกถึงแผ่นซีดีที่เนี่ยนโม่ถือมา เด็กเล็กขนาดนั้นต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางการถูกหลอกใช้ ร่างกายของเซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะสั่นระริก
“ชีหรั่น คุณเป็นอะไรไป” โยวจื๋อที่อยู่อีกด้านเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
เซี่ยชีหรั่นสูดลมหายใจลึก ฝืนฉีกยิ้ม เอ่ยกับโยวจื๋อว่า “ขอบคุณสำหรับสูทของคุณค่ะ พรุ่งนี้ฉันซักสะอาดแล้วจะคืนให้คุณ ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ฉันเข้าไปก่อนนะคะ”
เซี่ยชีหรั่นเอ่ยลากับโยวจื๋อและเข้าไปด้านในอย่างรีบร้อน โยวจื๋อมองเงาด้านหลังของเซี่ยชีหรั่น และหันหน้าไปทางเด็กๆ พลางเอ่ยเสียงเรียบว่า “ออกมาเถอะ”
มีสตรีคนหนึ่งมุดออกมาจากพุ่มไม้ ยิ้มพลางจูงมือเด็กทั้งสองคน และเอ่ยว่า “คุณผู้ชาย เป็นอย่างไรคะ ลูกทั้งสองคนของฉันแสดงได้ดีพอสมควรเลยสินะคะ”
โยวจื๋อหยิบเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสตางค์ สตรีคนนั้นจะรับเงินมา แต่โยวจื๋อดึงเงินถอยกลับมา เอ่ยเตือนว่า “เงินที่ผมให้คุณนั้นเป็นเงินเดือนหนึ่งปีในการเป็นพนักงานบริการของคุณ เรื่องนี้คุณควรรู้ว่าจะทำอย่างไร”
“เข้าใจค่ะๆ ฉันจะไม่พูดออกไปเด็ดขาด” สตรีคนนั้นรับเงินมาอย่างรีบร้อน ใช้น้ำลายแตะด้านข้างและนับจำนวนธนบัตร ท่ามกลางความมืดมิดมีเงาของคนคนหนึ่งแวบพาดไป ชนเข้ากับรั้วโดยไม่ทันระวัง โยวจื๋อหมุนตัวกลับไปมองสถานที่ที่เงาดำนั้นหายตัวไปอย่างครุ่นคิด
เซี่ยชีหรั่นที่เพิ่งจะเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงก็ถูกมือคนคนหนึ่งขวางเอาไว้ เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วก็ขมวดคิ้ว พลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
เซี่ยชีหรั่นปรับสภาพอารมณ์ พยายามไม่ให้เย่เชินหลินมองเห็นถึงความแปรปรวนทางอารมณ์ของตัวเอง จึงเอ่ยอย่างสงบว่า “ไม่มีอะไร”
เย่เชินหลินคว้าเสื้อสูทขึ้นมา คิ้วกระตุก มองไปทางเซี่ยชีหรั่น ในไม้ช้าก็พบว่าปกคอเสื้อของเซี่ยชีหรั่นแบออกอย่างผิดปกติ จึงถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเสื้อผ้า”
เมื่อเห็นว่ามีคนมองมาทางด้านนี้แล้ว เซี่ยชีหรั่นก็เอ่ยเสียงเบาว่า “รอยเย็บของเสื้อผ้าปริออก”
ทั้งสองคนกำลังสนทนากัน พิธีกรที่อยู่บนเวทีก็เอ่ยขึ้นมากะทันหันว่า “วันนี้เป็นวันครบรอบ 10 ปีในการก่อตั้งรีสอร์ท ท่านประธานเย่ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเราก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ให้พวกเราเชิญเขาขึ้นมาพูดอะไรบนเวทีสักเล็กน้อยนะครับ”
สายตาของทุกคนล้วนมองมาทางทั้งสองคน เสียงปรบมือดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นถอยไปอยู่ด้านหลังเย่เชินหลินอย่างรวดเร็ว
เย่เชินหลินโอบเซี่ยชีหรั่นที่คิดจากหลบหนีไปอย่างสงบนิ่ง หลังจากยื่นมือออกไปลูบคางของเซี่ยชีหรั่นแล้ว ก็กดนิ้วเรียวงามเข้ากับกริ่งที่อยู่บนกำแพงด้านหลังทั้งสองคน
เสียงแหลมสูงดังขึ้น ตามด้วยทั้งห้องโถงที่ตกอยู่ท่ามกลางความมืด กลุ่มคนเริ่มมีการสอบถามสั้นและเสียงฝีเท้าสับสนปรากฏขึ้น
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่ามือคู่หนึ่งกำลังเคลื่อนที่ไปมาอยู่ที่แผ่นหลังตัวเองอย่างอิสระ ซิปถูกดึงทิ้งไป คล้ายกับว่าเสื้อผ้าทั้งชุดถูกจัดการโดยการพลิกกลับไปกลับมา
หลังจากนั้นหนึ่งนาที ภายในห้องก็สว่างขึ้น พิธีกรเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วนว่า “เมื่อครู่อาจจะไฟตกครับ ตอนนี้พวกเราขอเชิญประธานเย่ขึ้นมาพูดถึงแผนการของทางรีสอร์ทในปีหน้าสักหน่อยครับ”
สายตาของเย่เชินหลินกวาดมองผ่านไหล่ของเซี่ยชีหรั่น ยิ้มอย่างพอใจ และเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยสีหน้าที่กลับคืนสู่สภาพเดิม เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินที่แอบใส่ซิปให้กับตัวเองเส้นหนึ่งตาค้าง
ด้านข้างมีกระจกบานใหญ่ เซี่ยชีหรั่นหันหน้าไปมองตัวเองในกระจกเล็กน้อย เสื้อผ้าหลวมโพรกมีโบว์สวยงามอันหนึ่งบริเวณปกคอเสื้อ ผ่าด้านหลังออกเล็กน้อย เผยให้เห็นผิวขาวนุ่มเล็กน้อย
เย่เชินหลินที่อยู่บนเวทีเอ่ยด้วยเสียงสงบนิ่ง เหลือบสายตามองมาทางตัวเองผ่านๆ เซี่ยชีหรั่นมองชายหนุ่มที่อยู่ภายใต้แสงไฟแล้วอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากว่าเป็นผู้ชายคนนี้ เขาจะปกป้องลูกของฉันให้ดีได้ไหมนะ
ในพื้นที่กว้าง มีเด็กสองคนจูงมือกันเดินไปด้านหน้าอย่างไม่ช้าไม่เร็ว เซี่ยชีหรั่นตามไปติดๆทางด้านหลัง กลัวว่าเด็กๆจะหกล้มลง
เด็กชายที่อยู่ข้างหน้าหันหน้ากลับมาตะโกนเรียกตัวเองเช่นเคย “หม่ามี๊” ส่วนเด็กสาวที่ถักเปียตลอดคนนั้นกลับยืนอยู่ในความมืดสลัวตั้งแต่ต้นจนจบ เซี่ยชีหรั่นคิดจะก้าวเข้าไปมองใบหน้าของเด็กหญิงให้ชัดเจน แต่กลับพบว่าเสียแรงเปล่า
เซี่ยชีหรั่นที่ได้สติตื่นขึ้นจากฝันร้ายก็ขยับเปลือกตาตัวเอง แต่ยังคงปิดตาอยู่ บริเวณหลังมีเสียงตบเบาๆดังเป็นจังหวะ จนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นไม่ขยับแล้ว เสียงตบเบาๆนั้นถึงได้หยุดลง
เซี่ยชีหรั่นนอนนิ่งๆ คิ้วขมวด เสียงตบเบาๆจึงดังขึ้นต่อไปช้าๆ เจือไปด้วยจังหวะที่อ่อนโยน ทั้งยังได้ยินเสียงพึมพำเบาๆของเย่เชินหลินที่อยู่ด้านข้าง “คราวนี้ฝันอะไรอีก ถึงได้อยู่ไม่นิ่งแบบนี้”
เซี่ยชีหรั่นลืมตามองเย่เชินหลิน เย่เชินหลินตะลึงไปในเสี้ยววินาที แต่ก็กลับสู่ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกตลอดมาเช่นเดิม มือก็กระตุกกลับไป
“ลูกเป็นเด็กผู้หญิง” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างมั่นใจ
เย่เชินหลินเลิกคิ้ว “มั่นใจขนาดนี้เชียว”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset