สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1260 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1160

บทที่ 1260 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1160
ป่าเอ๋อร์เชิดหน้า “นี่เป็นโรงแรมของคุณพ่อฉัน ฉันอยากจะไปที่ไหนก็ไปที่นั่น
โยวจื๋อเอ่ยเสียดสีกลับไปว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เชิญคุณหนูใหญ่ป่าเอ๋อร์ไปจัดการจับเย่เชินหลินให้อยู่หมัดด้วยตนเองแล้วกันนะครับ ผมคงรับรองคุณไม่ไหว”
ป่าเอ๋อร์หน้าทะมึน “คุณ!” เห็นท่าทางเย็นชาของโยวจื๋อแล้ว ป่าเอ๋อร์ก็มีท่าทีอ่อนลงก่อน “ฉันก็แค่ร้อนใจเท่านั้นเอง!”
โยวจื๋อมองป่าเอ๋อร์อย่างดูถูก ไม่อยากจะทะเลาะกับอีกฝ่ายจนเข้าหน้ากันไม่ติด จึงถอนหายใจพลางเอ่ยว่า “คุณรู้ไหมว่าเย่เชินหลินชอบเซี่ยชีหรั่นได้อย่างไร ตอนแรกเซี่ยชีหรั่นเป็นหญิงรับใช้คนหนึ่งของเย่เชินหลิน”
ป่าเอ๋อร์เอ่ยด้วยสีหน้าประหลาดว่า “หรือว่าเย่เชินหลินจะชอบคนประเภทนี้กัน เซี่ยชีหรั่นเป็นฝ่ายปีนขึ้นเตียงเย่เชินหลินหรือ”
โยวจื๋อเอ่ยเตือนป่าเอ๋อร์ด้วยสีหน้าเย็นชา “ถ้าหากว่าว่าคุณยังพูดจาเหมือนปากไม่มีหูรูดอยู่อีกล่ะก็ ผมกล้ารับประกันเลยว่าอีกร้อยปี เย่เชินหลินก็จะไม่มองคุณแม้แต่แวบเดียว”
ป่าเอ๋อร์ถมึงตาใส่โยวจื๋ออย่างดุร้าย แอบคิดเงียบๆว่า ถ้าในภายหลังสำเร็จขึ้นมาจริงๆ ก็จะให้โยวจื๋อได้เห็นดีกัน โยวจื๋อมองป่าเอ๋อร์ที่กำลังวางแผนคิดบัญชีอยู่ ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
เนื้อวัวหอมฉุยส่งเสียงซ่าซ่า พ่อครัวสาดเครื่องปรุงลงไปด้านบนอย่างชำนาญ ทั้งห้องอาหารมีแขกเพียงแค่สองคน เสียงเพลงอันไพเราะดังอยู่ด้านข้าง เย่เชินหลินคีบเนื้อวัวชิ้นหนึ่งใส่ในชามเซี่ยชีหรั่น “กินเสีย”
แก้วไวน์ด้านข้างถูกเติมด้วยแชมเปญ เซี่ยชีหรั่นเอ่ยขอบคุณด้วยความเคยชิน เห็นหญิงสาวที่รินไวน์อยู่ด้านข้างก็ร้องออกมาอย่างตกใจ “คุณคือป่าเอ๋อร์หรือคะ”
เย่เชินหลินมองไปที่ป่าเอ๋อร์ ป่าเอ๋อร์สวมชุดหญิงรับใช้ยิ้มอย่างไร้พิษสง “ในฐานะผู้ดูแลต้องผ่านประสบการณ์ในงานแนวหน้าเหมือนกับที่พนักงานทำทั้งหมด ดังนั้นฉันจึงมาทำงานแนวหน้านี้เป็นพิเศษ เชิญพวกคุณทานได้เลยค่ะ”
“ไม่เลว” เย่เชินหลินตอบเสียงเรียบ ตอนนี้ผู้ดูแลที่สามารถมาทำงานในแนวหน้าได้นั้นไม่เยอะแล้ว เมื่อมองดูป่าเอ๋อร์ก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนเมื่อก่อนอีก
ป่าเอ๋อร์ยิ้มอ่อนโยน มองไปทางทั้งสองคน พลางเอ่ยว่า “เชิญพวกคุณทานได้เลยค่ะ” เมื่อหมุนตัวกลับไป มือที่จับขวดอยู่นั้นก็บีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ ความแค้นที่ให้เธอรินไวน์ให้นี้ เธอไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน
นอกริมระเบียงทางเดิน ป่าเอ๋อร์สลัดแขนที่ถูกจับเอาไว้ ร้องไห้ไปพูดไปว่า “ฉันจะไม่ทำเรื่องเลวร้ายกับพวกคุณ ไม่ว่าจะอย่างไร ฉันจะต้องจัดการบริหารโรงแรมให้ดีให้ได้”
“ทำไมเธอถึงยังคิดไม่ได้กันนะ ทำคนตายไปแล้ว ทั้งโรงแรมมีส่วนของพวกเราสามคน” ชายที่อยู่ด้านข้างคว้าข้อมือป่าเอ๋อร์เอาไว้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
ป่าเอ๋อร์สลัดอย่างไรก็สลัดไม่หลุดจากการกักขังของชายคนนี้ เห็นระเบียงทางเดินมีชายคนหนึ่งเดินมา ก็ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไป
เย่เชินหลินเดินผ่านทั้งสองคนไปด้วยสายตาที่มองตรงไปข้างหน้า ไม่วอกแวก จนกระทั่งได้ยินเสียงดังกังวานของฝ่ามือและเสียงสะอื้นเบาๆของป่าเอ๋อร์ “ฉันจะไม่ทำเรื่องเลวร้าย”
“รนหาที่ตาย!” ชายคนนั้นตวาดด้วยโทสะ ตอนที่ฝ่ามือยกขึ้นอีกครั้งก็ถูกมือใหญ่ทรงพลังคู่หนึ่งคว้าเอาไว้ เย่เชินหลินออกแรงเล็กน้อย ฝ่ายตรงข้ามก็งอตัวประคองข้อมือร้องเจ็บปวด เมื่อเห็นเย่เชินหลิน ชายคนนั้นก็ทำได้เพียงแค่ถมึงตาใส่ป่าเอ๋อร์อย่างดุร้าย
“คุณเย่คะ ขอบคุณคุณจริงๆค่ะ” ป่าเอ๋อร์ใบหน้าบวมแดง มองไปทางเย่เชินหลินอย่างซาบซึ้ง เมื่อลองขยับดู ป่าเอ๋อร์ก็ร้องออกมา มองไปทางเย่เชินหลิน พลางเอ่ยอย่างจนปัญญาว่า “ดูเหมือนว่าจะขาพลิกจากเมื่อครู่ที่หลบเขาค่ะ”
เย่เชินหลินกวาดตามองข้อเท้าป่าเอ๋อร์ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสั่งง่ายๆสองสามประโยค ป่าเอ๋อร์เห็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ชายคนนี้วางสายตาและให้ความสนใจกับตัวเอง ก็มีสีหน้าลำพองใจ แต่เบื้องหน้าอำพรางเอาไว้ด้วยการเอ่ยว่า “คุณเย่คะ ถ้าหากว่าคุณมีธุระ ฉันก็ไม่รบกวนคุณแล้ว ฉันดูแลตัวเองได้ค่ะ”
เย่เชินหลินมองป่าเอ๋อร์ พยักหน้าเป็นการบอกลา และเดินจากไป ป่าเอ๋อร์มองเย่เชินหลินที่จากไปง่ายๆอย่างตะลึงตาค้างพูดอะไรไม่ออก ผู้ชายคนนี้ไปแล้วจริงๆหรือ ทิ้งตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ลังเลเลยแบบนี้หรือ
ลานสวนด้านนอก แม่บ้านเดินตามเซี่ยชีหรั่นที่ประคองท้องอยู่ไกลๆ “ฉันไม่อยากเดินแล้วจริงๆ!”
เซี่ยชีหรั่นขยี้เท้างอนๆ หยุดเท้า เย่เชินหลินหันหน้ามามองเซี่ยชีหรั่นด้วยใบหน้าที่เข้มงวดอย่างไม่ต้องสงสัย เซี่ยชีหรั่นเดินอย่างลังเลอยู่อีกสองสามก้าว จากนั้นก็โอบท้องตัวเองแล้วนั่งลงอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด “ฉันไม่เดินแล้ว คุณถมึงตาใส่ฉัน ฉันก็ไม่เดินแล้ว”
เย่เชินหลินเดินมาถึงข้างกายเซี่ยชีหรั่น มองนาฬิกาข้อมือ เอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกว่า “ยังเหลืออีกสิบเอ็ดนาที กับห้าวินาที”
“ทำไมฉันจะต้องเดินด้วยล่ะคะ” อาจจะเป็นเพราะน้ำเสียงอ่อนโยนของเย่เชินหลินทำให้เซี่ยชีหรั่นออดอ้อนอย่างหาได้ยาก
เย่เชินหลินมองนาฬิกาข้อมืออย่างลังเล จากนั้นก็ทำตัวใจร้ายยื่นมือไปทางเซี่ยชีหรั่น “11 นาที กับอีก 5 วินาที”
เซี่ยชีหรั่นน้ำตาคลอ มองเย่เชินหลิน เย่เชินหลินตะลึงค้าง ลูบผมเซี่ยชีหรั่น ทอดถอนใจว่า “คุณหมอบอกว่าสุขภาพของคุณไม่ค่อยดี จะต้องออกกำลังกายให้มากหน่อย”
มีเสียงดังลอยมาจากด้านข้าง เซี่ยชีหรั่นชะโงกศีรษะออกไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็น ป่าเอ๋อร์สาปส่ง ขว้างรองเท้าส้นสูงข้างที่พังแล้วไปอีกด้าน เมื่อวานเธอเท้าพลิกจริงๆ แต่วันนี้ก็อดที่จะใส่รองเท้าส้นสูงไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าเดินมาได้ครึ่งทางก็พังเสียแล้ว
“ป่าเอ๋อร์หรือ”
เย่เชินหลินแค่หันหน้าไปมองป่าเอ๋อร์แวบหนึ่ง จากนั้นก็หันกลับมามองเซี่ยชีหรั่นด้วยความเข้มงวด “11 นาที กับอีก 5 วินาที”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้ต่อการเตือนของเย่เชินหลิน “ดูเหมือนว่าป่าเอ๋อร์จะได้รับบาดเจ็บ พวกเราไปช่วยเธอเถอะค่ะ”
เย่เชินหลินเลิกคิ้วมองเซี่ยชีหรั่น แววตามีความยึดมั่นที่จะต้องการเดินกับเซี่ยชีหรั่นไปตลอดทาง เซี่ยชีหรั่นยิ้มเฝื่อน ประนมมือทำท่าทางเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม “ฉันเห็นว่าป่าเอ๋อร์ทรมานอยู่บ้างจริงๆ คุณไปช่วยเธอหน่อยเถอะค่ะ ฉัน…….ฉันจะเพิ่มอีกสิบนาที เดินเพิ่มอีกสิบนาทีได้หรือเปล่าคะ”
เย่เชินหลินพิจารณามองเซี่ยชีหรั่น ป่าเอ๋อร์เพิ่งจะเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็เห็นเย่เชินหลินเดินมาทางตัวเอง เพียงแต่ว่าใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะนั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่
“เชินหลิน คุณเดินผ่านที่นี่พอดีหรือคะ นี่ดีมากเลย ฉันไม่สามารถเดินกลับไปเองได้” ป่าเอ๋อร์ยื่นแขนตัวเองออกไปอย่างต้องการให้เย่เชินหลินพยุงตัวเอง
เย่เชินหลินหลบเล็กน้อย เก็บกิ่งไม้ข้างๆขึ้นมากิ่งหนึ่งแล้วส่งให้กับป่าเอ๋อร์ ป่าเอ๋อร์มองกิ่งไม้ตะลึงอ้าปากค้างอย่างพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าเย่เชินหลินยื่นกิ่งไม้ให้ตัวเองทำไม
“เอาไปสิ” เย่เชินหลินสีหน้ารำคาญเล็กน้อย ทำท่าทางเหมือนถือไม้เท้า ป่าเอ๋อร์รับกิ่งไม้มาไว้บนพื้นอย่างกระอักกระอ่วน
“เชินหลิน รบกวนคุณส่งฉันกลับไปได้ไหมคะ เท้าของฉันได้รับบาดเจ็บ เดินกลับไปเองไม่ได้จริงๆ” ป่าเอ๋อร์ใช้สายตาวิงวอนมองไปที่เย่เชินหลิน
เย่เชินหลินมองข้อเท้าที่บวมเล็กน้อยของฝ่ายตรงข้ามแล้วก็พยักหน้า มองไปด้านข้างแล้วกวักมือ ป่าเอ๋อร์นึกว่า ในที่สุดคราวนี้เย่เชินหลินก็ยอมประคองตัวเองแล้ว แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งพุ่งตัวออกมาจากด้านข้างประคองป่าเอ๋อร์เอาไว้
“ส่งเธอกลับไป” เย่เชินหลินสั่งเรียบๆ หมุนตัวจากไป
ซูหวางมองสีหน้าอยากกินคนของป่าเอ๋อร์แล้ว ก็หันหน้าไปเอ่ยกับเย่เชินหลินว่า “ครับ ประธานเย่”
เซี่ยชีหรั่นเดินไปได้ 10 นาที กับอีก 5 วินาที แต่ยังคิดจะกัดฟันเดินต่อไป เย่เชินหลินที่อยู่ด้านข้างก็ดึงข้อมือของเซี่ยชีหรั่นให้เดินกลับไป เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินก็ตอบเรียบๆว่า “กลับ”
ป่าเอ๋อร์ที่ถูกซูหวางส่งกลับไปที่ห้อง ก็ลากเท้าที่บวมเป่งไปหาโยวจื๋อด้วยความรวดเร็ว โยวจื๋อมองพิจารณาป่าเอ๋อร์ เอ่ยยิ้มๆว่า “ดูท่าสำหรับคุณแล้ว เย่เชินหลินเป็นสิ่งที่ต้องได้มาครอบครองจริงๆ”
ป่าเอ๋อร์กัดฟันพูด “นับตั้งแต่ไม่กี่วันก่อนหน้าที่เย่เชินหลินชมเชยฉันครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยังคงเย็นชาต่อฉันเหมือนเดิม!”
โยวจื๋อเอ่ยเรียบๆว่า “ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก ลองเปลี่ยนเป็นเย่เชินหลินก่อนหน้านี้ แม้ว่าคุณจะถูกซ้อมจนตาย แม้ว่าคุณจะเจ็บปวดเจียนตาย คุณนึกว่าเขาจะชายตามองคุณหรือ”
“คุณรู้ได้อย่างไรกัน!” ป่าเอ๋อร์รู้สึกว่าแผ่นหลังเย็นวาบ ความคิดของผู้ชายคนนี้ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะคาดเดาได้แล้ว
ป่าเอ๋อร์เอ่ยอย่างหมดกำลังใจ “อย่างนั้นตอนนี้ฉันควรจะทำอย่างไรดี”
โยวจื๋อโยนเอกสารฉบับหนึ่งมา พร้อมกับเอ่ยว่า “นี่เป็นเอกสารเกี่ยวกับสิ่งที่บริษัทเย่ซื่อกำลังวางแผนก่อสร้างอยู่ ตอนนี้คุณเป็นฝ่ายที่จะให้ความร่วมมือกับเขา คุณมีเวลาที่จะอยู่กับเขาหนึ่งอาทิตย์ คุณคว้าโอกาสเอาไว้ให้ดีแล้วกัน”
ป่าเอ๋อร์รับเอกสารมา มอง “0” ที่อยู่ด้านบนแล้วก็เอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “คุณมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ รายชื่อที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คุณก็เอามาได้ง่ายๆ” แววตาของป่าเอ๋อร์เผยรอยเหยียดหยามออกมา เอ่ยกับป่าเอ๋อร์ว่า “คุณแค่ต้องจำเอาไว้ว่า ภารกิจเดียวของคุณก็คือ เย่เชินหลิน ก็พอแล้ว”
ป่าเอ๋อร์นั่งอยู่ในห้องทำงาน บนโต๊ะมีเอกสารที่โยวจื๋อมอบให้ตัวเอง ใจก็เต้นตึกตัก ในที่สุดเธอก็ได้ยืนอยู่ในระดับความสูงเดียวกันกับเย่เชินหลิน นี่ทำให้เธอเวียนหัวอยู่บ้าง
ประตูถูกเปิดออก เย่เชินหลินเดินเข้ามาก่อน หลังจากนั้นผู้ดูแลระดับสูงอีกสิบกว่าคนก็เข้านั่งประจำที่นั่งของตัวเอง นัยน์ตาของเย่เชินหลินมองไปทางป่าเอ๋อร์ “มีเรื่องอะไร”
ป่าเอ๋อร์ปลุกความกล้าหาญ เอ่ยว่า “ตอนนี้ดิฉันเป็นตัวแทนฝ่าย ข ของแผนงานอสังหาริมทรัพย์ซิงอันมาเข้าร่วมประชุมค่ะ”
ป่าเอ๋อร์ไม่กล้ามองเย่เชินหลิน กลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะซักถามความเป็นมาของตัวเอง เย่เชินหลินเพียงแค่เคาะโต๊ะ เอ่ยเสียงเรียบว่า “เริ่มการประชุมได้”
ป่าเอ๋อร์อ้ำๆอึ้งๆอ่านข้อมูลตามเอกสาร ตอนที่แววตาของเย่เชินหลินตกลงบนร่างป่าเอ๋อร์ก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด ป่าเอ๋อร์ดีใจเสียจนหน้าแดงก่ำ
“ดังนั้น ต่อไปฉันหวังว่าประธานเย่จะสามารถไปดูสถานที่หน้างานด้วยกันกับฉัน เพื่อตัดสินใจแผนการในขั้นต่อไปค่ะ” ป่าเอ๋อร์มองเย่เชินหลินด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลงหรือไม่
“เอาแบบนี้แหละ” เย่เชินหลินปิดเอกสาร เลิกการประชุม ป่าเอ๋อร์เรียกเย่เชินหลินเอาไว้ “ประธานเย่คะ ตรงจุดนี้ ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร จะรบกวนให้พวกคุณที่เป็นฝ่าย ก อธิบายให้ชัดเจนหน่อยได้ไหมคะ”
เย่เชินหลินเดินมาด้านหน้าป่าเอ๋อร์อย่างเข้มงวด อธิบายข้อมูลในจุดที่ป่าเอ๋อร์ชี้ออกมา ป่าเอ๋อร์สูดกลิ่นโคโลญเบาบางที่ลอยออกมาจากร่างกายของเย่เชินหลินแล้ว ก็หน้าแดงอย่างอดไม่อยู่
“โยวจื๋อ ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นพื้นที่ห้องประชุมของโรงแรมนะ” เซี่ยชีหรั่นที่เดินตามโยวจื๋ออยู่เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ
โยวจื๋อเอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยการขอโทษว่า “ต้องขอโทษเป็นอย่างมากที่ต้องให้คุณมาซื้อของเป็นเพื่อนผม ใกล้จะถึงวันสำคัญของน้องสาวผมแล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เคยได้ยินว่าคุณก็มีน้องสาวด้วย วันเกิดหรือคะ” เซี่ยชีหรั่นถามอย่างแปลกใจ
โยวจื๋อที่เดินอยู่ด้านหน้ามีแววเศร้าโศกพาดผ่าน แต่เมื่อหันหน้ากลับมามองเซี่ยชีหรั่นกลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “ไม่ใช่วันเกิดหรอก เป็นวันครบรอบวันตายน่ะครับ น้องสาวของผม เธอเสียไปแล้ว”
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่รู้จริงๆ” เซี่ยชีหรั่นรีบเอ่ย
โยวจื๋อโบกมือไปมา “ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อมาตลอดว่าตอนนี้เธอก็อยู่เป็นเพื่อนผม ดังนั้นผมอยากจะซื้อของที่เธอชอบให้กับเธอ เธอจะต้องชอบของที่คุณเลือกแน่นอน”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset