สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1265 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1165

บทที่ 1265 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1165
แขนขาของเซี่ยชีหรั่นเกร็งขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ผ่านไปชั่วครู่ถึงได้เอ่ยว่า “ไม่มีอะไร” โยวจื๋อมองออกว่าเซี่ยชีหรั่นไม่อยากสนทนาเรื่องนี้ จึงยิ้มแล้วเปลี่ยนหัวข้อไป
ประตูถูกเคาะ เซวียเหวินยูนเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็เอ่ยเชื้อเชิญ “ชีหรั่น วันนี้ไปประชุมเป็นเพื่อนผมได้ไหม ถ้าร่างกายไม่ไหวล่ะก็ ผมจะช่วยปฏิเสธให้คุณ”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เอ่ยว่า “เด็กยังอยู่นิ่งๆอยู่ค่ะ ฉันจะไปเตรียมตัวสักหน่อย” เห็นเซี่ยชีหรั่นเดินจากไปไกลแล้ว โยวจื๋อก็พูดกับเซวียเหวินยูนด้วยสีหน้าแปลกๆเล็กน้อย “ช่วงนี้นายใกล้ชิดกับเซี่ยชีหรั่นมากหรือ”
เซวียเหวินยูนยิ้มน้อยๆ มุมปากยกเป็นเส้นโค้งน่ามอง มองโยวจื๋อด้วยสายตาที่เจือไปด้วยแววเสียดสี “นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายอยากเห็นหรอกหรือ”
โยวจื๋อเม้มริมฝีปาก เอ่ยว่า “ไม่ผิด”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นเก็บของเรียบร้อย เซวียเหวินยูนก็รออยู่ที่รถด้านนอกแล้ว เพื่อที่จะให้เซี่ยชีหรั่นนั่งได้อย่างสบาย เซวียเหวินยูนจึงขับรถบ้านมาคันหนึ่ง
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นห้องทำงานของเย่เชินหลินพอดี เซี่ยชีหรั่นวางกระเป๋าเขาไปในรถอย่างรวดเร็ว เอ่ยเซวียเหวินยูนกับว่า “รอฉันห้านาทีค่ะ”
เซี่ยชีหรั่นวิ่งเหยาะๆไปตามทางเดิน VIP นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองขึ้นลิฟต์โดยสาร VIP ด้วยความยินดี ลิฟต์โดยสารขึ้นไปถึงชั้นบนสุดด้วยความเร็ว พื้นที่ขนาดใหญ่ที่ชั้นบนสุดนั้นมีเพียงห้องทำงานทรงครึ่งวงกลมเพียงห้องเดียว
“คุณผู้หญิง” ซูหวางยืนขวางอยู่ด้านหน้าเส้นทางที่เซี่ยชีหรั่นจะกำลังจะไป
เซี่ยชีหรั่นหอบเล็กน้อย “เขาอยู่ไหม” ซูหวางส่ายหน้า เอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นว่า “ประธานเย่ไม่อยู่ครับ”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า แล้วหันหน้าเดินจากไป แต่ในเวลาเดียวกันกับซูหวางหมุนตัวกลับไปนั้น ก็วิ่งตรงไปที่ห้องทำงานของเย่เชินหลินอย่างรวดเร็ว เปิดประตูกระจกบานใหญ่เข้าไป ภายในห้องนั้นว่างเปล่า มีเพียงแค่ม้วนเอกสารที่อยู่ในห้องทำงานอันน่าเกรงขามแห่งนี้
เซี่ยชีหรั่นเดินไปถึงรถด้วยสีหน้าเศร้าซึมเล็กน้อย เซวียเหวินยูนถามอย่างเข้าใจว่า “เย่เชินหลินไม่อยู่หรือ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มให้เซวียเหวินยูน มุดตัวเข้าไปในรถ
ห้องโถงในโรงแรม มีคนยืนเรียงแถวรอต้อนรับเซวียเหวินยูนและเซี่ยชีหรั่นอยู่ ตอนที่เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปก็ถูกสภาพการณ์อันยิ่งใหญ่เบื้องหน้าทำให้ตกใจสะดุ้ง
“การจัดการของเย่เชินหลินมีเพียงแค่ยิ่งใหญ่ ไม่เล็กน้อยสินะ” เซวียเหวินยูนกระซิบหยอกเย้าข้างหูเซี่ยชีหรั่น ด้านหน้ามีผู้บริหารระดับสูงหลายคนเดินเข้ามา
“ประธานเซวีย การร่วมมือกับคุณในครั้งนี้ ทำให้ผมสามารถวางใจได้อย่างสบายเลย” ชายอ้วนท้วนคนหนึ่งมองมาทางเซวียเหวินยูนด้วยรอยยิ้มที่คล้ายกับพระสังกัจจายน์องค์หนึ่ง แขกต่างชาติส่วนหนึ่งยื่นมือออกมาจับมือเซวียเหวินยูนและเซี่ยชีหรั่น
รอจนถึงแขกหญิงคนหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นก็เห็นสีหน้าเซวียเหวินยูนขาวซีด มือที่ตั้งใจไพล่ไว้ด้านหลังนั้นสั่นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของแขกรับเชิญหญิงก็มีร่องรอยความสงสัยเล็กน้อย เซวียเหวินยูนอดกลั้นต่อความหวาดกลัว ยื่นมือออกไป พร้อมกับรอยยิ้ม
“อ๊า! ท้องของฉัน” เซี่ยชีหรั่นที่อยู่อีกด้านกุมท้องแล้วย่อตัวอย่างรวดเร็ว เซวียเหวินยูนอาศัยเซี่ยชีหรั่นแล้วดึงมือกลับมาอย่างรวดเร็ว พลางเอ่ยอย่างขออภัยว่า “ขอโทษด้วยครับ หุ้นส่วนของผมไม่สบายเล็กน้อย ผมต้องขอตัวไปดูแลก่อนนะครับ”
เซวียเหวินยูนพาเซี่ยชีหรั่นจากไปอย่างรวดเร็ว จนถึงสถานที่ที่มองไม่เห็นใครแล้ว เซี่ยชีหรั่นถึงได้โบกมือ “ไม่ไหวแล้ว ให้ฉันหายใจหน่อยค่ะ”
เซวียเหวินยูนมองเซี่ยชีหรั่นด้วยแววตาที่เจือไปด้วยรอยยิ้มอย่างเห็นได้ชัด “ขอบคุณมาก”
เซี่ยชีหรั่นเหลือบมองเซวียเหวินยูนแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ฉันจะเก็บดอกเบี้ยนะคะ” เซวียเหวินยูนเอ่ยถามอย่างสนุกว่า “ต้องการอะไรหรือ เครื่องบินลำหนึ่ง หรือเกาะเล็กๆสักเกาะกัน”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า ชี้ไปทางน้ำอัดลมในตู้ขายน้ำอัตโนมัติ พลางเอ่ยว่า “น้ำอัดลมแล้วกันค่ะ เย่เชินหลินมักจะไม่ยอมให้ฉันดื่ม”
เซวียเหวินยูนเลิกคิ้ว มองท้องเซี่ยชีหรั่น สุดท้ายแล้วเซี่ยชีหรั่นก็ได้รับเพียงแค่น้ำอัดลมแก้วเล็กๆแก้วหนึ่ง ละเลียดชิมไปเล็กน้อย เซี่ยชีหรั่นก็พึมพำออกมาว่า “ขี้เหนียวเกินไปแล้วจริงๆ”
เซวียเหวินยูนที่อยู่อีกด้านกำลังดื่มน้ำอัดลมที่ตัวเองไม่ชอบ มองข้ามการบ่นของเซี่ยชีหรั่น ในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
“ทางด้านพวกเรายังขาดเอกสารอีกฉบับหนึ่ง ตอนที่มาจะต้องลืมแน่ๆเลย” เลขาที่ตามมาด้วยเอ่ยกับเซวียเหวินยูนอย่างร้อนใจ
“ฉันจะไปกับคุณก็แล้วกัน” แขกรับเชิญสาวที่อยู่ด้านข้างมองเซวียเหวินยูน ใบหน้าแดงระเรื่อ เซวียเหวินยูนสีหน้าทะมึน เซี่ยชีหรั่นจึงเอ่ยยิ้มๆว่า “ไม่เป็นไร ฉันไปดีกว่าค่ะ”
“ท้องของคุณล่ะ” เซวียเหวินยูนมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความสงสัย เซี่ยชีหรั่นส่งสายตาปลอบประโลมให้เซวียเหวินยูน เอ่ยว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันนั่งรถแท็กซี่กลับไปก็ได้”
เซี่ยชีหรั่นเดินอยู่บนถนน เห็นรถแท็กซี่แต่ละคันที่ผิวปากและผ่านไปแล้ว ก็มองไปรอบด้านอย่างร้อนรน เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น เลขาเอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นเบาๆว่า “คุณเซี่ยคะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนแล้ว ฝ่ายตรงข้ามรอคุณจนใกล้จะขึ้นราแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นตัดสายโทรศัพท์ และต่อสายโทรศัพท์หาซูหวางอย่างลังเล “คุณเซี่ยหรือครับ”
“อืม คุณอยู่ที่ห้องทำงานหรือเปล่าคะ ช่วยมารับฉันหน่อยได้ไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างเกรงใจ
ซูหวางที่อยู่อีกด้านของสายโทรศัพท์รับคำอย่างรวดเร็ว ครู่หนึ่ง รถมาเซราติก็ปรากฏขึ้นข้างกายเซี่ยชีหรั่น รถมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์เชิงเขาด้วยความเร็วสูง จากคฤหาสน์เชิงเขาก็กลับไปถึงโรงแรม เซี่ยชีหรั่นมองซูหวาง พลางเอ่ยอย่างจริงใจว่า “วันนี้รบกวนคุณแล้วจริงๆ”
ซูหวางยิ้ม พลางเอ่ยว่า “ไม่เป็นการรบกวนหรอกครับ อย่างนั้นผมไปรับประธานเย่แล้วนะครับ”
“เย่เชินหลินหรือ คุณอยู่กับเขาหรือเปล่าคะ” เซี่ยชีหรั่นถาม ซูหวางครุ่นคิดแล้วก็บอกไปตามความจริง “ผมกำลังเตรียมตัวรับประธานเย่ไปประชุมครับ ประธานเย่ให้ผมมารับคุณก่อน”
เมื่อเห็นรถมาเซราติปรากฏขึ้นในสายตา เซี่ยชีหรั่นก็มองท้องตัวเองแล้วมองไปทางเซวียเหวินยูน เซวียเหวินยูนยิ้ม วางเบียร์ลงที่ด้านหน้าตัวเอง วางนมกระป๋องหนึ่งไว้ข้างกายเซี่ยชีหรั่น “นี่ต่างหากที่เป็นของคุณ”
“วันนี้ขอบคุณมากครับ” เซวียเหวินยูนมองเครื่องบินที่ส่งเสียงกัมปนาทเมื่อบินผ่านไป พลางเอ่ยเรียบๆ
“หรือว่าแต่ก่อน คุณไม่เคยจับมือกับผู้หญิงเลยหรือคะ” เซี่ยชีหรั่นจิบนมเล็กน้อย เอ่ยถาม
เซวียเหวินยูนยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ผมขอบคุณคุณ ไม่ใช่เพราะว่าวันนี้คุณช่วยผมแก้ปัญหา แต่เป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมรู้ว่า การที่มีคนอยู่เป็นเพื่อนข้างกายตัวเองนั้นก็ไม่เลวเหมือนกัน”
เซี่ยชีหรั่นมองเซวียเหวินยูนที่สายตาอ่อนแสงลงแล้วก็หยอกเย้าว่า “อย่างนั้น คุณจะขอบคุณฉันอย่างไรคะ ขอบอกก่อนว่า ฉันไม่ต้องการเครื่องบินและไม่ต้องการเกาะเล็กๆด้วย”
“อย่างนั้น คุณต้องการอะไร” เซวียเหวินยูนหันหน้ามามองเซี่ยชีหรั่นจริงจัง
เซี่ยชีหรั่นครุ่นคิด ยื่นนิ้วชี้โบกไปมาใส่เซวียเหวินยูน เซวียเหวินยูนสีหน้ากระอักกระอ่วน สายตาก็เจือไปด้วยการต่อต้าน เอ่ยอย่างลำบากใจว่า “ไม่อย่างนั้น เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไหม”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า ใช้สายตาเร่งตัวเอง เซวียเหวินยูนกลืนน้ำลาย ค่อยๆยื่นมือที่สั่นเล็กน้อยออกไป นิ้วชี้แตะเข้ากับนิ้วชี้ของเซี่ยชีหรั่นเบาๆ หลังจากนั้นก็หดกลับมาอย่างรวดเร็ว
“คุณทำได้ดีมากเลย! จะลองอีกครั้งไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นเขยิบเข้ามาใกล้เซวียเหวินยูนอย่างซุกซน จู่ๆเซวียเหวินยูนก็ยิ้มออกมาแล้วเขยิบเข้าไปใกล้เซี่ยชีหรั่น เอ่ยพูดช้าๆ เจือด้วยกลิ่นหอมหวานของเบียร์ “ตอนนี้ผมต้องการจะท้าทายสัมผัสผู้ชายที่สูงยิ่งกว่า”
ริมฝีปากเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยชีหรั่นมองสีหน้าที่เจือไปด้วยรอยยิ้มของเซวียเหวินยูนแล้ว ก็นึกถึงเครื่องหน้าทั้งห้าบนใบหน้าไร้ความรู้สึกของเย่เชินหลินขึ้นมา สายตานั้นอ่อนโยนกว่าเซวียเหวินยูนร้อยเท่า
“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันต้องไปแล้ว!” เซี่ยชีหรั่นผลักเซวียเหวินยูนออก วิ่งไปยังเส้นทางที่คนที่ตัวเองคิดถึงอยู่
ในห้องก็ไม่มี ห้องอาบน้ำก็ไม่มี เซี่ยชีหรั่นวิ่งไปถึงห้องทำงาน ผลักประตูห้องทำงานออก ภายใต้แสงไฟสีเหลืองห่านไม่มีใครสักคน ที่ไหนก็ไม่มี
เซี่ยชีหรั่นพิงบานประตูอย่างเซื่องซึม เย่เชินหลินเดินออกมาจากในห้องหนังสือ เส้นผมยุ่งเหยิงเล็กน้อย ไม่เข้มงวดเหมือนปกติ สวมแว่นสายตา กำลังอ่านหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ขมวดคิ้วมองเซี่ยชีหรั่น พลางเอ่ยว่า
“ทำไมถึงสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบนี้”
เสียงตำหนิราบเรียบอันคุ้นเคยที่ไม่เจือความรู้สึกใดๆ ทำให้หน่วยตาของเซี่ยชีหรั่นชื้นขึ้นอย่างช้าๆ ส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า “ไม่มีอะไร ฉันไปก่อนนะคะ”
ก้าวที่หนึ่ง ก้าวที่สอง ก้าวที่สาม เซี่ยชีหรั่นได้ยินเสียงจังหวะการเต้นหัวใจของตัวเองเต้นไปตามฝีเท้า ตอนที่บิดประตูเปิดออก ร่างกายที่อบอุ่นก็ก้าวขึ้นมาโอบเซี่ยชีหรั่นเอาไว้แน่น
“คิดจะหนีอีกแล้วหรือ การตามใจของผมมีขีดจำกัด” เย่เชินหลินกดเสียงต่ำ เจือไปด้วยการให้ท้ายที่ไม่สามารถสังเกตได้
เซี่ยชีหรั่นดึงมือของเย่เชินหลินออกแล้วเปิดประตู เย่เชินหลินโมโห เอ่ยอย่างใจร้อนว่า “คุณกล้าเดินออกไปจากประตูนี้ ก็อย่าโทษว่าผมจับคุณกลับมาอีกนะ”
เซี่ยชีหรั่นหันหน้ากลับไปมองชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยแรงโทสะอย่างจนปัญญา หัวเราะพรืดออกมา “เมื่อครู่รีบร้อนเดินมาไปหน่อย จึงเพิ่งจะพบว่าลืมกระเป๋าไว้บนรถ ฉันจะไปเอากระเป๋าค่ะ”
เย่เชินหลินมองรอยยิ้มของเซี่ยชีหรั่นอย่างตะลึง หลังจากนั้นก็คว้าเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแน่นหนา พึมพำด้วยเสียงที่ไม่เบาและไม่ดัง “กระเป๋าใบเดียวเท่านั้นเอง ชอบแบบไหน ผมจะไปซื้อให้คุณพรุ่งนี้”
คืนที่ไร้ความฝัน เย่เชินหลินพกหนังสือเล่มหนึ่ง ส่วนเซี่ยชีหรั่นก็ประคองท้องตัวเองเดินออกกำลังกายไปมาหลังจากทานอาหารแล้ว “ยังเหลืออีกห้านาที” เซี่ยชีหรั่นเห็นเย่เชินหลินไม่ได้มองมาที่ตัวเองแล้วก็แอบนั่งลงไปบนเก้าอี้ สายตาของเย่เชินหลินที่มองตามเป็นเงาตกลงบนร่างเซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่นหรือ” เซวียเหวินยูนที่เดินผ่านมาจากด้านข้างก็มองมาทางเซี่ยชีหรั่นด้วยสีหน้าน้อยใจ
เย่เชินหลินโอบเอวเซี่ยชีหรั่น ประกาศแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเผด็จการ สายตามองไปทางเซวียเหวินยูนอย่างเย็นชา เซวียเหวินยูนหัวเราะเบาๆ มองไปทางเซี่ยชีหรั่น แววตามีความอ่อนโยนที่ไม่เหมือนเดิมเล็กน้อย “เมื่อวานขอบคุณคุณมากจริงๆ วันนี้พวกเรายังต้องไปเข้าร่วมงาน Road Show ที่มีดารามาเข้าร่วมมากมายแบบนั้นน่ะครับ”
“ผมไม่อนุญาต” เย่เชินหลินเอ่ยเสียงเย็น สายตาที่มองไปทางเซวียเหวินยูนมีแววเตือน
เซวียเหวินยูนสบตาเย่เชินหลิน แววตาแฝงไปด้วยความดื้อรั้นที่ไม่ยอมถอยให้ “ไม่อนุญาตหรือ ผมคิดว่า จะไปหรือไม่ไปก็ควรจะให้เซี่ยชีหรั่นเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่คุณ ยิ่งไปกว่านั้น เซี่ยชีหรั่นไม่ใช่คนที่ทำอะไรครึ่งๆกลางๆแน่นอน” เซวียเหวินยูนมองเย่เชินหลิน พลางเอ่ยอย่างลึกซึ้งจนไม่สามารถคาดเดาได้
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว ถ้าหากว่าเป็นไปได้ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะต้องกักขังเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ข้างกายตัวเอง แต่คนรอบข้างล้วนจ้องจะตะครุบเซี่ยชีหรั่นราวกับพญาเสือ จุดนี้ทำให้เขาโมโหจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จึงทำได้เพียงแค่กำจัดคนที่มีสายตาปรารถนาในตัวเซี่ยชีหรั่นออกไปให้หมด!
“คุณสามารถรอฉันสักสองสามนาทีได้ไหมคะ” เซี่ยชีหรั่นหันไปพูดกับเซวียเหวินยูน ดึงแขนของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่เข้าใจ
เซี่ยชีหรั่นมองเซวียเหวินยูนที่อยู่อีกด้าน ดึงแขนของเย่เชินหลิน คิ้วเย่เชินหลินเลิกสูง ก้มหน้าลง เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นที่ใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อยก็รู้สึกดีจนตัวลอยขึ้นมาแปลกๆ สายตาจึงกวาดมองไปทางเซวียเหวินยูนอย่างไม่ตั้งใจ แต่ฝ่ายตรงข้ามตอบกลับตัวเองด้วยรอยยิ้มบางๆรอยยิ้มหนึ่ง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset