สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1259 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1159

ตอนที่ 1259 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1159
เซี่ยชีหรั่นบิดไปบิดมาอย่างอยู่ไม่สุข ถึงอย่างไรก็เป็นเพราะว่ามีเด็กอยู่ด้วย เธอรู้ว่าตัวเองหนักมาก
ก้นถูกตีอย่างไม่แรงไม่เบา เย่เชินหลินเอ่ยอย่างขบขันว่า “อย่าขยับ”
เซี่ยชีหรั่นถูกตีจนสะดุ้ง ขยับตัวแรงตามสัญชาตญาณ หลังจากนั้นก็รู้สึกถึงสัมผัสจากของแข็งตรงท้องน้อยของฝ่ายตรงข้าม เย่เชินหลินกัดฟัน โอบเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เอ่ยพูดด้วยความกระอักกระอ่วนว่า “อย่าขยับ!”
เซี่ยชีหรั่นไม่กล้าขยับตัวอีกอย่างเชื่อฟัง เย่เชินหลินผ่อนลมหายใจหนัก มองเซี่ยชีหรั่นหน้าแดงหูแดงที่อยู่เบื้องหน้า ตบแผ่นหลังเซี่ยชีหรั่นเบาๆ พลางเอ่ยถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”
เซี่ยชีหรั่นสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุที่อยู่ใต้ก้น สมองก็สับสนวุ่นวาย อุณหภูมิร้อนเห่อบนใบหน้าทำให้เธอคิดไม่ออกว่ามาหาเย่เชินหลินเพราะเรื่องอะไร สรุปว่าเรื่องอะไรกันแน่นะ
เย่เนี่ยนโม่หยิบรูบิคมารอยังสถานที่เมื่อวานนี้อย่างหมดอาลัยตายอยากพร้อมกับไห่โจ๋ซวน คิดอยากจะมอบรูบิคให้อ้าวเสว่ด้วยตัวเอง ถึงอย่างไรอ้าวเสว่ก็เป็นความทรงจำอันงดงามช่วงหนึ่งในตอนเด็กที่เขาพลัดหลงไป คุณครูของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าพวกเขาสองคน “คุณชายน้อยทั้งสองอยากฟังบรรยายไหมคะ”
เย่เนี่ยนโม่และไห่โจ๋ซวนพยักหน้า คุณครูจูงมือทั้งสองคนไปยังห้องเรียนที่ก่อตั้งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพิ่งจะเดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงอ่อนนุ่มคุ้นหูอ่านหนังสือต่อเนื่องไม่อยู่
ตัวเลขเต็มกระดานดำ อ้าวเสว่ดูเพียงแค่รอบเดียว หลังจากนั้นก็จำทั้งหมดได้ และท่องออกมาโดยไม่ตกหล่นสักตัว
เด็กคนหนึ่งแอบพูดกับเด็กอีกคนหนึ่งเบาๆว่า “ดูสิ ฉันบอกแล้วว่าเธอเป็นตัวประหลาด คุณแม่ของเธอ ไม่ต้องการเธอเพราะแบบนี้แน่นอน!”
“นายพูดว่าอะไรนะ! คุณแม่ของฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย!” เด็กหญิงวิ่งมาถึงด้านหน้าเด็กชาย หน่วยตาแดงระเรื่อ เอ่ยอย่างมีโทสะ
“อ้าวเสว่ กลับไปที่นั่งของตัวเองนะจ๊ะ” คุณครูที่จูงเนี่ยนโม่และไห่โจ๋ซวนมาเอ่ยตำหนิอ้าวเสว่เสียงเบา
เย่เนี่ยนโม่เดินมาหยุดอยู่หน้าอ้าวเสว่ “อ้าวเสว่หรือ”
“อะไร!” อ้าวเสว่สะบัดหน้าหนี ท่าทางดุร้ายทำให้เย่เนี่ยนโม่คิ้วขมวด เด็กหญิงที่ขลาดกลัวคนนั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ
“อ้าวเสว่!” คุณครูผลักอ้าวเสว่ สั่งสอนว่า “พูดกับคุณชายน้อยแบบนี้ไม่ได้นะจ๊ะ”
อ้าวเสว่ก้มหน้าพึมพำ “คนมีเงินอีกแล้ว”
ไห่โจ๋ซวนก้าวขึ้นไปข้างหน้า วางรูบิคไว้ด้านหน้าอ้าวเสว่ ถามอย่างรอคอยว่า “ฉันชื่อไห่โจ๋ซวน เธอสามารถทำให้ฉันดูอีกครั้งได้ไหม”
อ้าวเสว่เงยหน้ามองไห่โจ๋ซวนที่สูงกว่าตัวเองเล็กน้อย จู่ๆก็เอ่ยออกมายิ้มๆว่า “อย่างนั้นฉันต้องการลูกอมหนึ่งห่อ!”
“อ้าวเสว่” คุณครูโมโหขึ้นมาเล็กน้อยบ้างแล้ว อ้าวเสว่ก้มหน้าไม่พูดอะไร ช็อคโกแลตห่อหนึ่งก็ถูกยื่นไปให้อ้าวเสว่ที่ก้มหน้าอยู่
เย่เนี่ยนโม่มองอ้าวเสว่ พลางเอ่ยว่า “ลูกอมไม่มี ช็อคโกแลตแล้วกัน”
อ้าวเสว่เห็นเด็กที่อยู่รอบๆมีท่าทางอิจฉาและกลืนน้ำลายไม่หยุด ใบหน้าเล็กๆนั้นก็เชิดขึ้น เอ่ยว่า “พวกนายตามฉันมา!”
ใต้ต้นไม้ เด็กชายสองคนยืนล้อมเด็กหญิงที่หน้าตาน่ารักมากคนหนึ่ง มองนิ้วมือสิบนิ้วของเด็กหญิงที่บิดรูบิคในมือด้วยความเร็วสูง
“ทำเสร็จแล้ว!” อ้าวเสว่ยื่นรูบิคในมือให้ทั้งสองคนดูอย่างภาคภูมิใจ ไห่โจ๋ซวนรับมาอย่างอิจฉา เย่เนี่ยนโม่ไม่ได้เจอกับอ้าวเสว่สองปี ก็เกิดสนใจความสามารถในการจดจำตัวอักษรของอ้าวเสว่เป็นอย่างมาก จึงเอ่ยถามว่า “ไม่ว่าเป็นเลขอะไร เธอก็สามารถท่องออกมาได้หมดจริงๆหรือ”
อ้าวเสว่เอ่ยอย่างภูมิใจว่า “แน่นอน”
เย่เนี่ยนโม่เขียนตัวเลขหลายตัวลงไปบนพื้น อ้าวเสว่ก็สามารถเอ่ยท่องออกมาได้โดยไม่ตกหล่นสักตัว ทั้งสามคนเล่นด้วยกันจนเย็นมากแล้ว จนกระทั่งมีเสียงของแม่บ้านน้าเซวียลอยมาจากที่ไม่ไกลนัก
“คุณชายน้อยเนี่ยนโม่ คุณชายน้อยโจ๋ซวนหรือ” อ้าวเสว่ถาม “พวกนายจะไปแล้วหรือ”
เย่เนี่ยนโม่พยักหน้า วางรูบิคไว้ในมืออ้าวเสว่แล้วเอ่ยยิ้มๆว่า “พรุ่งนี้จะมาเล่นกับเธออีก”
เย่เนี่ยนโม่กับไห่โจ๋ซวนวิ่งออกไปด้านนอก อ้าวเสว่เรียกเย่เนี่ยนโม่เอาไว้ “เขาบอกว่าเขาชื่อไห่โจ๋ซวน อย่างนั้นนายชื่ออะไร”
“เย่เนี่ยนโม่ ฉันชื่อเย่เนี่ยนโม่!” เย่เนี่ยนโม่หันหน้ามายิ้มให้อ้าวเสว่ ไม้ใบที่ถูกสาดส่องด้วยแสงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้านั้นดูกระดำกระด่างจนขับให้รอยยิ้มจริงใจของเย่เนี่ยนโม่โดดเด่นอย่างไร้ที่เปรียบ ส่องสว่างให้กับชีวิตของอ้าวเสว่
“ไปที่ไหนกันมาจ๊ะ” เซี่ยชีหรั่นข่วยเย่เนี่ยนโม่หยิบใบไม้ที่ร่วงลงบนไหล่ออก และเอ่ยพูดด้วยความรักและเมตตา
เย่เนี่ยนโม่ตอบอย่างว่าง่าย “หม่ามี๊ มีเด็กหญิงคนหนึ่งที่เก่งมาก เธอชื่ออ้าวเสว่ สามารถหมุนรูบิคให้เป็นสีเดียวกันได้อย่างรวดเร็วด้วยครับ!” ไห่โจ๋ซวนที่อยู่ด้านข้างพยักหน้า
เซี่ยชีหรั่นมองสีหน้าเลื่อมใสของเด็กทั้งสองคนยิ้มๆ “ดูท่าเนี่ยนโม่และโจ๋ซวนจะชอบอ้าวเสว่คนนี้มาก”
เย่เนี่ยนโม่และไห่โจ๋ซวนครุ่นคิด หลังจากนั้นก็พยักหน้า เย่เชินหลินที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยออกมาว่า “พรุ่งนี้กลับรีสอร์ท”
วันถัดมา เย่เนี่ยนโม่จูงมือเซี่ยชีหรั่นไปหาอ้าวเสว่ อ้าวเสว่ได้ยินเย่เนี่ยนโม่ก็ถือรูบิควิ่งมาอย่างมีความสุข
เซี่ยชีหรั่นเห็นอ้าวเสว่แล้วก็เอ่ยชมว่า “เป็นเด็กหญิงที่งดงามมาก”
เซี่ยชีหรั่นคิดอยากจะทักทายอ้าวเสว่ อ้าวเสว่เห็นเซี่ยชีหรั่นแล้ว จู่ๆก็วิ่งกลับเข้าไปในห้อง ปิดประตูล็อคและไม่ยอมออกมาอีก
“นี่เกิดอะไรขึ้นหรือ” เซี่ยชีหรั่นมองเย่เนี่ยนโม่และไห่โจ๋ซวน อ้าวเสว่แนบตัวอยู่หลังผ้าม่านมองเย่เนี่ยนโม่และเซี่ยชีหรั่น ไห่โจ๋ซวนเดินไกลออกไปเรื่อยๆ อ้าวเสว่กำรูบิคในมือแน่น เอ่ยพึมพำเสียงเบาๆว่า “คุณแม่”
กลางดึก ประตูใหญ่ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีหญิงสาวที่งดงามมากคนหนึ่งเดินเข้ามา หญิงสาวเดินไปยังทิศทางหนึ่งอย่างคุ้นเคย มองเด็กหญิงคนหนึ่งวิ่งมาถึงด้านหน้าตัวเอง
“คุณแม่คะ” อ้าวเสว่ที่ถือรูบิคอยู่ตะโกนเรียก บนใบหน้าคือรอยยิ้มแห่งความสุขที่ได้พบกับหญิงสาว เด็กเหล่านั้นล้วนเยาะเย้ยว่าตัวเองไม่มีคุณแม่ ตัวเองไม่เหมือนกับพวกเขาสักหน่อย
ซือซือมองเด็กหญิงที่หน้าตาคล้ายกับตัวเองและสวีเห้าเซิงอยู่ห้าหกส่วนด้วยสายตาซับซ้อน เหมือนกับเรื่องเหลวไหลเรื่องหนึ่ง ลูกคนที่สองที่มีกับสวีเห้าเซิงนั้นรักษาเอาไว้ไม่ได้ เธอจงใจยกอ้าวเสว่ให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เซี่ยชีหรั่นให้เงินช่วยเหลืออยู่ ก็เพื่อที่จะมีสักวันหนึ่งที่สามารถใช้แผนร้ายได้อีกครั้ง
ซือซือเอ่ยเสียงเย็นว่า “เรียกฉันมาทำอะไร บอกแล้วไม่ใช่หรือว่า มีเพียงแค่พบกับเซี่ยชีหรั่น ผู้หญิงคนนั้นแล้วถึงจะเรียกหาฉันได้” จู่ๆซือซือก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา สีหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “ลูกเห็นผู้หญิงคนนั้นแล้วหรือ”
อ้าวเสว่พยักหน้า เอ่ยราวกับว่า ต้องการแสดงความจงรักภักดี “คุณแม่ หนูไม่ได้พูดคุยกับเธอ”
ซือซือลูบศีรษะอ้าวเสว่ลวกๆ ถามอย่างรีบร้อนว่า “ลูกชายของเธอคนนั้น ลูกพบแล้วหรือไม่”
อ้าวเสว่ครุ่นคิด หยิบรูบิคออกมาแล้วพูดว่า “เย่เนี่ยนโม่และไห่โจ๋ซวนชอบให้หนูเล่นรูบิคให้พวกเขา”
ซือซือหยิบรูบิคมา โยนลงไปแทบเท้าอย่างรังเกียจ โอบไหล่อ้าวเสว่เข้ามาด้วยแรงที่ทำให้อ้าวเสว่ร้องว่าเจ็บออกมา “หม่ามี๊ เจ็บค่ะ!”
“อ้าวเสว่ ลูกต้องจำเอาไว้ว่า ลูกมีชีวิตอยู่เพียงเพื่อภารกิจเดียวก็คือ เย่เนี่ยนโม่ จำชื่อนี้เอาไว้ให้ดี เข้าใจไหม!” สีหน้าบ้าคลั่งของซือซือทำให้อ้าวเสว่กลัว จนกระทั่งคุณแม่ของตัวเองจากไปแล้ว อ้าวเสว่ถึงได้หยิบรูบิคที่ซือซือเหยียบพังไปแล้วขึ้นมา น้ำตารินไหลลงมาเป็นสาย
บอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนเรียงแถวกันเป็นเส้นตรงมองไปยังเครื่องบินที่แล่นลงจอดกับพื้นช้าๆ ภายในห้องโดยสาร เย่เนี่ยนโม่และไห่โจ๋ซวนกระโดดโลดเต้นลงมาจากเครื่องบินก่อน
ไห่โจ๋ซวนถูกหลินหลิงคว้ามาตีก้นอย่างแรง ไห่โจ๋ซวนมองไปทางไห่ลี่หมินน้ำตาคลอ ไห่ลี่หมินลูบศีรษะไห่โจ๋ซวนด้วยความสงสาร
“คุณทำแบบนี้จะทำให้เขานิสัยเสีย!” หลินหลิงก็รู้สึกเสียใจที่ตัวเองลงมือหนักเช่นกัน แต่ยังเสียงยังแข็งอยู่ ไห่ลี่หมินถามเย่เนี่ยนโม่ยิ้มๆ “คราวนี้เที่ยวเล่นสนุกไหม”
ขณะที่เย่เนี่ยนโม่พยักหน้าให้ไห่ลี่หมิน สมองก็ปรากฏภาพเด็กหญิงที่ฉลาดเป็นอย่างมากขึ้นมาพร้อมๆกัน เซี่ยชีหรั่นควงแขนเย่เชินหลินลงมาจากเครื่องบิน
ป่าเอ๋อร์มองเย่เชินหลินอย่างลุ่มหลงจนลืมตัว โยวจื๋อที่อยู่ด้านข้างเอ่ยยิ้มๆว่า “ตอนนี้คุณอยากจะดึงดูดใจของเย่เชินหลินนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ตื่นเสียเถอะ”
ป่าเอ๋อร์มองเซี่ยชีหรั่นด้วยความอิจฉา เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความคาดหวังว่า “เพื่อที่จะให้เย่เชินหลินเป็นของฉัน จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
โยวจื๋อยิ้ม มองเซี่ยชีหรั่นแวบหนึ่ง สับเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มไร้พิษภัยแล้วก้าวขึ้นไปด้านหน้า “ชีหรั่น!”
“โยวจื๋อ!” เซี่ยชีหรั่นเห็นโยวจื๋อแล้วก็ดีใจมาก คุณหมอคนนี้ทิ้งความประทับใจที่ดีมากไว้ให้เธอ โยวจื๋อยิ้มพลางเอ่ยว่า “ดูท่าอารมณ์จะไม่เลวเลย อีกสักครู่ ผมจะตรวจสุขภาพให้คุณ ได้ไหมครับคุณเย่”
โยวจื๋อหันหน้าไปมองเย่เชินหลิน เย่เชินหลินมองโยวจื๋ออย่างพิจารณา เขาคิดมาตลอดว่าโยวจื๋อเป็นพี่ชายของโยวเล่อ เพียงแต่ว่าหลังจากเรื่องของจางห้านผ่านไป เย่เชินหลินก็เกิดความสงสัยในการตัดสินเบื้องต้นของตัวเองเล็กน้อย เย่เชินหลินพยักหน้าให้กับโยวจื๋อที่มีท่าทีเอาใจอย่างเห็นได้ชัด
“ประธานเย่ จางห้านตายแล้วครับ” ซูหวางที่ยืนอยู่ด้านข้าง มองปฏิกิริยาตอบสนองของเย่เชินหลินด้วยความระมัดระวัง
เย่เชินหลินเม้มริมฝีปากแน่น เอ่ยสีหน้าทะมึนว่า “อธิบาย”
ซูหวางกลืนน้ำลายแล้วเอ่ยว่า “ผมเห็นเขามีท่าทางนอบน้อมรับปากไปเสียทุกอย่าง แต่ก็คิดไม่ถึงว่า ฝ่ายตรงข้ามจะฆ่าตัวตาย ประธานเย่ คุณสามารถลงโทษผมได้”
สายตาของเย่เชินหลินกวาดมองผ่านใบหน้าซูหวางไปอย่างรวดเร็วรอบหนึ่ง ถามเสียงเย็นว่า “ศพล่ะ”
ซูหวางเสียงเบายิ่งกว่าเดิม “เป็นเพราะว่าอยู่ในรีสอร์ท จึงเป็นกังวลว่าศพจะส่งกลิ่นเหม็น ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเอง โดยการฝังศพไปแล้วครับ”
เสียง “เพล้ง!” ดังขึ้นภายในห้อง ซูหวางตะลึงมองเย่เชินหลินต่อยบานกระจกบนโต๊ะ กำลังภายในของผู้ชายคนนี้จะต้องอยู่เหนือกว่าตัวเองแน่นอน
“ซูหวาง ผมให้อิสระกับคุณมากเกินไปใช่หรือไม่” เย่เชินหลินเดินมาถึงหน้าซูหวาง มองผู้ชายที่สูงถึง 180 เซนติเมตรอย่างผู้ที่เหนือกว่า
ซูหวางก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม ผลลัพธ์หลังจากล่วงเกินเย่เชินหลินนั้น แค่คิดก็รู้แล้ว “ถ้าหากว่ามีอีกครั้งหนึ่ง คุณก็คิดเอาเองแล้วกันว่าจะทำอย่างไร”
เย่เชินหลินเอ่ยเสียงเรียบ มองสีหน้าซูหวางอย่างสืบหาเล็กน้อยซูหวางรับคำ ปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนหน้าผาก
โยวจื๋อช่วยตรวจสุขภาพให้เซี่ยชีหรั่น เอ่ยยิ้มๆว่า “กลับไปรอบหนึ่ง อารมณ์ของคุณก็ดูเหมือนว่าจะดีขึ้นมากนะครับ”
เซี่ยชีหรั่นลูบท้องตัวเอง นัยน์ตาเจือไปด้วยความอ่อนโยน ยิ้มจนตาโค้ง “ไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ได้เจอเด็กหญิงตัวน้อยที่ชื่อว่าอ้าวเสว่ เธอน่ารักมากจริงๆ”
โยวจื๋อที่อยู่อีกด้านตอบรับลวกๆ สายตากลับเต็มไปด้วยแผนการ เพียงแต่ว่าเซี่ยชีหรั่นจมอยู่ในความคิดของตัวเอง จึงไม่ทันได้เห็น
“โยวจื๋อ ฉันรอมานานหลายวันแล้วนะ สรุปว่าฉันต้องทำอย่างไรกันแน่ ถึงจะกุมหัวใจของเย่เชินหลินเอาไว้ได้!” ป่าเอ๋อร์บุกไปถามโยวจื๋อถึงห้อง
โยวจื๋อขมวดคิ้ว ดึงป่าเอ๋อร์เข้ามาในห้องแล้ว มองไปทางด้านนอกประตู เอ่ยอย่างไม่เห็นด้วยว่า “บอกกับคุณไปแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่ามาหาผมที่นี่ตามอำเภอใจน่ะ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset