สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1271 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1171

ตอนที่ 1271 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่1171
“ประธานเย่ ผมกลับมาแล้ว ผมนำศพของจางห้านที่จัดการเรียบร้อยกลับมาด้วย คุณสามารถไปตรวจสอบดูได้ตลอดเวลาเลยนะครับ” ซูหวางเอ่ยพูดขึ้นมา
“ข่าวช่องนี้รายงานว่า สัปดาห์ที่แล้วมีผู้ชายหายตัวไปตอนนี้ยังไม่พบร่องรอย ทางตำรวจกำลังตามหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อไป” เย่เชินหลินย้ายสายตาจากเนื้อหาข่าวในโทรทัศน์มาที่ซูหวาง
“เจอแล้วจริงๆเหรอ? แน่ใจนะ?” เย่เชินหลินเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบาๆ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ
ซูหวางลังเล จากนั้นก็กวาดสายตามองภาพในจอโทรทัศน์อย่างรวดเร็ว แล้วจึงก้มหน้าพูดว่า “ผมแน่ใจว่าเป็นเขา”
เย่เชินหลินพยักหน้าแล้วยกปืนสีดำขึ้นมาจ่ออยู่ที่ศีรษะของซูหวาง
“ประธานเย่ นี่มันอะไรกันครับ?” ซูหวางเริ่มมีน้ำเสียงตื่นตระหนก เตรียมขยับร่างกาย แต่จางเฟิงอี้กลับพูดขึ้นมาเสียงเย็นว่า “นึกถึงกะโหลกของแกเอาไว้ ฉันแนะนำว่าทางที่ดีแกอย่าขยับจะดีกว่า”
“แกยังจะเล่นละครอยู่อีกเหรอ?” เย่เชินหลินพูดออกมาเสียงเรียบนิ่ง ในโทรทัศน์ยังรายงานข่าวการตามหาบุคคลที่สูญหายไปอย่างต่อเนื่อง
ซูหวางกลับมามีท่าทีสงบ จากนั้นก็พูดยิ้มๆว่า “ผมก็ว่าผมทำงานได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องนะ แต่ทำไมคุณถึงมาสงสัยผมล่ะ?”
จางเฟิงอี้เหยียดยิ้มอย่างดูถูกแล้วพูดขึ้นมาว่า “ก็เพราะว่าแกจัดการได้อย่างไร้ที่ติ เลยไม่อยากให้พวกฉันเห็นบาดแผลของจางห้าน ดังนั้นจึงจับตัวคนอื่นมาสวมรอยเป็นจางห้านแล้วนำกลับมาให้พวกฉัน ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกเหรอ?”
“ฉันไม่ได้อยากรู้ว่าแกทำอะไรกับจางห้านบ้าง บอกฉันมา ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังแกคือใคร?” แววตาของเย่เชินหลินค่อยๆดุดันขึ้นมา ในที่สุดก็ถึงเวลากระชากหน้ากากบุคคลสุดท้ายออกมาแล้ว
ซูหวางหัวเราะออกมาเสียงดัง “จางห้านถูกผมกำจัดไปแล้วจริงๆ คุณไม่รู้หรอก ว่าเขาสั่นกลัวแค่ไหนตอนถูกผมเล็งปืนใส่ ส่วนใครอีกคนที่คุณพูดถึง พวกคุณลองค่อยๆเดาดูสิ”
อีกฝ่ายพูดจบได้ไม่ทันไรเย่เชินหลินก็เดินเข้าไปเสยปลายคางของซูหวาง จากนั้นเลือดสดๆก็ทะลักออกมาจากช่องปากของซูหวางจำนวนมาก เย่เชินหลินชักเท้าออกอย่างเรียบนิ่ง ตีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “จัดการซะ”
“โยวจื๋อ ฉันมาแล้ว” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยเรียกเบาๆ จากนั้นก็ค่อยๆเปิดประตู จนเกิดเสียงดังเอี๊ยด เซี่ยชีหรั่นมองรอบๆห้อง ก็พบว่าโยวจื๋อไม่อยู่
กาแฟที่วางอยู่ในห้องรับแขกยังคงร้อนกรุ่น เซี่ยชีหรั่นจึงบ่นพึมพำออกมา “ไปไหนอีกแล้วเนี่ย?”
เหมือนจะมีเสียงอะไรบางอย่างอยู่ในห้องหนังสือ เซี่ยชีหรั่นจึงเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับส่งเสียงออกไปว่า “อยู่นี่เองเหรอ? ไม่ได้ยินที่ฉันเรียกหรือไง?”
จู่ๆก็มีแมวดำตัวหนึ่งวิ่งผ่านเท้าของเซี่ยชีหรั่นไป เซี่ยชีหรั่นตกใจรีบก้าวถอยหลัง จนแผ่นหลังชนเข้ากับประตูบานหนึ่ง บนประตูมีสลักกลอน ลักษณะยังใหม่ๆอยู่เลย แถมยังไม่ได้ล็อกอีกต่างหาก
ในห้องเหมือนจะมีอีกเสียง เซี่ยชีหรั่นกลืนน้ำลายลงคอ แล้วเอ่ยเรียก “โยวจื๋อ อยู่ข้างในหรือเปล่า?”
ไม่มีใครตอบกลับมา แต่กลับมีเสียงสิ่งของตกกระจัดกระจาย เซี่ยชีหรั่นจึงนำสลักกลอนออก แล้วค่อยๆผลักประตูเข้าไป จึงพบว่าในห้องมีแต่ข้าวของเครื่องใช้ของผู้หญิง
เตียงนอนสีชมพู ผ้าม่านสีชมพู เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นสีชมพู เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปข้างในช้าๆ จากนั้นก็มีแมวดำอีกตัววิ่งคาบก้อนด้ายออกมา
เซี่ยชีหรั่นกุมอกมองแมวดำตัวนั้นด้วยตาที่เบิกกว้าง จากนั้นสายตาก็ถูกดึงดูดด้วยรูปถ่ายที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล หญิงสาวบนรูปถ่ายขาวดำยิ้มออกมาอย่างร่าเริง จนเห็นลักยิ้มเล็กๆ ข้างๆรูปถ่ายมีภาพร่างการออกแบบเครื่องประดับมากมาย ทั้งยังมีสร้อยคออยู่เส้นหนึ่ง ลมข้างนอกพัดเข้ามาจนผ้าม่านตรงหน้าต่างปลิวไสว ราวกับผู้หญิงคนนั้นกำลังส่งยิ้มเยือกเย็นมาให้
“โยวเล่อ?!”
“ชีหรั่น บุกรุกเข้ามาในห้องคนอื่นแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ” เสียงของโยวจื๋อดังขึ้นมาจากข้างหลัง เซี่ยชีหรั่นหันกับมาก็ชนเข้ากับรูปวาดของโยวเล่อบนโต๊ะ
“ขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันจะเก็บให้” เซี่ยชีหรั่นกำลังจะก้มลงเก็บ แต่ท้องที่ป่องออกมากลับทำให้เธอค่อนข้างลำบาก “หึๆ เดี๋ยวผมเก็บเอง ไม่เป็นไรน้องสาวผมไม่โทษคุณหรอก”
โยวจื๋อก้มตัวลงเก็บอย่างสง่า จากนั้นก็นำมาวางตรงหน้ารูปถ่ายของโยวเล่ออย่างเป็นระเบียบ เช็ดรูปถ่ายของโยวเล่อเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “น้องสาวของผมชอบเย่เชินหลินมาก แต่กลับทำเรื่องสิ้นคิดลงไป ถ้าไม่มีคุณเธอ บางทีต่อให้ถูกปฏิเสธขนาดไหนผลสรุปมันก็คงจะดีกว่านี้”
เซี่ยชีหรั่นมองรูปถ่ายของโยวเล่อ จากนั้นก็ค่อยๆก้าวถอยหลัง มองโยวจื๋ออย่างระมัดระวังแล้วเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “เพราะงั้นการที่คุณมาตีสนิทกับฉันเพราะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างใช่ไหม?”
โยวจื๋อเหมือนจะไม่สนใจท่าทางของเซี่ยชีหรั่น สอดมือทั้งสองข้างลงในกระเป๋ากางเกงแล้วพูดออกมาอย่างสบายๆว่า “คุณมาหาผมเพราะอยากถามเรื่องชิ้นส่วนจากเศษแก้วที่แตกไปสินะ จริงๆแล้วไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ ในไวน์ที่ผมให้เธอวันนั้นมีสารที่ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง และผมก็เป็นคนเจาะห่วงยางของเย่เนี่ยนโม่เอง ตอนที่เธอลงไปช่วยเย่เนี่ยนโม่ผมก็ยืนมองเธอถูกฤทธิ์ยาเล่นงานอยู่ในเหตุการณ์นั่นแหละ”
“พอแล้วๆ คุณไม่ต้องพูดอะไรออกมาอีกแล้ว” เซี่ยชีหรั่นถอยร่น เรื่องทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ในแผนชั่วร้ายทั้งนั้น แบบนี้ยิ่งทำให้เธอรับไม่ได้
โยวจื๋อเดินเข้าไปหาสองสามก้าว ริมฝีปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ยังไม่พอหรอก เรื่องพวกนี้คุณต้องรู้เอาไว้ จางห้านถูกฆ่าแล้ว เดิมทีแล้วเขาจะอยู่ได้นานกว่านี้ เพียงแต่ว่าเขารู้สึกผิดต่อคุณ เลยอยากบอกเรื่องพวกนี้กับคุณมาตลอด ผมจึงต้องส่งเขาไปเจอพระเจ้าเร็วๆ”
โยวจื๋อค่อยๆไล่ต้อนเข้ามา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปพร้อมกับมองหน้าของเซี่ยชีหรั่นไปด้วย “ผมรอวันนี้มาตลอด มาสิ ส่งมือมาให้ผม” เซี่ยชีหรั่นส่งเสียงขู่ออกมาไม่หยุด เมื่อมือสัมผัสโดนขวดที่โยวจื๋อเอาไว้ทำการทดลอง เธอก็หยิบขึ้นมาแล้วปาใส่โยวจื๋ออย่างไม่สนสี่สนแปด
โยวจื๋อหยุดนิ่งอยู่กับที่เพราะภาชนะที่ถูกโยนเข้ามา ด้านเซี่ยชีหรั่นก็วิ่งออกไปข้างนอก แต่ท้องป่องๆกลับทำให้การวิ่งของเซี่ยชีหรั่นสูญเปล่า
เมื่อประตูเปิดออก เย่เชินหลินก็มองมาเซี่ยชีหรั่นอย่างแปลกใจ เขากำลังจะยื่นมือออกไปจับไหล่ของเธอเอาไว้ มืออีกคู่กลับกระชากเธอเข้าไปในอ้อมกอดได้เร็วกว่า
“ปล่อยเธอไปซะ” เย่เชินหลินพูดอย่างเยือกเย็น โบกมือไปทางด้านหลัง จากนั้นจางเฟิงอี้ก็แบกซูหวางมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ
“ฮ่าๆๆ!เหมือนเกมส์นี้ฉันจะเป็นฝ่ายนำนะ นายจับคนของฉัน ฉันจับคนของนาย แต่ดูเหมือนว่าคนที่ฉันจับจะค่อนข้างมีราคาเลยทีเดียว” โยวจื๋อกดปลายมีดลงบนลำคอของเซี่ยชีหรั่น จนลำคอของเธอเริ่มมีเลือดไหลซิบออกมาจางๆ
“นายหนีไป แล้วปล่อยเธอซะ” เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ขอแค่โยวจื๋อเอ่ยปากออกมาเขาก็เตรียมพร้อมที่จะใช้ทุกอย่างเพื่อแลกตัวของเซี่ยชีหรั่นกลับมาอย่างไม่นึกเสียดายอะไรโยวจื๋อส่ายหัวแล้วพูดออกมาอย่างเสียดายว่า “ถ้าตอนแรกนายยอมพูดง่ายๆแบบนี้บางทีน้องสาวของฉันอาจจะไม่จากไปเร็วขนาดนี้ก็ได้”
“นายแน่ใจนะว่าน้องสาวนายฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ถูกฆ่า?” เมื่อสายตาของเย่เชินหลินกวาดมองลำคอของเซี่ยชีหรั่น แววตาก็ค่อยๆทอแววลุ่มลึก เขาจำเป็นต้องห้ามตัวเองไม่ให้พุ่งความสนใจไปที่เซี่ยชีหรั่น พยายามรวบรวมสมาธิทอดสายตามาที่โยวจื๋อ
โยวจื๋อเอ่ยอย่างเหยียดหยามว่า “เย่เชินหลิน นายฉลาดมากเลยนะ แต่โทษทีฉันศึกษานายมานาน นายใช้กลลวงพวกนี้มาหลอกฉันไม่ได้หรอก”
เย่เชินหลินโบกมือไปด้านข้าง จางเฟิงอี้จึงยกรูปภาพใบหนึ่งขึ้นมาให้โยวจื๋อ ดู จากนั้นเย่เชินหลินก็พูดออกมาเสียงนิ่งว่า “ผู้หญิงที่ติดต่อกับนายอยู่ชื่อซือซือใช่ไหม?”
เมื่อโยวจื๋อเห็นรูปภาพ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาเริ่มหลุกหลิกอย่างลนลาน “ฉันจะไป และนายต้องปล่อยให้ฉันไป ถ้าฉันจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเซี่ยชีหรั่นจะได้กลับมาอย่างแน่นอน”
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เพราะมีมีดทิ่มคออยู่ด้วยแววตาลุ่มลึก จากนั้นเขาก็หลีกทางให้อย่างง่ายดาย “ได้”
“ประธานเย่ แต่ว่าคุณนาย!” จางเฟิงอี้ควักปืนออกมาแล้วเตรียมจะก้าวเข้าไป แต่เย่เชินหลินกลับมองมาที่จางเฟิงอี้ ด้วยสายตาเชิงออกคำสั่งว่าห้ามต่อต้าน
“จำเอาไว้ ว่าถ้าเธอได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อยๆ ไม่ใช่แค่โยวเล่อที่ฉันจะขุดขึ้นมาจากดิน แม้แต่เซวียเหวินยูนฉันก็จะไม่ปล่อยไปแน่” เย่เชินหลินกล่าวเตือนโยวจื๋อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
โยวจื๋อชะงักฝีเท้า จากนั้นถึงได้จี้เซี่ยชีหรั่นให้เดินออกไปข้างนอก รถวิ่งอยู่บนถนนด้วยความเร็วที่ไม่ได้เร็วและไม่ได้ช้า เซี่ยชีหรั่นมองออกไปนอกหน้าต่างรถแล้วถามออกมาว่า “คุณไม่กลัวเย่เชินหลินตามมาเหรอ”
โยวจื๋อหันหน้าไปมองเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดว่า “มีคุณอยู่บนรถด้วย เขาไม่กล้าทำอันตรายอะไรหรอก” เซี่ยชีหรั่นจึงพูดถากถางขึ้นมาว่า “เพื่อที่จะวางแผนปั่นหัวพวกฉัน คุณคงศึกษามาอย่างละเอียดรอบคอบแล้วสินะ”
โยวจื๋อไม่ได้สนใจคำพูดถากถางของเซี่ยชีหรั่น เขามองนาฬิกาข้อมือแล้วหยิบกระป๋องนมขึ้นมาแล้วพูดว่า “ได้เวลาดื่มนมแล้ว”
สีหน้าของเซี่ยชีหรั่นนิ่งค้าง จากนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างประหลาดใจว่า “ก่อนจะหนีคุณมีเวลาเตรียมนมเอาไว้ด้วยเหรอ?”
โยวจื๋อเลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดออกมาอย่างมีนัยแฝงว่า “รถทุกคันของรีสอร์ทมีนมเตรียมไว้ให้อยู่แล้ว ส่วนใครเป็นคนเตรียม แล้วเตรียมเอาไว้ทำไมคงไม่ต้องให้ผมบอกหรอกมั้ง”
เมื่อเซี่ยชีหรั่นใช้หลอดเจาะดูดนมจากกล่อง ในใจก็พลันรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าเดินทางมานานเท่าไหร่แล้ว มีรถขับสวนอยู่บนถนนเรื่อยๆ โยวจื๋อไม่ได้ขับรถเร็ว จึงทำให้เซี่ยชีหรั่นไม่กระเด้งไปตามแรงของรถเท่าไหร่นัก เวลาผ่านไปนาน เซี่ยชีหรั่นจึงได้รู้ว่าโยวจื๋อคำนึงถึงความปลอดภัยของเธอ ความโกรธที่มีในตอนแรกก็ค่อยๆจางลง
ณ หมู่บ้านเล็กๆ เซี่ยชีหรั่นมองไอศกรีมตาปริบๆ พร้อมทั้งยืนกุมท้องมองโยวจื๋อที่เดินถือถุงนมและถุงของใช้ที่จำเป็นออกมาจากร้านสะดวกซื้อ
“ฉันอยากกินไอศกรีม” เซี่ยชีหรั่นมองมาที่โยวจื๋อด้วยท่าทางน่าสงสาร โยวจื๋อเอาพวกนมใส่ไว้ท้ายรถพร้อมกับปฏิเสธอย่างแล้งน้ำใจว่า “คนท้องไม่ควรกินไอศกรีมมันไม่ดีต่อร่างกาย”
เซี่ยชีหรั่นอุ้มท้องป่องๆของตัวเองพร้อมกับบ่นงึมงำว่า “เป็นตัวประกันนี่แม้แต่ไอศกรีมก็ยังกินไม่ได้เลยเนอะ” โยวจื๋อหันไปมองเซี่ยชีหรั่นยิ้มๆ “แล้วคุณเคยเห็นตัวประกันคนไหนกล้าขอกินไอศกรีมกับโจรลักพาตัวไหมล่ะ”
ถนนในหมู่บ้านค่อนข้างขรุขระ เมื่อโยวจื๋อเห็นเซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว ก็พูดเสียงนิ่งว่า “ทนเอาหน่อย อีกนิดก็จะถึงแล้ว”
อาคารตรงหน้าตกแต่งสวยงามขัดกับสิ่งก่อสร้างบริเวณโดยรอบ โยวจื๋อเงยหน้ามองอาคารตรงแล้วพูดว่า “เมื่อก่อนครอบครัวไม่ได้มีเงินเท่าไหร่ โยวเล่อมีความฝันอยากหาเงินมาซ่อมแซมบ้าน ต่อมาผมทำให้ความฝันของเธอเป็นจริงได้ แต่คืนแรกที่เข้ามาอยู่เธอก็โดดตึกแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นอ้าปาก แต่กลับพูดอะไรไม่ออก การตายของโยวเล่อ ถ้าจะสาวโยงมาถึงเธอก็คงถูกแล้ว “เข้าไปกันเถอะ” โยวจื๋อเดินเข้าไปในบ้านก่อน ไม่กลัวว่าเซี่ยชีหรั่นจะหนีเลยสักนิด
ภายในบ้านเก็บกวาดอย่างสะอาดสะอ้าน โยวจื๋อล้างมืออยู่ข้างๆบ่อน้ำพร้อมกับหยิบพวกอาหารออกมาแล้วพูดกับเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่เกรงใจว่า “คนท้องไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวไป”
ท่าทางเรียบนิ่งของโยวจื๋อทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกกังวล เพราะไม่รู้เลยว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไหม ไม่นาน อาหารจานแล้วจานเล่าก็ถูกยกมาวางบนโต๊ะ
โยวจื๋อจับตะเกียบมาสามคู่ จากนั้นก็นำรูปถ่ายของโยวเล่อมาวางไว้บนโต๊ะ ถอนหายใจแล้วพูดว่า “โยวเล่อ พี่แก้แค้นแทนแกไม่ได้ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกผู้หญิงคนนี้โง่จะตาย ไม่แน่หลังจากนี้อาจจะตกอยู่ในกำมือใครบ้างก็ไม่รู้”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset