สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1257 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1157

บทที่ 1257 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1157
ข้างนอกห้องมีเสียงแหลมสูงดังขึ้น จางห้านลากถุงดำออกมาจากใต้เตียง เซี่ยชีหรั่นมองลักษณะถุงแล้วก็คิ้วขมวด
จางห้านลากถุงออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นตามไปเงียบๆ จนกระทั่งจางห้านเดินไปถึงบ่อเลี้ยงปลาขนาดเล็กด้านนอกรีสอร์ท และโยนถุงดำลงไปในบ่อน้ำ จางห้านยืนมองดูอยู่อย่างรอบคอบนานมาก ถึงได้ปัดมือแล้วจากไป
เซี่ยชีหรั่นเดินไปรอบบ่อน้ำอยู่นาน ถึงได้ตัดสินใจไปหาไม้พลอง ซูหวางเห็นเซี่ยชีหรั่นจากไปแล้ว ก็เดินออกมาจากในพุ่มไม้ ขยับเส้นสายไปมาแล้วก็กระโดดลงไปในบ่อน้ำ คลำหาอยู่สักพักก็ลากถุงใบนั้นขึ้นไปบนฝั่ง
เมื่อเปิดออกดู ด้านในคือแผ่นซีดีกองใหญ่กองหนึ่ง ซูหวางเผยสีหน้าเป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลยจริงๆออกมา นอกป่ามีเสียงกิ่งไม้ถูกเหยียบดังขึ้นเล็กน้อย
ซูหวางรีบมัดปากถุงให้แน่น แต่ยังไม่ทันจะนำถุงไป เสียงก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ซูหวางจึงทำได้เพียงแค่วิ่งกลับเข้าไปในพุ่มชั่วคราว
เซี่ยชีหรั่นลากท่อนไม้ยาวท่อนหนึ่งมาถึงข้างบ่อน้ำอย่างยากลำบาก ถุงดำที่ลอยอยู่ริมบ่อน้ำทำให้เธอตะลึงค้าง
ถุงจะลอยขึ้นมาเองได้อย่างไร เซี่ยชีหรั่นที่เต็มไปด้วยความสงสัยประคองท้องเอาไว้ โค้งตัวลงไปเปิดถุงดำ ภายในถุงดำทั้งหมดล้วนเป็นแผ่นซีดีที่เหมือนจะเคยเห็นมาก่อน
เซี่ยชีหรั่นสีหน้าซีดเผือดลงช้าๆ จางห้านเป็นผู้ชายที่อยู่ในคลิปวิดีโอคนนั้น ทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้ด้วย พวกเขาไม่ใช่เพื่อนกันหรอกหรือ
เซี่ยชีหรั่นหยิบซีดีขึ้นมาแผ่นหนึ่ง โยนลงไปในบ่อน้ำอย่างแรง แล้วเดินโงนเงนจากไป เธอต้องการยืนยันอีกสักหน่อย
จางห้านที่อยู่ไม่ไกลมองเซี่ยชีหรั่นถือแผ่นซีดีจากไปหนึ่งแผ่น ความเจ็บปวดบนใบหน้าเซี่ยชีหรั่นทำให้เขาละอายใจมาก ผู้หญิงที่ดีขนาดนี้คนหนึ่ง!
จางห้านบุกเข้าไปในห้องป่าเอ๋อร์ด้วยโทสะ ตะโกนอย่างโมโหว่า “ทำอย่างไรดี! ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นรู้แล้วว่าคนในคลิปวิดีโอคือผม ตอนแรกผมก็บอกแล้วว่าแบบนี้ใช้ไม่ได้”
ป่าเอ๋อร์ที่นั่งทำผมตัวเองอยู่หน้ากระจก ได้ยินแล้วก็เอ่ยถามอย่างเคร่งเครียดว่า “ยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่ รู้ไหมว่าฉันเป็นคนทำ”
จางห้านส่ายหน้าเศร้าๆ ป่าเอ๋อร์จึงหันกลับไปจัดการทำผมบนเก้าอี้ใหม่อย่างวางใจ จางห้านนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดสภาพ “ผมทำผิดต่อเธอ”
ป่าเอ๋อร์ยิ้ม คิดจะเขยิบเข้าไปถามจางห้าน แต่ถูกจางห้านหลบออก ป่าเอ๋อร์ใบหน้าเย็นชา จู่ๆก็เอ่ยยิ้มๆว่า “ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะแนะนำคนคนหนึ่งให้คุณรู้จัก เขาสามารถช่วยคุณได้”
มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาจากริมระเบียง จางห้านมองผู้ชายคนนี้อย่างระแวดระวัง “คุณเป็นใครอีก ทำไมถึงมาอยู่ในห้องของป่าเอ๋อร์”
โยวจื๋อมองจางห้านยิ้มๆ นั่งลงบนเก้าอี้ที่จางห้านนั่งอยู่อย่างสบายอารมณ์ เอ่ยช้าๆว่า “ได้ยินว่าคุณมีน้องสาวที่กำลังเรียนหนังสืออยู่คนหนึ่ง”
“คุณคิดจะทำอะไร!” จางห้านกระชากปกคอเสื้อของโยวจื๋อไปทางกำแพง แว่นของโยวจื๋อที่ตกลงบนพื้นส่งเสียงดังกังวานออกมา!
“เหอะๆ ผมคิดจะทำอะไร ผมสามารถส่งน้องสาวของคุณไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้ โรงเรียนชั้นหนึ่ง นับจากนี้ก็จะเดินอยู่บนจุดสูงสุดของเส้นทางอาชีพ คุณไม่รู้สินะว่า ตอนอยู่ที่โรงเรียน น้องสาวของคุณมักจะถูกเยาะเย้ย เพื่อนๆล้วนไม่ย้อมเล่นกับเธอ เพียงแค่เพราะว่าเธอซื้อเสื้อผ้าสวยๆและโทรศัพท์มือถือราคาแพงไม่ได้เท่านั้นเอง”
โยวจื๋อปล่อยให้จางห้านคว้าปกคอเสื้อตัวเอง ดึงมือของจางห้านออกเบาๆ โค้งตัวลงไปเก็บแว่นขึ้นมา ใช้เสื้อเชิ้ตบนตัวจางห้านเช็ดกรอบแว่น โยวจื๋อเอ่ยอย่างลึกซึ้งว่า “คุณส่งเธอไปเรียนโรงเรียนชั้นสูงของลูกผู้ดี คิดอยากจะให้เธอตั้งใจเรียน คุณไม่รู้ว่านอกจากการเรียนแล้ว ยังมีสิ่งล่อใจอีกมากมายที่ดึงดูดเธอ”
“คุณต้องการให้ผมทำอะไร” มือของจางห้านไม่สั่นแล้ว แต่มองไปทางโยวจื๋อด้วยสายตารังเกียจ ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือใจเต้นไปกับเงื่อนไขที่โยวจื๋อเสนอออกมาเมื่อครู่นี้
นอกกระท่อมไม้ จางห้านจ้องมองเซี่ยชีหรั่นที่ยืนรออยู่ด้านนอกเขม็ง สายตาทอประกาย สำหรับผู้หญิงคนนี้ พวกเขาไม่มีความขัดแย้งใดๆต่อกัน แต่เขากลับทำร้ายเธออย่างหนัก
จางห้านอยากบอกความจริงในเรื่องนี้กับเซี่ยชีหรั่นมาก บอกว่าตัวเองเสียใจ แต่ท้ายที่สุดก็เอ่ยรวมออกมาเป็นหนึ่งประโยค “ในเมื่อคุณรู้แล้ว ก็ถือเสียว่าไม่เคยมีเพื่อนอย่างผมคนนี้ก็แล้วกัน”
เซี่ยชีหรั่นริมฝีปากสั่นระริก คำพูดอะไรก็ล้วนพูดไม่ออก ท้องเจ็บเป็นระลอก เซี่ยชีหรั่นโค้งตัวเล็กน้อยประคองท้อง
“ชีหรั่น คุณเป็นอะไรไป เจ็บท้องใช่หรือไม่!” จางห้านรีบโยนกระเป๋าในมือทิ้งไป ประคองเซี่ยชีหรั่นให้มานั่ง
หางตาจางห้านเห็นเงาคนในพุ่มไม้ ก็มีสีหน้าเย็นชาขึ้นมา สะบัดมือออกอย่างใจร้าย เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ขอเตือนคุณว่า หลังจากนี้อย่ามีน้ำใจหรือเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าไปทั่วจะดีกว่า”
จางห้านเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ซูหวางพุ่งตัวออกมาดูเซี่ยชีหรั่น เมื่อเห็นท้องของเซี่ยชีหรั่นแล้ว ซูหวางก็เคร่งเครียดเสียจนเหงื่อเย็นๆไหลไม่หยุด ให้เขาไปต่อยตีทะเลาะวิวาทกับชายผู้แข็งแกร่งสิบกว่าคนนั้นทำได้ ให้เขาช่วยเหลือสตรีมีครรภ์นั้นยากมากจริงๆ หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วก็ แจ้งข่าวให้ชายหนุ่มผู้โหดเหี้ยมเย็นชาทราบ
เซี่ยชีหรั่นปาดเหงื่อมองเย่เชินหลินที่เดินเข้ามาอย่างช้าๆ เย่เชินหลินปาดเหงื่อที่ชื้นอยู่บนหน้าผากเซี่ยชีหรั่นออกอย่างอ่อนโยน หันหน้าไปมองโยวจื๋ออย่างเข้มงวด
โยวจื๋อยิ้มเฝื่อนๆ “ผมเข้าใจ ผมรับประกันความปลอดภัยของเธอ”
เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของแผนกสูตินารีเวชของอเมริกาทางนั้น วันนี้ตอนบ่ายให้ขับเครื่องบินตรงมาที่นี่” นัยน์ตาโยวจื๋อทอประกาย และกลับเข้าสู่สภาพไร้พิษสงเหมือนก่อนหน้านี้เช่นเดิม
จางห้านสะพายกระเป๋าขับมอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วสูง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสียงเย็นยะเยือกของโยวจื๋อก็ดังขึ้น “ปืนที่สอนไป คุณใช้เป็นไหม”
จางห้านพยักหน้า แล้วก็พบว่าฝ่ายตรงข้ามมองไม่เห็น ถือปืนที่บรรจุกระสุนด้วยมือที่สั่น เอ่ยอย่างติดๆขัดๆว่า “ใช้เป็น!”
“เด็กดี หลังจากเห็นรถคันนั้นแล้ว ก็เล็งไปทางหน้าต่างบานซ้าย เพราะว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นโรคหอบหืด ถึงตอนนั้นขอเพียงแค่นายเหนี่ยวไกปืนก็พอ” เสียงของโยวจื๋อเรียบเฉยราวกับพูดเรื่องสภาพอากาศ จางห้านถามเสียงสั่น “คุณจะดีต่อน้องสาวของผมจริงๆใช่ไหม”
โยวจื๋อยิ้ม “ไม่ใช่เพียงแค่น้องสาวของคุณ ยังมีป่าเอ๋อร์ ผู้หญิงที่คุณรักมากที่สุดด้วย ผมจะให้เธอได้ครอบครองเย่เชินหลินที่เธอคิดถึงทั้งวันทั้งคืน”
เสียงเครื่องยนต์ลอยมาจากที่ไกลๆ จางห้านตัดสายโทรศัพท์ มือที่ถือปืนบรรจุลูกกระสุนสั่น ปาดเหงื่อที่เต็มใบหน้าออก เล็งไปยังชายชราคนหนึ่งที่อยู่ในกระจกรถ
โยวจื๋อมองโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก แผนคราวนี้อันตรายมาก แต่เขาก็ต้องทำแบบนี้ เขาไม่สามารถให้ตาแก่นั่นมาถึงแล้วชี้มาที่ตัวเองได้
เย่เชินหลินสงสัยตัวเองมาโดยตลอด การปรากฏตัวของจางห้านช่วยเขาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยพอดี ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น จางห้านที่วิ่งอยู่มีเสียงหอบลอยออกมา ครู่หนึ่งเสียงฝีเท้าวุ่นวายก็เข้ามากดจางห้านเอาไว้
เมื่อวางสายโทรศัพท์ โยวจื๋อก็ดึงซิมการ์ดของโทรศัพท์ออกมา โยนซิมการ์ดโทรศัพท์ออกไปนอกหน้าต่างด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก จิตใจก็ตึงเครียดขึ้นมา เย่เชินหลิน มาดูกันว่า พวกเรา ใครจะเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย
เย่เชินหลินนั่งอยู่อีกด้าน จางห้านถูกมัดแล้วกดเอาไว้บนพื้น เซี่ยชีหรั่นเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ เย่เชินหลินเลยยัดนมแก้วหนึ่งให้เซี่ยชีหรั่นไป เซี่ยชีหรั่นทำได้เพียงแค่รับมา แล้วดื่มอย่างว่าง่าย
“ดังนั้น ตอนนี้คุณคิดดีแล้วว่าควรจะพูดอย่างไรใช่ไหม” เย่เชินหลินถามเสียงต่ำ ประตูถูกเคาะ โยวจื๋อปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เอ่ยกับเย่เชินหลินยิ้มๆว่า “คุณเซี่ย ถึงเวลาตรวจของคุณแล้วครับ”
เซี่ยชีหรั่นไม่ยินยอมที่จะจากไป จึงมองไปทางเย่เชินหลิน เย่เชินหลินตบศีรษะเซี่ยชีหรั่นเบาๆ ลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับซูหวางว่า “เฝ้าเขาเอาไว้”
โยวจื๋อหมุนตัวตามออกไป ส่งสายตามีนัยยะให้กับจางห้านครั้งหนึ่ง ตอนกลางคืน มีเงาคนคนหนึ่งแอบเข้ามาเงียบๆ เตะจางห้านที่ถูกมัดเอาไว้
จางห้านร้องอู้อี้ โยวจื๋อยิ้ม หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดเล่นคลิปวิดีโอ ในคลิปวิดีโอนั้น ป่าเอ๋อร์ถูกบีบบังคับให้นำมีดแนบไปกับลำคอ ป่าเอ๋อร์ร้องไห้จนดวงตาพร่าเลือน โยวจื๋อเอ่ยเสียงเรียบว่า “นี่คือผู้หญิงที่คุณรักมากที่สุด”
เมื่อหมุนโทรศัพท์มือถือ ภายในห้องชั้นสองที่มีแสงไฟสว่างห้องหนึ่ง เด็กสาวคนหนึ่งเดินผ่านบานหน้าต่างไป การเคลื่อนไหวดิ้นรนของจางห้านรุนแรงขึ้น โยวจื๋อกดจางห้านเอาไว้ “นี่คือน้องสาวของคุณ ถ้าคุณไม่ต้องการให้เกิดเรื่องขึ้นกับพวกเขา ตอนนี้ก็ทำตามที่ผมบอก”
แสงไฟที่มืดสลัวถูกเปิดให้สว่าง เย่เชินหลินเดินหน้าขรึมเข้ามา เห็นชายหนุ่มที่ร้องไห้อู้อี้อยู่บนพื้นแล้ว ก็เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ถ้าหากว่าคุณคิดว่าปากของคุณมีไว้พูด ผมจะปล่อยคุณ”
จางห้านมองเย่เชินหลินแล้วพยักหน้า ผ้าที่มัดปากจางห้านถูกแก้ออก เย่เชินหลินกลับไปนั่งบนโซฟา เคาะหน้าโต๊ะเงียบๆ
“ถูกต้อง ผมคือพี่ชายของโยวเล่อ คุณทำให้น้องสาวของผมตาย ผมจะต้องแก้แค้นให้เธอ” จางห้านก้มหน้าลง เพื่อไม่ให้เย่เชินหลินมองเห็นสีหน้าของตัวเอง และพูดตามที่โยวจื๋อให้ตัวเองพูดโดยไม่ตกหล่นสักคำ
“ดังนั้น เรื่องที่คุณทำก่อนหน้านี้ก็เพียงเพื่อจะแก้แค้น” เซี่ยชีหรั่นที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้น มองมาทางจางห้านด้วยใบหน้าซีดขาว โยวจื๋อกวาดตามองผ่านจางห้านเงียบๆ
เย่เชินหลินคิ้วขมวด เอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นว่า “ออกไปก่อน”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า ยืนหยัดที่จะเดินไปอยู่ข้างกายจางห้าน ความสะเทือนใจอย่างรุนแรงทำให้อารมณ์คงเธอไม่คงที่ กัดฟันเอ่ยถามว่า “ดังนั้นสิ่งที่คุณทำเหล่านี้ล้วนเป็นการแก้แค้นหรือ”
จางห้านรู้สึกถึงพลังงานที่ส่งมาจากโยวจื๋อที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวเอง จึงมองเซี่ยชีหรั่น พลางเอ่ยเสียงเบาว่า “ไม่ผิด ล้วนเป็นผมที่ทำเอง วัตถุประสงค์ก็คือ ต้องการให้คุณสูญเสียชื่อเสียงและเกียรติยศ เพื่อแก้แค้นให้กับน้องสาวของผม”
เย่เชินหลินโบกมือ ซูหวางลากจางห้านจากไปทันที เซี่ยชีหรั่นเอ่ยเสียงเบาติดกันว่า “ฉันควรจะไปได้แล้วๆ”
เย่เชินหลินกดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ บีบบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามสงบลง มือเซี่ยชีหรั่นแตะโดนแจกัน และปาแจกันลงกับพื้นอย่างอดไม่ได้
ภายในห้องมีเสียงดังติดต่อกันไม่หยุด เซี่ยชีหรั่นปาข้าวของภายในห้องอย่างเต็มที่ แจกันดอกไม้โบราณของราชวงศ์หมิง ภาพวาดที่มีมูลค่าหลายล้านล้วนกลายเป็นขี้เถ้าด้วยน้ำมือเซี่ยชีหรั่นทั้งหมด
เย่เชินหลินยืนอยู่ด้านข้าง รอให้สภาพจิตใจของเซี่ยชีหรั่นคืนสู่ความสงบอย่างเงียบเชียบ “บอกฉันมา สรุปว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่!” เซี่ยชีหรั่นมองไปทางเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินดึงแก้วออกไปจากมือเซี่ยชีหรั่น ก้มหน้ามองเซี่ยชีหรั่นเล็กน้อย “ตอนที่เพิ่งจะมาถึงรีสอร์ท ผมก็รู้แล้วว่าโยวเล่อมีพี่ชายคนหนึ่งที่อยากจะแก้แค้นให้เขา ดังนั้นผมจึงตามหาคนคนนี้เงียบๆมาโดยตลอด และหาคนคนหนึ่งที่สามารถชี้ตัวผู้ชายคนนี้ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเผยพิรุธออกไป”
เย่เชินหลินอธิบายให้เซี่ยชีหรั่นฟังอย่างละเอียด เขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นคิดมาก เซี่ยชีหรั่นหันหน้าหลบการลูบไล้จากเย่เชินหลิน เอ่ยเสียงเรียบว่า “ดังนั้นฉันจึงเป็นเพียงแค่หมากที่คุณใช้หาผู้ชายคนนั้นใช่ไหมคะ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset